ผู้เขียน หัวข้อ: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย  (อ่าน 15375 ครั้ง)

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,621
  จะเปิดให้นำเข้า 0%  จะเอื้อประโยชน์ให้เขาเพื่ออะไร      ทุกวันนี้รัฐบาลก็ส่งเสริมอยู่แล้ว แต่จะให้นำเข้าโดยใช้สิทธิ์ 0%  ส่วนใหญ่ไม่มีใครเอาด้วยหรอกมั้ง   มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่รัฐบาลเล็งเห็นแล้วได้ประโยชน์สูงสุด 

  ส่วน สมอและ สถาบันยานยนต์   มีวิศวกรที่ทรงคุณวุฒิหลายคน  ที่เป็นคนร่างระเบียบ กำหนดเสปก มาตรฐาน รวมถึงขนาดของรถ ความปลอดภัย  เพื่อเอามาสกัดกั้นรถที่ไร้คุณภาพ หรือคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามกำหนด   ไม่ให้หลั่งไหลเข้ามาจนขาดมาตรฐาน  รวมถึงความปลอดภัยบนถนนในการใช้ถนนร่วมกัน       ไม่ใช่ให้รัฐบาลไปสร้างถนนเพิ่มเพื่อกำหนดเลนวิ่งให้รถไฟฟ้าจากประเทศใดประเทศนึง     คือมันต้องคิดส่วนรวมมาก่อนไม่ใช่คิดถึงคนกลุ่มนึงที่อยากได้           

     ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้า  ผมยังเชื่อ  อ พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจ กับคุณวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ที่พูดไว้ในรายการ  ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ควรดูความพร้อมและพฤติกรรมการใช้รถของตนเอง ว่าสามารถชาร์จที่บ้านได้ไหม      เรื่องที่จะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง  ๆ เลิกคิดได้  ทุกประเทศไม่มีใครลงทุนเรื่องแบบนี้  ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครทำแบบนั้นต่อให้ปริมาณรถไฟฟ้ามันจะเพิ่มขึ้นก็ตาม     

    ในด้านภาคประชาชน  การไฟฟ้าให้ใช้ไฟฟ้าห  หน่วยล่ะ .... บาท   ถ้าเกิดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าอนาคตจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รถไฟฟ้าไปทำงาน   ต้องรับภาระในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า     รัฐบาลจะช่วยเหลือคนที่ไม่ได้ซื้อรถไฟฟ้าใช้งานได้อย่างไร ให้จ่ายค่าไฟเท่าเดิมและเก็บภาษีเพิ่มเฉพาะคนที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน
ใช่ครับ จะให้เหลือ 0%เพื่อให้คนบางกลุ่มซื้อรถราคาถูกและรุฐต้องมาเสียรายได้ในการนำมาบริหารประเทศมันก็ไม่ใช่เรื่อง แล้วรถยนต์ไฟฟ้าใช่ว่าจะไม่ทิ้งมลพิษ แต่มลพิษไปอยู่ที่โรงไฟฟ้าและการจัดารแบตเตอรรี่ที่หมดอายุซึ่งเป้นอันตราย รวมไปถึงค่าไฟที่แพงอยู่แล้วต้องมาแพงขึ้นอีก คนอะไรเห็นแก่ตัวชะมัด

ผมรอชาร์จ QC ที่ปั้ม PTT คับ

ตามสบายครับ ถ้าผมต้องจอด ชาร์จ QC  ที่ PTT คือผมไม่มีวัน ซื้อรถ BEV ครับ
ยอมขับ Eco car หรือ HB / PHEV ที่ จอดแวะ เยี่ยว กินกาแฟ เติมน้ำมัน ไม่เกิน 10 นาที พอ
ถึงแม้ผมมีเรื่องไม่เห็นด้วยกับพี่ในคราวก่อน แต่ครั้งนี้ผมสนับสนุนพี่เเรื่องที่พี่ตอบโต้นะ ในกรณีที่ตอบคนอะไรมองโลกแคบ มองอะไรเป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด  แล่วอย่างพวกรถไฟฟ้าฟ้ามาเวลวิ่งได้500กมต่อการชาร์จ1ครั้งก็จริง แต่การใช้งานจริงหละเหลือเท่าไหร่รวมไปถึงการชาร์จแต่ละครั้งที่ใช้เวลานานแม้จะเป็น quick charge แต่ผู้ผลิตรถหลายค่ายก็ไม่แนะนำให้ชาร์จบ่อยๆ แล้วใครจะมามัวเสียเวลารอชาร์จได้บ่อยทุก00-300กม.กันหละครับ แถมที่ชาร์จตามทางหลวงยังไม่เยอะเท่าไรด้วย

เชิญไปโวยวายเรื่องภาษีนำเข้า 0% กันเองคับ ไปชูป้ายที่กระทรวงการคลัง, DTN เลย เค้าเซ็นกันไปตั้งแต่ปี 2004 โน้น อีวีมันอยู่ในหมวด others ของพิกัดรถยนต์ HS code เวอร์ชั่นสมัยโน้น ที่พวกคุณจะซวยกันก็พวกคุณมันไม่มีศักยภาพที่จะแข่งขันได้เอง อีกเรื่อง ตามข้อตกลง ไทยก็สามารถส่งออกรถอีวีไปขายที่จีนได้โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเหมือนกัล ก็แฟร์ดี ตามการค้าแบบเสรีซึ่งพวกชาตินิยมหัวทิ่มแบบพวกคุณรับกันไม่ได้เอง 

