วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
ปี 2014 ผมซื้อ nissan teana 2.5 xv sunroof ตัวท็อป ราคา 1.6ล้าน
วันนี้ ใช้รถมาประมาณ4ปีนิดๆ ผมเอาไปให้เต้นท์ตีราคา เพื่อจะซื้อคันใหม่ เต้นท์รับไม่เกิน 7แสน (ไมล์ผม7หมื่นโล)
ในปี 2014 เป็นปีที่เพื่อนผมออก C-class และ ลุงผมออกอัลติส  (ทั้ง2คันนี้ ผมทำหน้าที่ไปเจรจาต่อรองให้)

ผมก็เลยแกล้งเอารถของลุง และเพื่อนไปตีราคาที่เต้นท์เดิม

ปรากฏว่า ในระยะเวลาการใช้รถประมาณ4ปี D-segment ราคาตกกว่ารถยุโรป (ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์) และตกมากกว่า C-segment มากๆ (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์)

ถ้ามองในแง่ต้นทุนการใช้งาน และเงินที่หายไป ผมก็ไม่แปลกใจว่าทำไม ยอดขาย D-segment มันถึงลดลงเรื่อยๆ

ปัจจุบัน C-segment ก็คันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าใช้งานขับคนเดียว หรือนั่งไม่เกิน4คน มันก็แทบไม่ต่างกันแล้วในแง่ขนาด

ส่วน compact ยุโรปราคาก็ลงมาใกล้กับ d-segment ญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่รถยุโรปราคาจับต้องได้มากขึ้น แต่รถญี่ปุ่นกลับแพงขึ้นเรื่อยๆ
แถมความเข้าใจผิดของคนส่วนใหญ่ ที่คิดว่า รถยุโรปราคาตกมากกว่า กลายเป็นว่าความจริงวันนี้คือ รถ d-segment ญี่ปุ่น ราคาตกมากกว่ารถยุโรปอีก(คิดเป็นเปอร์เซ็นต์)

ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตลาดรถมือสองมันถึงเป็นแบบนี้ ผมคงไม่ไปหาเหตุผลอะไร ตอนนี้รู้แค่ว่า ถ้าใช้รถประมาณ5ปีแล้วขาย D-segment ญี่ปุ่น คือการซื้อที่ทำให้เกิดการขาดทุนมากที่สุดในบรรดากลุ่มรถทั้งหมด 

สำหรับคนที่ไม่สนใจเรื่องราคาขายต่อ ก็คงไม่มีผลอะไร
แต่สำหรับคนที่สนใจราคาขายต่อ(เช่นผม) เพราะผมต้องนำเงินก้อนนี้เป็นทุนในการไปซื้อรถคันใหม่
ผมจึงคิดว่า รถญี่ปุ่น d-segment คือรถที่ไม่คุ้มค่าที่สุดถ้ามองในแง่การเงิน และผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็คงคิดเช่นเดียวกัน จึงทำให้ยอดขายรถกลุ่มนี้ตกต่ำลงทุกวันจนน่าใจหาย  และราคาขายต่อที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาไปขายต่อเองได้ง่ายๆ  มันกลายเป็นรถที่ปล่อยมือสองยากที่สุดด้วย




r0u0g0e0k

เพราะมันคือ นิสสันรึปล่าวครับ  เลยตกเเยอะ ต้องลองเทียบกับเซกเมนท์เดียวกันเเต่คนละค่ายดูครับ ว่าเค้าได้กันเท่าไหร่



Coat145

    ในส่วนตัวผม ขายACV50 HV ไปต้นปีได้800000 รถปี2013 ซื้อมาตอนนั้น 1709000 เต๊นท์ตีมาแบบกลับบ้านไม่ทัน สุดท้ายขายคนรู้จักไป ส่วนL33 ผม 2.0XL ไมล์แสนโลแล้ว กะ ทำช่วงล่าง เก็บไว้ใช้สำรองยาวๆไปเรยครับ รถรักเจ้าของต้องทำใจค รับ
YARIS1.2 G 2013 ขาว
L33 2.0XL 2014 ดำ
Mercedes-Benz E350e Exclusive ดำ 2018
Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé ขาว 2018
FORD RAPTOR 2.0 BI-TURBO 2019



