ขอเล่าให้ฟังสนุกๆ ในฐานะที่ต้องใช้บริการ นำเข้า - ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศบ้างครับ
จะมีเทคนิคที่ทำให้การประเมินภาษีต่ำคือ ลงตัวเลขในใบ Invoice และใบขนทั้งหลายให้น้อยๆ
แต่
ถ้าน้อยเกินไปก็โดนเล่นนะครับ
เช่น ของราคาตลาดมันอยู่ที่ 100 บาท ไปแจ้งลง Invoice 2 บาท ก็โดนแน่นอน
แต่ถ้าแจ้งสัก 70~80 บาท ก็ยังไม่น่าเกลียด
เท่าที่รู้มา ผู้นำเข้าส่วนใหญ่ ใช้เทคนิคทำรถให้มีราคาในใบ Invoice ถูกที่สุด
อาจจะถอดล้อ, วิทยุ, ฯลฯ ออก เพื่อกดราคาซื้อที่ต่างประเทศ
ส่วนของที่ถอดออกก็ส่งมาต่างหาก
พอมาถึงไทยแล้วค่อยรวมร่างเข้าไปใหม่
(ถ้าถามว่าผิดไหม มันก็ไม่ผิดสักเท่าไหร่ มันเหมือนอาศัยช่องว่างทางกฏหมายมากกว่า)
แล้วที่เคยได้ยิน "เขาเล่าว่า"
ก็คือ ซื้อรถมือ 2 เลขไมล์น้อย
แล้วตอนนำเข้า เอามาขายในไทย แจ้งว่าเป็นรถใหม่
ซึ่งเทคนิคนี้ เอกสารมันก็จะถูกต้องมาตั้งแต่ต้นทางแล้ว
แค่ไปบอกคนขายว่า อย่าระบุว่าเป็นมือ 2 นะ ก็จบ ตัวเลขในเอกสารมันก็ถูกต้องหมด ถึงแม้ศุลกากรตรวจสอบไปคนขายต้นทาง ก็ได้ตัวเลขเดียวกัน
ผมเคยเห็น อัลพาร์ด ที่ท่าเรือ(เมืองไทย) จอดรอเคลียศุลกากร หลายร้อยคัน ปรากฏว่าต้นทาง มาจากคนขายเจ้าเดียวกันหมด
แต่รถทั้งหมด ไม่ได้เป็นของเกรย์เจ้าเดียว แต่กระจายไปหลายเจ้า
ผมก็เลย "คิดไปเอง" ว่า มันก็คงมีกระบวนการ ทำให้ราคารถถูกลง โดยการไปซื้อมาจากดีเลอร์ แล้วก็ขายต่อให้บริษัทในไทยอีกทีในราคาถูก
เพื่อจะทำให้ตัวเลขในใบขนต่างๆ ลดลง
เมื่อกรมศุลฯ ตรวจสอบไปยังคนขาย ตัวเลขก็ตรงกันหมด มันก็เลยผ่านฉลุยไม่มีปัญหา
แต่กรณี นิชคาร์ นี่ ผม "เดา" ว่า เขาอาจจะทำใบ Invoice ขึ้นมาใหม่ ซึ่งราคาไม่ตรงกับ Invoice จริง ที่ออกจากโรงงาน
แล้ว Invoice ตัวจริงก็เอาซ่อนไว้ เอาตัวที่ทำขึ้นมาใหม่ไปแจ้งศุลกากร
ถ้าทำเรื่องนำของเข้าเองไม่ผ่านตัวแทน(ชิพปิ้ง) มันก็ทำได้ไม่ยากเย็นอะไร
--------------------------------------------------------------------------------
คนซื้อไปแล้วนี่ ผมว่าอาจจะหนาวๆ ร้อนๆ ไม่รู้ว่าจะโดนย้อนหลังรึเปล่านี่สิครับ
ถ้าผมซื้อมาคันนึง ผมก็คงเครียดเหมือนกันนะครับเนี่ย