ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนๆคิดว่าอีกสัก 5 ปี บ้านเราจะมีการผลิตรถไฟฟ้าในแบบ Mass Production มั้ยครับ  (อ่าน 18026 ครั้ง)

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์

เป็น will ไม่แปลกเพราะ อย่างที่เห็นในปัจจุบันรถ ICE ยังเป็น majority อยู่แต่คำถามที่มีตลอดคือ for how long?

Fool cell ไม่ใช่ของทดแทน BEV มันเป็น technology ที่มาแข่งด้วย มันเหมือนช่วง tape format war ช่วง 80s ถามว่า Sony บอกว่า  betamax จะทดแทน vhs ไหม มันเป็น option นึงเวลาconsumer จะซื้อ videotape แต่ในวงการรถยนต์ ก็เห็นๆอยู่ว่า fool cell เป็นoption ที่ fail ด้านการตลาด ไม่เป็นที่นิยมอย่างชัดเจน

็     
เฮ้อ นี่ คิดไม่ออก จริงๆ เหรอ ว่า Toyota ทำ FCV เพื่ออะไร
ครั้งแรก ที่ ประกาศทำ FCV คือ ประกาศ ขาย เฉพาะบางพื้นที่ รู้อยู่แล้ว ออกมาก็ขายไม่เยอะ หลังจาก BEV ไม่ประสบความสำเร็จกับ REV4 EV ใช้เวลา แค่ไม่ถึง 2 ปี  ขาย FCV ได้
FCV คือ รูปแบบการ ใช้พลังงาน จากไฮรโดรเจน เป็น ทางเลือก เหมือน CNG , Electric , LPG
จะให้ มันมา นิยม เป็นไปไม่ได้ แน่นอน ขนาด วิศวกร ยังบอกเพื่อ อนาคตตตตตต อนาคต สุดๆ

พอมาประเทศ ไทยก็ชัด ไม่ขาย แน่นอน เพราะ ไทยโลกสาม ไม่มี สถานีเติม  มันจะนิยมได้ไง
มาดูตัว โปรดัค ของ Toyota เอง
PHEV, FCV ,BEV ,HEV  เหมือน กำลัง ประกาศ ให้โลก รู้ว่า ไม่ว่า พลังงานจะไป ทิศทางไหน  ก็มี โปรดัค เพื่อ ขาย รองรับได้หมด
ไม่แปลกใจ เหรอ ทั้ง ที่ มันขายไม่ดี ขายไม่ มันหัว ทิ่ม
แต่ ทำไม Honda , ฮุนได ยัง ดัน FCV ทำออกมาขาย  ทั้ง ที่ รู้ ยอดขาย ว่าขายได้น้อยแน่ๆ ???
ไม่ต่างจาก
ALtis CNG ในไทย เลย มีขาย แค่บ้านเรา แต่ก็ยังขาย เพื่อ
ทุกพลังงาน มันมีจุดเด่น จุดด้อย เหมาะ สม แต่ ละพื้น ที่ ไม่เหมือนกัน

ในระหว่าง ที่ โลก ต้องการพลังงาน ทางเลือก นอกจากน้ำมัน
หาก พลังงานนั้น ไม่ได้ รับ การสนับสนุน  ก็จะไม่เกิดการ พัฒนา ต่อยอด ปลดพันธนาการ
และ พลังงาน ทางเลือก ต้นกำลัง จริงๆ ไม่ใช่ กระแส ไฟฟ้า แต่ สิ่ง ที่ เอามาสร้างมันต่างหาก คือ ต้นกำเนิดพลังงาน
OEM หลายๆ ค่าย ที่ทำ FCV ช่วง ที่  เกิดกระแส FCV มัน คือ การ ต่อยอด ใช้เงิน  สนับ สนุน ชู จุดเด่น ข้อได้เปรียบของมัน
ไม่มีอะไร ดี ที่ สุด และ แย่ที่สุด

และ เชื่อ เถอะ  OEM  ก็จะทำรถ พลังงาน ทากเลือกมาอีกเรื่อยๆ
Fuel Cell ก็ไม่ได้ ใช้ได้แค่ Hydrogen มี เชื่อเพลิง อีกหลายตัว
ถ้ามี พลังงาน ทางเลือก แต่ ไม่มี คนสนับ สนุน พลังงาน หรือ เทคโนโลยี นั้นก็ตายไปเฉยๆ

วนกลับมาที่ BEV ตัวเปรียบ ไม่ใช่ FCV แต่เป็น PHEV ที่ สามารถ เติมได้ ทั้ง น้ำมัน และไฟฟ้า ถาม ว่าวันนี้คนจะเลือกอะไร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2017, 15:34:09 โดย mamaman »

MacH1

  • บุคคลทั่วไป

เป็น will ไม่แปลกเพราะ อย่างที่เห็นในปัจจุบันรถ ICE ยังเป็น majority อยู่แต่คำถามที่มีตลอดคือ for how long?

Fool cell ไม่ใช่ของทดแทน BEV มันเป็น technology ที่มาแข่งด้วย มันเหมือนช่วง tape format war ช่วง 80s ถามว่า Sony บอกว่า  betamax จะทดแทน vhs ไหม มันเป็น option นึงเวลาconsumer จะซื้อ videotape แต่ในวงการรถยนต์ ก็เห็นๆอยู่ว่า fool cell เป็นoption ที่ fail ด้านการตลาด ไม่เป็นที่นิยมอย่างชัดเจน

็     
เฮ้อ นี่ คิดไม่ออก จริงๆ เหรอ ว่า Toyota ทำ FCV เพื่ออะไร
ครั้งแรก ที่ ประกาศทำ FCV คือ ประกาศ ขาย เฉพาะบางพื้นที่ รู้อยู่แล้ว ออกมาก็ขายไม่เยอะ หลังจาก BEV ไม่ประสบความสำเร็จกับ REV4 EV ใช้เวลา แค่ไม่ถึง 2 ปี  ขาย FCV ได้
FCV คือ รูปแบบการ ใช้พลังงาน จากไฮรโดรเจน เป็น ทางเลือก เหมือน CNG , Electric , LPG
จะให้ มันมา นิยม เป็นไปไม่ได้ แน่นอน ขนาด วิศวกร ยังบอกเพื่อ อนาคตตตตตต อนาคต สุดๆ

