ขับสี่ของ AMG vs ขับสี่ของ Impreza,Evolution

[Teezy350]

อยากรู้ว่าขับสี่ 4matic ของ AMG กับของพวกอิม อีโว ต่างกันไหมครับ อันไหนขับดีกว่า เทียบกันตั้งแต่สมัยก่อน จนถึงปัจจุบันนี้

[Alcatraz]

ข้อดีข้อเสียต่างกัน AMG ก็แยกไปอีก AMG อะไร CLA 45 amg กับ c43 หรือ e53 ก็ไม่เหมือนกันแล้ว ยิ่งอิมกับอีโว ก็ไม่เหมือนกัน layout  เครื่องก็ต่างกันแล้ววางยาวกับวางขวาง ไม่ว่ารุ่นไหนก็ต่างกันทั้งนั้น ต่อให้ยี่ห้อเดียวกัน อย่าง audi tt กับ a4 a5 ก็ไม่เหมือนกัน ต่อให้เหมือนกัน การเช็ตรถการกระจายกำลังหน้าหลังแต่ละรุ่นก็ไม่เท่ากัน แค่เบอร์เฟืองท้าย limited slip ก็ต่างกันแล้ว

ถ้าสงสัย ถามมาเป็นรุ่นๆ เช่น การขับขี่ของ c43 ต่างกับ wrx sti แค่ไหน ถามกว้างๆแบบนี้จับประเด็นไม่ได้

[Teezy350]

ข้อดีข้อเสียต่างกัน AMG ก็แยกไปอีก AMG อะไร CLA 45 amg กับ c43 หรือ e53 ก็ไม่เหมือนกันแล้ว ยิ่งอิมกับอีโว ก็ไม่เหมือนกัน layout  เครื่องก็ต่างกันแล้ววางยาวกับวางขวาง ไม่ว่ารุ่นไหนก็ต่างกันทั้งนั้น ต่อให้ยี่ห้อเดียวกัน อย่าง audi tt กับ a4 a5 ก็ไม่เหมือนกัน ต่อให้เหมือนกัน การเช็ตรถการกระจายกำลังหน้าหลังแต่ละรุ่นก็ไม่เท่ากัน แค่เบอร์เฟืองท้าย limited slip ก็ต่างกันแล้ว

ถ้าสงสัย ถามมาเป็นรุ่นๆ เช่น การขับขี่ของ c43 ต่างกับ wrx sti แค่ไหน ถามกว้างๆแบบนี้จับประเด็นไม่ได้

ถ้ายกตัวอย่าง การขับขี่ของ c43 ต่างกับ wrx sti แค่ไหนครับ

[YenChar]

ขับสี่ของรถญี่ปุ่นไม่เคยพูดถึง Efficiency เลย เน้นเกาะ เน้นลุย ตะกุยทางดิน
ของยุโรปจะมาแนว ฉลาด ประหยัด ช่วยออกตัว ช่วยดัน เพิ่มประสิทธิภาพ

ไม่รู้นะ แต่ผมชอบดิบๆ พวกที่ฝรั่งชอบเทสกัน
AWD ใน Subaru เอาไปเล่นหิมะ โคลน หรือออฟโรดได้ดีกว่า
แต่ของรถยุโรปจะเน้นไปทางถนนดำ ในสนามแข่ง

[akewizard]

ผมให้ความเห็นเป็นเชิงวิชาการแทนก็แล้วกันครับ

ระบบ 4 matic ของ Mercedes มีมา 4 Gen แล้ว แต่ในหลายๆรุ่นจะใช้เป็นแบบ Gen 3 ส่วนพวก Preformance เช่นตระกูล AMG จะใช้เป็นแบบ Gen 4
ระบบ 4Matic ใน AMG จะเป็นแบบ full time ในเวลาปกติจะส่งกำลังไปหาล้อหลังเป็นส่วนใหญ่ผ่านเพลากลาง แต่คั่นกลางระหว่างเพลากับ rear diff ด้วย Center diff แบบคลัชไฟฟ้า