OXYGEN2

เคยขาย CR-V Gen 4 ตอนยังไม่ตกรุ่น ราคาก็ตกสุดๆ เหมือนกันครับ รุ่น 2.4EL 4WD ใช้ 3 ปี วิ่ง 2 หมื่น ขายได้ 9 แสน หายไปน่าจะ 6 แสนครับ

ตอนนี้ผมคิดว่ารถญี่ปุ่นที่รับเรื่องราคาตกได้จะเป็น C-Segment ลงไป อย่าง Civic นี่กำลังดีเลย หรือจะเล่น Ecocar ก็ได้

แต่ถ้าให้ซื้อรถญี่ปุ่นราวๆ 1.5 ล้าน ผมขอเพิ่มเงิน(ผ่อน) อีกนิด แล้วไปหารถยุโรปตัว Entry ดีกว่าครับ ยังไงก็ได้ภาพลักษณ์ที่ดีกว่ารถญี่ปุ่นครับ
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)



Magl

ตกหมดทุกยี่ห้อ แต่Nissan ตกเยอะกว่าเขาราวๆ 1 แสนบาท เพราะปล่อยยากกว่า เป็นโอกาสดีของคนซื้อมือสองสภาพดีๆมากกว่า คนส่วนใหญ่ใช้รถ d segment เป็นผู้ใหญ่มากกว่าวัยรุ่น ใช้รถถนอม รถสภาพสวยๆดีๆเยอะในราคาไม่ถึงล้าน ส่วนตัวผมยังชอบ d segment น่ะ ภายในมันอลังการกว่า c segment เยอะ ให้เลือกขับ civic ป้ายแดงกับ teana มือสอง ผมเอา teana



Nonlamer

Teana เข้าเต้นโดนกดยับครับ หรือค่าย Nissan ในส่วนของรถเก๋งก็เป็นครับ ตอนผมขาย Tiida อายุ 8 ปี เต้นท์ตีมาให้ 1 แสนถ้วนครับ คุยไปคุยมาได้แค่ 1.2 เลยหาปล่อยทางอื่นแทน ได้มา 2 แสนครับ (เต้นท์อยู่ดีครับ)

ลองสังเกตดูครับ ค่ายนี้ราคาตีเข้าเต้นท์ตกหนัก แต่ถ้าปีใหม่ๆเต้นท์จะตั้งขายแพงมาก แพงกว่า Accord/Camry ปีเดียวกันด้วยตอนที่ผมไล่หาดูเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทั้งๆที่ราคาจากศูนย์มือ 1 ถูกกว่าคู่แข่ง (ณ ตอนนั้น)



Tien.W

C-segment นี่ราคาดีมาก โดยเฉพาะ civic รองมาก็ Altis

D-segment ตกค่อนข้างเยอะ แต่ นิสสัน ตกเยอะกว่าเพื่อน

พวก suv อย่าง CRV ก็หล่นแบบใจหายไม่แพ้กันนะครับ อาจจะดีกว่า Teana หน่อย แต่ถือว่า ตกมากมาย ถ้าเทียบกับ Mu-X, Fortuner ครับ (พวกนี้ราคาดีมาก)

ส่วนตัวกลับรู้สึกว่า D-segment มันรถคนแก่ ใหญ่เทอะทะ ไม่คล่องตัว แม้ภายในจะอลังการ วัสดุดีกว่าก็เถอะ การใช้งานก็ไม่ได้หลากหลายกว่า C-segment เลยเป็นเหตุกว่า ทำไมผมถึงเลือก suv แทน D-segment น่ะครับ เพราะอย่างน้อย suv ก็ยังอเนกประสงค์กว่า ทัศนวิสัยดีกว่า แม้วัสดุภายในจะสู้ไม่ได้ก็ตาม



auntoto

ประเด็นราคาตกก็ตามนั้นครับ แต่ที่บอกว่ารถยุโรปตอนนี้ราคาถูก แต่ญี่ปุ่นกลับแพงขึ้น
แปลว่าเมื่อก่อนรถยุโรปนี่กำไรต่อคันคงจะเยอะมากๆเลยนะครับ ถึงขนาดใส่เทคโนโลยี กับ เงินเฟ้อไปแล้ว ปัจจุบันยังทำราคาถูกลงได้ ;D >:( ;D



bodin

ผมใช้L33 คงใช้ยาวๆ10ปีขึ้นไป 8)