0% ก็ดีแล้วพวกที่เอาเปรียบ มัดมือชกมาตลอด มันได้เวลาขยัน ดิ้นรนกันซะที จากไม่เคยเห็นหัวผู้บริโภค แข่งขันสูงขึ้น ตลาดก็คึกคักดี สิ่งนี้พวกคุณคงไม่ชอบกัน เพราะจะอดผูกขาด หลบอยู่หลัง มุขเดิมๆข้ออ้างชาตินิยม ต้องปกป้องอุตเฒ่าทารก บลาๆ

ได้ตามข่าวเทรนด์เทคโนโลยีการชาร์จเร็วกันบ้างปะคับ เค้าไปกันถึงไหนแล้ว ได้มีประสบการณ์ไปชาร์จสักทียังคับ นี้คณยังมโนหลอกตัวเองอยู่ไปวันๆว่า ชาร์จช้า รอนานตลอดกาลและตลอดไป และไม่มีการขยาย network charging station เลย ออกจากกะลาที่พวกค่ายรถพ่นควันมันครอบคุณไว้ ไปดูข้อมูลวิเคราะห์ซะบ้าง 

อีกเรื่อง ผมรอมุขไล่ออกจากประเทศจากคุณอยู่นะ ดูแล้วอนาจมาก
ใครกันแน่ที่อยู่กะลากัน  ชาร์จเร็วที่ว่านี่มันไม่ได้ส่งผลดีต่อแบตเลย ทำให้แบตเสื่อมเร็ว การที่อัดไฟสูงๆย่อมเกิดความร้อนที่แบตและสายไฟ เพราะโลหะยังมีค่าความต้านทานไฟฟ้าอยู่ อัดไฟเยอะขึ้นยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ง่าย แล้วเรื่องพ่นควันหนะ  รถไฟฟ้าคิดว่าไม่ปล่อยมลพิษสักแอะเลยหรอ  ไปดูที่แบตเตอรรี่ได้เลย  เวลาเค้ากำจัดแบตเตอรี่ การรีไซเคิลแบตเตอรี่และการหาแร่มาผลิตแบตเตอรี่ก็สร้างมลภาวะทั้งนั้น   ใครกันแน่กะลาครอบตัวคิดอะไรไม่เป็น บ้านรวยแต่เห็นแก่ตัวแบบนี้ ขนาดแค่คำว่าครับ ยังสะกดว่าแบบนี้ คงจะเป็นพวกพ่อแม่โอ๋เอาใจอย่างเดียวหละนะ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ฆ่าช้างเอางา มองแต่มุมตัวเอง ก็แค่นั้น

คงลืมไปว่า บ้านเรา ไม่ได้มีแต่รถยนต์นั่ง ice

ถ้าตัดสินใจอุ้ม แต่  ev ที่ มี portion นิดเดียว

ปิคอัพ รถตู้ SUV ppv มอไซส์ ตายทั้งตลาด

เค้าก็คงต้องลุกมาขอ สิทธิภาษีบ้าง เอาไงดี เอา รถ ev ไปบรรทุกปุ๋ย ก็ไม่ได้อีก

มอไซส์ไฟฟ้าจีน ราคาถูกกว่า จักรยาน ทะลักเข้าไทย เต็มเพจ
จดทะเบียนได้ แต่ ไม่มีใครซื้อเท่าไหร่ ทำไมอ่ะ ทำไมนะทำไม

ส่วนคนที่จะซื้อ bev ก็ยังไม่พร้อม คนใช้ก็มีจำกัด คนที่เจ็บ กับ hb แถวแรก ยังมีอีกเยอะ

เอาเข้ามา ตอนนี้ ก็มีแต่จะเหงาอ่ะนะ

ปล เบื่อวาทกรรม เทคโนโลยี เก่าๆ อ่ะนะ

เปลี่ยนเป็นคำว่า ไร้ไอเสียจะดูดีเสียกว่า

เพราะ

รถไฟฟ้า Bev มันก็ไม่ได้ ซับซ้อนอะไร

ที่มันแพง แพงตรงแบต

ที่มันยังไปไหนไม่ไกล ไม่รุ่ง

ทั้งระยะทาง และ ยอดขาย

ก็ติดที่แบต นี่หล่ะ

ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า

หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ

ผมยังไม่เห็นรัฐบวมมีท่าทีอุ้มอีวีนะ พูดอย่างทำอย่าง

มอไซด์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดนานแล้ว หน้าใหม่มาอยุ่ไม่นาน ล้มปิดธุรกิจกันไปเพราะไม่ได้ลงเรื่อง aftersale service เน้นขายอย่างเดียว แบตเป็น lead acid เสื่อมเร็ว พอลูกค้าซื้อไปถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตแล้ว ก็ไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยน สุดท้ายต้องทิ่งมอไซด์ไป ตอนนี้แบตเป็น litium กันส่วนใหญ่แล้ว รอดูฝีมือแบรนด์ swag ที่แบตถอดเปลี่ยนไปเหมือน gogoro ว่าเป็นยังไงกันบ้าง

เทคโนเก่าๆ ที่ผมหมายถึงคือพวก ไฮบริด มันเก่าจริง โละมาขายโดยค่ายรถเจ้าตลาดสุดที่เลิฟของพวกชาตินิยมหลายๆคน

มองเผินๆ รถอีวีมันไม่ได้ซับซ้อน แต่อุตในไทยมันไม่มีสกิลผลิตแบตไง วัตถุดิบยังไม่มีเลย นี่ยังกล้าอ้างตัวขายฝันจะเป็นฮับ

