ขำ มาเลฯมีน้ำมันเท่าไหร่แล้วต้องนำเข้ามั้ย กับไทยขุดได้นิดหน่อยแต่นำเข้า 80+% แล้วราคาหน้าโรงกลั่นไทยไม่ถึง 20 นั่นแหละราคา ปตท ขาย
แล้วทำไม ปตท ต้องมาช่วยในเมื่อขายอยู่ 19 บาท อยู่แล้ว แล้วจะช่วยอะไรอีก เอะอะเทียบมาเล บริบทต่างกันเยอะ ทำไมไม่เทียบสิงคโปร์เลยล่ะ
ทั้งที่เป็นตลาดน้ำมันแต่เค้าขายกันแพงกว่ากี่เท่า
เชลล์ก็มีสัมปทานในไทย เชพรอนก็มี เค้าก็ขุดน้ำมันในไทยทำไมเค้าไม่ขายถูกๆล่ะในเมื่อเป็นคู่แข่ง ปตท ถ้าขายถูกคนก็แห่ไปเติมแต่ทำไมไม่ทำล่ะ
แถมขึ้นราคาก่อน ปตท ซะอีก อย่าบอกอีกนะว่า ปตท คุม
-----------------------------
https://www.facebook.com/509557809080220/photos/a.509566235746044.1073741828.509557809080220/1710623048973684/?type=3&theaterจากเพจ ความไม่รู้ พลังงานไทย
เจตนาเปรียบเทียบราคาน้ำมัน มาเลเซีย กับไทย เพื่ออะไร ? รู้ทั้งรู้ว่าบริบทการบริหารนโยบายด้านพลังงานของมาเลเซียและของไทยแตกต่างกัน นโยบายภาษีก็ต่างกัน นอกจากนั้น ไทยต้องนำเข้าน้ำมัน แต่มาเลเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและอุดหนุนราคาน้ำมัน!
มีความพยายามของคนบางกลุ่มที่หยิบยกเอา ปิโตรนาส ซึ่งเป็น บรรษัทพลังงานแห่งชาติของมาเลเซีย มาเปรียบเทียบ กับ ปตท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของไทยที่แปรรูปเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ และหยิบเอา ราคาน้ำมันที่คนมาเลเซียใช้ มาเปรียบเทียบกับราคาน้ำมันในประเทศไทย
เจตนาก็เพื่อที่จะดิสเครดิตรัฐบาล ว่าทำไมไม่ตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติขึ้นมาแบบที่ปิโตรนาส เป็น คนไทยจะได้มีน้ำมันราคาถูกใช้แบบคนมาเลย์ ทั้งๆ ที่จริงแล้วคนกลุ่มนั้นก็รู้ดีว่าบริบทการบริหารนโยบายด้านพลังงานของมาเลเซียและของไทยนั้นแตกต่างกัน
แต่คนอ่านที่ไม่ได้มีความรู้พื้นฐาน ไม่รู้เจตนา พอได้อ่านแบบนี้ ก็คงจะคล้อยตาม เพราะตัวเลขราคาน้ำมันที่เลือกหยิบเอามาเปรียบเทียบนั้น ทำให้เห็นว่าราคาแตกต่างกันมาก
การเปรียบเทียบเพื่อสร้างความรู้ให้กับคนอ่านแบบไม่มีเจตนาดิสเครดิตใดๆแอบแฝง ควรจะต้องครบถ้วนรอบด้าน ไม่ควรจะหยิบเฉพาะราคาเบนซิน95 หรือดีเซล มาเทียบ เพราะในกลุ่มน้ำมันเบนซินนั้น คนไทยเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 มากที่สุด แต่เติมเบนซิน 95 นิดเดียว นอกจากนี้ ไทยก็ไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่มีราคาน้ำมันแพงกว่ามาเลเซีย แต่ประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกันต่างก็มีราคาน้ำมันที่สูงกว่ามาเลเซีย
อีกทั้งไทย ก็ไม่ใช่ประเทศที่ขายน้ำมันแพงที่สุด มีประเทศที่มีราคาน้ำมันถูกกว่าไทยอยู่แค่ มาเลเซีย บูรไน อินโดนีเซีย เมียนมา ส่วนที่เหลือ ทั้งกัมพูชา ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ นั้นขายน้ำมันแพงกว่าไทย