เจ้า Center diff ในเวลาที่จับก็จะส่งแรงขับเคลื่อนไปหาล้อหลัง แต่เวลาที่ปล่อยก็จะปล่อยแรงขับเคลื่อนไปหาล้อหน้ามากกว่าแทน
ทำให้แรงขับเคลื่อนสามารถ switch สลับไปมาระหว่างขับหน้าและขับหลังได้ตามแต่สถานการณ์

ลองดูตามคลิปนี้ ผมว่าดูเข้าใจง่าย



ส่วนของ Subaru โดยเฉพาะ WRX STI (ถ้า WRX ตัวปกติระบบขับเคลื่อนจะต่างออกไป)

ปกติจะส่งกำลังล้อหน้า-หลังแบบตายตัว 41:59 แบบ Fulltime AWD โดยส่งกำลังจากชุดเกียร์ผ่านไปยัง Center diff ก่อนจะไปยังเพลากลางผ่านไป rear diff
ซึ่ง Center diff นั้นถอดแบบมาจากระบบของรถ rally สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจผู้ขับ ว่าจะเอาแบบ 41:59 หรือ 50:50 และตั้งค่าให้ปรับแบบ Semi หรือ Auto + - ได้ค่อนข้างอิสระ
หรือจะสั่ง lock center diff จับตายไปเลยก็ได้ ก็จะได้การขับแบบพวกรถ 4WD ทั้งหลายไว้ลุยทางดินทางโคลน



ถ้าจะสรุปง่ายๆ ระบบของ WRX STI จะออกแนวดิบๆดั้งเดิมเหมือนรถ Rally ปรับเลือกได้ตามใจผู้ขับ
ส่วนของ 4Matic จะออกแบบในลักษณะปรับ Auto ให้เลยมากกว่า

[IS2000]

ท่าเทียบเรื่องการขับขี่ C43 จะให้ความรู้สึกเหมือนรถขับหลังมากกว่า เวลาขับจะรู้สึกถึงกำลังที่ส่งไปที่ล้อหลังต่างจาก EVO8 ครับ แต่ขับบู้จริงๆเบนซ์จะออกแนวเซฟๆในขณะที่อีโวนี่แถออก 4 ล้อเลย

[DiKiBoyZ]

ง่ายๆ เลย

AMG 4Matic  มันเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ที่แปรผันได้ 20:80, 30:70 , 40:60, 50:50 ไปเรื่อยๆ ตาม "สมอง" ของรถสั่งการ ตามโหลด ตามคันเร่ง ตามโหมดการขับขี่ ควบคุมเป็นไฟฟ้าแทบทั้งหมด

ส่วนของ Subaru มันจะเป็น 4 ล้อตลอดเวลา แบบผ่านกลไล จะเป็นแบบ fix ค่าว่า 49:51 หรือ 50:50 ไรงี้ครับ

ถ้าจะเอาลึกซึ้ง ลองหาดูใน Youtube ได้ครับ

[Night_Angel]

ตอบเฉพาะของ Mitsubishi นะครับ ข้อมูลนี้ได้มานานแล้วอาจจะมีอัปเดทต้องขออภัย

AYC คือระบบ การควบคุมการถ่ายกำลังของเฟืองท้าย ขณะเลี้ยว เพื่อป้องกันการ หมุน ย่อมาจาก Anti Yaw Control

ระบบนี้ เริ่มต้นใช้ใน Evo 4 ก่อน โดยน่าจะเกิดจากความจำเป็น ของตัวรถที่มีขนาดเพิ่มขึ้น หนักขึ้น โดยข้อเสียของ Evo นั้น จะมีอาการ "หนักหน้า" โดยมาจาก น้ำหนักเครื่อง บวกกับเกียร์ และ เกียร์ฝาก ที่ทำให้ น้ำหนักทั้งหมดนั้น ไปอยู่ด้านหน้าของรถเสียส่วนใหญ่ เมื่อรถอยู่ในตำแหน่งที่ต้องเบรคและเลี้ยว ในโค้ง ตามแรง ฟิสิก น้ำหนักเมื่อเบรค จะถ่ายไปด้านหน้า ซึ่ง จะไปเพิ่มน้ำหนักของ Traction ล้อหน้า แต่จะลด Traction ของล้อหลังลง เมื่อเกิดการเดินคันเร่งอีกครั้งในโค้ง จึงทำให้ Traction ล้อหลัง จับได้ไม่เต็มที่เนื่องจากเป็นล้อหลังที่มีทั้ง ซ้ายและขวา หมุนตามไม่เท่ากัน จึงทำให้เกิดโอกาสที่จะ หมุนได้ครับ

