[keanetona]

เครดิตภาพและข่าว manager.co.th

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=FDadNUo4So4&feature=player_embedded[/youtube]

เอเอฟพี- หลังจากได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีรถติดมากที่สุดในโลก กอดคอมากับเม็กซิโก ซิตี้ จีนก็ได้เร่งหาทางแก้ปัญหาจราจร และหนึ่งในนั้นคือ นวัตกรรมใหม่แห่งการขนส่ง "ซูเปอร์บัส"
       
       หลังจากได้ซุ่มสร้าง "ซูเปอร์บัส" มาระยะหนึ่ง ทางการก็ได้เปิดเผยว่าจะทดสอบรถโดยสารสุดล้ำนี้ในเดือนกันยายน โดยรถคันนี้จะออกแบบให้สามารถบรรทุกผู้โดยสารมากถึง 1,400 คน และวิ่งคร่อมถนน โดยที่พาหนะอื่นๆ ก็สามารถวิ่งพร้อมๆ กันไปบนถนนที่ใช้ร่วมกัน
       
       ซ่ง หยูว์โจว ประธานฝ่ายออกแบบของ เซินเจิ้น ฮาซี ฟิวเจอร์ ปาร์คกิ้ง อีควิปเมนต์ (Shenzhen Hashi Future Parking Equipment) กล่าวกับเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 24 ส.ค.ว่า จะเริ่มนำรถมาวางและทดสอบการวิ่งระยะทาง 6 กิโลเมตร ในตอนปลายปีนี้
       
       ซ่ง กล่าวว่า มีแผนที่จะทดสอบโดยสารจริง ในราวครี่งหลังของปีหน้า โดยไม่ได้กล่าวถึงการวิ่งทดสอบนานหนึ่งปีเต็ม แล้วจะนำไปใช้เป็นระบบคมนาคมทั่วไปด้วยหรือไม่ เพียงแต่บอกว่า ทางฮาซี ได้พูดคุยกับ 3 ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อสร้างรถยนต์โดยสารที่จะต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งพลังงานไฟฟ้าและพลังงานแสงอาทิตย์
       
       ซ่ง กล่าวกับโกลเบิลไทมส์ว่า เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดช่อบ คาดว่าจะวางเส้นทางสำหรับ "ซูเปอร์บัส" นี้ได้ในระยะทางกว่า 180 ก.ม. รวมทั้งเส้นทางสนามบินในกรุงปักกิ่งด้วย และจะสามารถแบ่งเบาสภาพแออัดของการจราจรได้มากกว่า 30% โดยไม่แย่งพื้นที่ท้องถนน เพราะสามารถใช้ร่วมกับเส้นทางที่มีอยู่ เพียงแต่สร้างสถานีผู้โดยสาร และสัญญาณไฟจราจรใหม่เท่านั้น

ทั้งนี้ การทดสอบที่จะเริ่มในเดือนกันยายนนี้ จะเป็นการทดสอบในสถานการณ์จริงเพื่อประเมินและแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยพาหนะที่สามารถวิ่งลอด "ซูเปอร์บัส" นี้ จะมีเพียงรถยนต์ขนาดเล็ก-กลาง ซึ่งจะมีสัญญาณเตือนพิเศษสำหรับรถคันใหญ่ที่มีความสูงเกิน
       
       จากข้อมูลของทางการ คาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้ กรุงปักกิ่งจะมีรถยนต์มากถึง 5 ล้านคัน หลังจากเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา จำนวนรถยนต์พุ่งถึง 4 ล้านคันไปแล้ว
       
       ด้านกว๋อ จีฟุ เตือนว่า ถ้ายังไม่มีการจำกัดการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ หรือเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ในการคมนาคม จะทำให้สภาพการจราจร และอัตราความเร็วโดยเฉลี่ย บนถนนในกรุงปักกิ่งลดลงเหลือเพียง 15 ก.ม.ต่อชั่วโมง อีกทั้งมลพิษทางอากาศอาจวิกฤติขึ้น

ไอเดียบรรเจิดแฮะ ว่าแต่ ลอดใต้สะพานลอยได้ไหมอ่ะครับ

[Sappe!]

แล้วจะลงกลางทางยังไงครับเนี่ย??