พอมาประเทศ ไทยก็ชัด ไม่ขาย แน่นอน เพราะ ไทยโลกสาม ไม่มี สถานีเติม  มันจะนิยมได้ไง
มาดูตัว โปรดัค ของ Toyota เอง
PHEV, FCV ,BEV ,HEV  เหมือน กำลัง ประกาศ ให้โลก รู้ว่า ไม่ว่า พลังงานจะไป ทิศทางไหน  ก็มี โปรดัค เพื่อ ขาย รองรับได้หมด
ไม่แปลกใจ เหรอ ทั้ง ที่ มันขายไม่ดี ขายไม่ มันหัว ทิ่ม
แต่ ทำไม Honda , ฮุนได ยัง ดัน FCV ทำออกมาขาย  ทั้ง ที่ รู้ ยอดขาย ว่าขายได้น้อยแน่ๆ ???
ไม่ต่างจาก
ALtis CNG ในไทย เลย มีขาย แค่บ้านเรา แต่ก็ยังขาย เพื่อ
ทุกพลังงาน มันมีจุดเด่น จุดด้อย เหมาะ สม แต่ ละพื้น ที่ ไม่เหมือนกัน

ในระหว่าง ที่ โลก ต้องการพลังงาน ทางเลือก นอกจากน้ำมัน
หาก พลังงานนั้น ไม่ได้ รับ การสนับสนุน  ก็จะไม่เกิดการ พัฒนา ต่อยอด ปลดพันธนาการ
และ พลังงาน ทางเลือก ต้นกำลัง จริงๆ ไม่ใช่ กระแส ไฟฟ้า แต่ สิ่ง ที่ เอามาสร้างมันต่างหาก คือ ต้นกำเนิดพลังงาน
OEM หลายๆ ค่าย ที่ทำ FCV ช่วง ที่  เกิดกระแส FCV มัน คือ การ ต่อยอด ใช้เงิน  สนับ สนุน ชู จุดเด่น ข้อได้เปรียบของมัน
ไม่มีอะไร ดี ที่ สุด และ แย่ที่สุด

และ เชื่อ เถอะ  OEM  ก็จะทำรถ พลังงาน ทากเลือกมาอีกเรื่อยๆ
Fuel Cell ก็ไม่ได้ ใช้ได้แค่ Hydrogen มี เชื่อเพลิง อีกหลายตัว
ถ้ามี พลังงาน ทางเลือก แต่ ไม่มี คนสนับ สนุน พลังงาน หรือ เทคโนโลยี นั้นก็ตายไปเฉยๆ

วนกลับมาที่ BEV ตัวเปรียบ ไม่ใช่ FCV แต่เป็น PHEV ที่ สามารถ เติมได้ ทั้ง น้ำมัน และไฟฟ้า ถาม ว่าวันนี้คนจะเลือกอะไร

"วนกลับมาที่ BEV ตัวเปรียบ ไม่ใช่ FCV แต่เป็น PHEV ที่ สามารถ เติมได้ ทั้ง น้ำมัน และไฟฟ้า ถาม ว่าวันนี้คนจะเลือกอะไร"

สงสัยคุณทื่อไม่เข้าใจ evolution ของ EV สายแบต

พวก legacy maker เค้าจะเล่นตามนี้
Hybrid ---> Plug-in Hybrid --->  BEV

ส่วนพวก Tesla, Faraday future, Fisker, Detroit electric, NIO etc... เค้าไป BEV ล่วงหน้าก่อนเลย

Plug-in มันแค่ step นึงใน evolution ที่จะทำไม่ทำก็ได้ฮะ tech tier มันคนละชั้นกัน 

At the end of the day, everyone will go full-battery, remaining Fool-cell losers will come around eventually too. 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2017, 15:57:51 โดย Ivy Modernist »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
"วนกลับมาที่ BEV ตัวเปรียบ ไม่ใช่ FCV แต่เป็น PHEV ที่ สามารถ เติมได้ ทั้ง น้ำมัน และไฟฟ้า ถาม ว่าวันนี้คนจะเลือกอะไร"
สงสัยคุณทื่อไม่เข้าใจ evolution ของ EV สายแบต
พวก legacy maker เค้าจะเล่นตามนี้
Hybrid ---> Plug-in Hybrid --->  BEV
ส่วนพวก Tesla, Faraday future, Fisker, Detroit electric, NIO etc... เค้าไป BEV ล่วงหน้าก่อนเลย

Plug-in มันแค่ step นึงใน evolution ที่จะทำไม่ทำก็ได้ฮะ tech tier มันคนละชั้นกัน 

At the end of the day, everyone will go full-battery, remaining Fool-cell losers will come around eventually too.

ทำไม จะไม่เข้าใจครับ ผมก้พร่ำเสมอไง  ว่า Toyota
สามารถ สร้าง รถแบบไหนก็ได้ เพียง แต่ จะทำไม่ทำแค่นั้น
OEM เค้า ทำรถขายไหม Product ทำเงิน จริงๆ ตอนนี้คืออะไร
ทุกอย่าง ค่อยเป็น ค่อยไป ครับ เพราะ การดำเนิน ธุรกิจ ไม่ได้ ใช้น้ำ ลาย แบบ เราๆ นึกอะไรก็พูด 

ค่ายใหม่ อื่นทำไมไป BEV เพราะ ทำ รถน้ำมัน >Hybrid ---> Plug-in Hybrid  สู้ OEM เจ้าตลาดเดิมๆ ไม่ได้ไงละ

