หารถยุโรปมาใช้สัก 10 ปี เพื่อนๆจะเลือกตัวไหนครับ

พ่อหมีพูห์

ผมใช้ Toyota Camry มา 4 generation แล้ว แต่ละคันผมใช้ประมาณ 4-5 ปี วิ่งระยะทางประมาณแสนสองถึงแสนห้ากม.บวกลบนิดหน่อย ถามว่าพอใจกับ Camry ไม๊ ก็พอใจในตามงบประมาณที่มี รถสมรรถนะพอรับได้ ความจุกจิกต่ำ ราคาขายต่อมักจะเหลือประมาณ 40% ของราคาซื้อ ตอนนี้พอจะมีงบมากขึ้น เลยมองพวกรถยุโรป midsize sedan Hybrid ที่งบประมาณแถวสามล้านห้า รับประกันคุณภาพสัก 5 ปี เหตุผลคืออยากได้ความหรูหรา feature ดีๆอย่าง ออกตัวเอง หยุดเองในตอนรถติดหรือบนทางด่วน (adaptive cruise control , เบรกเองได้ เวลามีเหตุกระทันหัน ผมเล็งสามตัวข้างล่างนี้ไว้
1. MB e350e Exclusive
2. BMW 530e (Hybrid ได้ข่าวว่านะจะออกสิ้นปี)
3. Volvo S90 T8 Momentum

ผมให้ความสำคัญ เรียงลำดับจากสูงไปต่ำดังต่อไปนี้
1. ความทนทาน จุกจิกน้อย รักคนขับ มากกว่ารักอู่ ผมเป็นคนใช้รถเยอะ อยากใช้ขับไปทำงาน ไปเที่ยว มากกว่าขับไปอู่ สิบปีต้องมีสามแสนกม.เป็นอย่างน้อย
2. ความพึงพอใจในการใช้งาน ขับสบาย ไม่ต้องแรงเหมือนรถแข่ง แต่พอใช้งานเวลาออกตจว
3. ความปลอดภัยสูง
4. ค่าใช้จ่ายหลังหมดประกันคุณภาพ 5 ปี
5. ราคาขายต่อ

เป็นเพื่อนๆ จะเลือกตัวไหนครับ



OXYGEN2

ใช้ 10 ปีตามตัวเลือก ผมคงไม่ใช้ Hybrid ครับ ถ้าเป็นผมคงเลือก 520d, A6 หรือถ้าคิดว่าออฟชั่นน้อยไปอาจจะไป 730ld
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)



Peet Sayumpoo

ขออนุญาติเรียนตามตรง แต่ตามโจทย์ของท่าน จขกท ดูจะไม่เหมาะกับไฮบริดน่ะครับ
เพราะจะใช้ 10 ปี แต่ถ้าใช้แค่ในระยะประกันก็โอเคครับ ถ้าเป็น BMW ก็พยายามซิื้อตอนมีโปรวารันตี 6 ปีนะครับ



secrecyguy

วันนี้เจอ f10 จอดเสียกลางถนน
 
มักเจอรถยุโรป ขึ้นยานเเม่มากกว่ารถญี่ปุ่น



Peet Sayumpoo

วันนี้เจอ f10 จอดเสียกลางถนน
 
มักเจอรถยุโรป ขึ้นยานเเม่มากกว่ารถญี่ปุ่น

จริงครับ เพราะถ้าเป็นรถญี่ปุ่นเค้าจะเอาเชือกลากกันเอาครับ ไม่ขึ้นยานแม่ ผมนี่ลากประจำ 5555555+


ปล. ขำๆน่ะครับ



oryor

ใช้สิบปีวิ่งสามแสน
Lexus ไหมครับ

ถ้ายุโรปน่าจะรักอู่มากกว่าเจ้าของ ถ้าเกิน 5 ปี แล้ววิ่งเกินแสนโล



as909za

ขอเสนอ lexus es300h ครับ นั่งสบาย ใช้ยาวๆ ครับ  :-X



n

คิดว่าใช้10ปี​รถยุโรป​ไม่น่าจะทนใช้แบบลืมอู่ได้.. ไม่น่าทนเท่ารถญี่ปุ่นที่จะห่างอู่มากกว่า... ถ้ามีงบระดับนี้ผมแนะนำเลกซัสครับ​น่าจะใช้สบายใจกว่าครับ



kenny523

ยุโรปสมัยนี้ไม่ทนเหมือนโตต้านะครับ ผมกลัวจะไม่ผ่านข้อ 1 เพราะคุณใช้รถเยอะมาก ปีละสามหมื่นขึ้น (ของผมใช้น้อยเลยไม่สนความทนปีละ 8-9 พันโล )กลัวเลยแสนโลแล้วจะเกลียดรถแต่ถึงตอนนั้นอย่างน้อยรถจะรักเจ้าของครับติดไม้ติดมือดีจัง...ยกเว้นปล่อยเต้นท์ถูกๆ



koboab

จากตัวเลือกนี้ volvo ชนะขาด ถ้าเลือกตามเหตุผล  :)

