แชร์ประสบการณ์ที่ผมตัดสินใจซื้อ Yaris Ativ และไม่ซื้อ Nissan (Note) อีกต่อไปครับ

[แมวดราม่า]

^
เอาจริงๆ ถ้าให้ผมพูด จขกท. เขาเข้าใจว่าโตโยต้าอะไหล่ถูกและทน เพราะ

1. ความรู้สึกและความประทับใจสมัยสามห่วง
2. คุยกับเจ้าของอู่โตโยต้า คุณ ล. (อู่รัชดาที่คิวยาวๆ) บ่อย จนเคลิ้ม
3. ยังไม่เคยเอาโตโยต้าสมัยใหม่เข้าศูนย์ (และยังไม่เคยเจออภินิหารการเคลมบางรุ่น)

ส่วนค่าแรง โตโยต้ายังไม่ได้แพงสุดของยุ่นครับ ยืนยัน ไม่นับเลกซัส แพงสุดคือมาสด้า (ชม.ละ 680)
แต่แต่ละศูนย์เข้าใจว่ามีวิธีคำนวณ Man x Hour ของแต่ละ Job ไม่เหมือนกันด้วย
---------

จริงๆ การเสื่อมสภาพของรถมันมี 2 แบบ คือเสื่อมตามการใช้งาน กับเสื่อมตามอายุ
ของบางอย่างก็ต้องทำ Preventive Maintenance แต่ของบางอย่างก็อยู่ที่การใช้งานแต่ละคน
ของบางอย่างทิ้งไว้เฉยๆ จอดตากแดดก็เสื่อมแล้วก็มี ของบางอย่างใช้น้อยมันก็ทน ตัวแปรเยอะ
---------

โตโยต้าทนมากสมัย 4AFE และ 1NZ ทนแบบใช้ยาวจนลืม ใช้ไปเถอะ แต่พอรุ่นใหม่ๆ ระบบไฟฟ้าเยอะขึ้น
ความจุกจิกก็เยอะตาม อื่นๆ ก็แตกต่างกัน ผมถึงได้บ่น จขกท. ว่าทำไมถึงเปลี่ยน Eco Phase 1 มาเป็น
Eco Phase 1 เหมือนเดิมนี่แหละครับ ถ้าประเด็นแค่ถุงลมก็ใช่ แต่ถ้าเรื่องประหยัด (?) ทนทาน (?)
ทั้งที่จริงๆ ถ้าดูตามการใช้งานหรืออรรถประโยชน์ก็ เออ... ออก Sienta ไปเลยดีกว่าไหมน่ะ?
---------

ว่าไปก็ คันมืออยากแปะราคา Maintenance เจ้าเห็บหมา กะยาริส 1NZ ของพี่ที่ทำงาน ขนาด นมค.กึ่งฯ
ยังเจอไปรอบละ 6-7 พัน (เข้าศูนย์โตโยต้านี่แหละ) ให้ดูจริงๆ ครับ ต่อให้ลดน้ำยาที่ยัดมาแล้วก็ยังเกินครึ่งหมื่น

อืม...

ปล. เรื่องสี่สูบสามสูบ จริงๆ กระทู้ไม่นานมานี้ ทัศนคติ จขกท. เรื่องสี่สูบกะสามสูบผิดกะกระทู้นี้เยอะเลย
ปล.2 เรื่องกระบะตัวเตี้ยรุ่นล่าง ทนจริงๆ แหละครับ ถ้าไม่บรรทุกเกินลิมิต ไม่ลืมเปลี่ยน นมค. ใช้จนลืมสลับยาง คิดดู

[Arado_kung]