โดดลงเลยหรอ   

[iamapisit]

เนี่ยแหระผมถึงชอบไอเดียหลายๆ
อย่างจากพี่จีนเป็นการแก้ปัญหาที่
แหวกแนว
ปล.ดีกว่าbrtของทางไทยเยอะbrtนี่ทำให้ลดติดเข้าไปอีกเหอะๆ

[Iwata Kana Σ4]

รถไฟฟ้ารวมกับรถเมล์นี่เอง

[Ninezti]

ว้าวๆๆ เมืองไทยคงทำไม่ได้อะ ไม่มีระเบียบ ขับๆไปเปลี่ยนเลน รถข้างล่างพังหมด  เมืองนอกเค้ามีระเบียบ กว่าเยอะครับ

[Dark Overlord]

เจ๋งมากๆ ครับ อย่างงี้แหล่ะเรียกว่าสร้างสรรค์

[TnP_PKt]

ความคิดดีมากครับส่วนบริษัทรถยนต์ในจีนควรดูไว้จะได้ไม่ copy ของค่ายอื่นมาทำอย่างเช่นทุกวันนี้

[Sunnook]

ซู้ดยอดด

[TTL]

สุดยอกมากๆเลยครับ

[num_plus]

แล้วถ้ารถเมล์เลี้ยวแต่รถคันที่อยู่ใต้รถเมล์จะตรงไป จะทำไงล่ะครับ
คิดไม่ออก

[G FORCE]

1.เลี้ยวยังไง

2. ข้ามสะพานที่สั้นกว่าตัวรถยังไง

3.เที่ยวกลับ หันรถกลับยังไง

4.หนักขนาดนั้น  ถนนที่ไหนจะรับน้ำหนักไหว

5.ดีกว่ารถไฟฟ้ายังไง

ผมว่าวิศวกรยังคิดไม่จบครับ 55

[kowit1]

เป็นลักษณะวิ่งบนรางฝังบนถนนมั้ง

[MyName]

โดยรวมค่อนข้างชอบนะครับ และเป็นงานชิ้นแรกที่มาจากจีนแล้วผมประทับใจจริงๆ
แต่ก็ยังตะหงิดนิดๆ ครับ ตอนจะเปลี่ยนเลน แล้วรถข้างล่างจะทำยังไงกัน

[keng.]

สร้างสรรค์ดีนะครับ
แต่วิศวกรคงคิดต่อกันอีกยาว...

[Whatman]

ผมมองว่าอันตรายครับ

[6162002]

1.เลี้ยวยังไง

2. ข้ามสะพานที่สั้นกว่าตัวรถยังไง

3.เที่ยวกลับ หันรถกลับยังไง

4.หนักขนาดนั้น  ถนนที่ไหนจะรับน้ำหนักไหว

5.ดีกว่ารถไฟฟ้ายังไง

ผมว่าวิศวกรยังคิดไม่จบครับ 55

1.มันมีรางครับ (อยู่ด้านขวาไง ในรูป๗
2.มันกำหนดเส้นทางเสร็จแล้วนี่ครับ ไม่ได้วิ่งมั่ว
3.มันวิ่งทางเดียวนี่ครับ น่าจะวิ่งแบบวน ท่ามันวิ่งกลับได้ มันก็สวนกับรถ ชนกันตายหมดพอดีสิ
4.เทียบกับความยาวแล้ว น้ำหนักต่อหน่วยพื้นที่ น้อยกว่ารถบรรทุกดินอีกครับ
5.ไม่ต้องสร้างเสาให้มันไปลอยฟ้า แล้วเสียถนนไปเลนนึงไงครับ

ส่วนถ้าอยากเลี้ยว ก็รอรถบัสมันวิ่งผ่านไปก่อน ผมว่ามันไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ถ้าเทียบกับให้มานั่งสัปหงกตอนรถติด ยังไงก็ดีกว่ามากมาย

ผมว่าดีกว่า BRT ไทยเยอะ ทำมาให้ติดกว่าเดิม - -

[Ninezti]

ผมว่าคงไม่เปลี่ยน ลเนอะครับ เค้าคงไม่ขัยแบบคนไทยหรอก เค้าคงวาง ไว้แล้วว่าเลนนี้เลนเดียว อะครับไม่เปลียน 

[raulowen]

จะใช้ได้จริงเหรอ คงต้องพิสูจน์