ข่าวจากหน้าเว็บเราก็มีครับ และ เขียนไว้อย่างละเอียด
http://www.headlightmag.com/news-agreement-between-toyota-and-tesla-is-ended/ถ้ายังจำกันได้ เมื่อ 7 ปีก่อน Tesla และ Toyota ได้เซ็นสัญญากันผลิตรถยนต์
พลังงานไฟฟ้า (จาก
http://www.headlightmag.com/tesla-toyot1484/)
โดยที่ Toyota ได้ซื้อหุ้นราว 3% ใน Tesla คิดเป็นมูลค่า 50 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
(ราว 1,702 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือดังกล่าวจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว
หลังจากที่โฆษกของ Toyota ได้เปิดเผยว่าบริษัทได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ใน Tesla
ไปทั้งหมดตั้งแต่สิ้นปี 2016
Ryo Sakai โฆษกของ Toyota เปิดเผยว่าความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างบริษัทตน
และ Tesla ได้จบไปตั้งแต่ปี 2015 และไม่มีแผนที่จะพัฒนาอะไรใหม่ ทำให้บริษัทมองว่า
ถึงเวลาที่ต้องขายหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ Toyota ไม่ได้ขายหุ้นทั้งหมดทีเดียว
แต่พวกเขาแบ่งขายมาทีละส่วน โดยเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2014 จนเหลืออยู่ 2,340,000 หุ้น
ในเดือนมีนาคม 2016 หรือคิดเป็น 1% นิดๆ ของหุ้น Tesla ทั้งหมด
ผลงานที่พวกเขาเคยร่วมกันฝากเอาไว้คือ Toyota RAV4 EV ที่เปิดตัวในปี 2012
โดยใช้แบตเตอรี่ของ Tesla แต่ ณ วันนั้น Toyota เคยมองว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่น่าจะ
กลายเป็นรถยนต์กระแสหลักได้ด้วยปัญหาราคาแบตเตอรี่ที่สูง และ มีระยะทางวิ่งที่จำกัด
Toyota จึงหันไปพัฒนา Hybrid และ Fuel Cell แทน
แต่วันนี้หลายประเทศได้ออกกฎสนับสนุนให้ประชาชนหันมาซื้อรถไฟฟ้า ประกอบกับ
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ก็ก้าวล้ำขึ้นจนสามารถขยายระยะทางวิ่งได้ไกลขึ้น และ มีการ
ขยายสถานีชาร์จประจุมากขึ้น ก็ทำให้ Toyota เริ่มเอนเอียงมาพัฒนารถไฟฟ้ามากขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงของ Toyota ในครั้งนี้น่าจะเกิดจาก Volkswagen Group ได้หันเห
ทุ่มตลาดรถไฟฟ้าพร้อมตั้งเป้าจำหน่ายสัดส่วน 25% ของยอดขายรวมในปี 2025
รวมทั้งผู้ผลิตรถไฟฟ้ารายอื่นอย่าง BYD ที่เริ่มขยายกำลังการผลิตรองรับความต้องการ
และ Tesla ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ
สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า Toyota Motor เตรียมผลิตรถไฟฟ้าสำหรับตลาด Mass
ในปี 2020 โดยเป็นส่วนหนึ่งของสายการผลิตรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมนอกเหนือจาก
Hybrid และ Fuel Cell จนถึงขั้นต้องเร่งสร้างทีมวางแผนและพัฒนารถไฟฟ้าให้เร็วที่สุด
ภายในปี 2017 โดย Toyota จะแสวงหาความร่วมมือภายในกลุ่มบริษัทเพื่อเร่งให้ขึ้น
สายการผลิตเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ในเบื้องต้นรถไฟฟ้าจากค่าย Toyota จะมีระยะทางวิ่งสูงสุดมากกว่า 300 กิโลเมตร ต่อการ
ชาร์จประจุ 1 ครั้ง อาจจะใช้พื้นฐานของ Prius หรือไม่ก็ Corolla และกำลังพิจารณาที่จะ
พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV ด้วยเช่นกัน
Toyota วางแผนจัดซื้อแบตเตอรี่จากซัพพลายเออร์เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่
โดยยังคงสามารถตอบสนองด้านสมรรถนะที่ดี รวมถึงประสิทธิภาพในการชาร์จประจุ และ
ระยะทางวิ่งสูงสุด จังหวะการเปิดตัวรถไฟฟ้า Toyota ในปี 2020 ถือเป็นจังหวะดีมาก
เพราะเป็นช่วงเวลาที่ประเทศญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพ Tokyo Olympic 2020 พอดี
การตัดสินใจของโตโยต้าครั้งนี้ ในการยุติบทบาทร่วมกับ Tesla แสดงผลให้เห็นว่า
ไม่ต้องการเป็นพันธมิตรกับค่ายรถยนต์ไฟฟ้าอีกต่อไป รวมถึงไม่จำเป็นต้องร่วมมือกัน
ในการพัฒนากับ Tesla เนื่องจาก Toyota เองกำลังเบนเข็ม พยายามพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
ด้วยตัวเอง เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดในอนาคต
ที่มา: reuters, asia.nikkei