ระยะทางในวงการ mass เค้าเล็งกันที่ 500-600 กิโลกันแล้ว ราคาก็ประมาณ B-SUV ทั่วไป

"ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า" ไม่ต้องห่วงคับ เดี่ยวมีมาให้เลือกทั้งแบรนด์จีนเอง และแบรนด์ฝรั่งที่เมินไทยแลนด์ฮับไปผลิตที่จีน  :P

"หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ" ได้ลองขับหรือลองใช้ในชีวิตจิงยังคับ? จากประสบการณ์ใช้ มันก็ value for money จริง แม้แบต CATL อาจยังไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับแบตของพวก LG chem, SK, SDI แต่ผมก็มี active cooling ทั้งมอเตอร์ และชุดแบต  แถม obc ยังได้พอโอเคที่ 6.6 kw สำหรับ normal charge และ 75-80kw สำหรับ fast charge ถ้าผมจ่าย 1.5-2.0 ล้านแต่ได้ obc อย่างเต่าที่ 2-3 kw หัวชาร์จหาโคตรยาก fast charge ยังได้แค่ 50kw แถมไม่มีระบบ cooling เรียกว่าอะไรดีคับ


ผมยังไม่เห็นรัฐบวมมีท่าทีอุ้มอีวีนะ พูดอย่างทำอย่าง,.......


เห็นชอบลดภาษีรถไฟฟ้าเหลือ 0% เวลา 3 ปี คาดสูญรายได้ 1.5 พันล้าน


https://voicetv.co.th/read/kwHU-mH12

เค้าก็มีมาตรการ มาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้องการลดฝุ่น

มอไซด์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดนานแล้ว หน้าใหม่มาอยุ่ไม่นาน ล้มปิดธุรกิจกันไปเพราะไม่ได้ลงเรื่อง aftersale service.......

เพราะ ถ้าใช้ของดีมาก ราคาก็จะโดด ขายไม่ได้

ถ้าบริการดีมาก ก็จะแพง สุดท้าย ตายอยู่ดี

ที่สำคัญคือ มันไม่ตอบโจทย์คนไทย ขาแว้นส่วนมาก รถใช้งาน มามัวชาา์ทแบต มันยังไม่ใช่ อย่างน้อย ก็ชั่งโมงนี้

คงไม่ต่างจาก bev ชั่วโมงนี้ มันไม่ใช่สำหรับ รถคันแรก มันไม่ใช่ รถสำหรับทุกคน มันไม่ใช่ สำหรับ สินค้า ที่ถูกจัดว่าอยู่ในกลุ่มฟุ่มเฟือย



เทคโนเก่าๆ ที่ผมหมายถึงคือพวก ไฮบริด มันเก่าจริง โละมาขายโดยค่ายรถเจ้าตลาดสุดที่เลิฟของพวกชาตินิยมหลายๆคน,........

ถ้าตามวงการรถยนต์มาตั้งแต่ ปี 80-90

Hybrid ทำมาเพื่อ ทดแทนข้อเสีย ของรถไฟฟ้าล้วน ที่ระยะทางไปได้ไม่ไกล ความสะดวกในการ ชาร์ท และ แบตเตอรี่ ราคาแพง  และมีขนาดหนัก โดยการรวบรวมเอาข้อดี ของเครื่องยนต์ทั้งสองแบบ ไว้ด้วยกัน  (ไม่นับเรื่อง Atkinson's cycle)

ซึ่งถ้าจะทำแบบ เนียนๆ ทนๆ สำหรับผม มันทำยากกว่า Bev มากมายนัก ขนาด รถจาก เยอรมัน หลายค่าย ยังอ้วกแตก มาหลายรอบ ทุกวันนี้ยังไม่นิ่งเท่าไหร่ รถค่ายเมกา เริ่มมาพร้อมกัน ตายกลางทาง ซะงั้น

ส่วนจีน ขอเอาดีทาง Bev เพราะ อันตัวข้า ครองแหล่งลิเธียม ไว้เยอะ แถม ยังช่วยเงินแถมให้เวลาซื้อ Bev อีกด้วย พอลดเงิน ยอดก็ตก ลองไปหาดูละกัน

ระยะทางในวงการ mass เค้าเล็งกันที่ 500-600 กิโลกันแล้ว ราคาก็ประมาณ B-SUV ทั่วไป

ทำได้ก็ดีครับ อันนี้ สนับสนุน แต่ต้องรับผิดชอบเรื่องกำจัดแบตด้วยนะ เพราะ ใช้แบตเยอะมาก ทิ้งเป็นขยะ ไม่ได้

อย่ามาทำธุรกิจ ตีหัวเข้าบ้าน  ไม่ดีไม่เอา



ย้อนกลับไปเรื่องภาษี ตอนนี้ก็ได้เปรียบ เพื่อนเยอะอยู่

ถ้าเอาของดีมาขาย มีความทนทาน งานบริการดี ในราคาที่ไม่แพง เด๋วมันก็เกิดเองละครับ ผู้บริโภค เป็นตนตัดสิน

รอดู mg อีกสักนิด ยังไม่สาย ราคาพอๆกับรถน้ำมันขนาดเดียวกัน สินค้า ก็ไม่น่าจะไก่กา (ไม่นับสปริงหัก)