เห็บหมาของลุงผมพึ่งโดนไปไม่นานรถ9ปี วิ่ง4หมื่นโลแท้คอมแอร์น็อคไปเรียบร้อย เอาเข้าศูนย์ๆบอกคอมแอร์ไม่มีในสต็อคถ้าด่วนมีร้านข้างนอกแนะนำให้ เลยขับรถไปร้านข้างนอกเค้าให้เลือกจะซ่อมเหลือเปลี่ยนใหม่ลุงผมเลือกเปลี่ยนใหม่ สรุปเปลี่ยนคอมแอร์,ล้างแผงแอร์,ล้างตู้แอร์ ช่างบอกไหนๆก็มาแล้วรื้อทีเดียวให้จบเลยดีกว่ารถนานแล้วไม่เคยทำอะไรกับแอร์เลย สรุปจ่ายไปหมื่นกว่าบาทกับเวลาอีกครึ่งวันแอร์กลับมาเย็นเหมือนเดิม

[0%]

ศูนย์นิสสัน บริหาร ห่วยมาก

ล่าสุดเอารถไปเคลม กลับมา ฝาครอบสายไฟหายไป มีฝาปิดอะไรไม่รู้ ซุกอยู่ที่พรมรถ คือประกอบกลับไม่เสร็จ
ขับออกมา รถเอียงซ้าย เลยขับกลับไป รอไปอีก สอง ชม เพื่อตั้งศูนย์อย่างเดียว ขับออกมา ก็ยังเอียงซ้ายเหมือนเดิม
จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้แก้

คือศูนย์ก็ใหม่ และ ใหญ่นะ ตรงนราธิวาสราชนครินส์ เขาเรียกเขาว่า สาทร

เข้าไปรับบริการต้องมีเรื่องให้ หัวร้อนทุกที

---

ตัดภาพมาที่ toyota

ประทับใจกับศูนย์บริการ แม้ว่าจะเป็นศูนย์เล็กๆก็ตาม ดูพยายามบริการ มากกว่ามาก
แม้ว่าราคาจะแพงหน่อย แต่มันจบเสร็จ ไม่ต้องหัวร้อน

toyota ยุคใหม่ๆ งานดีไซน์ และ ของที่ให้มากับรถ ผมว่า น่ากลัวมาก
งานออกแบบผมว่าพัฒนาแบบก้าวกระโดด แบบ camry ตัวใหม่ที่จะจ่อเข้าไทย

ativ ก็ยกมาตรฐานรถยนต์ระดับเริ่มต้น ของเมืองไทยไว้ดีที่เดียว
รถที่ดีสำหรับผมคือ ต้องประหยัด ไว้ใจได้ ทนทาน ไม่จุกจิก
ขับเงียบ ช่วงล่างดี

ativ ดูจะมีครบหมดเลย แม้ว่าหน้าตาจะแปลกๆไปหน่อยก็ตาม

[SM.]

ถ้าผ่านการคิดถี่ถ้วนดีแล้ว ก็ดีแล้วครับ จะได้รถที่ถูกใจเราจริงๆ

[natty ib-cm]

ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับรถใหม่นะครับ ผมเชื่อว่าในแบรนด์โตโยต้า และความปลอดภัยระดับล้านของ ATIV ในราคาที่ย่อมเยาน่าจะพอเป็นยาสมานแผลในใจจากความผิดหวังจากแบรนด์นิสสัน

ส่วนตัวผมที่ผ่านมาก็นับว่าชอบพอรถนิสสันมาพอสมควร และเชียร์รถนิสสันแบบไม่รู้ตัว พอพี่ชายเริ่มทักว่าคุยยี่ห้ออื่นเดี๋ยวผมจะโกรธเอา แต่มันก็จริงนะ เพราะตั้งแต่ให้แฟนซื้อธิดาคันแรก ตามมาด้วยนาวาร่าพี่แฟน และปิดท้ายด้วยอัลเมร่าพี่สาว (ยังไม่รวม NV มือสองใช้สมัยเรียนมหาลัย) ออกที่ศูนย์แห่งหนึ่งในเชียงใหม่ทั้ง 3 คัน และการซ่อมบำรุงทุกอย่างไม่เคยออกนอกศูนย์เลย แม้น้องธิดาจะเข้า 8 ขวบ

