ผู้เขียน หัวข้อ: ขอฝากถึงทุกท่านที่ทำงานบริษัทรถยนต์ทุกเจ้าหน่อยนะครับ เรื่องวิทยุรถยนต์ครับ  (อ่าน 15506 ครั้ง)

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
อยากจะบอกว่า อยากให้ลองไปอ่านใน web รถยนต์ เช่น Thaimarch ซึ่งผมไปอ่านมา
เขามีปัญหาว่า ถึงเวลาหรือยังที่ควรจะมี USB ในรถแทน CD ซึ่งจากการอ่านพบว่า
การใช้ Aux-in มันไม่ work เลย เสียงไม่ชัด เดี่ยวนี้หลายๆ คนมี I-pod I-phone
แทนที่จะต่อโดยใช้ USB ได้ กลับต้องมาใช้สาย Aux-in ซึ่งไม่ดี
บางคนก็ไปซื้อที่ต่อกับที่จุดบุหรี่มา เสียงมันก็ drop ลงไป
ผมว่าต้นทุนเครื่องเสียง USB ไม่มี CD มันคงไม่แพงมากหรอกมั้งครับ
http://www.vivaonline.biz/ETR_MP3.htm
เครื่องนี้ 1600 บ.เอง ของบริษัทรถทำเยอะๆ น่าจะได้ราคาถูกกว่านี้

ขอฝากไปพิจารณาทีนะครับ เพราะบางรุ่นมันเปลี่ยนเครื่องเสียงไม่ได้เลย เช่น เฟียสต้า หรือเปลี่ยนแล้วมันไม่สวย เช่น
March เครื่องเสียงเดิมรูปทรงสวยมาก แต่เสียงตรงไม่มี USB
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
ผมว่ายังไม่ถึงเวลา ที่จะเปลี่ยนเป็น USB โดยไม่มี CD ครับ

เพราะผมยังนิยมใช้ CD อยู่
คนที่บ้านผม ก็ใช้ CD กันอยู่ ไม่มีใครใช้ USB เลยครับ
คงมีแต่ผมนี่แหละ ที่ใช้ iPod ต่อเข้ากับเครื่องเสียงของรถ

อย่าง Jazz ที่ท่านน้าผมใช้อยู่ ก็ไม่เคยแม้แต่จะเปิดช่องต่อ USB เลยครับ
จนทุกวันนี้สาย USB หายไปแล้ว  :D


(กลับเข้าประเด็นในกระทู้)

ช่อง AUX in กับ USB เนี่ย
ผมชอบ AUX in มากกว่าครับ
เพราะเราสามารถเลือกซื้อสายสัญญาณที่มีคุณภาพได้ครับ
มันก็ทำให้เสียงดีขึ้นนิดนึงนะครับ

แต่จะให้ดี ก็มีให้ 2 อย่างเหมือน Jazz เลยก็ยิ่งดีครับ
Jazz นั้นมีให้ทั้ง AUX in และ USB
แหล่มจริงๆ
(แต่คนใช้ ก็เห็นฟังแต่ CD  :D )




แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เห็นเปลี่ยนเป็นเครื่องเล่น MD กันครับ
แล้วก็ต้องให้ฟร้อท์ ยี่ห้อ Sony ด้วย  :D

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
อยากจะบอกว่า อยากให้ลองไปอ่านใน web รถยนต์ เช่น Thaimarch ซึ่งผมไปอ่านมา
เขามีปัญหาว่า ถึงเวลาหรือยังที่ควรจะมี USB ในรถแทน CD ซึ่งจากการอ่านพบว่า
การใช้ Aux-in มันไม่ work เลย เสียงไม่ชัด เดี่ยวนี้หลายๆ คนมี I-pod I-phone
แทนที่จะต่อโดยใช้ USB ได้ กลับต้องมาใช้สาย Aux-in ซึ่งไม่ดี
บางคนก็ไปซื้อที่ต่อกับที่จุดบุหรี่มา เสียงมันก็ drop ลงไป
ผมว่าต้นทุนเครื่องเสียง USB ไม่มี CD มันคงไม่แพงมากหรอกมั้งครับ
http://www.vivaonline.biz/ETR_MP3.htm
เครื่องนี้ 1600 บ.เอง ของบริษัทรถทำเยอะๆ น่าจะได้ราคาถูกกว่านี้

ขอฝากไปพิจารณาทีนะครับ เพราะบางรุ่นมันเปลี่ยนเครื่องเสียงไม่ได้เลย เช่น เฟียสต้า หรือเปลี่ยนแล้วมันไม่สวย เช่น
March เครื่องเสียงเดิมรูปทรงสวยมาก แต่เสียงตรงไม่มี USB
ขอบคุณครับ

