ไม่น่าเชื่อเลย Mitsubishi Eclipse Cross จะทำผลงาน KM77 ได้ดีขนาดนี้

ซิ่งเข้าส้วม

สามารถผ่านที่ 80 km/h ได้ชิวๆ และเริ่มเสียการทรงตัวที่ 83 km/h


ถ้าเทียบ SUV คันอื่นๆ ที่ขายในไทยก็จะมี

Mazda CX-5
ผ่านที่ 77 km/h เริ่มเสียการทรงตัวที่ 78 km/h


Toyota CHR
ผ่านที่ 75 km/h เริ่มเสียการทรงตัวที่ 76 km/h


Subaru XV
ผ่านที่ 73 km/h แต่เสียการทรงตัวที่ 73 km/h เพราะ ESC ทำงานช้าไปและหลุดโค้งไปเลยที่ 74 km/h


สรุปดูๆ แล้วถ้า Mitsubishi Eclipse Cross เข้าไทยก็จะเป็นรถ SUV ที่ช่วงล่างเทพสุดเลยครับ



akewizard

ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ Mitsu เป็นค่ายรถที่ทำช่วงล่างได้ดีในหลายๆรุ่น  อย่าลืมว่าเขาเคยเป็นเจ้าแห่ง Rally WRC มาก่อนนะ

หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมรถ AWD อย่าง Subaru ที่ว่าช่วงล่างดีนักหนา กลับทำผลงานสู้รถขับ 2 ล้อหน้าไม่ได้
เพราะธรรมชาติของรถ Fulltime AWD มันจะมีอาการหน้าดื้อหรือ Under steer ทำให้เลี้ยวกลับไปมาซ้าย-ขวาแบบกระทันหันได้ไม่คล่องเท่ารถขับ 2
ท่าสังเกตุดีๆ รถมันไม่ได้เสียอาการอะไรนัก  แต่เนื่องจากพอมันเลี้ยวไม่เข้าแนวกรวย พอ Fail ปุ๊บคนขับเขาจะหยุดทดสอบทันที มันเลยเป็นอย่างที่เห็น

ในสภาพถนนปกติ รถขับ 2 กับ AWD ในแง่การเกาะถนนแทบจะไม่ต่างกันเลย มันจะไปได้เปรียบเสียเปรียบในสภาพที่ถนนไม่ปกติมากกว่า



kiwiwi

จริงๆ ตั้งแต่ตอนขับ space wagon เจอมอไซค์ตัดหน้าที่ความเร็ว เกือบ 70 หลบได้ชิลๆเลย

มิตซูรุ่นใหญ่ทำช่วงล่างดีมานานแล้ว



ซิ่งเข้าส้วม

ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ Mitsu เป็นค่ายรถที่ทำช่วงล่างได้ดีในหลายๆรุ่น  อย่าลืมว่าเขาเคยเป็นเจ้าแห่ง Rally WRC มาก่อนนะ

หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมรถ AWD อย่าง Subaru ที่ว่าช่วงล่างดีนักหนา กลับทำผลงานสู้รถขับ 2 ล้อหน้าไม่ได้
เพราะธรรมชาติของรถ Fulltime AWD มันจะมีอาการหน้าดื้อหรือ Under steer ทำให้เลี้ยวกลับไปมาซ้าย-ขวาแบบกระทันหันได้ไม่คล่องเท่ารถขับ 2
ท่าสังเกตุดีๆ รถมันไม่ได้เสียอาการอะไรนัก  แต่เนื่องจากพอมันเลี้ยวไม่เข้าแนวกรวย พอ Fail ปุ๊บคนขับเขาจะหยุดทดสอบทันที มันเลยเป็นอย่างที่เห็น

ในสภาพถนนปกติ รถขับ 2 กับ AWD ในแง่การเกาะถนนแทบจะไม่ต่างกันเลย มันจะไปได้เปรียบเสียเปรียบในสภาพที่ถนนไม่ปกติมากกว่า