FCV ไม่แพ้ หรอกครับ เพราะ เค้าไม่ได้ ทำมาเพื่อจะชนะ ตั้งแต่แรก
PHEV ตลาดโลกก็ใช่ว่าจะดี
EV ก็ขายเยอะๆ แค่ในจีน ซึ่ง Toyota ไม่ มีทางเจาะได้อยู่แล้ว
ถ้า จะเอา แพ้ ชนะ
ยังไง วันนี้ Toyota ก็ไม่แพ้ ด้วยยอด ขาย ที่ ควรแหก ตาดู เพราะ Innovation การผลิต รถ ทุกพลังงาน ในมือ
ทุกวันนี้ ยัง ขับรถเผา น้ำมัน กันเล่นอยู่ เลย จะไป BEV เลยรึ 

เห็น วิเคราะห์ เก่ง ก็วิเคราะหได้นี่ ว่า เกมส์ การผลิต รถของ เจ้าตลาดเดิมจะเป็นไง
เป็นไไม่ได้ หรอก ที่จะออกมาพูดว่า BEV ไม่มีอนาคต เพราะ PHEV ก็มี Mode  Full Battery Drive อยู่ในรถเรียบร้อย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2017, 17:02:48 โดย mamaman »

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
"วนกลับมาที่ BEV ตัวเปรียบ ไม่ใช่ FCV แต่เป็น PHEV ที่ สามารถ เติมได้ ทั้ง น้ำมัน และไฟฟ้า ถาม ว่าวันนี้คนจะเลือกอะไร"
สงสัยคุณทื่อไม่เข้าใจ evolution ของ EV สายแบต
พวก legacy maker เค้าจะเล่นตามนี้
Hybrid ---> Plug-in Hybrid --->  BEV
ส่วนพวก Tesla, Faraday future, Fisker, Detroit electric, NIO etc... เค้าไป BEV ล่วงหน้าก่อนเลย

Plug-in มันแค่ step นึงใน evolution ที่จะทำไม่ทำก็ได้ฮะ tech tier มันคนละชั้นกัน 

At the end of the day, everyone will go full-battery, remaining Fool-cell losers will come around eventually too.

ทำไม จะไม่เข้าใจครับ ผมก้พร่ำเสมอไง  ว่า Toyota
สามารถ สร้าง รถแบบไหนก็ได้ เพียง แต่ จะทำไม่ทำแค่นั้น
OEM เค้า ทำรถขายไหม Product ทำเงิน จริงๆ ตอนนี้คืออะไร
ถามเอง ตอบ เอง คำตอบ มันก็อยู่ในนั้น
Hybrid ---> Plug-in Hybrid --->  BEV 
ก่อนจะมา BEV
ถามมา  ค่ายอื่นทำไมไป BEV เพราะ ทำ Hybrid ---> Plug-in Hybrid  สู้ OEM เจ้าตลาดเดิมๆ ไม่ได้ไงละ
ในเมื่อ คน ยัง นิยม
 Hybrid ---
จากนั้น เปลี่ยมาเป็น
> Plug-in Hybrid
แล้วก็ขั้นต่อไป 
 --->  BEV 
ข้อมูล ที่ คุณ พูดมาก็เหมืแน ตบปากตัวเอง แท้ๆ

FCV ไม่แพ้ หรอกครับ เพราะ เค้าไม่ได้ ทำมาเพื่อจะชนะ ตั้งแต่แรก 555555555

พวกหน้าใหม่โดยเฉพาะพวกจาก tech sector มุ่งไป BEV เลย (หลายเจ้ามุ่งไปที่ price tier ระดับ upscale) เพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาถึงระดับนึงที่ทำให้ BEV มันใช้งานได้จริงๆ วิ่งdaily ได้ คุณคิดว่าเค้าจะเดินถอยหลังไปทำ hybrid กับ plug-in ทำไม แทนที่จะลุยเทคโนที่จะอยู่ช่วงยาวไปเลย คิดหน่อย!?

พวก legacy maker บางส่วนมอง  future format ยังไม่ออกเลยหลงไปอยู่ใน Fool cell camp ประกอบกับส่วนนึงมาจากการสนับสนุนของ carbon industry (pipeline supply chain มันแทบจะเป็นระบบที่พวกเค้าวางไว้) ตอนนี้เริ่มมีพวกกลับตัวแล้วอย่าง Mercedes
ทั้งนี้ พวก legacy maker เค้าลงทุนกับ fool cell ไปเยอะ คุณอ้างว่าเค้าไม่ได้หวังทำเพื่อชนะ!?

ผมว่าคุณทื่อลองไปศึกษา format war ของ consumer electronics ดูนะ เคสต่างๆ จะมาโทนเดียวกับวงการรถยนต์ตอนนี้  ทุก format war มีประมาณสองกลุ่มสู้กันในด้าน format แต่สุดท้ายเหลือ format เดียวที่ได้ไปต่อ คุณลองคลานจากกะลาไปดูเคส VHS vs Betamax กับ HDDVD vs Bluray ดูก่อนจะมาอ้างว่าพวกที่ลงทุน fool cell ไปเยอะแยะไม่หวังชนะเลยยยย 

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
พวกหน้าใหม่โดยเฉพาะพวกจาก tech sector มุ่งไป BEV เลย (หลายเจ้ามุ่งไปที่ price tier ระดับ upscale) เพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาถึงระดับนึงที่ทำให้ BEV มันใช้งานได้จริงๆ วิ่งdaily ได้ คุณคิดว่าเค้าจะเดินถอยหลังไปทำ hybrid กับ plug-in ทำไม แทนที่จะลุยเทคโนที่จะอยู่ช่วงยาวไปเลย คิดหน่อย!?
พวก legacy maker บางส่วนมอง  future format ยังไม่ออกเลยหลงไปอยู่ใน Fool cell camp ประกอบกับส่วนนึงมาจากการสนับสนุนของ carbon industry (pipeline supply chain มันแทบจะเป็นระบบที่พวกเค้าวางไว้) ตอนนี้เริ่มมีพวกกลับตัวแล้วอย่าง Mercedes
ทั้งนี้ พวก legacy maker เค้าลงทุนกับ fool cell ไปเยอะ คุณอ้างว่าเค้าไม่ได้หวังทำเพื่อชนะ!?
ผมว่าคุณทื่อลองไปศึกษา format war ของ consumer electronics ดูนะ เคสต่างๆ จะมาโทนเดียวกับวงการรถยนต์ตอนนี้  ทุก format war มีประมาณสองกลุ่มสู้กันในด้าน format แต่สุดท้ายเหลือ format เดียวที่ได้ไปต่อ คุณลองคลานจากกะลาไปดูเคส VHS vs Betamax กับ HDDVD vs Bluray ดูก่อนจะมาอ้างว่าพวกที่ลงทุน fool cell ไปเยอะแยะไม่หวังชนะเลยยยย

