ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่สน.บางนา นางเก๋ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี อาชีพนักธุรกิจส่วนตัว กล่าวว่า โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ตนขับรถเบนซ์คันเกิดเหตุเพียงลำพังเพื่อไปซื้อเครื่องสุขภัณฑ์
จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.20 น. ขับรถอยู่ช่องทางด่วนในเลนซ้ายสุด โดยมีทั้งหมด 5 เลน เพื่อเตรียมตัวกลับรถบริเวณแยกบางนา ซึ่งมีจุดประสงค์มุ่งหน้ากลับที่พักย่านสุขุมวิท เมื่อผ่านศูนย์นิทรรศการและจัดแสดงสินค้าชื่อดังได้สักระยะ จู่ๆมีรถกระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์ทอง ติดสติ๊กเกอร์คาดตรงกลางคันสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่เลนที่ 3 โดยกระจกรถฝั่งคนขับเปิดทิ้งไว้ และบรรทุกยางล้อรถเก่ามาเต็มคัน ก่อนเร่งเครื่องขับเบี่ยงปาดหน้าแซงรถตนออกมาอย่างกระชัดชิด โดยคาดว่าน่าจะออกทางคู่ขนาน ด้วยความตกใจจึงบีบแตรเตือนไป 1 ครั้ง โดยไม่ได้กดแช่ค้างแม้แต่อย่างใด จากนั้นตนจึงแซงขวามาอยู่เลนที่ 2 นำหน้ารถคู่กรณีไป
นางเก๋ กล่าวต่อว่า เมื่อขับผ่านมาประมาณ 50 เมตร ตนเตรียมตัวเบี่ยงขวาเพื่อเข้าช่องทางกลับรถ โดยอยู่ที่เลนเดิม แต่จู่ๆรถยนต์กระบะคู่กรณีกลับเร่งความเร็วมาอยู่ช่องเลนขวาสุด ก่อนพุ่งชนรถตนช่วงประตูข้างขวาฝั่งคนขับเข้าอย่างจังเพื่อให้ตนจอด
จากนั้นคู่กรณีหยิบท่อนเหล็กลงมา พร้อมทั้งกระหน่ำฟาดที่กระจกบานหน้าอย่างใจเย็น ก่อนไล่ตีรอบคันอีกหลายแห่งจนส่งผลให้กระจกรถแตกร้าวทุกบาน และกระจกมองข้างหลุดทั้ง 2 ข้าง โดยขณะนั้นเศษกระจกได้บาดเข้าที่ใบหน้าตนและบริเวณลำตัวเล็กน้อย
ทั้งนี้ตนไม่กล้าลงจากรถ และอยู่ในอาการหวาดกลัว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำร้ายร่างกายจึงไม่กล้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์แม้แต่อย่างใด แต่ทันที่จะถ่ายรูปหน้ารถคู่กรณีไว้ก่อนหลบหนีไป
ภายหลังจากคู่กรณีใช้ท่อนเหล็กกระหน่ำตีจนหนำใจ ก็ขับรถถอยหลังออกไปอย่างใจเย็น ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สังเกตเห็นรูปพรรณสัณฐานของผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 20 กว่าๆ ทรงผมหยักศก สูงประมาณ 165 เซนติเมตร รูปร่างท้วม ผิวดำ-แดง ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลาเร่งด่วน ผู้สัญจรบนท้องถนนค่อนข้างหนาแน่น และมีผู้เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก หากผู้ใดมีภาพบันทึกเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถ รบกวนช่วยนำมาส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน สน.บางนา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในสำนวนคดี เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด นางเก๋ กล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ลงพื้นที่ตรวจสอบรถคันเกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมทั้งเก็บลายนิ้วมือแฝง โดยขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวน สน.บางนา อยู่ระหว่างการไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายรวม 2 ข้อหาประกอบด้วยทำลายทรัพย์สินผู้อื่น และข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2906164