ถ้าตังถึงก็จะซื้อรุ่นนี้แน่นอน



jojow

ผมว่า bm ซ่อมง่ายนะครับ
อะไหล่ก็ไม่ได้แพงมาก หาร้านนอกมีเยอะแยะ
อู่ทั่วไปก็ทำได้พอสมควร
2002 BENZ W220 S280 ,2002 PEUGEOT 406 D9
2004 BMW E60 525ISE ,2011 NISSAN 370Z
2011 BMW F10 525d ,2012 BMW F10 520i
2012 MAZDA BT-50PRO DBL 2.2 ,2015 TOYOTA ALPHARD SC PACKAGE
2015 PORSCHE CAYENNE S E-HYBRID ,2017 PORSCHE 718 CAYMAN S
2017 VOLVO S90D4 POLESTAR
2020 TOYOTA CROSS
2021 TESLA MODEL3



nuntapon.s

Lexus ถ้าไม่อยากเข้าๆออกๆอู่  ไม่ใช่ว่ายุโรปแล้วต้องรวนนะแต่เอากันตรงๆผมก็ว่ามันมีความเสี่ยงมากกว่า



CJ.

ถ้าใช้ 5 ปีขาย ตามตัวเลือกได้หมดทุกคันเลยครับ

แต่ถ้าจะใช้ 10 ผมคิดเหมือนคุณ OXYGEN2
ผมเล็งไปที่รถไม่ hybrid เช่น 520d, 730ld ประมาณนี้ครับ
ส่วนถ้าให้ผมเลือกใช้เอง ตามโจทย์นี้ผมคงเอา M760li
2005 Jaguar XJ Super V8
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Porsche 911 Carrera S
2024 Honda CR-V e:HEV RS
2025 Honda HR-V e:HEV RS
2025 Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury



Nonnics

เคยใช้Camry เจอ3คันที่บอกอาจผิดหวังในข้อ1นะครับ ยิ่งพวกhybridค่ายยุโรปมีคนบ่นพอควร

ขายต่อบางคันเหลือ30-40% หลังปีที่5 จากป้ายแดงหายไปแยะต้องทำใจครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 06, 2017, 18:31:55 โดย Nonnics »



ChiLun

รถยุโรประบบเยอะ อะไหล่หลายๆชิ้นก็เสื่อมไปตามการใช้งาน ถ้าเปลี่ยนตามระยะปัญหาก็ลดลง

บางชิ้นไม่มีระยะเปลี่ยน แต่เสียแล้วเปลี่ยนตามอาการ ค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถญี่ปุ่น1.5-3เท่าตัว

รถhybridที่ต้องเปลี่ยนแน่คือแบต10ปีเกิน3แสนไม่น่ารอด ถ้าไม่ติดราคาเปลี่ยน1.5-2แสนบาทคิดว่าน่าสน คิดว่าเสียบปลักดีกว่า เบนซินดีขับสบายกว่าดีเซลอันนี้คหสต.

ส่วนจะซื้ออะไรแนะนำว่าเอาที่ตัวเองชอบที่สุด ไปลองขับดู จะอยู่กัน10ปีต้องเอาที่ชอบ



[email protected]

รถยุโรปเสียบปลั๊กส่วนตัวผมเอง เห็นเคสมีปัญหาบ่อยนะ โดยเฉพาะตราดาว ลองเข้าไปดูตามคลับได้ครับ
ส่วนใบพัดยังไม่ค่อยมีเคส แต่ไม่แน่ใจว่าเลย 5 ปีแล้วจะเป็นยังไง ขนาดไม่เสียบปลั๊กยังซ่อมกันเยอะแยะอยู่ในอู่เลย
วอลโว่ต้องให้ระยะเวลาพิสูจน์กันต่อไป เพราะเพิ่งออกรถไฟฟ้ามาไม่นาน