คุณ มันก็ วน มาแค่ แพ้ ชนะ  กะ FCV แพ้ ไม่ได้ โงหัวไหน
OEM เค้าทำรถ ขาย
ยอดขาย เป็นตัว บอก อะไรแพ้ อะไร ชนะมากกว่ามั้ง
OEM หลัก เค้าจะ มาทำ BEV ตอนนี้ทำไมใน
เมื่อรถน้ำมัน สินค้า หลัก ยังทำรายได้เป็นกบเป็นกำ คิดง่ายๆๆๆๆๆ ไม่ต้องคิดเยอะะะะะะะะะะะ
เดี่ยว Toyota หรือ OEM เจ้า อื่นๆ ก็พิสูจย์ เอง ว่า ผู้ผลิต รถยนต์ ไม่ได้โง่ หรอก
คุณจะมาฟัน งธง ว่า Format เดียว ที่จะชนะ ได้ไง ในเมื่อ ทางเลือก มีหลากหลาย
บ้านเรา ก็มี  CNG , LPG , ดีเซล , ATHANAL ทำไม ต้องมี Format เดียววะ
ในเมื่อ โลก ยังไม่ได้ มีประเทศ เดียวเลย ทำไม ทุกคน ต้องคิดเหมือน คุณ โลกที่หนึ่ง อ่านหนังสือ วิเคราะห์ มาก จนคลั่งไปรึเปล่า

ดู ตัว คุณเอง เลือก รถ ยัง เลือก จิ้ม แต่ เบนซิน ซดน้ำมัน V6 บ้าพลังเลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2017, 17:10:51 โดย mamaman »

ออฟไลน์ Noncyclopedia

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,200
ต่อๆครับ... ดุเดือดกันไปหน่อย. ผมก้อไล่อ่าน.

เชียร์อาจารย์ทั้งสองท่านนะครับ สำหรับข้อมุล


MacH1

  • บุคคลทั่วไป
พวกหน้าใหม่โดยเฉพาะพวกจาก tech sector มุ่งไป BEV เลย (หลายเจ้ามุ่งไปที่ price tier ระดับ upscale) เพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาถึงระดับนึงที่ทำให้ BEV มันใช้งานได้จริงๆ วิ่งdaily ได้ คุณคิดว่าเค้าจะเดินถอยหลังไปทำ hybrid กับ plug-in ทำไม แทนที่จะลุยเทคโนที่จะอยู่ช่วงยาวไปเลย คิดหน่อย!?
พวก legacy maker บางส่วนมอง  future format ยังไม่ออกเลยหลงไปอยู่ใน Fool cell camp ประกอบกับส่วนนึงมาจากการสนับสนุนของ carbon industry (pipeline supply chain มันแทบจะเป็นระบบที่พวกเค้าวางไว้) ตอนนี้เริ่มมีพวกกลับตัวแล้วอย่าง Mercedes
ทั้งนี้ พวก legacy maker เค้าลงทุนกับ fool cell ไปเยอะ คุณอ้างว่าเค้าไม่ได้หวังทำเพื่อชนะ!?
ผมว่าคุณทื่อลองไปศึกษา format war ของ consumer electronics ดูนะ เคสต่างๆ จะมาโทนเดียวกับวงการรถยนต์ตอนนี้  ทุก format war มีประมาณสองกลุ่มสู้กันในด้าน format แต่สุดท้ายเหลือ format เดียวที่ได้ไปต่อ คุณลองคลานจากกะลาไปดูเคส VHS vs Betamax กับ HDDVD vs Bluray ดูก่อนจะมาอ้างว่าพวกที่ลงทุน fool cell ไปเยอะแยะไม่หวังชนะเลยยยย

คุณ มันก็ วน มาแค่ แพ้ ชนะ  กะ FCV แพ้ ไม่ได้ โงหัวไหน
OEM เค้าทำรถ ขาย
ยอดขาย เป็นตัว บอก อะไรแพ้ อะไร ชนะมากกว่ามั้ง
OEM หลัก เค้าจะ มาทำ BEV ตอนนี้ทำไมใน
เมื่อรถน้ำมัน สินค้า หลัก ยังทำรายได้เป็นกบเป็นกำ คิดง่ายๆๆๆๆๆ ไม่ต้องคิดเยอะะะะะะะะะะะ
เดี่ยว Toyota หรือ OEM เจ้า อื่นๆ ก็พิสูจย์ เอง ว่า ผู้ผลิต รถยนต์ ไม่ได้โง่ หรอก
คุณจะมาฟัน งธง ว่า Format เดียว ที่จะชนะ ได้ไง ในเมื่อ ทางเลือก มีหลากหลาย
บ้านเรา ก็มี  CNG , LPG , ดีเซล , ATHANAL ทำไม ต้องมี Format เดียววะ
ในเมื่อ โลก ยังไม่ได้ มีประเทศ เดียวเลย ทำไม ทุกคน ต้องคิดเหมือน คุณ โลกที่หนึ่ง อ่านหนังสือ วิเคราะห์ มาก จนคลั่งไปรึเปล่า