 ถ้าไปได้ดี เด่วรุ่นอื่น ตามมาเอง

รัฐบาล ก็ควรจะพิจารณา ปรับเปลี่ยนอะไรก็ว่าไป ตามพฤติกรรม ผู้บริโภค

แต่ถ้าไม่รุ่ง เอาไงดีหว่า

เสร็จงานฆ่าโคถึก ไปซะและ

รัฐบวมนี้นโยบายขัดๆกันเพี้ยนๆ ลองไปค้นๆข้อมูลดูนะคับ ตัวอย่างทีเด็ดมีทั้ง ภาษีสรรพสามิตโหดๆสำหรับแบตเตอรี่ และสูตรคำนวณโควต้านำเข้าอีวี ไม่ต้องเสียภาษีของบีโอไอ และ Freezone scheme ที่โหดสุดๆทำเอา local content value แทบจะเกือบ 100% ข้อมูล official หาได้จากเว็บรัฐง่ายๆ นโยบายพิสดารพวกนี้สื่อถึงความพยายามหลอกตัวเองว่าข้านี้เป็นฮับของรถพ่นควันได้อย่างดี

สำหรับ HEV คุณจะอ้างว่า จะทำเนียนๆให้สมดุลกันยาก ดูเก่งยังไง ผมก็มอง แล้วยังไง มันแค่เพื่อประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่พ่นควันกันเหมือนเดิม  แต่ก็มีค่ายรถสุดที่เลิฟของหลายๆคนพยายามบิดเบือนทั้งในสื่อและในโคสะนาต่างๆ ว่ามันคือรถอีวี  ;D

ส่วนเรื่องสปริงหักนี่ ผมดูเนื้องานแล้ว เบื้องหลัง ได้ยินจากในวงใน ไม่เนียนเลยจิงๆ รอยแผลแบบนั้น ซุ้มล้อทะลุ รถมันพลิกคว่ำไปถึงไหนแล้ว คนเล่าเรื่องไม่ได้มีโอกาสมาเล่ามโนสตอรี่ยาว อาการเหมือนถอดมาใช้แก๊สตัดเหล็กทำให้เสียหาย มันมีพิรุธขนาดนั้น เลยรีบถอนคำหาเรื่องทั้งหมดแบบจากหน้ามือเป็นหลังมือ  ไม่ใช่ว่าผมเข้าข้างพี่เม้ง เพราะเรื่องมันมีความแปลก ก็วิจารณ์กันไป ผมเองยังวิจารณ์พี่เม้งทั้งหนักๆ แดกดันไปบ้างเช่น วิทยุยัดแอ๊พขยะ _rue music มา แล้วตัด carplay/android auto ออก  ติเพื่อก่อ ให้ปรับปรุงแก้ไขเรื่อยๆไป

ส่วนรุ่นอื่นๆที่พลังแรงกว่า หรูกว่า ระยะทางมากกว่า เตรียมรอ Marvel X, E-motion กันได้คับ ราคาไปฆ่าพวก camry, accord นั่นแหระ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
  จะเปิดให้นำเข้า 0%  จะเอื้อประโยชน์ให้เขาเพื่ออะไร      ทุกวันนี้รัฐบาลก็ส่งเสริมอยู่แล้ว แต่จะให้นำเข้าโดยใช้สิทธิ์ 0%  ส่วนใหญ่ไม่มีใครเอาด้วยหรอกมั้ง   มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่รัฐบาลเล็งเห็นแล้วได้ประโยชน์สูงสุด 

  ส่วน สมอและ สถาบันยานยนต์   มีวิศวกรที่ทรงคุณวุฒิหลายคน  ที่เป็นคนร่างระเบียบ กำหนดเสปก มาตรฐาน รวมถึงขนาดของรถ ความปลอดภัย  เพื่อเอามาสกัดกั้นรถที่ไร้คุณภาพ หรือคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามกำหนด   ไม่ให้หลั่งไหลเข้ามาจนขาดมาตรฐาน  รวมถึงความปลอดภัยบนถนนในการใช้ถนนร่วมกัน       ไม่ใช่ให้รัฐบาลไปสร้างถนนเพิ่มเพื่อกำหนดเลนวิ่งให้รถไฟฟ้าจากประเทศใดประเทศนึง     คือมันต้องคิดส่วนรวมมาก่อนไม่ใช่คิดถึงคนกลุ่มนึงที่อยากได้           

     ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้า  ผมยังเชื่อ  อ พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจ กับคุณวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ที่พูดไว้ในรายการ  ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ควรดูความพร้อมและพฤติกรรมการใช้รถของตนเอง ว่าสามารถชาร์จที่บ้านได้ไหม      เรื่องที่จะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง  ๆ เลิกคิดได้  ทุกประเทศไม่มีใครลงทุนเรื่องแบบนี้  ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครทำแบบนั้นต่อให้ปริมาณรถไฟฟ้ามันจะเพิ่มขึ้นก็ตาม     

    ในด้านภาคประชาชน  การไฟฟ้าให้ใช้ไฟฟ้าห  หน่วยล่ะ .... บาท   ถ้าเกิดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าอนาคตจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รถไฟฟ้าไปทำงาน   ต้องรับภาระในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า     รัฐบาลจะช่วยเหลือคนที่ไม่ได้ซื้อรถไฟฟ้าใช้งานได้อย่างไร ให้จ่ายค่าไฟเท่าเดิมและเก็บภาษีเพิ่มเฉพาะคนที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน
ใช่ครับ จะให้เหลือ 0%เพื่อให้คนบางกลุ่มซื้อรถราคาถูกและรุฐต้องมาเสียรายได้ในการนำมาบริหารประเทศมันก็ไม่ใช่เรื่อง แล้วรถยนต์ไฟฟ้าใช่ว่าจะไม่ทิ้งมลพิษ แต่มลพิษไปอยู่ที่โรงไฟฟ้าและการจัดารแบตเตอรรี่ที่หมดอายุซึ่งเป้นอันตราย รวมไปถึงค่าไฟที่แพงอยู่แล้วต้องมาแพงขึ้นอีก คนอะไรเห็นแก่ตัวชะมัด

