ถ้าจะเอาตามชื่อของมันและวัตถุประสงค์ในการใช้ของผู้ผลิตรถยนต์
ไฟตัดหมอกหลัง คือ ไฟที่นำมาใช้ในการส่องสว่าง "เพื่อช่วยในการมองเห็นของผู้ร่วมทางในยามที่หมอกลงจัด"
นิยามมันก็มีบอกไว้ตายตัวคับว่า "ใช้ในยามที่หมอกลงจัด"
ถ้าถามผมว่า มันช่วยในการมองเห็นของเรามั้ย ถ้าเปิดตามที่นิยามมันบอก ผมว่าไม่คับ
แต่ถ้าเปิดในเวลาที่ต่างจากนิยาม เช่น เปิดตอนกลางคืนธรรมดา เปิดยามฝนตกพรำๆ ไม่หนัก อันนี้ สำหรับผม ผมก็ว่าไม่
แต่พ่อผมบอกว่า มันก็ช่วยได้ระดับนึงนะ อันนี้ก็แล้วแต่บุคคล
ส่วนเรื่องแยงตา อันนี้มันก็ต้องดูด้วยว่า
1. ไฟที่แยงตานั้น ตำแหน่งไฟแบบไหน ถ้าเป็นไฟที่ติดตั้งไม่สูง ลำแสงไม่เบนไปทางระดับสายตา อันนี้ไม่น่าแยง แต่ถ้าเป็นไฟที่ติดหรือลำแสงส่องมาทางระดับสายตาพอดี อันนี้แยง
2. ไฟนั้น มันเป็นไฟที่มาจากโรงงาน หรือไฟติดข้างนอก ถ้าไฟจากโรงงาน ผู้ผลิตน่าจะคิดไว้แล้วเรื่องการใช้งาน บางรายคิดแค่ว่า คนที่ใช้จะต้องใช้ตามนิยาม บางรายอาจจะคิดเผื่อไว้ว่า คนที่ใช้อาจจะเปิดพร่ำเพรื่อ อันนี้แล้วแต่ผู้ผลิตคับ แต่ถ้าไฟของข้างนอก ส่วนมากแล้วเขาไม่คิดหรอกคับว่าไฟมันจะส่งผลอย่างไร คิดแค่ว่า เปิดแล้วสวยมั้ย เข้ากับรถมั้ย
3. หลายคนอาจจะมองว่า ไฟตัดหมอกหลังแยงตา ไฟตัดหมอกหน้าไม่ค่อยแยง อันนี้ก็ต้องดูจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นแบบ 2 ข้อที่ผ่านมา รวมถึง สีของไฟที่อาจจะมีผล และที่สำคัญคือ การใช้สายตาในการมองไฟตัดหมอกนั้น มันก็ต่างกันนะ ไฟตัดหมอกหน้าจ้องแป๊ปเดียวแล้วผ่าน อาจจะแยงตาน้อย แต่ไฟตัดหมอกหลัง อาจจะมีโอกาสขับตามหลังกัน เลยทำให้จ้องมากกว่า แยงตามากกกว่า ก็เป็นไปได้คับ