ดู ตัว คุณเอง เลือก รถ ยัง เลือก จิ้ม แต่ เบนซิน ซดน้ำมัน V6 บ้าพลังเลย

"ดู ตัว คุณเอง เลือก รถ ยัง เลือก จิ้ม แต่ เบนซิน ซดน้ำมัน V6 บ้าพลังเลย"

ต้องเข้าใจว่าผมจิ้มรถพวกนั้นเพราะ factor อะไร ---> performance ไม่ใช่ fuel economy

ณ ตอนนี้ เครื่องเบนซิน ทั้ง 4banger turbo, slant six, V6, V8 ยังให้ performance กับฟิลที่ผมต้องการได้ แต่วันนึงซึ่งมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ (2020s!?) ที่ BEV เริ่มเข้ามาแทนที่เบนซิน และให้ performance ที่เท่ากันหรือเหนือกว่าได้ ผมก็ย้ายไปทางนั้น

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์

ต่อๆครับ... ดุเดือดกันไปหน่อย. ผมก้อไล่อ่าน.

เชียร์อาจารย์ทั้งสองท่านนะครับ สำหรับข้อมุล


พวกหน้าใหม่โดยเฉพาะพวกจาก tech sector มุ่งไป BEV เลย (หลายเจ้ามุ่งไปที่ price tier ระดับ upscale) เพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาถึงระดับนึงที่ทำให้ BEV มันใช้งานได้จริงๆ วิ่งdaily ได้ คุณคิดว่าเค้าจะเดินถอยหลังไปทำ hybrid กับ plug-in ทำไม แทนที่จะลุยเทคโนที่จะอยู่ช่วงยาวไปเลย คิดหน่อย!?
พวก legacy maker บางส่วนมอง  future format ยังไม่ออกเลยหลงไปอยู่ใน Fool cell camp ประกอบกับส่วนนึงมาจากการสนับสนุนของ carbon industry (pipeline supply chain มันแทบจะเป็นระบบที่พวกเค้าวางไว้) ตอนนี้เริ่มมีพวกกลับตัวแล้วอย่าง Mercedes
ทั้งนี้ พวก legacy maker เค้าลงทุนกับ fool cell ไปเยอะ คุณอ้างว่าเค้าไม่ได้หวังทำเพื่อชนะ!?
ผมว่าคุณทื่อลองไปศึกษา format war ของ consumer electronics ดูนะ เคสต่างๆ จะมาโทนเดียวกับวงการรถยนต์ตอนนี้  ทุก format war มีประมาณสองกลุ่มสู้กันในด้าน format แต่สุดท้ายเหลือ format เดียวที่ได้ไปต่อ คุณลองคลานจากกะลาไปดูเคส VHS vs Betamax กับ HDDVD vs Bluray ดูก่อนจะมาอ้างว่าพวกที่ลงทุน fool cell ไปเยอะแยะไม่หวังชนะเลยยยย

คุณ มันก็ วน มาแค่ แพ้ ชนะ  กะ FCV แพ้ ไม่ได้ โงหัวไหน
OEM เค้าทำรถ ขาย
ยอดขาย เป็นตัว บอก อะไรแพ้ อะไร ชนะมากกว่ามั้ง
OEM หลัก เค้าจะ มาทำ BEV ตอนนี้ทำไมใน
เมื่อรถน้ำมัน สินค้า หลัก ยังทำรายได้เป็นกบเป็นกำ คิดง่ายๆๆๆๆๆ ไม่ต้องคิดเยอะะะะะะะะะะะ
เดี่ยว Toyota หรือ OEM เจ้า อื่นๆ ก็พิสูจย์ เอง ว่า ผู้ผลิต รถยนต์ ไม่ได้โง่ หรอก
คุณจะมาฟัน งธง ว่า Format เดียว ที่จะชนะ ได้ไง ในเมื่อ ทางเลือก มีหลากหลาย
บ้านเรา ก็มี  CNG , LPG , ดีเซล , ATHANAL ทำไม ต้องมี Format เดียววะ
ในเมื่อ โลก ยังไม่ได้ มีประเทศ เดียวเลย ทำไม ทุกคน ต้องคิดเหมือน คุณ โลกที่หนึ่ง อ่านหนังสือ วิเคราะห์ มาก จนคลั่งไปรึเปล่า

ดู ตัว คุณเอง เลือก รถ ยัง เลือก จิ้ม แต่ เบนซิน ซดน้ำมัน V6 บ้าพลังเลย

"ดู ตัว คุณเอง เลือก รถ ยัง เลือก จิ้ม แต่ เบนซิน ซดน้ำมัน V6 บ้าพลังเลย"

ต้องเข้าใจว่าผมจิ้มรถพวกนั้นเพราะ factor อะไร ---> performance ไม่ใช่ fuel economy

ณ ตอนนี้ เครื่องเบนซิน ทั้ง 4banger turbo, slant six, V6, V8 ยังให้ performance กับฟิลที่ผมต้องการได้ แต่วันนึงซึ่งมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ (2020s!?) ที่ BEV เริ่มเข้ามาแทนที่เบนซิน และให้ performance ที่เท่ากันหรือเหนือกว่าได้ ผมก็ย้ายไปทางนั้น


เห้นมั้ย
คุณ เอง เป้นผู้บริโภค ณ ปัจจุบัน

ยังไม่จิ้ม ไปที่ BEV ตอนนี้เลย

คนขาย เค้าจะมองไม่ออกเหรอ ว่า ต้องทำอะไรตอนไหน

MacH1

  • บุคคลทั่วไป

ต่อๆครับ... ดุเดือดกันไปหน่อย. ผมก้อไล่อ่าน.