คันหน้าไม่เอาแล้วเพราะเมืองไทยมีน้ำรอระบายทั้งประเทศและไม่รู้ว่าต้องเจอวันไหน :-X :-X

คงเป็น SuvหรือMPV ที่มีระยะลุยน้ำท่วมได้ซัก 20-30cm พวกเตี้ยๆไม่เอาแล้ว



Amnaj

ถ้ามีงบซื้อ D-seg ผมเอา SUV หรือ PPV ดีกว่าตอบโจทย์ชีวิตได้



kiwiwi

เหตุผลข้อเดียวเลยครับ

เพราะมันไม่มีความต้องการของตลาดแล้ว

เอาแค่ป้ายแดง ยอดขายหลักร้อยต่อเดือน
แต่กลุ่ม c-seg ยอดขาย หลักพันต่อเดือน = เทียนน่า เมื่อหล่นมาจาก 1.6 เหลือ 1.1 คนก็ยังซื้อ c seg ป้ายแดง

เอ้า ในเมื่อ 1.1 ขายไม่ออก ลงมาอีกหน่อย ซัก 8-9 แสน
ก็ไปเจอตลาด sub compact suv ป้ายแดง ที่มียอดขายหลักพันต่อเดือน + c seg สภาพมือสองใหม่กริ๊ป คนรับไปขาย ก็คงเหนื่อย

สรุปง่ายๆเลย มันไม่มี demand เลยล่ะครับ




Altima

ประเด็นราคาตกก็ตามนั้นครับ แต่ที่บอกว่ารถยุโรปตอนนี้ราคาถูก แต่ญี่ปุ่นกลับแพงขึ้น
แปลว่าเมื่อก่อนรถยุโรปนี่กำไรต่อคันคงจะเยอะมากๆเลยนะครับ ถึงขนาดใส่เทคโนโลยี กับ เงินเฟ้อไปแล้ว ปัจจุบันยังทำราคาถูกลงได้ ;D >:( ;D

จริงครับ ตอนที่ Mini ประกอบไทยมันยังจะราคาเท่ารถนำเข้าเลย ใครโง่พอที่จะเชื่อว่าBMWไม่ได้ตั้งราคาหลอกลูกค้าก็ผมเสียใจด้วย



NS

ในความคิดผม คนที่ออก D-Seg และรถยุโรปจะคิดถึงคุณภาพของตัวรถมากกว่า เพราะการได้นั่งรถดีสบายและรีแร็กซ์คือความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไป   :D
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ



kiwiwi

ประเด็นราคาตกก็ตามนั้นครับ แต่ที่บอกว่ารถยุโรปตอนนี้ราคาถูก แต่ญี่ปุ่นกลับแพงขึ้น
แปลว่าเมื่อก่อนรถยุโรปนี่กำไรต่อคันคงจะเยอะมากๆเลยนะครับ ถึงขนาดใส่เทคโนโลยี กับ เงินเฟ้อไปแล้ว ปัจจุบันยังทำราคาถูกลงได้ ;D >:( ;D

จริงครับ ตอนที่ Mini ประกอบไทยมันยังจะราคาเท่ารถนำเข้าเลย ใครโง่พอที่จะเชื่อว่าBMWไม่ได้ตั้งราคาหลอกลูกค้าก็ผมเสียใจด้วย

อันนี้ เรียกว่า รู้เค้าหลอก แต่เต็มใจให้หลอก



recycleman

นิสสันถ้าเป็นเก๋ง ก็คงจะมีแต่อัลเมร่านั้นแหละครับที่ซื้อง่ายขายคล่อง ราคามือสองไม่ตกมาก

นอกนั้นราคาตีเต๊นท์ได้ยินแล้วอยากกลับบ้าน




NoName__???