ผมรอชาร์จ QC ที่ปั้ม PTT คับ

ตามสบายครับ ถ้าผมต้องจอด ชาร์จ QC  ที่ PTT คือผมไม่มีวัน ซื้อรถ BEV ครับ
ยอมขับ Eco car หรือ HB / PHEV ที่ จอดแวะ เยี่ยว กินกาแฟ เติมน้ำมัน ไม่เกิน 10 นาที พอ
ถึงแม้ผมมีเรื่องไม่เห็นด้วยกับพี่ในคราวก่อน แต่ครั้งนี้ผมสนับสนุนพี่เเรื่องที่พี่ตอบโต้นะ ในกรณีที่ตอบคนอะไรมองโลกแคบ มองอะไรเป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด  แล่วอย่างพวกรถไฟฟ้าฟ้ามาเวลวิ่งได้500กมต่อการชาร์จ1ครั้งก็จริง แต่การใช้งานจริงหละเหลือเท่าไหร่รวมไปถึงการชาร์จแต่ละครั้งที่ใช้เวลานานแม้จะเป็น quick charge แต่ผู้ผลิตรถหลายค่ายก็ไม่แนะนำให้ชาร์จบ่อยๆ แล้วใครจะมามัวเสียเวลารอชาร์จได้บ่อยทุก00-300กม.กันหละครับ แถมที่ชาร์จตามทางหลวงยังไม่เยอะเท่าไรด้วย

เชิญไปโวยวายเรื่องภาษีนำเข้า 0% กันเองคับ ไปชูป้ายที่กระทรวงการคลัง, DTN เลย เค้าเซ็นกันไปตั้งแต่ปี 2004 โน้น อีวีมันอยู่ในหมวด others ของพิกัดรถยนต์ HS code เวอร์ชั่นสมัยโน้น ที่พวกคุณจะซวยกันก็พวกคุณมันไม่มีศักยภาพที่จะแข่งขันได้เอง อีกเรื่อง ตามข้อตกลง ไทยก็สามารถส่งออกรถอีวีไปขายที่จีนได้โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเหมือนกัล ก็แฟร์ดี ตามการค้าแบบเสรีซึ่งพวกชาตินิยมหัวทิ่มแบบพวกคุณรับกันไม่ได้เอง 

0% ก็ดีแล้วพวกที่เอาเปรียบ มัดมือชกมาตลอด มันได้เวลาขยัน ดิ้นรนกันซะที จากไม่เคยเห็นหัวผู้บริโภค แข่งขันสูงขึ้น ตลาดก็คึกคักดี สิ่งนี้พวกคุณคงไม่ชอบกัน เพราะจะอดผูกขาด หลบอยู่หลัง มุขเดิมๆข้ออ้างชาตินิยม ต้องปกป้องอุตเฒ่าทารก บลาๆ

ได้ตามข่าวเทรนด์เทคโนโลยีการชาร์จเร็วกันบ้างปะคับ เค้าไปกันถึงไหนแล้ว ได้มีประสบการณ์ไปชาร์จสักทียังคับ นี้คณยังมโนหลอกตัวเองอยู่ไปวันๆว่า ชาร์จช้า รอนานตลอดกาลและตลอดไป และไม่มีการขยาย network charging station เลย ออกจากกะลาที่พวกค่ายรถพ่นควันมันครอบคุณไว้ ไปดูข้อมูลวิเคราะห์ซะบ้าง 

อีกเรื่อง ผมรอมุขไล่ออกจากประเทศจากคุณอยู่นะ ดูแล้วอนาจมาก
ใครกันแน่ที่อยู่กะลากัน  ชาร์จเร็วที่ว่านี่มันไม่ได้ส่งผลดีต่อแบตเลย ทำให้แบตเสื่อมเร็ว การที่อัดไฟสูงๆย่อมเกิดความร้อนที่แบตและสายไฟ เพราะโลหะยังมีค่าความต้านทานไฟฟ้าอยู่ อัดไฟเยอะขึ้นยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ง่าย แล้วเรื่องพ่นควันหนะ  รถไฟฟ้าคิดว่าไม่ปล่อยมลพิษสักแอะเลยหรอ  ไปดูที่แบตเตอรรี่ได้เลย  เวลาเค้ากำจัดแบตเตอรี่ การรีไซเคิลแบตเตอรี่และการหาแร่มาผลิตแบตเตอรี่ก็สร้างมลภาวะทั้งนั้น   ใครกันแน่กะลาครอบตัวคิดอะไรไม่เป็น บ้านรวยแต่เห็นแก่ตัวแบบนี้ ขนาดแค่คำว่าครับ ยังสะกดว่าแบบนี้ คงจะเป็นพวกพ่อแม่โอ๋เอาใจอย่างเดียวหละนะ

และแล้วก็ยังคงมโนกันต่อไปว่า เทคโนโลยีแบตมันจะไม่มีการปรับปรุงพัฒนาให้ทนถึก รับquick charge kw เยอะๆได้ ซึ่งอุตสาหกรรมภายในแค่แบตเจนปัจจุบันมันยังไม่มีสกิลผลิตได้เองเลย ไม่ต้องคิดถึงแบตเจนใหม่ๆ

มาเร็วๆคับ มุขไล่ออกจากประเทศเนี่ย  ;D ;D

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,598
ผมตามอ่านอยู่คับ... แต่ขอโทษที่พูดตามตรงผมจับประเด็นไม่ค่อยได้จริงๆ
งั้นขอแสดงความเห็นตามหัวข้อก็แล้วกัน