ปัญหานี้ ใน Imp เองอาจจะไม่ค่อยได้พบซักเท่าไหร เพราะ Balance รถของ Imp นั้นดีกว่า Evo มาก และเนื่องจาก Imp ตัวใหม่ๆ ก็จะมีระบบ C.Diff ไฟฟ้า Auto จะที่จะปรับแรงบิดให้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น อาการจะเกิดขึ้นน้อยกว่า รถที่มีระบบ ขับเคลื่อนแบบ Evo

ระบบ AYC นั้น จะใช้ผลการคำนวนจาก การหมุนพวงมาลัย คันเร่ง อาการสลิบของผิวถนน และจะทำการสั่งงานไปปรับ การหมุนของล้อหลังทั้ง 2 ล้อ


ส่วน ACD หรือ Active Center Differential  นั้นคือ ระบบ การกระจายแรงบิดที่ควบคุม แรงบิดหน้าหลัง โดยผ่านระบบ Multi Plate Clutch ที่ทำหน้าที่คล้ายๆกับ เต็ด เพียงแต่ จะสั่งการโดยไฟฟ้า เพื่อที่จะกระจายแรงบิดให้เหมาะสมระหว่าง หน้า และหลัง (คล้ายๆ C.diff ของ Imp)  แต่ มันจะทำงานเหมือนพวกระบบ Traction Control ของพวกรถขับหลังมากกว่า เพียงแต่ มันจะเป็นการ Control แบบ 4 ล้อ โดยแบ่งกระจายหน้าหลัง


โดยระบบ ทั้ง 2 ระบบนี้ ทำงานรวมกันใน Evo โดย ประมวนเข้ากล่อง ECU เช่นกัน


แต่ใน Evo X นั้น ระบบนี้ได้ถูกปรับเข้าสู่ S-AWC โดยการนำระบบ AYC + ACD ที่ว่ามา รวมกับสัญญาณสั่งการของ ABS และเพิ่ม ASC Active Stability Control เข้าไปปรับมวลผลพร้อมกัน และ สั่งการปรับอาการของรถให้ออกมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด


จากการใช้งาน Evo 8 GSR แตนๆ ของผม บอกได้งว่า ผมสัมผัสได้ถึงการทำงานของ AYC และ ACD ได้เป็นอย่างดี และเข้าใจเลยว่าทำไมเค้าถึงพัฒนาต่อไปที่ระบบ S-AWC

ก็เพราะว่า AYC + ACD นั้น มันเป็นระบบที่กระจายแรงบิด ซ้ายขวา หน้าหลัง เพื่อการขับขี่ แต่ไม่ได้แคร์ ถึง อาารของตัวรถเลย ว่าจะเซไปเซมาแค่ไหน เค้าจึงต้องเพิ่มระบบ ที่ทำให้คนขับ ไม่รู้สึกว่า มันเซไปเซมามาก จึงทำให้ อาการของรถ Evo X นั้น ไม่มีอาการตัวรถ ส่ายไปส่ายมามาก เพราะทุกอย่าง ทุกข้อมูล ถูกนำไปประมวลผลทั้งหมด เพื่อให้รถ ทรงตัวดีที่สุด ไม่ว่าในโค้งหรือนอกโค้ง


เพียงแต่ ระบบนี้ มันจะดึงอาการของรถ ให้ช้าลง เรียกได้ว่า มันไปคอยระแวดระวังแทนเรา ไอ้ที่เกิน มันก็จะไปตัดทอนลง ไอ้ที่ขาด ก็จะไปเติมให้ เรียกได้ว่า โคตรฉลาดกันเลยทีเดียว

[kiwiwi]