ต้องบอกว่าราคาน้ำมันที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศนั้น ส่วนใหญ่แล้วมาจากนโยบายภาษีที่แตกต่างกัน โดยถ้าแยกออกมาดูเฉพาะราคาเนื้อน้ำมันที่ หน้าโรงกลั่นแล้ว ใกล้เคียงกันมาก ดังนั้นประเทศไหนที่เก็บภาษีน้ำมันมาก ให้ค่าการตลาดกับผู้ค้ามาก ราคาขายปลีกที่หน้าปั๊ม ก็จะแพง กว่าประเทศที่เก็บน้อย หรือไม่เก็บเลยแถมยังมีการอุดหนุนราคาเนื้อน้ำมันแบบมาเลเซีย
ถามว่า ถ้าไทยจะตั้งราคาน้ำมันขายแบบมาเลเซียได้ หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าทำได้ แต่ทำแล้ว รัฐบาลอาจจะถังแตกเรื่องงบประมาณได้ง่ายๆ เพราะราคาน้ำมันของไทย ถ้าเทียบกับราคามาเลเซีย ตามข้อมูลราคาที่มีการหยิบยกมานั้นในส่วนของดีเซล ราคาต่างกันประมาณ 10 บาทต่อลิตร (ไทยราคาประมาณ 28 บาทต่อลิตร มาเลเซีย ประมาณ 17 บาทต่อลิตร) แล้วปัจจุบันคนไทยใช้ดีเซลโดยเฉลี่ยต่อวันประมาณ 60 ล้านลิตร นั่นก็หมายความว่า ถ้าจะทำให้ราคาถูกลงเท่ามาเลเซีย รัฐจะต้องหาเงินมาอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล คิดเป็นตัวเลขคร่าวๆ กลมๆ วันละประมาณ 600 ล้านบาท เดือนละ 18,000 ล้านบาท ปีละ 216,000 ล้านบาท แบบนี้จะไหวหรือไม่ลองคิดกันดู
ถามว่าทำไมมาเลเซีย จึงอุดหนุนราคาน้ำมัน ให้คนมาเลย์ได้ใช้น้ำมันราคาถูกได้ ก็เพราะมาเลเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน มีรายได้จากการส่งออกน้ำมัน โดยปิโตรนาสที่เป็นบรรษัทพลังงานแห่งชาติ เป็นคนจัดการ จึงสามารถนำกำไรจากการส่งออก มาอุดหนุนราคาขายในประเทศได้
ต่างจากไทย ที่เป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน เพราะผลิตได้เองในประเทศ เพียงประมาณ 10-15% ของความต้องการใช้ ส่วนที่เหลือจึงต้องนำเข้า น้ำมันจึงเป็นรายจ่ายของประเทศ ไม่ใช่รายได้ของประเทศแบบมาเลเซีย เพราะฉะนั้น ใครที่เชียร์ให้ไทยตั้งราคาขายน้ำมันถูกๆ ให้คนไทยใช้น้ำมันกันเยอะๆ ประเทศก็ยิ่งต้องนำเข้าน้ำมันมาเพิ่ม รายจ่ายประเทศก็บานเบอะ ถามว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้แล้ว ยังจะอยากได้กันอยู่มั๊ย
สุดท้าย การที่บอกว่า ปิโตรนาสเป็นบริษัทของรัฐ ไม่ได้มุ่งหากำไรเพื่อมาแบ่งปันกันแบบเอกชน แต่ปิโตรนาสเป็นองค์กรเพื่อการบริการสาธารณะแห่งชาติ ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของ รัฐบาลใช้รายได้ที่มาจากกำไร ซึ่งมาจากทรัพยากรปิโตรเลียม มาอุดหนุนราคาน้ำมันในประเทศ นั้นก็เพราะประเทศเขามีทรัพยากรปิโตรเลียมจำนวนมาก ปิโตรนาส จึงเปรียบเหมือนลูกคนรวย แถมมีมรดกอีกมหาศาล ในขณะที่ ปตท. พ่อแม่ไม่ได้รวยเหมือนปิโตรนาส มีมรดกให้ไม่มาก ต้องสร้างฐานะตัวเอง ต้องปรับองค์กรให้แข่งขันกับบริษัทพลังงานข้ามชาติขนาดใหญ่ มาโดยตลอด
ซึ่งปี 2560 ที่ผ่านมา การที่ ปตท.ส่งกำไรให้กับรัฐได้ 7 หมื่นล้านบาท เพื่อไปจัดสรรเป็นงบประมาณด้านต่างๆได้ ก็ต้องถือว่าเก่งแล้ว
อย่างที่เคยเขียนไว้ว่า คนกลุ่มหนึ่งใช้ข้อมูลบางส่วนมาดิสเครดิต เพียงสั้นๆ ทำให้คนหลงคล้อยตามไปได้มาก แต่การอธิบายให้เข้าใจนั้น ต้องเขียนกันยาว และไม่รู้ว่าจะทำให้คนเชื่อมั่นได้จำนวนมากแค่ไหน แต่ถ้าใครอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ก็ต้องบอกว่า ขอบคุณ