ถ้าจะบอกว่าการมีกำแพงภาษีนำเข้าคือการดันทุรังอุ้มอุตสาหกรรมในประเทศ+ชาตินิยม ผมมองเป็นเรื่องปกติ
เพราะมันก็มีกำแพงภาษีนำเข้าในหลายๆสินค้าที่มีการผลิตในประเทศ สากกะเบือยันเรือรบ ไม่ใช่กับแค่รถยนต์

เรื่องนี้ถ้ารถยนต์ EV จากนอกประเทศเช่นจีนอยากจะเข้ามาแข่งขันภายในประเทศแล้วได้สิทธิพิเศษทางภาษีเหมือนค่ายรถอื่น
ก็เข้ามาผลิตในประเทศกลุ่มอาเซียนแล้วใช้ชิ้นส่วน supply ในภูมิภาคตามกำหนด ก็น่าจะทำราคาแข่งกับเจ้าอื่นได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2020, 21:11:17 โดย akewizard »

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,601
ประเด็น จขกท คืออะไร    เห็นโพสต์แบบนี้มาเยอะ 

    จะให้รัฐบาลเลิกอุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์งั้นเหรอ  ?   
      ประโยชน์ที่ได้รับ คืออะไร ใครได้ประโยชน์บ้าง  มีคำตอบหรือยัง ?
 
    แล้วมีคำตอบหรือยังว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ได้ซื้อรถ    จะได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องดังกล่าว รัฐบาล หรือประทศไทยได้อะไรบ้าง   เมื่อพวกเขาไม่ได้อะไร   จะมีคนยอมทำตามที่ จขกท อยากให้เป็น   คงไม่มีทาง   

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ผมตามอ่านอยู่คับ... แต่ขอโทษที่พูดตามตรงผมจับประเด็นไม่ค่อยได้จริงๆ
งั้นขอแสดงความเห็นตามหัวข้อก็แล้วกัน

ถ้าจะบอกว่าการมีกำแพงภาษีนำเข้าคือการดันทุรังอุ้มอุตสาหกรรมในประเทศ+ชาตินิยม ผมมองเป็นเรื่องปกติ
เพราะมันก็มีกำแพงภาษีนำเข้าในหลายๆสินค้าที่มีการผลิตในประเทศ สากกะเบือยันเรือรบ ไม่ใช่กับแค่รถยนต์

เรื่องนี้ถ้ารถยนต์ EV จากนอกประเทศเช่นจีนอยากจะเข้ามาแข่งขันภายในประเทศแล้วได้สิทธิพิเศษทางภาษีเหมือนค่ายรถอื่น
ก็เข้ามาผลิตในประเทศกลุ่มอาเซียนแล้วใช้ชิ้นส่วน supply ในภูมิภาคตามกำหนด ก็น่าจะทำราคาแข่งกับเจ้าอื่นได้

ไม่จำเป็นต้องมาลงทุนในประเทศนี้เลยคับ ทั้งแบรนด์จีนและแบรนด์ฝรั่ง ถ้าอยากขายอีวีในประเทศนี้ ง่ายมาก สั่งมาจากจีน เพราะภาษีนำเข้ามันเป็น 0% ตามข้อตกลงการค้า ACFTA ตอนนี้คุณเริ่มเห็นเม้งกวงเอารุ่นนึงเข้ามาแล้ว ต่อไปมีรุ่นอื่นๆมาเพิ่มอย่างน้อยสามรุ่น บีวายดีรอรุ่นที่เน้น passenger car อย่าง tang, han ทำขับขวาก็จะนำเข้ามาขาย ส่วนวอลโว่ บีเอ็ม มินิรอสั่งข้ามาขายเช่นเดียวกัน  ผู้บริโภคฟินดีคับ

ถ้ามาดื้อด้านลงทุนประกอบที่นี้ คุณเจอต้นทุนแพงกว่าทุกอย่าง จะทำเพื่อ?

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ประเด็น จขกท คืออะไร    เห็นโพสต์แบบนี้มาเยอะ 

    จะให้รัฐบาลเลิกอุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์งั้นเหรอ  ?   
      ประโยชน์ที่ได้รับ คืออะไร ใครได้ประโยชน์บ้าง  มีคำตอบหรือยัง ?
 
    แล้วมีคำตอบหรือยังว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ได้ซื้อรถ    จะได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องดังกล่าว รัฐบาล หรือประทศไทยได้อะไรบ้าง   เมื่อพวกเขาไม่ได้อะไร   จะมีคนยอมทำตามที่ จขกท อยากให้เป็น   คงไม่มีทาง   

ไม่ได้โวยวายให้รัฐบวมเลิกอุ้มอุตสาหกรรมเฒ่าทารกของพวกคุณสักหน่อย กลับกัน ผมอยากให้ดื้อๆ อุ้มแบบนี้ไปเลย ให้สมชื่อที่มั่นสุดท้ายของรถพ่นควัน เพราะอุ้มแบบนี้นั่นละ ทำให้พวกคุณโคตรอ่อนแอ ไร้ซึ่งสกิลในการทำของเทคโนใหม่ๆ ถึงดื้อด้านเอามาประกอบให้ได้ ต้นทุนพวกคุณก็สูงกระจาย ทำให้ราคาตั้งแพงกว่าของนำเข้าจากจีน และอินโดไม่ได้ แถมออฟชั่นยังกั๊ก และงานประกอบเป็นรองอีก แถมไม่เห็นหัวผู้บริโภคกันอยู่แล้ว

อุ้มไปดีแล้วคับ  ::)