ผมให้ความเห็นเป็นเชิงวิชาการแทนก็แล้วกันครับ

ระบบ 4 matic ของ Mercedes มีมา 4 Gen แล้ว แต่ในหลายๆรุ่นจะใช้เป็นแบบ Gen 3 ส่วนพวก Preformance เช่นตระกูล AMG จะใช้เป็นแบบ Gen 4
ระบบ 4Matic ใน AMG จะเป็นแบบ full time ในเวลาปกติจะส่งกำลังไปหาล้อหลังเป็นส่วนใหญ่ผ่านเพลากลาง แต่คั่นกลางระหว่างเพลากับ rear diff ด้วย Center diff แบบคลัชไฟฟ้า

เจ้า Center diff ในเวลาที่จับก็จะส่งแรงขับเคลื่อนไปหาล้อหลัง แต่เวลาที่ปล่อยก็จะปล่อยแรงขับเคลื่อนไปหาล้อหน้ามากกว่าแทน
ทำให้แรงขับเคลื่อนสามารถ switch สลับไปมาระหว่างขับหน้าและขับหลังได้ตามแต่สถานการณ์

ลองดูตามคลิปนี้ ผมว่าดูเข้าใจง่าย



ส่วนของ Subaru โดยเฉพาะ WRX STI (ถ้า WRX ตัวปกติระบบขับเคลื่อนจะต่างออกไป)

ปกติจะส่งกำลังล้อหน้า-หลังแบบตายตัว 41:59 แบบ Fulltime AWD โดยส่งกำลังจากชุดเกียร์ผ่านไปยัง Center diff ก่อนจะไปยังเพลากลางผ่านไป rear diff
ซึ่ง Center diff นั้นถอดแบบมาจากระบบของรถ rally สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจผู้ขับ ว่าจะเอาแบบ 41:59 หรือ 50:50 และตั้งค่าให้ปรับแบบ Semi หรือ Auto + - ได้ค่อนข้างอิสระ
หรือจะสั่ง lock center diff จับตายไปเลยก็ได้ ก็จะได้การขับแบบพวกรถ 4WD ทั้งหลายไว้ลุยทางดินทางโคลน



ถ้าจะสรุปง่ายๆ ระบบของ WRX STI จะออกแนวดิบๆดั้งเดิมเหมือนรถ Rally ปรับเลือกได้ตามใจผู้ขับ
ส่วนของ 4Matic จะออกแบบในลักษณะปรับ Auto ให้เลยมากกว่า

ุถามแบบคนรู้น้อยนะครับ
4maticนี่จะคล้ายของ nissan x-trail​ กรือเปล่าครับ

[akewizard]

ุถามแบบคนรู้น้อยนะครับ
4maticนี่จะคล้ายของ nissan x-trail​ กรือเปล่าครับ

AWD ของ Nissan X-Trail ผมเข้าใจว่าทำงานแบบ Real time คือปกติจะเป็นขับหน้าคับ แต่บางเวลาก็ถ่ายกำลังมาช่วยล้อหลังด้วยแต่ไม่รู้ว่าอัตราส่วนเท่าไหร่
แต่จะมีโหมดที่สามารถ lock ตายเป็นแบบ 50:50 ได้สำหรับการลุยทางทุระกันดาร แต่ใช้ความเร็วได้ไม่มาก (ถ้าขับเร็วเกินก็จะปลด lock อัตโนมัติ)

แต่ของ 4Matic ในพวก AMG จะทำงานแบบ Fulltime โดยส่งกำลังไปหน้า-หลังได้ตามสถานการณ์ ไม่ตายตัว

ใน AWD ของ WRX STI ก็สามารถปรับตั้งการส่งกำลังแบบ Auto หน้า-หลังได้อิสระ แต่จะอยู่ในช่วงที่จำกัดกว่าคือจาก 41:59 ไปถึง 50:50 คับ

[koko86]

