หลังจากที่บ้านออก ML250 มา(เป็นรถพรีเมี่ยมคันแรก)ตอนนี้จะ 3 ปีแล้ว
1. หลังจากได้ขับออกจากโชว์รูม รู้สึกเลยว่ามันไม่ได้ดีมากมายข
เท่ากับราคาของมันเลย มันก็แค่ดีระดับหนึ่ง นึกเสียดายตังค์
2. ใช้ปีแรกซื้อแพกเกจบำรุงรักษาไว้ ไม่ได้เสียค่าบำรุงรักษาอะไร แต่จริงๆ คือเสียไปแล้วตอนซื้อแพคเกจ
3. ปีที่ 2 เริ่มมีต้องเสียค่าใช้จ่ายบ้าง นอกเหนือจากที่แพคเกจครอบคลุม ผ้าเบรคคู่ละ เกือบหมื่น ยางปัดน้ำฝน6พันกว่า (มันแพงนึกว่าจะทน แต่แค่ 2 ปีก็ได้เปลี่ยนแล้ว)
4 ปีที่ 2 ขับรถลุยฝนตกหนัก ไฟเอนจิ้นโชว์ เข้าศูนย์เปลี่ยนเซ็นเซอร์ และหลังจากนั้นเข้าศูนด้วยอาการไฟโชว์ เร่งไม่ขึ้น เกียร์ไม่เปลี่ยนมาอีก 4 รอบ ในระยะเวลา 1 ปี แต่ละครั้งรออะไหล่ 1-4 สัปดา ปัจจุบันกำลังจะ 3 ปีเต็ม คิดว่าจะขายทิ้ง
ของแพงไม่กลัว แต่แพงแล้วต้องดีสมราคา ไม่ใช่แพงเพราะตั้งราคาให้แพงเพื่อให้ดูพรีเมี่ยม ของพรีเมี่ยมของดีราคาแพงขึ้นระดับหนึ่งพอรับได้ มาเห็นราคาอะไหล่แต่ละตัว มันแพงเว่อ แพงเพราะปั่นราคาจากเบนซ์ประเทศไทย
เบนซ์ที่ขายได้อยู่ทุกวันนี้ ลูกค้าใหม่เกินครึ่ง คือยังรู้สึกกันว่าเบนซ์คือดี ถ้ามีตังค์ต้องซื้อมาขับสักครั้งหนึ่งในชีวิต โดยไม่รู้หรอกว่ามันจะดีสมราคาหรือเปล่า ใช้แล้วซื้อแล้วนั่นแหละถึงจะรู้ กับลูกค้าเก่าที่เงินเหลือจริงหรือไม่ก็รถประจำตำแหน่ง
+1
ตามนี้เลยครับ หมดศรัทธา ทั้ง Benz และ BMW ละครับ ไปๆมาๆ มันไม่คุ้มราคาเอาเสียเลย ราคารถต่างกันครึ่งแสนถึงล้าน แต่ถ้าถามว่าขับดีกว่ากันเท่าตัวไหม ก็ไม่ ไหนจะเรื่องการจุกจิกอีก คือซ่อมแพงไม่ว่า เข้าใจ แต่รถจุกจิก พังง่ายคืออะไร รถเสียง่ายในมุมมองผมมันคือรถคุณภาพต่ำ
ผมว่าตอนนี้เบนซ์กินบุญเก่าๆ จากสมัย W124 นั่นละครับ เอาจริงๆ คนแก่ๆ บางคนยังเชื่ออยู่เลยว่ารถเบนซ์มันทน (แบบพ่อผมเมื่อก่อน) เอาจริงๆขับรถญี่ปุ่นสบายใจกว่าเยอะ
จริงๆผมหมดศรัทธาตั้งแต่ได้ไปลองสัมผัสยี่ห้ออื่นๆละครับ ได้ลอง Lexus ได้ลอง Volvo ทำให้รู้ว่ารถดีๆ ของค่ายอื่นมันก็ยังมีให้เลือกอีกมาก (ดีกว่าเยอรมันเจ้าตลาด) ถ้าไม่ยึดติดภาพลักษณ์มากจนเกินไป
เอาจริงๆผมมองว่า ภาพลักษณ์ในตำแหน่งหน้าที่การงานมันก็มีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้รถช่วยเสริมเท่าไหร่ ยิ่งคนเก่งๆ บางคน ก็ไม่ได้ใช้รถดีอะไรมากมาย แค่ D Segment นี่ภาพลักษณ์ก็เหลือพอละ คนรู้จักผมที่รายได้ 8 หลัก หลายๆคน ส่วนใหญ่ก็ใช้กันแค่ D Seg นะ ไม่เห็นเขาจะเดือดร้อนกับภาพลักษณ์อะไรเลย
### จริงๆไม่ใช่แค่ค่าซ่อมแบตนะครับ อย่าลืมตัว Airmatic ด้วย (ที่ใส่มาให้ในตัวใหม่) ใครเคยใช้ S Class น่าจะรู้กิตติศัพท์มันดี มีโอกาสพังทุกแสนโล (หรือก่อน) และค่าซ่อม หกหลักแน่ๆ