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,598
ผมตามอ่านอยู่คับ... แต่ขอโทษที่พูดตามตรงผมจับประเด็นไม่ค่อยได้จริงๆ
งั้นขอแสดงความเห็นตามหัวข้อก็แล้วกัน

ถ้าจะบอกว่าการมีกำแพงภาษีนำเข้าคือการดันทุรังอุ้มอุตสาหกรรมในประเทศ+ชาตินิยม ผมมองเป็นเรื่องปกติ
เพราะมันก็มีกำแพงภาษีนำเข้าในหลายๆสินค้าที่มีการผลิตในประเทศ สากกะเบือยันเรือรบ ไม่ใช่กับแค่รถยนต์

เรื่องนี้ถ้ารถยนต์ EV จากนอกประเทศเช่นจีนอยากจะเข้ามาแข่งขันภายในประเทศแล้วได้สิทธิพิเศษทางภาษีเหมือนค่ายรถอื่น
ก็เข้ามาผลิตในประเทศกลุ่มอาเซียนแล้วใช้ชิ้นส่วน supply ในภูมิภาคตามกำหนด ก็น่าจะทำราคาแข่งกับเจ้าอื่นได้

ไม่จำเป็นต้องมาลงทุนในประเทศนี้เลยคับ ทั้งแบรนด์จีนและแบรนด์ฝรั่ง ถ้าอยากขายอีวีในประเทศนี้ ง่ายมาก สั่งมาจากจีน เพราะภาษีนำเข้ามันเป็น 0% ตามข้อตกลงการค้า ACFTA ตอนนี้คุณเริ่มเห็นเม้งกวงเอารุ่นนึงเข้ามาแล้ว ต่อไปมีรุ่นอื่นๆมาเพิ่มอย่างน้อยสามรุ่น บีวายดีรอรุ่นที่เน้น passenger car อย่าง tang, han ทำขับขวาก็จะนำเข้ามาขาย ส่วนวอลโว่ บีเอ็ม มินิรอสั่งข้ามาขายเช่นเดียวกัน  ผู้บริโภคฟินดีคับ

ถ้ามาดื้อด้านลงทุนประกอบที่นี้ คุณเจอต้นทุนแพงกว่าทุกอย่าง จะทำเพื่อ?

ถ้างั้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ ใครอยากลองรถ EV ก็ซื้อรถนำเข้าจากจีนในราคา (ที่คิดว่า) คุ้มค่า
ส่วนคนที่ยังนิยมรถเครื่องยนต์น้ำมันที่ผลิตและประกอบในประเทศ จะด้วยเหตุผลอะไรหรือมุกอะไรก็ตามก็ไม่น่าจะมีปัญหาเช่นกัน ผมว่ามันก็รับฟังได้นะ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,621
ประเด็น จขกท คืออะไร    เห็นโพสต์แบบนี้มาเยอะ 

    จะให้รัฐบาลเลิกอุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์งั้นเหรอ  ?   
      ประโยชน์ที่ได้รับ คืออะไร ใครได้ประโยชน์บ้าง  มีคำตอบหรือยัง ?
 
    แล้วมีคำตอบหรือยังว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ได้ซื้อรถ    จะได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องดังกล่าว รัฐบาล หรือประทศไทยได้อะไรบ้าง   เมื่อพวกเขาไม่ได้อะไร   จะมีคนยอมทำตามที่ จขกท อยากให้เป็น   คงไม่มีทาง   

ไม่ได้โวยวายให้รัฐบวมเลิกอุ้มอุตสาหกรรมเฒ่าทารกของพวกคุณสักหน่อย กลับกัน ผมอยากให้ดื้อๆ อุ้มแบบนี้ไปเลย ให้สมชื่อที่มั่นสุดท้ายของรถพ่นควัน เพราะอุ้มแบบนี้นั่นละ ทำให้พวกคุณโคตรอ่อนแอ ไร้ซึ่งสกิลในการทำของเทคโนใหม่ๆ ถึงดื้อด้านเอามาประกอบให้ได้ ต้นทุนพวกคุณก็สูงกระจาย ทำให้ราคาตั้งแพงกว่าของนำเข้าจากจีน และอินโดไม่ได้ แถมออฟชั่นยังกั๊ก และงานประกอบเป็นรองอีก แถมไม่เห็นหัวผู้บริโภคกันอยู่แล้ว

อุ้มไปดีแล้วคับ  ::)
คนอะไรน่าสมเพศ พูดเหยียดคนอื่นตลอดแบบนี้ ทุเรศมาก แล้วไอ้รถไฟฟ้ามันซับซ้อนตรงไหนกันแค่รถใส่ถ่านระบบเกียร์ก็เกียร์เดียวเน้นการมอเตอร์แรงม้าสูงอัดไฟเยอะแต่ปลายเหี่ยว.  และที่สำคัญแบตโซลิตสเตทก็ยังไม่มีวางจำหน่ายยังอยู่ในขั้นพัฒนา. และที่สำคัญอันตรายจากการเกิดไฟไหม้ยังให้เห็นบ่อยในเทสล่า. อีกอย่างนะคนที่อยู่คอนโดหรือหอพักเค้าไม่สะดวกหรอกที่จะมาชาร์จข้ามคืนเพราะระบบที่ชาร์จทั้งคอนโดและหอพักยังไม่มี แถมการเสียบข้าทคืนก็ยังเสี่ยงต่อเหตุไฟไหม้แบบที่เคยเกิดกับพอร์ช ปลั๊กอินไฮบริดของพูดบางคนอีก. ถ้ามันตอบโจทย์ผู้บริโภคคนก็ซื้อใช้กันเยอะแล้วนะคนรวยขี้เหยียด. แล้วมีพ่อเป็นจีนหรือไงครับถึงจะให้ประกอบแต่จีนเพราะราคาถูกแต่ทำให้คนในประเทศอดตายเกิดปัญหาอาชญากรรมปล้นจี้กันเพราะคนตกงานไม่มีอะไรจะกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 30, 2020, 04:06:31 โดย deertesla »