ใช้ 10 ปี เอาจุกจิกน้อย ยังอยากได้ไฮบริด ไม่มอง Lexus เผื่อไว้เหรอครับ ระบบไฮบริดพี่โตผมว่าเสถียรสุดละ แต่พังมาก็ซ่อมไม่ถูกแหละ แค่ส่วนใหญ่มันจุกจิกน้อยกว่าไฮบริดเยอรมัน แต่ถ้ายังไงก็ยุโรปใช้ยาวจริงๆอยากให้ไปดีเซลมากกว่า



koko86

ใช้ได้ครับ hybrid แต่ต้องเตรียมค่าใช้จ่าย ค่าinverter ทุก6-7หมื่นโล (น่าจะเป็นแสน)
กับแบต ทุก แสน ถึงแสนห้าโลครับ แบตนี่ก็น่าจะ4-5แสนอย่างต่ำครับ อันนี้ต้องทำใจ รถที่ใช้อยู่ 60,000โล inverter เสียไปสองรอบแล้ว ถ้าหมดประกันนี่คงเจ็บหนักอยู่ แล้วบางครั้งซ่อมนานเพราะต้องรอเคลมจากทางเยรมัน  อันนี้เฉพาะระบบไฮบริดนะครับ ยังไม่รวมถุงลมต้นละแสน  ถ้ามีรถคันเดียว ลำบากครับ
ถ้าจขกท ใช้ สามแสนโล แบต1รอบ+inverter ซัก4-5รอบหลังหมดประกันก็ 8แสน-ล้าน ครับ

แต่ถ้าจากโจทย์ จขกท น่าจะเลือกเบนซ์ในแง่ ความหลากหลายของอู่หลังประกันหมดกับราคาขายต่อแล้วซื้อขยายเวลาประกันจากศูนย์ไปเลยครับ



ยิ้มละไม

จากโจทย์ ระบุแค่ 3 ตัวเลือก คงต้องเป็น MB ครับ แต่อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ดีครบทุกข้อ แต่ดีที่สุดในตัวเลือกเหล่านั้น เพราะราคาตกน้อยกว่า หาอู่ทำได้เยอะกว่า อะไหล่น่าจะหาได้ง่ายกว่า ใช้รถ 10 ปี เรื่องบำรุงรักษาสำคัญครับ



joa123

ถ้าไป hybrid ยุโรป อย่างน้อยๆควรมีรถสำรองครับ จะได้ไม่ซีเรียจครับ
เตรียมค่าใช้จ่ายหลังประกันไว้7-8แสนครับ 

แต่ถ้าเลือก ดีเซล เช่น g30 520d  w213 220d(เบนท์ไทยหมดแล้ว)  ผมว่าดูแลของเหลวสม่ำเสมอ10 ปีได้ไม่ต้องซ่อมอะไรครับ
อาจมีจุกจิก เซนเซอร์ ,แบต, ยาง ประปรายครับ

ใช้10 ปี ควรเลือก ดีเซล หรือเบนซินล้วนๆครับ

ตอนนี้ที่มีให้เลือกอยู่ก็
Volvo  s90 ดีเซล
bmw s5 g30 เบนซินและดีเซล
Benz e w213ไม่มีดีเซลแล้ว มีglc coupe ดีเซลเป็นตัวแทน

ลองดูครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 06, 2017, 19:57:05 โดย joa123 »



BigCat

ตามโจทย์ที่ว่า ยุโรปอายุเยอะ แล้วอยากให้ไม่เข้าอู่บ่อย กับไม่งอแงเวลาออกต่างจังหวัด
ยากนะครับ ขนาดในคลับ MB พวกที่ออกรถใหม่ๆ ป้ายแดงขึ้นยานแม่ออกบ่อย
คนจะซื้อใหม่ยังต้องสวดมนต์ไม่ให้เจอdefectเลยครับ :'(
Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก



Sit: )

รถยุโรป 10ปี ขนาดไม่ hybrid ยังลุ้นเหนื่อยครับ
ถ้าคาดหวัง 5ปี ได้หมดทุกตัวยกเว้น s90 ที่ต้องรอดูว่า gen นี้จะเป็นไง

ขอตอบแต่ benz ครับ w212ไม่ hybrid พ้นปีที่ 5 ระยะเกือบๆแสนโล เริ่มต้องทำช่วงล่าง เข้าปีที่ 7 ระบบแอร์เริ่มออกอาการรอวันหมดความเย็น ถ้ามีรถสำรองก็ได้อ
รอวันลมเย็นหาย

ถ้าคาดหวังระยะยาว แนะนำ lexus ด้วยคน
ดูไม่หรูหรา ยามไม่ค่อยยกกรวยให้จอด แต่เป็น premium ที่ทนจริง



MC Stradale

ส่วนมากจะมีปัญหาหนักๆหลังหมดประกันครับ เข้าปีที่หกนี่จะมีอะไรให้เห็นเยอะ!!



