ผู้เขียน หัวข้อ: อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นล้ำหน้ากว่าเยอรมันแล้วใช่ไหมครับ  (อ่าน 6001 ครั้ง)

ออฟไลน์ aod

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 412
    • อีเมล์
เห็นรถญี่ปุ่นขยับราคาขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆใช่ไหมครับ และถ้าพูดถึงความไม่จุกจิกดูแลง่ายของรถพรีเมี่ยม เห็นหลายๆท่านแนะนำแบรนรถยนต์ญี่ปุ่น แสดงว่าเทคโนโลยีญี่ปุ่นดีกว่าเยอรมันใช่ไหมครับ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ครับ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
ในแง่ เทคโนโลยี ผมว่ายังตามอยู่นะ ลองดูพวกเครื่องฝั่งเยอรมันสิครับ ได้ทั้งแรงและประหยัด แต่ก็ต้องแลกมากับความจุกจิกครับ
สิ่งที่ค่ายรถญี่ปุ่นพัฒนาขึ้น คือพวกการประกอบ(เทียบกับรถญี่ปุ่นรุ่นเก่าๆนะครับ) และในรุ่นสูงๆเลือกวัสดุที่ดีขึ้นกว่าเดิม (นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุให้ราคารถญี่ปุ่นขึ้นเอาๆ)

ออฟไลน์ bankiesdluffy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 349
ต้องยอมรับนะครับ การเลือกซื้อรถยนต์หนึ่งคัน
มันเป็นเรื่องของทั้ง functional และ emotional

เหตุผลที่หลายคนแนะนำรถญี่ปุ่น
ถ้าเอาความคุ้มค่า
เทียบกันระหว่างฟังก์ชั่นพื้นฐานต่อราคา
รวมถึงค่าดูแลรักษาในระยะยาว
รถญี่ปุ่นดูคุ้มกว่านะครับ

แต่ถ้าดูในรายละเอียด
วัสดุที่ใช้ในการประกอบ การออกแบบ หรือเทคโนโลยีลึกๆ ที่อาจจะเกินกว่าการขับขี่พื้นฐานทั่วไป
รวมถึงรูปลักษณ์ และภาพลักษณ์ ที่สะท้อนมาถึงคนใช้
สำหรับคนที่เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ก็คงเลือกรถเยอรมัน/ยุโรป

ส่วนเรื่องราคาที่เพิ่มขึ้น
ผมว่าเรื่องของการตลาดและภาษี
อีกส่วนหนึ่งคือญี่ปุ่นเริ่มที่จะยกระดับคุณภาพมาตรฐานให้เทียบเท่ารถยุโรป
เพิ่มคุณภาพวัสดุ ใส่เทคโนโลยีเข้าไป ราคาก็เลยสูงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ราคาของรถยุโรป เห็นออกมาแต่ละเจน ราคาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 21, 2018, 10:41:43 โดย bankiesdluffy »

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ราคาในไทยมันแพงขึ้นเพราะกำไรมากขึ้นครับ

รถในอเมริกา ราคาในสิบปีที่ผ่านมาแทบไม่เปลี่ยน

Camry เมื่อสิบสี่ปีก่อนผมจำได้ว่า22,000 ตอนนี้ ก็ยัง 23,000 แถมได้รถดีขึ้นเยอะมาก ใหม่มาสามโมเดลแล้ว

ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,367
แต่ยี่ปุ่นก็ไม่สามารถทำให้รถซับซ้อนและ reliable ได้แบบเยอรมันนะครับ ทั้ง Benz, BMW, Audi, Porsche

ญี่ปุ่นทำได้แต่ก้าวตาม  จนเยอรมันเค้าเปลี่ยนแนวไปเป็นแนวไฟฟ้า ลูกเล่น electronics เยอะๆ เกียร์ dualclutch 

แต่ญี่ปุ่นเพิ่งหันมาเริ่ม 8-10 speed  และยังเน้น CVT อยู่

แต่ก็คงเพราะรสนิยมของสองชาตินี้ต่างกันด้วย  เยอรมันขับรถเร็ว เน้นขับสนุกเพราะขับเอง เดินทางไกล

ญี่ปุ่น ขับช้า ไม่เน้นขับสนุกนัก เน้นทน เน้นเชื่อใจได้ และergonomics ดี ประโยชน์ใช้สอยครบครัน


ออฟไลน์ Slow But Sure

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 780
ผมว่าถ้าวัดจริงๆเรื่อง Technology ไม่น่าห่างกันครับ
แต่ญี่ปุ่นน่าจะยังติดความเป็นญี่ปุ่นอยู่ ทั้งด้านธุรกิจ วัฒนธรรม การดำเนินชีวิต และสิ่งแวดล้อมครับ
นึกถึง LFA ที่พิถีพิถัน จนใช้เวลาในการ Development เป็นสิบปี
รถบ้านที่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้เน้นสมรรถนะมาก ต่างกับฝั่งยุโรป