เคยขับ c 43 กับ im เสือคอแดง ในสนามนะครับ
ฟิลลิ่งคนละเรื่องเลย

c43 มีแฮนด์ลิ่งดีกว่าเยอะ หน้าไม่ดื้อ ท้ายไม่ค่อยออก เหยียบส่งในโค้งยังไงท้ายก็ไม่ออก ถ้าใส่เกินไป จะ understeer นิดเดียว แล้วรถจะจัดการถ่ายกำลังกลับมาเองได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ขับสนุกนะครับ ปลอดภัยและรู้สึกมั่นใจมากๆ อัดได้สุดๆไปเลย แถมยังสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้เพราะช่วงล่างไม่แข็งไป โดยรวมผมว่าเป็นระบบส่งกำลังที่เทพมาก

im เสือ คอแดง เคยขับที่พีระ โอ้ understeer สุดๆ จนไม่รู้จะแก้ยังไง ลองทั้ง trail เบรค เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะล้อหน้า ก็ไม่หาย understeer จนสุดท้ายก็ต้องแถเข้าไปทั้งอย่างนั้น แบบ hevy understeer สุดท้ายก็ต้องชะลอมากๆก่อนถึงโค้ง แล้วค่อยเข้าไป ซึ่งเสียเวลาครับ เวลาออกจากโค้ง จะกดหนักๆ เพื่อให้ท้ายออก หรือ หลุดไปเลยท้งสี่ล้อก็ไม่เป็นตามนั้น ตัวรถก็ออกอาการ  understeer เหมือนเดิม  แฮนด์ลิ่งในโค้งต่างกันเยอะครับ สองคันนี้ ส่วนบนถนนก็มีเพื่อนบ่นหลายคนว่าim แข็งมากอาจจะเหนื่อยหน่อยเวลาขับทางไกล

[nat1532]

ข้อดีข้อเสียต่างกัน AMG ก็แยกไปอีก AMG อะไร CLA 45 amg กับ c43 หรือ e53 ก็ไม่เหมือนกันแล้ว ยิ่งอิมกับอีโว ก็ไม่เหมือนกัน layout  เครื่องก็ต่างกันแล้ววางยาวกับวางขวาง ไม่ว่ารุ่นไหนก็ต่างกันทั้งนั้น ต่อให้ยี่ห้อเดียวกัน อย่าง audi tt กับ a4 a5 ก็ไม่เหมือนกัน ต่อให้เหมือนกัน การเช็ตรถการกระจายกำลังหน้าหลังแต่ละรุ่นก็ไม่เท่ากัน แค่เบอร์เฟืองท้าย limited slip ก็ต่างกันแล้ว

ถ้าสงสัย ถามมาเป็นรุ่นๆ เช่น การขับขี่ของ c43 ต่างกับ wrx sti แค่ไหน ถามกว้างๆแบบนี้จับประเด็นไม่ได้

ผมไม่เข้าใจว่าการตอบแบบนี้มีประโยชน์อะไรกับใครบ้างครับ?? ดูจะตอบแบบให้เหมือนมีความรู้มาก แต่ที่จริงเปะปะ หาสาระหรือข้อมูลอะไรไม่ได้เลย เห็นสมาชิกท่านอื่นๆ ที่ตอบมาในคห.ล่างๆ ก็ดูสรุปได้ชัดเจนตรงประเด็นกันได้ทุกท่าน ไม่เห็นจะมีข้อแม้กว้างไปแคบไป ถ้าข้อมูลในหัวมีเยอะมาก แต่สรุปหาสาระใจความไม่ได้อย่างนี้ถือว่าไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ซึ่งในแก้วก็ไม่แน่ใจว่ามีน้ำจริงๆ หรือเปล่า...ยิ้มอ่อน...


ปล.ตอนแรกอ่านยังไม่ดูชื่อก็ว่าตอบแบบนี้คุ้นๆ พอเหลือบไปดูชื่อเท่านั้นแหล่ะ อ๋อ ขาประจำ "สงสารคนรอบตัวเค้าในชีวิตจริง"

[ACE]

ข้อดีข้อเสียต่างกัน AMG ก็แยกไปอีก AMG อะไร CLA 45 amg กับ c43 หรือ e53 ก็ไม่เหมือนกันแล้ว ยิ่งอิมกับอีโว ก็ไม่เหมือนกัน layout  เครื่องก็ต่างกันแล้ววางยาวกับวางขวาง ไม่ว่ารุ่นไหนก็ต่างกันทั้งนั้น ต่อให้ยี่ห้อเดียวกัน อย่าง audi tt กับ a4 a5 ก็ไม่เหมือนกัน ต่อให้เหมือนกัน การเช็ตรถการกระจายกำลังหน้าหลังแต่ละรุ่นก็ไม่เท่ากัน แค่เบอร์เฟืองท้าย limited slip ก็ต่างกันแล้ว