D seg ตกไม่แปลก พฤติกรรมคนเริ่มเปลี่ยนไป SUV กันมากขึ้นแล้ว อะไรขายยากก็ราคาตกเป็นธรรมดา



No Trespassing

ไม่เฉพาะนิสสันหรอกครับ แอคคอร์ทผมก็เป็น

ตอนซี้อ G9 ไม่เนวิ MY2013 ป้ายแดงราคา 1.3 ล้าน
แต่ขายเต้นท์รับไม่เกิน 6 แสน

ต้องวิ่งขายอยู่พักใหญ่ ถึงจะได้ 6.6 แสน ขายกับโชว์รูมฮอนด้าแถวๆสุขา 3 รามคำแหง
รถใช้ทั้งหมด 5 ปี ไมล์ 8 หมื่น 

ที่ขายเพราะเบื่อมานั่งซ่อม สามวันดีสี่วันพัง สมกับชื่อแอคคอร์ทจริงๆ

เมื่อเทียบกับมาร์ช VL ปี 2012 ราคา 5.42 แสน แต่ขายออกปี 2016
ใช้ห้าปีเหมือนกัน แต่ขายได้ 2.7 แสน (หักค่าโอน ค่าบลาๆ เหลือ 2.6 นิดๆ)

D-Seg มือสอง รถขายยาก คนซี้อน้อย ต้องซ่อมบำรุงเยอะ อะไหล่ค่อนข้างแพง
ราคาจะตกก็ไม่แปลก 



testmaster

เฉพาะ nissan ครับคุณไปดู camry accord สิ



coolcarrera

เพราะการดันราคาขึ้นไปอย่างไม่มีเหตุผลของค่ายรถด้วยหรือเปล่าครับที่นับวันมือ 1 จะแพงขึ้นๆ (โดยเฉพาะ d-segment ที่มองยังไงราคารถก็ไม่น่าเลยล้านกลาง เลยเถิดไปถึงล้านปลายได้เลย) ซึ่งมันเกินมูลค่าที่แท้จริงของตัวรถไปมาก

พอมามือ 2 ราคาซื้อขายสะท้อน value ที่แท้จริงของตัวรถมากขึ้น เลยเป็นอย่างที่เห็น
E3, D15 Carb, 2E
F22B VTEC, J30A VTEC
1TR, 1NZ
D4CB
1GD, R18



stm

คนไทยส่วนใหญ่ รูปร่างเล็ก เช่นผม สูงแค่165 หนัก 70 
ผมเคยใช้ D seg แล้วรู้สึกว่ามันใหญ่เกินความจำเป็น ในขณะที่ใช้ C seg แล้วรู้สึกว่าพอดีๆ คล่องตัวกว่า
มาดูค่าใช้จ่าย D seg สุงกว่าทุกด้าน ค่าตัว ค่าซ่อม ค่าน้ำมัน ค่าเสื่อม ค่าทะเบียน ค่ายาง ในขณะที่ภาพลักษณ์ดีกว่า
แต่ผมไม่ได้สนใจเรื่องภาพลักษ์เลย  ตรงข้ามผมไม่อยากดูรวย (จริงๆก็ไม่ได้รวย) ดูรวยแล้วมันเหนื่อยหลายอย่าง



off_033

เพราะการดันราคาขึ้นไปอย่างไม่มีเหตุผลของค่ายรถด้วยหรือเปล่าครับที่นับวันมือ 1 จะแพงขึ้นๆ (โดยเฉพาะ d-segment ที่มองยังไงราคารถก็ไม่น่าเลยล้านกลาง เลยเถิดไปถึงล้านปลายได้เลย) ซึ่งมันเกินมูลค่าที่แท้จริงของตัวรถไปมาก

พอมามือ 2 ราคาซื้อขายสะท้อน value ที่แท้จริงของตัวรถมากขึ้น เลยเป็นอย่างที่เห็น

มูลค่าที่แท้จริงของรถคิดยังไงครับ  ทำไมถึงบอกว่าไม่ควรเลยล้านกลาง

แล้วราคาควรจะเป็นเท่าไหร่ครับ 



spn

ด้วยอายุตลาดด้วย และ ราคา D - C segment ที่สูงขึ้น คนคงไปจบที่ C-Segment หรือ HRV CHR ดีกว่า กระแสรถยกสูงมันมาแรงจริงๆ
Revo 2.8 J B-cab 4x4
Kia Jumbo K2700 1JZ GE + LPG
Camry 2.5 HV Premium
E220d w213



BOBBY_7

ตลาดมือ 2 ราคาตกทุกกลุ่ม แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการตลาด
เป็นเรื่องที่เข้าใจกันว่าความต้องการน้อย และรถมือ 2ก็ล้น