SM.

จริงๆอยากบอกว่า Volvo แต่เห็นว่า 10ปี เลยเปลี่ยนมาที่ Benz ครับ



HLRx

 จขกท.ต้องการ option เบรคอัตโนมัติ คงเหลือแค่ Volvo ตัวเดียวครับ อีก 2 ตัว น่าจะยังไม่มีระบบนี้



เต๋า AV

ใช้ยาว 10 ปี งบ 3.5 ล้าน
520d น่าจะทนสุด และค่าบำรุงหลังหมด BSI 5 ปีใช้งบน้อยสุด
ส่วนประกอบเครื่องยนต์ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเครื่องดีเซล
เครื่องเบนซิล จะมีพวกคอยเสียบ้าง เปลี่ยนทีก็หลายหมื่นอยู่

คหสต. ถ้างบนี้ ผมไป Audi TT Coupé 45 TFSI quattro S line
แล้วใช้ 5 ปี ขายซื้อใหม่  ::)




Nikle_pk

อยู่ให้ห่างจาก Hybrid ครับผม
บอกได้เท่านี้จริงๆ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0



charlse

มันน่าเศร้าใจนะครับ สมัยนี้จ่ายราคาแพงๆ แต่รถไม่ได้ดีๆทนๆเหมือนยุคก่อนแล้ว  :'( กลับกลายเป็นว่ารถญี่ปุ่นทนกว่าไม่จุกจิก แต่ไม่สามารถสนองกิเลสได้ซะนี่
MB S300 Bluetec Hybrid
MB Viano 3.0
Porsche Cayenne Diesel



kriz

เพิ่มเติมครับ ถ้าใช้ปีละ 30,000 สามปีหน่อยก็ครบแสนโลแล้ว ถ้ามอง BMW ที่มี BSI package คงเลือกได้แค่แพกเกจนี้ครับ

- Warranty Plus บำรุงรักษา 3 ปี รับประกัน 5 ปี

เพราะ BSI standard ให้แค่ 3 ปี 60,000 โล หรือถ้าซื้อ BSI Plus เพิ่มเป็น 5 ปีก็จะคลอบคลุมสูงสุดแค่ 100,000 โลเท่านั้น ถ้าใช้รถเยอะ คงหาที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายดูแลรักษาได้ถึง 5 ปีคงยากแล้วครับ แต่การ Warranty นี่ไม่จำกัดระยะทาง

ถ้าให้แนะนำจริงๆ นะครับ ผมเสนอให้พิจารณาตามลำดับนี้ครับ
- หลีกเลี่ยงรถ hybrid/ev/plug-in hybrid
- หลีกเลี่ยงรถยุโรป



h0661036

g30... แต่ราคาที่คุณต้องจ่ายก็คือความจุกจิกในปีท้ายๆ...



brownie

ใช้ได้ครับ hybrid แต่ต้องเตรียมค่าใช้จ่าย ค่าinverter ทุก6-7หมื่นโล (น่าจะเป็นแสน)
กับแบต ทุก แสน ถึงแสนห้าโลครับ แบตนี่ก็น่าจะ4-5แสนอย่างต่ำครับ อันนี้ต้องทำใจ รถที่ใช้อยู่ 60,000โล inverter เสียไปสองรอบแล้ว ถ้าหมดประกันนี่คงเจ็บหนักอยู่ แล้วบางครั้งซ่อมนานเพราะต้องรอเคลมจากทางเยรมัน  อันนี้เฉพาะระบบไฮบริดนะครับ ยังไม่รวมถุงลมต้นละแสน  ถ้ามีรถคันเดียว ลำบากครับ
ถ้าจขกท ใช้ สามแสนโล แบต1รอบ+inverter ซัก4-5รอบหลังหมดประกันก็ 8แสน-ล้าน ครับ

แต่ถ้าจากโจทย์ จขกท น่าจะเลือกเบนซ์ในแง่ ความหลากหลายของอู่หลังประกันหมดกับราคาขายต่อแล้วซื้อขยายเวลาประกันจากศูนย์ไปเลยครับ

ใช่ s500e คันที่เคยรีวิวหรือเปล่าครับ