เชียร์อาจารย์ทั้งสองท่านนะครับ สำหรับข้อมุล


พวกหน้าใหม่โดยเฉพาะพวกจาก tech sector มุ่งไป BEV เลย (หลายเจ้ามุ่งไปที่ price tier ระดับ upscale) เพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาถึงระดับนึงที่ทำให้ BEV มันใช้งานได้จริงๆ วิ่งdaily ได้ คุณคิดว่าเค้าจะเดินถอยหลังไปทำ hybrid กับ plug-in ทำไม แทนที่จะลุยเทคโนที่จะอยู่ช่วงยาวไปเลย คิดหน่อย!?
พวก legacy maker บางส่วนมอง  future format ยังไม่ออกเลยหลงไปอยู่ใน Fool cell camp ประกอบกับส่วนนึงมาจากการสนับสนุนของ carbon industry (pipeline supply chain มันแทบจะเป็นระบบที่พวกเค้าวางไว้) ตอนนี้เริ่มมีพวกกลับตัวแล้วอย่าง Mercedes
ทั้งนี้ พวก legacy maker เค้าลงทุนกับ fool cell ไปเยอะ คุณอ้างว่าเค้าไม่ได้หวังทำเพื่อชนะ!?
ผมว่าคุณทื่อลองไปศึกษา format war ของ consumer electronics ดูนะ เคสต่างๆ จะมาโทนเดียวกับวงการรถยนต์ตอนนี้  ทุก format war มีประมาณสองกลุ่มสู้กันในด้าน format แต่สุดท้ายเหลือ format เดียวที่ได้ไปต่อ คุณลองคลานจากกะลาไปดูเคส VHS vs Betamax กับ HDDVD vs Bluray ดูก่อนจะมาอ้างว่าพวกที่ลงทุน fool cell ไปเยอะแยะไม่หวังชนะเลยยยย

คุณ มันก็ วน มาแค่ แพ้ ชนะ  กะ FCV แพ้ ไม่ได้ โงหัวไหน
OEM เค้าทำรถ ขาย
ยอดขาย เป็นตัว บอก อะไรแพ้ อะไร ชนะมากกว่ามั้ง
OEM หลัก เค้าจะ มาทำ BEV ตอนนี้ทำไมใน
เมื่อรถน้ำมัน สินค้า หลัก ยังทำรายได้เป็นกบเป็นกำ คิดง่ายๆๆๆๆๆ ไม่ต้องคิดเยอะะะะะะะะะะะ
เดี่ยว Toyota หรือ OEM เจ้า อื่นๆ ก็พิสูจย์ เอง ว่า ผู้ผลิต รถยนต์ ไม่ได้โง่ หรอก
คุณจะมาฟัน งธง ว่า Format เดียว ที่จะชนะ ได้ไง ในเมื่อ ทางเลือก มีหลากหลาย
บ้านเรา ก็มี  CNG , LPG , ดีเซล , ATHANAL ทำไม ต้องมี Format เดียววะ
ในเมื่อ โลก ยังไม่ได้ มีประเทศ เดียวเลย ทำไม ทุกคน ต้องคิดเหมือน คุณ โลกที่หนึ่ง อ่านหนังสือ วิเคราะห์ มาก จนคลั่งไปรึเปล่า

ดู ตัว คุณเอง เลือก รถ ยัง เลือก จิ้ม แต่ เบนซิน ซดน้ำมัน V6 บ้าพลังเลย

"ดู ตัว คุณเอง เลือก รถ ยัง เลือก จิ้ม แต่ เบนซิน ซดน้ำมัน V6 บ้าพลังเลย"

ต้องเข้าใจว่าผมจิ้มรถพวกนั้นเพราะ factor อะไร ---> performance ไม่ใช่ fuel economy

ณ ตอนนี้ เครื่องเบนซิน ทั้ง 4banger turbo, slant six, V6, V8 ยังให้ performance กับฟิลที่ผมต้องการได้ แต่วันนึงซึ่งมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ (2020s!?) ที่ BEV เริ่มเข้ามาแทนที่เบนซิน และให้ performance ที่เท่ากันหรือเหนือกว่าได้ ผมก็ย้ายไปทางนั้น


เห้นมั้ย
คุณ เอง เป้นผู้บริโภค ณ ปัจจุบัน

ยังไม่จิ้ม ไปที่ BEV ตอนนี้เลย

คนขาย เค้าจะมองไม่ออกเหรอ ว่า ต้องทำอะไรตอนไหน

ปล. ผมรอดู Leaf mk2, Tesla Model 3, Tesla model Y ว่า pricing เป็นยังไง ถ้าโอเคอาจจิ้ม BEV เลย

ออฟไลน์ -nu-

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 168
EV ยังไงก็มา
EV ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่า ICE หลายเท่า
ที่ EV ยังเป็นรอง คือ  ข้อจำกัดในการชาร์ต กับ ราคา battery

ข้อจำกัดในการชาร์ต
 - แนวโน้มมันจะเปลี่ยนแนวคิด จาก ICE เราจะเติมน้ำมันระหว่างทาง แต่ EV จะชาร์ตไฟ ณ จุดหมาย เพราะรถจอดมากกว่าวิ่ง (คุ้นๆว่า utilization rate <10%)
ตอนนี้ EV วิ่งได้อย่างน้อย 200 ไมล์ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง ทำให้การชาร์ตไฟระหว่างทางมีความจำเป็นน้อยลง แล้วเปลี่ยนไปชาร์ตเมื่อถึงที่หมายแทนได้

ราคา battery
ถ้าติดตาม renewable energy จริงๆ จะรู้ว่าราคา battery ลดลงเร็วมาก ก็แนวเดียวกับ renew อื่นทั้ง Solar (ที่ US ขายกัน 3เซนต์ต่อ kwh) wind


(พูดจากความจำ อาจไม่เป๊ะ) TESLA เคยไกด์ใน analyst meeting ว่าด้วย volumeของ tesla  battery cost น้อยกว่า 200usd/kwh

ภายใน 5 ปี battery cost น่าจะเหลือราวๆ 150usd/kwh  ดังนั้นถ้ารถ ev ยัดแบตมา 100 kwh ก็จะมีค่าแบต 150*34*100  ราวๆ 5แสนบาท
Tesla model S จากผู้ใช้บอกว่าวิงได่ราวๆ 3ไมล์/kwh ก็คำนวนได้ว่า ชาร์ตเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ 300ไมล์  ก็น่าจะเกิน 500 km ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง
ผมว่าเหลือเฟือสำหรับคนทั่วไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2017, 23:27:46 โดย -nu- »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์