ออฟไลน์ xman2029

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,350
    • อีเมล์
ถ้าราคาพอๆกันไม่หนีกันมาก แต่คนไทยส่วนมาก มักเอารถบ้านญี่ปุ่นไปเทียบกับ bmw หรือ benz มันก็ล้ำหน้าสิ ลองเอาพวก lexus ไปเทียบผมว่า สูสีกัน เยอรมันก็มีจุดเด่นของตัวเอง ญี่ปุ่นก็มีจุดแข็งของตน

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,328
เทคโนโลยีต่างๆมีพร้อม ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในการนำมาใช้มากกว่าครับ

ออฟไลน์ TheZero

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 594
    • อีเมล์
เทียบกับตัวไหน เอา Toyota หรือ Lexus เทียบกับ bmw, benz
ปัจจุบันเทคโนโลยีมันพอๆ กันแล้วครับ เอารถญี่ปุ่นที่ขายในไทยเทียบไม่ได้  ต้องเอารุ่นที่ขายที่ ยุโรบ เทียบครับ

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,535
เทคโนโลยีในเชิงลึกผมว่าระดับ Toyota ทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่บ้านเราที่เห็นของเก่าๆ ธรรมดาๆ เพราะโดนกั๊กจากตัวแทนของไทยเราเองนี่แหละ ก็ว่านะ คนไทยเองไม่น้อยอยากได้ของที่มันซ่อมง่าย มีปัญหาก็ไม่ต้องกัวลจุกจิกมาก ก็ไม่แปลกที่ Toyota จะจัดให้แบบนี้
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
พอๆกันมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่2 ครับ เค้าก้แชร์เทคโนโลยีกันมาตลอด แต่ในอดีตแน่นอนครับเยอรมันเริ่มมาก่อนแต่ตอนนี้ก้พอๆกันครับ

ออฟไลน์ CarameLon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,387
ในไทยยังไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นเมืองนอกจะพอๆกัน  8)
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
ต้องแยกเป็นเรื่องๆ ครับ

เรื่องแทคโนโลยีทางอุตสาหกรรมรถยนต์ สังเกตุได้จากโรงงานแบรนด์ยุโรปหรือเมกา ใน Line การผลิต มี clip ใน youtube หลายๆ คลิป ใช้แขนกล หรือ หุ่นยนต์ จากญี่ปุ่นเยอะครับ

เรื่องตัวรถ บางคนบอกว่า แบรนด์ยุโรป ไปถึงเทคโนโลยีไฟฟ้า รถญี่ปุ่น ทำรถ hybrid รถ ev นานแล้วก่อนแบรนด์ยุโรปด้วย เอาง่ายๆ hybrid บ้านเรา ใครทำก่อน น่าจะ prius นะ อย่าง civic อีกคันที่ทำ hybrid ทั้งแต่โฉม ES แล้วขายในอเมริกา ส่วนในญี่ปุ่น Fit EV เกิดมานานแล้ว น่าจะพร้อม Leaf ตัวแรก แต่บ้านเราไม่มี

เรื่อง เกียร์ dual clutch ลองไปหาดูข้อมูลนะครับ ค่ายญี่ปุ่นหลายๆ ค่าย ทำ dual clutch กันนานแล้ว แต่รถที่ขายในบ้านเรา ไม่มีให้ใช้ บางทีเขาก็ยกให้แบรนด์หรู(ค่ายญี่ปุ่นแต่ละยี่ห้อมีแบรนด์หรูของตัวเอง) ใช้ทั้งนั้น ส่วน รถตลาด หรือ ราคาไม่แพง ก็ไม่มีโอกาศได้ใช้(ถ้าขายในราคาแบรนด์ยุโรปคงหด้ใช้กันถ้วนหน้า)

เรื่อง อุปกรณ์ หรือ ออฟชั่น ผมว่า ไม่ต่างกัน ง่ายๆ เลย accord camry cx-5 ตัว top มี radar และความปลอดภัยล้นคันกันหมดแล้ว รถยุโรปแพงกว่าตั้งหลายเท่าบางคันยังไม่มีเลย (ต้องแยกเรื่องการขับขี่ออกไปน่ะ ว่ากันด้วยเทตโนโลยี)

สรุป ผมว่า เทคโนโลยี พอๆ กัน เดี๋ยวนี้ไม่มีใครถืออะไรไว้คนเดียวแล้ว มันแชร์กันทั้งโลก อยู่ที่ว่า ค่ายรถเขาจะทำ จะสร้าง จะใส่มา ในรถคันไหน seg ไหน ราคาเป็นอย่างไร อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า รถญี่ปุ่น(ที่ไม่ใช่แบรนด์หรู) ราคาไม่แพงเท่ารถยุโรป ในแทบทุกโซนของโลก ไม่แปลกจะมีอะไรน้อยกว่า(มีบางคันมากกว่าด้วย 55) ซึ่งการมีน้อยกว่า ไม่ใช่ว่าเทคโนโลยีด้อยกว่า แต่มันเป็นเรื่องของราคารถที่จะขายด้วย



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2018, 08:57:14 โดย DiKiBoyZ »