รุ่นในรูปคลองถมขาย 1350 บาท ไปเจอมาไม่นานครับ

ออฟไลน์ devilpharynx

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 200
ผมเห็นด้วยนะครับ ควรจะเปลี่ยนมาตราฐานได้แล้ว...ใช้ USB  ดีกว่าเยอะ
ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนแผ่น เอาแผ่นไว้ไนรถ จอดตากแดด นาน ๆ แผ่นก็เสีย
ที่สำคัญทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน + นักศึษา + คนทำงาน ต่างก็แทบจะมี  handy drive  กันอยู่แล้ว

ออฟไลน์ Larry

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 562
USB สะดวกสบายดีครับ น่าจะเป็นมาตรฐานใหม่กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ได้แล้วนะ

ออฟไลน์ korkongzz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 407
    • อีเมล์
เห็ยด้วยคับ USB ดีที่สุด

ออฟไลน์ namqem

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 73
    • อีเมล์

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
USB + Aux-in ได้แล้วครับ

CD ไม่ต้องเอามาเลย เอามาไม่ได้ใช้ แถมยังต้องหาแผ่นมาใส่อีกกันไม่ให้มันมีฝุ่นเข้า(เท่ากับว่าแผ่นนั้นตากแดดทั้งวันทั้งคืนอีก)

ออฟไลน์ pzychox

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 45
เห็นด้วยคร้าบบบ ผมจะไม่ให้มีแผ่น cd บนเลย คอยดู

dogclubs

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอฝากถึงทุกท่านที่ทำงานบริษัทรถยนต์ท
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 18, 2010, 13:39:10 »
ผมว่ายังไม่ถึงเวลา ที่จะเปลี่ยนเป็น USB โดยไม่มี CD ครับ

เพราะผมยังนิยมใช้ CD อยู่
คนที่บ้านผม ก็ใช้ CD กันอยู่ ไม่มีใครใช้ USB เลยครับ
คงมีแต่ผมนี่แหละ ที่ใช้ iPod ต่อเข้ากับเครื่องเสียงของรถ

อย่าง Jazz ที่ท่านน้าผมใช้อยู่ ก็ไม่เคยแม้แต่จะเปิดช่องต่อ USB เลยครับ
จนทุกวันนี้สาย USB หายไปแล้ว  :D


(กลับเข้าประเด็นในกระทู้)

ช่อง AUX in กับ USB เนี่ย
ผมชอบ AUX in มากกว่าครับ
เพราะเราสามารถเลือกซื้อสายสัญญาณที่มีคุณภาพได้ครับ
มันก็ทำให้เสียงดีขึ้นนิดนึงนะครับ

แต่จะให้ดี ก็มีให้ 2 อย่างเหมือน Jazz เลยก็ยิ่งดีครับ
Jazz นั้นมีให้ทั้ง AUX in และ USB
แหล่มจริงๆ
(แต่คนใช้ ก็เห็นฟังแต่ CD  :D )




แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เห็นเปลี่ยนเป็นเครื่องเล่น MD กันครับ
แล้วก็ต้องให้ฟร้อท์ ยี่ห้อ Sony ด้วย  :D

ทำไมชอบขัดขวางความเจริญจัง ครับ 
เห็นแก่ตัวเอง ไม่เห็นแก่ส่วนรวม


เห็นมาหลายกระทู้ ละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 18, 2010, 13:52:09 โดย dogclubs »

ออฟไลน์ paainn

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
ขอแสดงความเห็นบ้างนะครับ

เอาในประเด็นที่เจ้าของกระทู้เสนอมาก่อนที่ว่าเอา ipod ไปต่อ usb กับเครื่องเล่น
สำหรับประเด็นนี้เป็นประเด็นที่เข้าใจผิดนะครับ เพราะ ipod iphone ipad โดยปรกติแล้วจะไม่อนุญาติให้ส่งข้อมูลเพลงออกมาทางพอร์ต USB (สังเกตง่ายๆ ว่า ไม่มีวิธีที่ official ในการเอาเพลงออกมาจาก ipod ต้องใช้โปรแกรมพิเศษอย่างเดียว) ถ้าจะเอาสัญญาณเพลงออกมาจาก ipod ทาง connector ที่ตูดมันนั้นทำได้ 2 วิธีครับ คือใช้ขา Audio Out ซึ่งมันจะต่างกับการต่อจากแจ็คหูฟังด้านบนตรงที่มันจะ bypass amp ที่อยู่ในตัว ipod จุดประสงค์ก็เพื่อให้นักเล่นเครื่องเสียงเอาสัญญาณที่เคลียร์ๆ ไปเข้าแอมป์ดีๆ แต่สัญญาณ Audio Out ก็ต้องต่อเข้ากับ AUX อยู่ดี