ปล. ผมรอดู Leaf mk2, Tesla Model 3, Tesla model Y ว่า pricing เป็นยังไง ถ้าโอเคอาจจิ้ม BEV เลย

ตอนนี้ ใครๆ ก็รอทั้งนั้นละ
ผมก้รอ รอให้มา ซะที แต่ไม่ได้ มาแค่รถ นะ เอา ระบบ
และรอเวลา ให้ รัฐบาล ไทย
ยกเลิก ไอ้ภาษี บิดเบือน ราคาๆ รถ บ้า บอ ๆ คืน สมดุล ราคารถยนต์ซะที

ออฟไลน์ G.K

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 479
  • Respect Others' Opinions.
5 ปีเป็นเวลาที่ไม่นานนะครับ ถ้าเป็น EV เต็มรูปแบบคงยากครับ หลายๆค่ายก็ยังไม่พร้อม คือมีแค่เทคโนโลยีแบบฉาบฉวยเอาไว้โชวมากกว่าว่าข้าก็มี แต่ผลิตขายจริงไม่ได้  เวลา 5 ปีเอาแค่ให้มันมีวิ่งในเมืองไทยบ้างน่าจะเป็นไปได้มากกว่า  มีบ้างในทีนี้คือหลักพันคัน ไม่ใช่สี่ห้าคัน

ปัญหาที่เป็นตัวฉุดรั้งวิวัฒนาการ EV ในประเทศไทย เช่นการสกัดดาวรุ่ง ค่ายไหนที่ยังไม่พร้อมก็พยายามล็อบบี้รัฐเตะถ่วง โอกาสที่มันจะเกืดขึ้นในประเทศไทยมันก็ช้าลงไป ปัญหาความน่าเชื่อถือของภาครัฐก็เป็นอีกประเด็นนึง ความเป็นกลาง ความต่อเนื่องในการสนับสนุนของภาครัฐ  ฉะนั่น 5 ปีคงเป็นไปได้ยาก แต่ 10 ปี มีโอกาสแน่นอน

โดยส่วนตัวสนใจตัว e-Power (EV based technology) มากกว่า เพราะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่าสำหรับประเทศไทยในปัจจุบัน คือไม่จำเป็นต้องรอสร้างสถานีชาร์จ  สามารถใช้งานทดแทนรถยนต์ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ทันที

ถ้าเปรียบเทียบเรื่องฟอรแม็ท Fuel Cell เปรียบเสมือน Wi-Max ส่วน BEV คือ HSPA, LTE (3G, 4G)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 14, 2017, 14:06:33 โดย G.K »

ออฟไลน์ equinox

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
EV ยังไงก็มา
EV ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่า ICE หลายเท่า
ที่ EV ยังเป็นรอง คือ  ข้อจำกัดในการชาร์ต กับ ราคา battery

ข้อจำกัดในการชาร์ต
 - แนวโน้มมันจะเปลี่ยนแนวคิด จาก ICE เราจะเติมน้ำมันระหว่างทาง แต่ EV จะชาร์ตไฟ ณ จุดหมาย เพราะรถจอดมากกว่าวิ่ง (คุ้นๆว่า utilization rate <10%)
ตอนนี้ EV วิ่งได้อย่างน้อย 200 ไมล์ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง ทำให้การชาร์ตไฟระหว่างทางมีความจำเป็นน้อยลง แล้วเปลี่ยนไปชาร์ตเมื่อถึงที่หมายแทนได้

ราคา battery
ถ้าติดตาม renewable energy จริงๆ จะรู้ว่าราคา battery ลดลงเร็วมาก ก็แนวเดียวกับ renew อื่นทั้ง Solar (ที่ US ขายกัน 3เซนต์ต่อ kwh) wind


(พูดจากความจำ อาจไม่เป๊ะ) TESLA เคยไกด์ใน analyst meeting ว่าด้วย volumeของ tesla  battery cost น้อยกว่า 200usd/kwh

ภายใน 5 ปี battery cost น่าจะเหลือราวๆ 150usd/kwh  ดังนั้นถ้ารถ ev ยัดแบตมา 100 kwh ก็จะมีค่าแบต 150*34*100  ราวๆ 5แสนบาท
Tesla model S จากผู้ใช้บอกว่าวิงได่ราวๆ 3ไมล์/kwh ก็คำนวนได้ว่า ชาร์ตเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ 300ไมล์  ก็น่าจะเกิน 500 km ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง
ผมว่าเหลือเฟือสำหรับคนทั่วไป

ค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดคุณนะครับ เพราะจริงๆตอนนี้ Technology ในการกักเก็บพลังงาน หรือ Energy Storage นี่ราคาเริ่มถูกลงเยอะแล้วครับ แม้กระทั่งในแวดวงพลังงานที่ผมทำงานเองอยู่ ก็เริ่มจะมีการทบทวนเรื่องการวางแผนพัฒนาพลังงานของประเทศ หรือที่เรียกว่า PDP กันแล้วครับ สาเหตุหลักเลยก็มาจากต้นทุนของพลังงานทางเลือกต่างๆเริ่มราคาถูกลง เช่น ราคาแผง Solar PV และอีก ไม่น่าเกิน 1-2 ปี ถ้า Technology ทางด้าน Energy Storage จะพัฒนามากขึ้นจนเราไม่ต้องใช้ แบตเตอรี่ปริมาณมากเท่าปัจจุบันในการกักเก็บพลังงานที่ผลิตได้ในตอนกลางวัน ไว้ใช้ในตอนกลางคืนครับ เรื่องนี้ในภาครัฐมีการตื่นตัวกันแทบจะทุกหน่วยงานในภาคของพลังงานครับ