ถ้าสงสัย ถามมาเป็นรุ่นๆ เช่น การขับขี่ของ c43 ต่างกับ wrx sti แค่ไหน ถามกว้างๆแบบนี้จับประเด็นไม่ได้

ผมไม่เข้าใจว่าการตอบแบบนี้มีประโยชน์อะไรกับใครบ้างครับ?? ดูจะตอบแบบให้เหมือนมีความรู้มาก แต่ที่จริงเปะปะ หาสาระหรือข้อมูลอะไรไม่ได้เลย เห็นสมาชิกท่านอื่นๆ ที่ตอบมาในคห.ล่างๆ ก็ดูสรุปได้ชัดเจนตรงประเด็นกันได้ทุกท่าน ไม่เห็นจะมีข้อแม้กว้างไปแคบไป ถ้าข้อมูลในหัวมีเยอะมาก แต่สรุปหาสาระใจความไม่ได้อย่างนี้ถือว่าไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ซึ่งในแก้วก็ไม่แน่ใจว่ามีน้ำจริงๆ หรือเปล่า...ยิ้มอ่อน...
ปล.ตอนแรกอ่านยังไม่ดูชื่อก็ว่าตอบแบบนี้คุ้นๆ พอเหลือบไปดูชื่อเท่านั้นแหล่ะ อ๋อ ขาประจำ "สงสารคนรอบตัวเค้าในชีวิตจริง"

แวะเข้ามาเก็บความรู้ แต่มาเจอประเด็นนี้ 
เห็นด้วยครับว่าตอบแบบนี้ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย... ทำเซียนไปงั้น
แต่ไม่ต้องไปสงสารหรือใส่ใจหรอกครับ ชีวิตใครชีวิตมัน

[Pattiphong]

ผมให้ความเห็นเป็นเชิงวิชาการแทนก็แล้วกันครับ

ระบบ 4 matic ของ Mercedes มีมา 4 Gen แล้ว แต่ในหลายๆรุ่นจะใช้เป็นแบบ Gen 3 ส่วนพวก Preformance เช่นตระกูล AMG จะใช้เป็นแบบ Gen 4
ระบบ 4Matic ใน AMG จะเป็นแบบ full time ในเวลาปกติจะส่งกำลังไปหาล้อหลังเป็นส่วนใหญ่ผ่านเพลากลาง แต่คั่นกลางระหว่างเพลากับ rear diff ด้วย Center diff แบบคลัชไฟฟ้า

เจ้า Center diff ในเวลาที่จับก็จะส่งแรงขับเคลื่อนไปหาล้อหลัง แต่เวลาที่ปล่อยก็จะปล่อยแรงขับเคลื่อนไปหาล้อหน้ามากกว่าแทน
ทำให้แรงขับเคลื่อนสามารถ switch สลับไปมาระหว่างขับหน้าและขับหลังได้ตามแต่สถานการณ์

ลองดูตามคลิปนี้ ผมว่าดูเข้าใจง่าย



ส่วนของ Subaru โดยเฉพาะ WRX STI (ถ้า WRX ตัวปกติระบบขับเคลื่อนจะต่างออกไป)

ปกติจะส่งกำลังล้อหน้า-หลังแบบตายตัว 41:59 แบบ Fulltime AWD โดยส่งกำลังจากชุดเกียร์ผ่านไปยัง Center diff ก่อนจะไปยังเพลากลางผ่านไป rear diff
ซึ่ง Center diff นั้นถอดแบบมาจากระบบของรถ rally สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจผู้ขับ ว่าจะเอาแบบ 41:59 หรือ 50:50 และตั้งค่าให้ปรับแบบ Semi หรือ Auto + - ได้ค่อนข้างอิสระ
หรือจะสั่ง lock center diff จับตายไปเลยก็ได้ ก็จะได้การขับแบบพวกรถ 4WD ทั้งหลายไว้ลุยทางดินทางโคลน