แบบนี้ถ้าขับถนนปกติก็ไม่ควรใช้ AWD รึเปล่าครับ แสดงว่าที่บอกว่าหนึบๆ กันนี่จริงๆ แล้วแค่ฟีลลิ่ง แต่สุดท้ายไม่ได้หลุดโค้งยากกว่า 2WD เหรอครับ



masuoka

นั่นมันแพช่วงล่างกับระบบขับเคลื่อน 4ล้อ แบบ EVO อัพเกรดล่าสุดครับ แถมมาอยู่ในรถบ้านในราคาจับต้องได้ แถมเครื่องแรงด้วย 0-100 km/h ว่ากันที่ 8 วิ กว่าๆถึง 9 วิ เท่านั้น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2018, 23:20:03 โดย masuoka »



SM.




Slipknot`

เสียดายไม่มาขายบ้านเรา



akewizard

ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ Mitsu เป็นค่ายรถที่ทำช่วงล่างได้ดีในหลายๆรุ่น  อย่าลืมว่าเขาเคยเป็นเจ้าแห่ง Rally WRC มาก่อนนะ

หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมรถ AWD อย่าง Subaru ที่ว่าช่วงล่างดีนักหนา กลับทำผลงานสู้รถขับ 2 ล้อหน้าไม่ได้
เพราะธรรมชาติของรถ Fulltime AWD มันจะมีอาการหน้าดื้อหรือ Under steer ทำให้เลี้ยวกลับไปมาซ้าย-ขวาแบบกระทันหันได้ไม่คล่องเท่ารถขับ 2
ท่าสังเกตุดีๆ รถมันไม่ได้เสียอาการอะไรนัก  แต่เนื่องจากพอมันเลี้ยวไม่เข้าแนวกรวย พอ Fail ปุ๊บคนขับเขาจะหยุดทดสอบทันที มันเลยเป็นอย่างที่เห็น

ในสภาพถนนปกติ รถขับ 2 กับ AWD ในแง่การเกาะถนนแทบจะไม่ต่างกันเลย มันจะไปได้เปรียบเสียเปรียบในสภาพที่ถนนไม่ปกติมากกว่า

แบบนี้ถ้าขับถนนปกติก็ไม่ควรใช้ AWD รึเปล่าครับ แสดงว่าที่บอกว่าหนึบๆ กันนี่จริงๆ แล้วแค่ฟีลลิ่ง แต่สุดท้ายไม่ได้หลุดโค้งยากกว่า 2WD เหรอครับ

ไม่ใช่ไม่ควรครับ รถ AWD มันก็ขับได้ปกติเหมือนรถทั่วไป เพียงแต่จะชี้ให้เห็นว่าบางอย่างมันก็ไม่ได้เด่นกว่า 2WD

อย่างที่บอกว่ารถ AWD Fulltime แบบ Subaru ถ้าเข้าโค้งมาเร็วๆมันจะแสดงอาการหน้าดื้อชัดเจน (ก็เพราะล้อหลังที่พยายามดันล้อหน้าไปทางตรง) แต่มันไม่ได้เป็นปัญหากับโค้งทางเดียว ถ้าล้อมันจับกับโค้งได้แล้วก็กดคันเร่งออกโค้งได้เลย หลุดยาก

ในขณะที่รถขับ 2 ล้อหน้าที่เซตช่วงล่างมาดีๆมันจะแสดงอาการหน้าดื้อน้อยกว่า เลี้ยวหลบไปมาคล่องกว่า แต่กลับกันถ้าไต่โค้งด้วยความเร็วสูงๆมันจะมีโอกาสที่ท้ายรถจะเสียหลักง่ายกว่า เพราะล้อหลังไม่ได้มีแรงบิดมาช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ (หากเจอสถานการณ์ไม่ปกติ เช่นถนนลื่น) แต่มันก็อาจจะมีข้อด้อยเรื่องอื่นตามมาเช่น Torque steer