-คนรุ่นใหม่ไม่สนใจรถมือ2 เหมือน10-20 ปีที่แล้ว เรียนจบทำงานใหม่ๆ หารถมือ 2ใช้ก่อน
ปัจจุบันค่ายรถก็ต้องการกลุ่มคนรุ่นใหม่  มีหลายรุ่นให้เลือกเยอะ.. ซื้อก็ง่าย ถูกจริต
เมื่อคนรุ่นหนึ่งหมดไป ยุครถมือ 2 ก็กำลังหมดไป

ผมมองว่าตลาดรถมือ 2 กลับมายาก ซื้อขายกันกลุ่มเล็กๆ
(อนาคตถ้าเลวร้าย อาจเหมือน ทีวี ตู้เย็น พังแล้วทิ้ง ไม่ซ่อม ไม่ขาย ขายได้ชั่ง กก.) :P



@MIN

มีงบซื้อรถราคา 9แสน - 1 ล้านบาท
ระหว่าง d segment มือสอง อายุ 4 ปี, วิ่ง 7 หมื่นโล กับ c segment ป้ายแดง ประกันยาว 3 ปี ..

ลองเอาคำถามนี้ ไปถามเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คนรอบข้างดู แล้วคุณจะได้คำตอบ ว่าคนส่วนใหญ่ เค้าเลือกอะไรกันครับ

คนส่วนใหญ่ ใครๆ ก็อยากขับป้ายแดงกันครับ นี่เป็นเหตุผลหลักๆ เลย
I have enough of making money. Now I want to make time.



No Trespassing

เฉพาะ nissan ครับคุณไปดู camry accord สิ

D-Seg ทุกคันละครับ

แอคคอร์ท G9 ไม่เนวิของผม MY2013 ป้ายแดงราคา 1.3 ล้าน
แต่ขายเต้นท์รับไม่เกิน 6 แสน

กว่าจะขายได้ 6.6 วิ่งกันหูดับ รถสภาพดี ไม่มีชน ไม่มีทำสี

ที่เห็นขายๆกัน 7 - 7.5 แสน นั้นคือราคาหน้าเต้นท์ แต่รับซี้อจริงๆ 6 ต้นๆ ยัน 6 ปลายๆ
ขายแบบไม่เทิรน์รถ ยิ่งถูกกดราคาหนักครับ



Benzecar

D-seg เทียบเป็นตัวเงินหายไปเยอะแบบเห็นๆจริงครับ

เมื่อเดือนที่แล้วผมเพิ่งปล่อย Fortuner 2.7 4WD ปี 2005
สภาพสวย ไป ตอนที่ขายรถวิ่งไป 2.4 แสนกิโล

เอาเข้าไปตีราคาตามเตนท์ ให้ราคาตั้งแต่ 2.9-3.5แสน
ราคายังไม่โดนใจ ผมเลยมาปล่อยเองได้ราคา 3.95 แสน
รถใหม่ราคา1.2ล้าน ถือว่ารับได้

ราคาหายไป 67% ใช้มา13ปี เฉลี่ยตกไปปีละ 6.2หมื่น

อีกคัน แอคคอร์ด 2.4 EL ปี 2008 ราคาหล่นแบบน่าใจหายเลยครับ
ซื้อแพงกว่าคัน Fortuner 3แสน และปีรถยังใหม่กว่าอีก 3 ปี
แต่ขายตามเตนท์ตอนนี้น่าจะได้ซัก 4แสน พอๆกัน มันน่าช้ำใจ!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2018, 10:53:25 โดย Rucheroche »
97” Mitsubishi Lancer Ecar 1.5 GLX (sold)
05” Toyota Fortuner 2.7 V 4x4 (sold)
08” Honda Accord 2.4 EL
10” Toyota Hilux Vigo 2.5 E VN turbo



Narong Lith

มีงบซื้อรถราคา 9แสน - 1 ล้านบาท
ระหว่าง d segment มือสอง อายุ 4 ปี, วิ่ง 7 หมื่นโล กับ c segment ป้ายแดง ประกันยาว 3 ปี ..