ซึ่งพอย้อนกลับมาที่ Ev ก็เช่นกัน ถ้าราคาแบตเตอรี่ ราคาถูกลง ชาร์จได้ไวขึ้น และมี Ecosystem ที่พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานอย่างทั่วถึง มันก็น่าจะเข้ามาเร็วๆนี้

แต่ส่วนเดียวที่ผมคิดว่าอาจจะยังเป็นอุปสรรคคือ กลุ่มทุน ที่ยังคอยขวางทางอยู่นี่ล่ะครับ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากระแสของโลก กับ ทุนของกลุ่มทุนในประเทศ อันไหนจะชนะในเกมส์ๆนี้ครับ

ออฟไลน์ J_Serie5

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
ตอบ ถ้ายี่ห้อที่ได้มาตรฐาน toyota honda nissan สำหรับ full ev ตอบว่าเป็นไปไม่ได้ครับ ที่พอเป็นไปได้ก็มี prius prime ที่เป็น PHEV แต่ราคาน่าจะล้าน up เพราะรัฐไม่สนับสนุน


ออฟไลน์ Seco

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 79

ต่อๆครับ... ดุเดือดกันไปหน่อย. ผมก้อไล่อ่าน.

เชียร์อาจารย์ทั้งสองท่านนะครับ สำหรับข้อมุล


พวกหน้าใหม่โดยเฉพาะพวกจาก tech sector มุ่งไป BEV เลย (หลายเจ้ามุ่งไปที่ price tier ระดับ upscale) เพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาถึงระดับนึงที่ทำให้ BEV มันใช้งานได้จริงๆ วิ่งdaily ได้ คุณคิดว่าเค้าจะเดินถอยหลังไปทำ hybrid กับ plug-in ทำไม แทนที่จะลุยเทคโนที่จะอยู่ช่วงยาวไปเลย คิดหน่อย!?
พวก legacy maker บางส่วนมอง  future format ยังไม่ออกเลยหลงไปอยู่ใน Fool cell camp ประกอบกับส่วนนึงมาจากการสนับสนุนของ carbon industry (pipeline supply chain มันแทบจะเป็นระบบที่พวกเค้าวางไว้) ตอนนี้เริ่มมีพวกกลับตัวแล้วอย่าง Mercedes
ทั้งนี้ พวก legacy maker เค้าลงทุนกับ fool cell ไปเยอะ คุณอ้างว่าเค้าไม่ได้หวังทำเพื่อชนะ!?
ผมว่าคุณทื่อลองไปศึกษา format war ของ consumer electronics ดูนะ เคสต่างๆ จะมาโทนเดียวกับวงการรถยนต์ตอนนี้  ทุก format war มีประมาณสองกลุ่มสู้กันในด้าน format แต่สุดท้ายเหลือ format เดียวที่ได้ไปต่อ คุณลองคลานจากกะลาไปดูเคส VHS vs Betamax กับ HDDVD vs Bluray ดูก่อนจะมาอ้างว่าพวกที่ลงทุน fool cell ไปเยอะแยะไม่หวังชนะเลยยยย

คุณ มันก็ วน มาแค่ แพ้ ชนะ  กะ FCV แพ้ ไม่ได้ โงหัวไหน
OEM เค้าทำรถ ขาย
ยอดขาย เป็นตัว บอก อะไรแพ้ อะไร ชนะมากกว่ามั้ง
OEM หลัก เค้าจะ มาทำ BEV ตอนนี้ทำไมใน
เมื่อรถน้ำมัน สินค้า หลัก ยังทำรายได้เป็นกบเป็นกำ คิดง่ายๆๆๆๆๆ ไม่ต้องคิดเยอะะะะะะะะะะะ
เดี่ยว Toyota หรือ OEM เจ้า อื่นๆ ก็พิสูจย์ เอง ว่า ผู้ผลิต รถยนต์ ไม่ได้โง่ หรอก
คุณจะมาฟัน งธง ว่า Format เดียว ที่จะชนะ ได้ไง ในเมื่อ ทางเลือก มีหลากหลาย
บ้านเรา ก็มี  CNG , LPG , ดีเซล , ATHANAL ทำไม ต้องมี Format เดียววะ
ในเมื่อ โลก ยังไม่ได้ มีประเทศ เดียวเลย ทำไม ทุกคน ต้องคิดเหมือน คุณ โลกที่หนึ่ง อ่านหนังสือ วิเคราะห์ มาก จนคลั่งไปรึเปล่า

ดู ตัว คุณเอง เลือก รถ ยัง เลือก จิ้ม แต่ เบนซิน ซดน้ำมัน V6 บ้าพลังเลย

"ดู ตัว คุณเอง เลือก รถ ยัง เลือก จิ้ม แต่ เบนซิน ซดน้ำมัน V6 บ้าพลังเลย"

ต้องเข้าใจว่าผมจิ้มรถพวกนั้นเพราะ factor อะไร ---> performance ไม่ใช่ fuel economy

ณ ตอนนี้ เครื่องเบนซิน ทั้ง 4banger turbo, slant six, V6, V8 ยังให้ performance กับฟิลที่ผมต้องการได้ แต่วันนึงซึ่งมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ (2020s!?) ที่ BEV เริ่มเข้ามาแทนที่เบนซิน และให้ performance ที่เท่ากันหรือเหนือกว่าได้ ผมก็ย้ายไปทางนั้น


เห้นมั้ย
คุณ เอง เป้นผู้บริโภค ณ ปัจจุบัน

ยังไม่จิ้ม ไปที่ BEV ตอนนี้เลย

คนขาย เค้าจะมองไม่ออกเหรอ ว่า ต้องทำอะไรตอนไหน

ปล. ผมรอดู Leaf mk2, Tesla Model 3, Tesla model Y ว่า pricing เป็นยังไง ถ้าโอเคอาจจิ้ม BEV เลย
อ่าว สรุปซื้อละหรอ รถเครื่อง V6 v8 ที่ชมนักชมหนา รีวิวให้ดุมั่งสิ อยากชมจัง