อ่านข่าวจากต้นทางกันป่าวครับเนี่ย ที่บอกไม่มีใครมาเนี่ย ...
-แหล่งข่าวฝ่ายบริหารเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแลนด์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการประกาศลงทุนโรงงานแบตเตอรี่ไปเมื่อกลางปี 2561 ที่ผ่านมา โดยร่วมลงทุนกับพันธมิตรใช้เม็ดเงินมากกว่า 100 ล้านยูโร ทั้งขยายโรงงานผลิตและตั้งโรงงานสามารถเริ่มผลิตได้เมื่อต้นปี 2562 ที่ผ่านมานั้น เป็นการผลิตเพื่อป้อนตลาดกลุ่มรถไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริดเท่านั้น โรงงานแบตเตอรี่แห่งนี้ถือเป็นโรงงานแห่งที่ 6 ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์มีใน 3 ทวีป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม่ต่างจากค่ายอื่น ๆ อาทิ บีเอ็มดับเบิลยู ที่ร่วมมือกับแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก เปิดตัวโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ชลบุรี มูลค่า 700 ล้านบาท รองรับรถยนต์กลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด 4 รุ่น ได้แก่ ซีรีส์ 3, 5, 7 และเอ็กซ์ 5 และก้าวต่อไปคือการเตรียมความพร้อมสำหรับแบตเตอรี่แรงดันสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีลํ้ายุคอื่น ๆ ขณะที่ค่ายโตโยต้าก็เพิ่งเปิดสายการผลิตแบตเตอรี่ที่โรงงานประกอบรถยนต์ โตโยต้า เกตเวย์ ไปเป็นกลางปี 2562 ที่ผ่านมา หลัก ๆ ก็ยังเป็นการป้อนตลาดกลุ่มรถยนต์ไฮบริด-
สรุปง่ายๆว่า เบนซ์เค้าบอกว่า การที่เรามีข้อตกลงการค้า FTA กับจีน ที่ทำให้รถไฟฟ้าที่นำเข้ามาขายในไทยมีราคาถูก มันไม่ยุติธรรมกับค่ายรถที่ลงทุนตามเงื่อนไข BOI ซึ่งมองมุมนั้นก็ถูก ซึ่งเบนซ์ได้บอกว่า ถ้าเงื่อนไข FTA กับจีนทำให้สามารถนำเข้าทั้งคันได้ถูกกว่า สู้เบนซ์ไปลงทุนที่จีนแล้วนำเข้ามาเหมือน MG ไม่ดีกว่าหรือ .....
แต่ในอีกมุมนึง(ทัศนะส่วนตัว) ผมว่าการที่เบนซ์พูดแบบนี้ผมมองว่าขู่นะ เพราะสถานะการโลกเรื่องการคว่ำบาททางการค้าของ สหรัฐ-จีน เกิดขึ้นอีก ... เบนซ์ก็อาจจะซวยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ผลิตมาส่งเข้าเมกา หรือยุโรปไม่ได้นี่แย่ไปใหญ่ ยังไงซะไทยก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเรื่องการลงทุนต่อสถานะการรอบโลก
รัฐบาลก็คงต้องแก้เรื่อง FTA ซึ่งก็ไม่รู้ว่า จะแก้ได้ไหม เพราะลงนามไปนานแล้ว
อย่าก่นด่าประเทศตัวเองกันนักเลยครับ FTA เราเซ็นท์กับจีนตั้งแต่ปี 2547 แล้ว (ต้องให้บอกไหมว่ารัฐบาลไหน) ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันของอาเซี่ยน ไม่ใช่แค่เรากับจีน ...
ลิ้งค์ข่าวผลกระทบ FTA ที่ลงนามในปี 47 :
https://www.thansettakij.com/content/219539