ออฟไลน์ kabokaboh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 302
อ้างถึง
รัฐบวมนี้นโยบายขัดๆกันเพี้ยนๆ ลองไปค้นๆข้อมูลดูนะคับ ตัวอย่างทีเด็ดมีทั้ง ภาษีสรรพสามิตโหดๆสำหรับแบตเตอรี่ และสูตรคำนวณโควต้านำเข้าอีวี 

เรื่องภาษี ก็ดีแล้วนิครับ ระบบภาษี มีไว้ต่อรอง เพื่อผลประโยชน์ชาติ ไม่ให้ใคร มาเอาเปรียบ หรือ เป็นแรงจูงใจ ให้มาลงทุน เหมือนกับที่ทำสำเร็จมาแล้ว ในหลายๆเรื่อง

ระบบภาษี การค้า ที่ไหนๆ บนจักรวาล นี้เค้าก็ใช้กันไม่ใช่หรือ

ส่วนที่ โปรจีน ลดภาษี อีวี  รฐบ ก็ทำอยู่ ในระดับนึงละ ถ้ายังไม่ดี ผลเสียเยอะ เด่วเค้าก็ปรับใหม่เอง  ทำใจเย็นๆ


อ้างถึง
  สำหรับ HEV คุณจะอ้างว่า จะทำเนียนๆให้สมดุลกันยาก ดูเก่งยังไง ผมก็มอง แล้วยังไง มันแค่เพื่อประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่พ่นควันกันเหมือนเดิม


รถยนต์ไฟฟ้า มันเกิดมาก่อน รถยนต์สันดาปภายใน หลายสิบปี

แต่ มาเสียพื้้นที่ยืน บนโลกนี้ ให้เครื่องยนต์ ice มากว่าร้อยปี ก็เพราะ แบตเตอรี่ เป็นข้อจำกัด

มันไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด

อันนี้ ไม่ขอโต้ตอบใดๆ เพราะ ถือว่า ชัดเจนอยู่แล้ว ที่ผู้ผลิตพัฒนาระบบ hybrid มาเพื่อทดแทน รถ Bev ในวันที่ battery เทพ ความจุสูง น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง ไม่ทำลายสิ่งล้อม

มันยังมาไม่ถึง

และ ผมก็เชื่อว่า คนไทยทุกคน หรือ อย่างน้อย ก็ส่วนมาก

อยากใช้รถไฟฟ้า เหมือนกับท่าน แต่ ทุกอย่างมันต้องเหมาะสมกับผู้ใช้งานด้วย เขาถึงจะเลือกใช้กัน

ไม่ใช่แต่ราคา ถูก เพราะ ลดภาษี อย่างเดียว

ชั่วโมงนี้ ev ยังเหมาะ กับเฉพาะ คนกลุ่มเล็กไป แล้ว รฐบ เค้าจะอุ้ม ไปทำไม คนส่วนใหญ่ไม่ได้อะไร

ขนาดจีนเอง เพื่อ ธุรกิจ ของเขา รฐบ จีน ยังแจกตังค์ ให้ ถ้าซื้อ Bev เยอะด้วย

เพราะ คนเค้าเอง ก็ใช่ว่าจะพร้อมใช้กันทุกคน

แล้ว เราหล่ะ มันดีพอสำหรับทุกคนหรือยัง

คนไทย ไม่ได้มีฐานะ เหมือนท่านทุกคน ที่จะเอาเงิน หลายแสน หรือ หลักล้าน มาเสี่ยงกับเรื่องนี้

ถ้าอยากได้อากาศสะอาดๆ ไปดูเรื่อง รถเก่า รถดีเซล รถดัดแปลง ดันราง ควันดำ คัด egr เพิ่มขนส่งสาธารณะ  หรือแม้กระทั่ง online platform หรือ WFH เพื่อบดการเดินทาง จะตรงประเด็นกว่า

ที่จะคิดเทน้ำสะอาด ราคาแพง นิดหน่อย ลงไปใสบ่อน้ำเสีย แล้วหวังว่า มันจะสะอาด ทั้งบ่อ

อ้างถึง
  ส่วนเรื่องสปริงหักนี่ ผมดูเนื้องานแล้ว เบื้องหลัง ได้ยินจากในวงใน ไม่เนียนเลยจิงๆ รอยแผลแบบนั้น ซุ้มล้อทะลุ


ถ้าไม่จริง อย่างที่ เป็นข่าว ทั้ง qc และ การบริการ

mg ควรชี้แจง เพราะ เป็นเรื่อง ที่ทำให้ mg เสื่อมเสียชื่อเสียง

โดยตรง

วงใน วงนอก วงไฮโล ไม่นับเป็นเหล่งข้อมูลอ้างอิง

แต่ผมเองยังไม่เคยเห็นข่าวนั้นเลย  หรือ ผมอาจจะตกข่าว ถ้ามีการชี้แจงจาก mg  ถ้ามีรบกวนช่วยบอกด้วย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 30, 2020, 09:05:51 โดย kabokaboh »

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,228
    • อีเมล์
ถ้ามีรถไฟฟ้าล้วน เพิ่มขึ้นสัก 10% เราเอาไฟฟ้าจากไหนครับ !!!!!