ออฟไลน์ Nutcracker

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 387
    • อีเมล์
ถ้าความล้ำหน้าคือใครคิดก่อน เท่าที่ผมรู้ ยังนึกไม่ออกมีเทคโนโลยีไหนที่ญี่ปุ่นคิดก่อน
แต่ที่ขายอยู่ในตลาดพูดยาก

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
ไม่ยืนยันว่า เทคโนโลยีใครเหนือกว่า ระหว่าง ญี่ปุ่นกับเยอรมัน หรือรถยุโรป

ถึงแม้ว่ารถยุโรปรถเยอรมัน การทรงตัว ระบบเบรค ค่านิยม  หน้าตาทางสังคม  และแฮนด์ลิ่ง จะดีกว่า

แต่รถญี่ปุ่น ความไว้ใจได้สูงกว่า ใช้แล้วสบายใจกว่า
 ไม่จุกจิก ไม่งี่เง่า ไม่พังในเรื่องที่ไม่ควรพัง ไม่จำเป็นต้องมีวัสดุย่อยสลายเอง ทั้งๆที่ยังใช้อยู่ในรถ รวมถึงค่าบํารุงรักษาที่เหมาะสม

แต่ถึงยังไงก็ตาม ปัจจุบัน รถรุ่นใหม่ๆ ทั้งญี่ปุ่น เยอรมันยุโรป ต่างมีปัญหาได้ง่ายขึ้น ง่ายขึ้น จุกจิกมากกว่าเมื่อก่อนเยอะ อาจจะเป็นผลที่มาจาก เทคโนโลยีที่ซับซ้อน และซ่อนเงื่อน ไว้นั่นเอง
"Make It Count"

ออฟไลน์ rotaryman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,586
ผมว่าต้นทุนรถยุโรปมันสูงกว่านะครับ เทคโนโลยีไม่ทราบแต่ถ้าผมมีเงินเหลือไม่เดือดร้อนผมใช้รถยุโรปครับ :-*

ออฟไลน์ HappyCar

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 342
ด้านวิศวกรรมยานยนต์และความล้ำหน้า คงต้องยกให้เยอรมัน ล่ะครับ

แต่ความทนทานก็คงต้องยกให้ญี่ปุ่น ชนะไปอย่างเต็มๆ

แต่โดยสรุปแล้ว ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา คนส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกรถเยอรมันพรีเมี่ยมครับ

ผมเห็นหลายคนใช้รถเยอรมันประมาณ 3-5 ปีจนหมด warranty แล้วขายทิ้งซื้อคันใหม่

ก็ไม่ค่อยเห็นเค้าบ่นถึงเรื่องความจุกจิกเท่าไหร่นะครับ แต่ถ้าใช้เกิน 5 ปี อันนี้ก็ไม่แน่ครับ ตัวใครตัวมัน  ;D

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
มีดีคนละอย่าง ต้องการแบบไหนล่ะครับ  ;D


ออฟไลน์ ichok

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 791
    • อีเมล์
ความล้ำหน้าเรื่องอื่นไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆดีไซด์รถทุกเจนลอกยุโรปแล้วเอามาปรับเป็นของตัวเอง

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ถือโอกาสใส่ออฟชั่นแล้วอัพราคาเลย
ส่วนยุโรปจริงๆรถตลาดมันมีแค่สองเจ้าแค่นั้น ใส่มายังไงก็ขายได้ไม่จำเป็นต้องอัดมาล้นๆ

ออฟไลน์ jztang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,721
  • Born To Race
เทคโนโลยี พยายามเลี่ยงให้เกิดความเสี่ยงน้อยกว่าของเมกา ยุโรปครับ เพราะว่าทางฝั่งยุโรปเมกา มักจะพัฒนาอะไรใหม่ๆ อยู่ก่อนเสมอ และก็จะมีปัญหาตามมา ส่วนญี่ปุ่นนำเอาเทคโนโลยีพวกนั้น มาใส่ทีหลัง พร้อมพัฒนาให้สเถียร defect ให้น้อยกว่า และจะได้ต้นทุนที่น้อยกว่าด้วย

สรุปญี่ปุ่นตามครับ แต่เวลาตามแล้วพัฒนาเกิดความเสถียรกว่า ต้นทุนต่ำกว่า

แต่ต่อไปจีนบุกครับ เหมือนสมัยญี่ปุ่นบุก 555

ออฟไลน์ h0661036

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 927
รถยุโรปลดต้นทุนโดยการย้ายการผลิตในส่วนที่ใช้แรงงานไปพวกยุโรปตะวันออกพวกฮังการี่ส่วนนึง คุณภาพของวัสดุก็ลดลง

ตอนผมเด็ก ๆ  benz เป็นรถที่โคตรทนและแข็งแรงมาก นั่งก็สบายด้วย     ส่วนปัจจุบันผมว่าโดดเด่นเรื่องดีไซน์ ภาพลักษณ์ อัดของไฮเทค ประสิทธิภาพก็ดี แต่จุกจิก

    ตรงข้ามกับรถญี่ปุ่น ผมว่าพัฒนามาเยอะ  เทียบจาก camry  กับ  benz e class  นะครับ