ขับรถ 2 สไตล์แบบนี้ กรณีไปเที่ยว เมื่อถึงที่หมาย สไตล์ไหนร่างกายจะสดชื่นกว่าครับ

khunpan33

เลือกแบบ 2 ครับ พลาดพลั้งอะไรมา จากหนักเป็นเบาได้ สภาพตอนไปถึง ผมไม่ห่วงเท่าระหว่างการเดินทางครับ ไปถึงจุดหมายโดยปลอดภัยสำคัญที่สุด  ;)



chaithawat

ขึ้นอยู่กับระยะทางเป็นหลัก ถ้าขับแบบ alert ระยะทางไม่ไกลสักสองร้อยโลกับขับเรื่อยๆไม่ต่างครับ จากประสบการณ์เที่ยวแทบทุกอาทิตย์แบบคนไม่มีเวลา ซัดไปเย็นวันศุกร์หลังเลิกงานตลอด เที่ยวแถวหัวหินชะอำ หรือ ศรีราชาพัทยา 200 โลใช้เวลาสองชั่วโมงมุดตลอดเท่าที่มีจังหวะ ทางโล่งๆ 160-180 ไม้เดียวถึงไม่พักไม่รู้สึกเหนื่อยล้าอะไรเลยกินดื่มเที่ยวต่อได้เลยอาจเพราะเคยชิน  แต่ถ้าเลยสักสามร้อยโลอย่างไปประจวบ ระยองอันนี้เริ่มล้าๆแล้วเพราะใช้สมาธิจับจดกับทางมากไป ถ้าระยะ 5-6ร้อยโลขึ้นนี่อย่างเพลียยย.....ถึงแล้วอยากนอนมากกว่าอยากเที่ยว
ตรงข้ามขับเรื่อยๆร้อยยืนพื้นหรือรถติดๆแบบเทศกาลนี่ขับได้ทั้งวันเป็นสิบชั่วโมงไม่เหนื่อยไม่เพลียแต่เมื่อยแทนครับถึงที่หมายโด๊ปสักนิดยืดเส้นยืดสายหน่อยก็สดชื่นแล้วครับ



แมวดราม่า

2 ครับ โดยเฉพาะถ้าขับยาวระดับ 500 กม. อัพ

1 Alert มากๆ ต่อให้พักทุก 3 ชม. ร่างกายก็ไม่ไหวอยู่ดี ไปถึงที่แล้วน็อก หลับเป็นตาย ตื่นเที่ยง
2 ยิงยาวๆ ได้ ลงไปขนข้าวขนของ จัดบ้าน ตระเวนหาของกิน ชอปปิ้ง สบายบรื๋อ
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/



Ruksadindan

เคยใช้คันที่มี ACC ขับระยะเที่ยวละ <150km ก็สบายครับ

ส่วนคันที่ไม่มี ถ้าพยายามขับแบบที่หนึ่ง ไวไหมไม่รู้สิ แต่ร่างกายมันก็ล้าสะสมอ่ะนะ ไม่น่าจะดีครับ อย่างที่หลายๆท่านบอก



+@ Krishna @+

ผมแล้วแต่สถานะกาณ์ครับ

หากตีรถกลับตอนกลางคืนถนนว่าง ๆ  บางที ระยะทาง 200 - 250 km ผมก็ข้อ 1 เลย/ไม่ได้เล่น เกียร์อะไรมาก

ถ้าทางไกล เมื่อยเท้า หรือเหนื่อย ๆ  ก็ ข้อ 2 ครับ   8)



GunnSap

ตอนนี้อายุจะแตะเลขสี่แล้ว แถมลูกก็ยังเล็ก ขอไปเรื่อยๆเนิบๆ 90-110 แบบข้อสองละกันครับ



kiwiwi

ด้วยความที่ขับแบบที่ 1 มาร่วมๆ 10ปี
ปัจจุบัน มันกลายเป็นความเคยชินแล้วครับ
10ปีหลังคือขับเร็ว ขับซิ่ง แต่ไม่มีอดรีนารีนอะไรให้ตื่นเต้นแล้ว เหมือนมีการเมมโมรี่ทั้งหมดในหัว เวลาบู๊กับใครบางทีร่างกายมันก็ชิลๆของมันเอง

เวลาพาพ่อ แม่ไปต่างจังหวัดโดยขับแบบที่2(ขับแบบที่1ไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวโดนด่า) เมื่อถึงที่หมายแล้ว
โฆตรเหนื่อยเลยครับ แบบทั้งเพลีย ทั้ง"เครียด" เลย
.
.
.
.
กลายเป็นว่า จะต้องเอาหัวสมองส่วนหนึ่งมาปรุงแต่งไลน์ในการขับนิ่ม ขับช้า แล้วการระมัดระวังจะต่างกันสิ้นเชิง เช่น ถ้าขับเร็ว คุณๆแทบไม่ต้องระวังหลังเลย ระวังหน้าอย่างเดียว
     แต่ถ้าขับช้า ต้องระวังทั้งหน้า หลัง ซ้าย และขวา
     ภาพทุกภามพยังตรึงอยู่ในหัวในช่วงขณะ เห็นพฤติกรรมเหี้ยๆ ของรอบข้างโดยที่คุณไม่สามารถหนีจากตรงนั้นได้ มันเป็นอะไรที่เครียดจริงๆนะ 55555