อาการหน้าดื้อของรถ AWD ก็พัฒนามาเรื่อยๆ บางค่ายใช้เป็นระบบ Real-time AWD ให้ลื่นก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนจากขับ 2 เป็นขับ 4
บางรุ่นของ Subaru ใช้การกระจายแรงแบบหน้า 60 หลัง 40 เพื่อให้อาการเหมือนรถขับหน้า หน้าไม่ดื้อโค้งมาก เลี้ยวคล่องขึ้น ขับง่ายขึ้น
หรืออย่าง Toyota fortuner ตัวก่อนที่เป็น Fulltime AWD ก็เซตกระจายแรงแบบหน้า 30 หลัง 70 ให้อาการเหมือนรถขับหลัง เป็นต้น

ผมเอาคลิปนี้มาให้ดูครับ อาจจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับหัวข้อที่กำลังพูดกันอยู่ ในคลิปพูดถึงข้อดี-ด้อยของระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบ และวิธีการ Handing รถแต่ละแบบตามความเหมาะสม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 27, 2018, 00:58:38 โดย akewizard »



หมีขับสี่

เอาตรงๆ ผมไม่ค่อยเข้าใจการทดสอบของค่ายนี้เท่าไหร่ แต่เท่าที่เห็น ผลออกมา รถรุ่นดังๆ ตายเรียบ

หลังๆมา ผมกลับชอบการทดสอบของ maxtv โดยเฉพาะคุณ madcow มากกว่า ซะอย่างงั้น  ;D



lorenzo

บาลานซ์ตัวรถดีมาก ช่วงเข้าชิคเคนดูไม่เสียอาการ อาจเป็นเพราะเซตช่วงล่างมาแบบสปอรต์ แต่ใช้งานจริงจะแข็งกระด้างนั่งไม่สบายรึเปล่า อันนี้น่าเสียดายที่มาไม่ถึงมือพี่จิมนะ

แน่นอนความสามารถคนขับก็เป็นอีกส่วนนึงด้วย มิตซู เรื่องระบบขับสี่นี่ก็ทางเขาอยู่แล้ว เจอคนขับแบบนี้ก็พริ้วอย่างที่เห็น เปน crossover คันแรกรึป่าวที่ไปถึง 80km เห็นเงียบๆแต่ไม่ธรรมดาจริง



mamaman



มีแว่วๆๆๆ ว่า
มันคือ รถที่ จะมาแทน C-Segment ในไทย
แต่คงไม่มี 4WD



mongolias

ไม่เสียชื่อมิตซู ที่เซตช่วงล่างเจ๋งจริง
เสียดายที่เจ้านี่ไม่มาไทย



เต๋า AV

ใช้อ้างอิงกับรถในประเทศไทยไม่ได้อยู่ดี
เซตมาคนละแบบ
นอกซะจากรถยุโรป ที่นำเข้าแบบ CBU



superest

Mitsu เคยทำช่วงล่าง รถ  ultima ได้น่าประทับใจ มาก  จนถึงตอนนี้  ผมขับยี่ห้ออื่นแล้ว แต่ ยังไม่เคยลืม ultima เลย



CJ.

Mitsu เคยทำช่วงล่าง รถ  ultima ได้น่าประทับใจ มาก  จนถึงตอนนี้  ผมขับยี่ห้ออื่นแล้ว แต่ ยังไม่เคยลืม ultima เลย

จริงครับ เสียดาย C-seg D-seg ค่ายนี้มากๆ
2005 Jaguar XJ Super V8
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Porsche 911 Carrera S
2024 Honda CR-V e:HEV RS
2025 Honda HR-V e:HEV RS
2025 Toyota Camry 2.5 HEV Premium Luxury



แมวดราม่า

ใส่ยางรุ่นนี้ ทำความเร็วได้ขนาดนี้ ตัวรถต้องสุดยอดแน่ๆ
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/



AVANTGARDe'

ของดีๆค่ายนี้ ไม่เคยมาไทย พอจะมาก็ตลาดวาย  :-\ :-\