ลองเอาคำถามนี้ ไปถามเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คนรอบข้างดู แล้วคุณจะได้คำตอบ ว่าคนส่วนใหญ่ เค้าเลือกอะไรกันครับ

คนส่วนใหญ่ ใครๆ ก็อยากขับป้ายแดงกันครับ นี่เป็นเหตุผลหลักๆ เลย

เป็นอะไรที่เห็นภาพมากเลยครับท่าน ตรงประเด็นเด๊ะ



tvm

ความนิยมถดถอย ราคาเลยตกครับ
น่าจะไม่ใช่ราคาตก คนเลยไม่นิยม 555
ผมก็ อดีต J32



e:smart Hybrid

ตลาดมือ 2 ราคาตกทุกกลุ่ม แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการตลาด
เป็นเรื่องที่เข้าใจกันว่าความต้องการน้อย และรถมือ 2ก็ล้น

-คนรุ่นใหม่ไม่สนใจรถมือ2 เหมือน10-20 ปีที่แล้ว เรียนจบทำงานใหม่ๆ หารถมือ 2ใช้ก่อน
ปัจจุบันค่ายรถก็ต้องการกลุ่มคนรุ่นใหม่  มีหลายรุ่นให้เลือกเยอะ.. ซื้อก็ง่าย ถูกจริต
เมื่อคนรุ่นหนึ่งหมดไป ยุครถมือ 2 ก็กำลังหมดไป

ผมมองว่าตลาดรถมือ 2 กลับมายาก ซื้อขายกันกลุ่มเล็กๆ
(อนาคตถ้าเลวร้าย อาจเหมือน ทีวี ตู้เย็น พังแล้วทิ้ง ไม่ซ่อม ไม่ขาย ขายได้ชั่ง กก.) :P

+1 ครับ ยุคสิบกว่าปีก่อน ที่ มือ 2 มันบูม เพราะว่ารถเมื่อเทียบกับค่าครองชีพแพงด้วยครับ

ผมก็เคยซื้อ AE101 สามห่วงสีเขียวขี้เป็ด สุดเชย มาในราคา 2.3 แสน (แพงมากๆ)

ซึ่งยุคนี้ผมเพิ่มงบอีกนิด ได้มือ 2 almera ไม่เกิน 5 ปีละ

ราคายุคนี้สมเหตุผลมากขึ้นครับ คือ ลงปีละ 10%

ไม่เฉพาะนิสสันหรอกครับ แอคคอร์ทผมก็เป็น

ตอนซี้อ G9 ไม่เนวิ MY2013 ป้ายแดงราคา 1.3 ล้าน
แต่ขายเต้นท์รับไม่เกิน 6 แสน

ต้องวิ่งขายอยู่พักใหญ่ ถึงจะได้ 6.6 แสน ขายกับโชว์รูมฮอนด้าแถวๆสุขา 3 รามคำแหง
รถใช้ทั้งหมด 5 ปี ไมล์ 8 หมื่น 

ที่ขายเพราะเบื่อมานั่งซ่อม สามวันดีสี่วันพัง สมกับชื่อแอคคอร์ทจริงๆ

เมื่อเทียบกับมาร์ช VL ปี 2012 ราคา 5.42 แสน แต่ขายออกปี 2016
ใช้ห้าปีเหมือนกัน แต่ขายได้ 2.7 แสน (หักค่าโอน ค่าบลาๆ เหลือ 2.6 นิดๆ)

D-Seg มือสอง รถขายยาก คนซี้อน้อย ต้องซ่อมบำรุงเยอะ อะไหล่ค่อนข้างแพง
ราคาจะตกก็ไม่แปลก 

March เหมือนกันครับ รถ 6 ปีกว่าๆ

รุ่น E CVT สีเงิน ราคา 4.59 แสน

ขายได้ 2.03 แสน ผมว่าไม่แย่ แต่คิดว่าถ้าไม่ใช่ นิสสัน น่าจะราคาดีกว่านี้
และความที่เป็น Eco car เลยขายได้ดีและง่ายกว่านิสสันทั่วไปมาก



mongolias

ตัวเลือกรุ่นล่างๆมันเยอะขึ้น มีรถมือ 1 ให้เลือกเล่นได้หลากหลาย
รถแต่ละ Segment ก็ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ C-segment นั่งสบายขึ้น
ราคาน้ำมันแพง หลายคนอยากหารถที่ประหยัดมากขึ้น
ความนิยมรถ SUV , PPV
พวกนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคา D-Segment มันตกมากครับ