ถ้าจะสรุปง่ายๆ ระบบของ WRX STI จะออกแนวดิบๆดั้งเดิมเหมือนรถ Rally ปรับเลือกได้ตามใจผู้ขับ
ส่วนของ 4Matic จะออกแบบในลักษณะปรับ Auto ให้เลยมากกว่า

ได้ความรู้มากครับขอบคุณครับ ของ BMW X drive ก็น่าจะคล้ายๆ 4matic ไหมครับ
WRX STI นี่ดิบจริงครับ

[sexysecret]

เคยขับ c 43 กับ im เสือคอแดง ในสนามนะครับ
ฟิลลิ่งคนละเรื่องเลย

c43 มีแฮนด์ลิ่งดีกว่าเยอะ หน้าไม่ดื้อ ท้ายไม่ค่อยออก เหยียบส่งในโค้งยังไงท้ายก็ไม่ออก ถ้าใส่เกินไป จะ understeer นิดเดียว แล้วรถจะจัดการถ่ายกำลังกลับมาเองได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ขับสนุกนะครับ ปลอดภัยและรู้สึกมั่นใจมากๆ อัดได้สุดๆไปเลย แถมยังสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้เพราะช่วงล่างไม่แข็งไป โดยรวมผมว่าเป็นระบบส่งกำลังที่เทพมาก

im เสือ คอแดง เคยขับที่พีระ โอ้ understeer สุดๆ จนไม่รู้จะแก้ยังไง ลองทั้ง trail เบรค เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะล้อหน้า ก็ไม่หาย understeer จนสุดท้ายก็ต้องแถเข้าไปทั้งอย่างนั้น แบบ hevy understeer สุดท้ายก็ต้องชะลอมากๆก่อนถึงโค้ง แล้วค่อยเข้าไป ซึ่งเสียเวลาครับ เวลาออกจากโค้ง จะกดหนักๆ เพื่อให้ท้ายออก หรือ หลุดไปเลยท้งสี่ล้อก็ไม่เป็นตามนั้น ตัวรถก็ออกอาการ  understeer เหมือนเดิม  แฮนด์ลิ่งในโค้งต่างกันเยอะครับ สองคันนี้ ส่วนบนถนนก็มีเพื่อนบ่นหลายคนว่าim แข็งมากอาจจะเหนื่อยหน่อยเวลาขับทางไกล

ขออนุญาติถามเพิ่มเติมครับ หน้าเสือมันดื้อกว่าอิมฯรุ่นก่อนๆ หรือพอๆกันครับ?

[akewizard]

เคยขับ c 43 กับ im เสือคอแดง ในสนามนะครับ
ฟิลลิ่งคนละเรื่องเลย

c43 มีแฮนด์ลิ่งดีกว่าเยอะ หน้าไม่ดื้อ ท้ายไม่ค่อยออก เหยียบส่งในโค้งยังไงท้ายก็ไม่ออก ถ้าใส่เกินไป จะ understeer นิดเดียว แล้วรถจะจัดการถ่ายกำลังกลับมาเองได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ขับสนุกนะครับ ปลอดภัยและรู้สึกมั่นใจมากๆ อัดได้สุดๆไปเลย แถมยังสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้เพราะช่วงล่างไม่แข็งไป โดยรวมผมว่าเป็นระบบส่งกำลังที่เทพมาก

im เสือ คอแดง เคยขับที่พีระ โอ้ understeer สุดๆ จนไม่รู้จะแก้ยังไง ลองทั้ง trail เบรค เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะล้อหน้า ก็ไม่หาย understeer จนสุดท้ายก็ต้องแถเข้าไปทั้งอย่างนั้น แบบ hevy understeer สุดท้ายก็ต้องชะลอมากๆก่อนถึงโค้ง แล้วค่อยเข้าไป ซึ่งเสียเวลาครับ เวลาออกจากโค้ง จะกดหนักๆ เพื่อให้ท้ายออก หรือ หลุดไปเลยท้งสี่ล้อก็ไม่เป็นตามนั้น ตัวรถก็ออกอาการ  understeer เหมือนเดิม  แฮนด์ลิ่งในโค้งต่างกันเยอะครับ สองคันนี้ ส่วนบนถนนก็มีเพื่อนบ่นหลายคนว่าim แข็งมากอาจจะเหนื่อยหน่อยเวลาขับทางไกล

ขออนุญาติถามเพิ่มเติมครับ หน้าเสือมันดื้อกว่าอิมฯรุ่นก่อนๆ หรือพอๆกันครับ?