วิธีที่ 2 ที่จะเอาสัญญาณเพลงออกมาจาก ipod เป็นวิธีที่ทาง apple ไม่เปิดเผย ต้องเข้าไปทำ NDA กับเค้าแล้วเค้าจะบอกวิธีให้ โดยสัญญาณที่ออกมาจะเป็นสัญญาณ Digital ที่ Decode ออกมาแล้ว แต่ยังไม่ได้แปลงเป็น Analog เพื่อให้นักเล่นเครื่องเสียงเอาไปต่อกับ DAC เทพๆ (สัญญาณตรงนี้ไม่เหมือนกับข้อมูลใน USB Storage device นะครับ อย่าเอาไปปนกัน)

สรุปในประเด็นแรกคือ ถ้าไม่มี AUX ก็เอาเพลงไปฟังในรถไม่ได้ ถ้าผู้ผลิตไม่สร้าง interface เฉพาะเพื่อดึงข้อมูลแบบที่ 2 ออกมา (ซึ่งถ้ายอมลงทุน เจ้า interface นี้ก็จะใช้ได้กับ I-device ได้อย่างเดียวเท่านั้น -> คุ้มหรือเปล่า ต้องคิดต่อ)

ส่วนในประเด็นถัดมา การเล่นเพลงจาก USB storage device
ผมว่าจริงๆ แล้ว ผู้ผลิตก็อยากจะเอามันใส่เข้าไปอยู่แล้วล่ะครับ เพราะปัจจุบัน ราคาอุปกรณ์ วงจร ที่ใช้งานกับ USB และ MP3 มันถูกมากๆ แล้ว แต่ผมคิดว่าปัญหาที่แก้ไม่ตกก็คือเรื่องของ User Interface

ถ้าเราเอา USB storage device ไปต่อ com เล่นเพลง คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะจอคอมมันใหญ่ ทีนี้ลองนึกภาพว่าถ้ามีเพลง 1000 เพลง (4G เอง จิ๊บๆ) ถามว่าเวลาคุณขับรถอยู่คุณจะเลือกเพลงยังไงถ้าเครื่องเล่นวิทยุของคุณมีจอแสดงผลแค่ 1 บรรทัด หรือ 2 บรรทัด

คุณจะจัดการ folder ต่างๆ ยังไง จัดการ user interface ให้ระบุชื่อเพลง ชื่อนักร้องยังไง ทำ playlist ยังไง แสดงผลภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ยังไง แล้วถ้าข้างในมี folder ทั้งที่มีเพลง แล้วก็ไม่ใช่เพลงจะเลือกแสดงผลยังไง ฯลฯ (จริงๆ ยังมีเรื่องของ File System อีก ว่าจะรองรับ อะไรบ้าง)
การแก้ปัญหาเบื้องต้นก็จะเหมือนเครื่องเล่นที่เล่นแผ่น MP3 ได้ คือมีการเลือก folder เป็นหมายเลข เลือกเพลงเป็นหมายเลข โชว์ชื่อไฟล์เท่าที่โชว์ได้ รองรับโน่นนี่นั่นในรูปแบบที่จำกัด

ปัญหาจะหมดไปถ้าคุณมีจอ Graphic ขนาด 5 นิ้ว 7 นิ้ว มี touch screen เอาไว้ input แต่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นล่ะ ...
ทางแก้อีกทางล่ะ ก็ไปหาเครื่องเล่น mp3 เครื่องละพันสองพัน มาต่อเข้า AUX ไง ^-^

โดยสรุป เฉยๆ กับการเล่นเพลงจาก USB แต่ที่คิดว่าขาดไม่ได้ และอยากให้ทุกๆ เจ้าใส่มาในทุก model ก็คือ AUX ครับ

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
Re: ขอฝากถึงทุกท่านที่ทำงานบริษัทรถยนต์ท
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 18, 2010, 14:38:50 »


ทำไมชอบขัดขวางความเจริญจัง ครับ 
เห็นแก่ตัวเอง ไม่เห็นแก่ส่วนรวม


เห็นมาหลายกระทู้ ละ


อะไรคือความเจริญของคุณหละครับ ???

แล้วคุณคิดว่า ผมเป็นคนสั่งทำเทคโนโลยีต่างๆ เหรอ

แค่ความคิดเห็นผมความเห็นเดียว จะทำให้ความเจริญในโลกใบนี้หดหายไปเหรอครับ



แยกความเห็นส่วนตัว ออกจากความเป็นจริงไม่ได้เหรอครับ ถึงต้องพูดแบบนี้?