เรื่องที่ผมพบก็เป็นเรื่องการให้บริการนั่นแหละครับ พอรถมันเริ่มเก่า พนักงานก็ไม่ค่อยบริการ ทั้ง 3 คันแทบทุกครั้งจะไม่มีการเอาผ้ายางคลุมเบาะกับพวงมาลัยให้ ทั้งๆที่กองอยู่เต็มชั้น ทำรถเสดเหม็นกลิ่นน้ำมันเครื่องอ่อนๆติดเบาะมา บางทีก็ไม่ล้างรถให้แต่เอาน้ำยาทาล้อแล้วขับเอามาจอดให้ เราเอานิ้วรูดฝากระโปรงฝุ่นเต็มนิ้ว น้ำสักหยดก็ไม่มี แล้วบอกเราว่าล้างแล้ว งงเลย แล้วอีกครั้งหนึ่งน้องธิดามีการเสียงประหลาดหน้าเครื่อง ด้วยความรีบร้อนไม่ดูเวลาตอนนั้น 4 โมงครึ่งถึงศูนย์ พนักงานรับรถมองเราเหมือนจะมาปล้น พูดจากวนเล็กๆ ไม่ออกใบจ๊อบแล้วขับรถเข้าโซนซ่อมบำรุง ผ่านไป 15 นาทีรถจอดโดยไม่มีช่างมาดู ผมก็เลยกลับไปนั่งรอที่พักลูกค้า ขณะนั้นไม่มีคนเลยเพราะศูนย์ใกล้เลิก ผมนั่งรอจนห้าโมง 10 นาที ก็แปลกใจทำไมไม่มีใครมาเรียก ก็เลยเดินออกไปดู เห็นรถออกมาจอดจุดส่งคืนแล้ว ตอนนั้นควันออกหูเลย เลยตำหนิไป ล่าสุด เอาอัลเมร่าไปเคลมสี แต่ประกันผมเป็นซ่อมอู่ ซึ่งผมพร้อมจะจ่ายส่วนต่าง พนักงานรับรถของศูนย์สีนิสสัน ก็แจ้งผมว่าอาจจ่ายส่วนต่างแค่ 20 % ราคาอะไหล่ แต่พออีกสองวันหลังจากศูนย์สีประสาน บ.ประกัน ก็แจ้งว่าต้องจ่ายค่าแรง 30% และค่าอะไหล่อีก 30% เป็นเงินเกือบหมื่น ผมก็เลยถามไปที่ประกัน ประกันบอกว่าในส่วนของประกันลูกค้าจ่ายแค่ส่วนต่างอะไหล่อย่างเดียว 30% เท่านั้น ผมก็เลยงง ในตอนแรกแต่มาทราบภายหลังเป็นราคาของศูนย์สีเองที่เราต้องเพิ่ม และพนักงานคนนั้นที่แจ้งเราตอนแรกก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบในการแจ้งข้อมูลที่ผิดพลาดให้เราเลย และพยายามปัดไปว่าฝ่ายที่จะเก็บเราเพิ่มเป็น บ.ประกันอีกต่างหาก

ซึ่งการบริการหลังการขายที่หลายอย่างไม่เหมาะสมในสายตาของลูกค้าประจำอย่างเรา ก็ได้ให้ความเห็น ให้คะแนน กับการโทรมาสอบถามความพึงพอใจทุกครั้ง แต่ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงครับ

ครั้งนี้น่าจะเป็นขาลงจริงๆของนิสสัน หรือเฉพาะศูนย์ประจำที่ผมและครอบครัวใช้บริการมาตลอด ซึ่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่และการบริการแบบนี้ ผมคิดว่าอีก 10 ปี ครอบครัวผมคงไม่ไปกวนใจเค้าอีก และตอนนี้กำลังทยอยขายออกไป เพราะอายุปีรถมากการซ่อมบำรุงเริ่มถี่ขึ้นครับ แต่คันแรกที่จะไปกลับเป็นอัลเมร่าที่อายุน้อยสุดเพราะพี่เขยบอกว่ามันขึ้นเขาไม่ค่อยไหว จะหันมาเล่นฮอนด้า เครื่อง 1.5 แทนครับ