IM รุ่นเดิมๆมันน่าจะดิบกว่านี้อีกครับ ตัวใหม่หน้าเสือมันเริ่มมีระบบ Electric เข้ามาช่วยในการปรับ Auto มากขึ้น

ด้วยความที่การกระจายแรงขับเคลื่อนในช่วงสั้นๆ 41:59 ไป 50:50 ขับบนถนนดินมันจะไปดีตามแบบรถ off road
แต่ขับบนสนามมันจะ understeer พอสมควรคับ เป็นข้อด้อยของ Fulltime AWD มาแต่ไหนแต่ไร เทคนิคการขับก็จะแตกต่างจากพวกขับสองปกติ

ส่วน AMG มัน switch แรงขับเคลื่อนไปหน้า-หลังอิสระกว่า เวลาเข้าโค้งหนักๆบางทีมันสลับไปขับหลังเลยเพื่อแก้อาการหน้าดื้อแทน

[sexysecret]

เคยขับ c 43 กับ im เสือคอแดง ในสนามนะครับ
ฟิลลิ่งคนละเรื่องเลย

c43 มีแฮนด์ลิ่งดีกว่าเยอะ หน้าไม่ดื้อ ท้ายไม่ค่อยออก เหยียบส่งในโค้งยังไงท้ายก็ไม่ออก ถ้าใส่เกินไป จะ understeer นิดเดียว แล้วรถจะจัดการถ่ายกำลังกลับมาเองได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ขับสนุกนะครับ ปลอดภัยและรู้สึกมั่นใจมากๆ อัดได้สุดๆไปเลย แถมยังสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้เพราะช่วงล่างไม่แข็งไป โดยรวมผมว่าเป็นระบบส่งกำลังที่เทพมาก

im เสือ คอแดง เคยขับที่พีระ โอ้ understeer สุดๆ จนไม่รู้จะแก้ยังไง ลองทั้ง trail เบรค เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะล้อหน้า ก็ไม่หาย understeer จนสุดท้ายก็ต้องแถเข้าไปทั้งอย่างนั้น แบบ hevy understeer สุดท้ายก็ต้องชะลอมากๆก่อนถึงโค้ง แล้วค่อยเข้าไป ซึ่งเสียเวลาครับ เวลาออกจากโค้ง จะกดหนักๆ เพื่อให้ท้ายออก หรือ หลุดไปเลยท้งสี่ล้อก็ไม่เป็นตามนั้น ตัวรถก็ออกอาการ  understeer เหมือนเดิม  แฮนด์ลิ่งในโค้งต่างกันเยอะครับ สองคันนี้ ส่วนบนถนนก็มีเพื่อนบ่นหลายคนว่าim แข็งมากอาจจะเหนื่อยหน่อยเวลาขับทางไกล

ขออนุญาติถามเพิ่มเติมครับ หน้าเสือมันดื้อกว่าอิมฯรุ่นก่อนๆ หรือพอๆกันครับ?

IM รุ่นเดิมๆมันน่าจะดิบกว่านี้อีกครับ ตัวใหม่หน้าเสือมันเริ่มมีระบบ Electric เข้ามาช่วยในการปรับ Auto มากขึ้น

ด้วยความที่การกระจายแรงขับเคลื่อนในช่วงสั้นๆ 41:59 ไป 50:50 ขับบนถนนดินมันจะไปดีตามแบบรถ off road
แต่ขับบนสนามมันจะ understeer พอสมควรคับ เป็นข้อด้อยของ Fulltime AWD มาแต่ไหนแต่ไร เทคนิคการขับก็จะแตกต่างจากพวกขับสองปกติ

ส่วน AMG มัน switch แรงขับเคลื่อนไปหน้า-หลังอิสระกว่า เวลาเข้าโค้งหนักๆบางทีมันสลับไปขับหลังเลยเพื่อแก้อาการหน้าดื้อแทน

ขอบคุณครับ