แล้ว USB นี่มันทันสมัยมากเหรอครับ
ถ้าผมมาบอกว่า ใส่ทำไม USB ทำไมไม่ใส่ Fi-Wi 800 เลย
คุณจะมาว่าผมอีกมั๊ยเนี่ย หือ?

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,333
ผมว่ามันไม่ควรเป็น usb เพียงอย่างเดียวนะครับ มันควรเป็นแค่ option เท่านั้นที่ควรมี ไม่ใช่การทดแทนcd

ผมว่า dvd1แผ่น + HHD คือคำตอบ+option USB หรือ aux-in พอครับ


ปล. ผมยังไม่เคยมีปัญหาเรื่องในภาคการอ่านแผ่นในรถยนต์เลยครับ ไม่ว่าจะfrontติดรถเดิมมาหรือไปเปลี่ยนข้างนอกก็ตามครับ

ออฟไลน์ PuppyKak

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 273
ของผมมันมีทั้ง 3 อย่างเลยอ่ะครับ

ตอนแรกว่าจะไปเปลี่ยนเป็นแบบ Built-in ของรถซึ่งมีแต่ CD กับ AUX

แต่ตอนนี้ใช้ USB ซะเพลินแล้ว สะดวกสบายดี

แต่ผมก็ใช้ CD บ้าง ใช้ฟังจากแผ่นลิขสิทธิ์ของศิลปินโปรด ^^

เห็นด้วยเหมือนกันที่น่าจะมีช่อง USB มาเพิ่มให้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย

แต่ยังไม่ควรตัด CD ออกครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047
ก็เหมือนการสนับสนุนให้ทำผิดกฎหมายกลายๆครับ
แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ทำทุกคนอยู่แล้วนี่นา

แต่สำหรับตัวผม คิดว่า CD ก็ยังดีอยู่ครับ เสียงชัดสุด และได้สนับสนุนศิลปินที่สมควรได้รับมัน

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่ามันไม่ควรเป็น usb เพียงอย่างเดียวนะครับ มันควรเป็นแค่ option เท่านั้นที่ควรมี ไม่ใช่การทดแทนcd

ผมว่า dvd1แผ่น + HHD คือคำตอบ+option USB หรือ aux-in พอครับ


ปล. ผมยังไม่เคยมีปัญหาเรื่องในภาคการอ่านแผ่นในรถยนต์เลยครับ ไม่ว่าจะfrontติดรถเดิมมาหรือไปเปลี่ยนข้างนอกก็ตามครับ

เห็นด้วยครับ ว่าน่าจะมี option ให้คนใช้รถได้ซื้อ Fn USB เพิ่มครับ

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,148
  • I'm............................
ผมเห็นด้วยนะครับที่เครื่องเสียงรถยนต์สมัยนี้ควรจะมี USB มาให้
แต่ถ้าจะเอามาแทน CD อันนี้ ยังไม่เห็นด้วย

ยังมีผู้ใช้รถอีกมากที่ยังคงฟังเพลงจาก CD เช่น ผู้ที่ไม่ชำนาญด้านเทคโนโลยี (อาจจะเป็นผู้มีอายุหน่อย)
ยังคงหาซื้อแผ่น CD (ไม่ว่าจะลิขสิทธิหรือไม่ก็ตาม) มาเปิดฟังในรถ การซื้อหาก็ยังทำได้สะดวก ไม่ต้องหาโหลดเพลงมาเก็บเอง
หรือผู้ที่ยังชื่นชอบในตัวศิลปินที่เขายังคงอุดหนุนการฟังเพลงแบบถูกลิขสิทธิอยู่ ก็ยังคงหาซื้อแผ่น CD มาเปิดฟัง และอาจเก็บสะสมไปในตัว
ซึ่งกลุ่มที่ยกตัวอย่างมานี้ ยังคงมีอีกมากมายครับ การที่จะตัด CD ออกไปเลยนั่น ก็เป็นการปิดช่องทางการฟังเพลงในรถสำหรับกลุ่มคนเหล่านี้
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,630
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
คุณ Dogclub ครับ

อย่า เริ่มก่อไฟในบ้านหลังนี้เลยครับ

ทุกคนมีสิทธิ์ ในการแสดงความคิดเห็น จะหนัก จะเบาอย่างไร
เป็นความคิดเห็นครับ และเราทุกคนควรจะรับฟัง

เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับประเด็นในกระทู้
ก็ควรแสดงความคิดเห็นถึงเนื้อหาเรื่องนั้น

ไม่ใช่ เตรียมพร้อมจะด่าทอกันแบบนี้

เมื่อคนหนึ่ง เริ่มต้น ฝ่ายที่โดน ก็ต้องออกมาโต้ตอบ ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่จบไม่สิ้นครับ

ขอความกรุณาด้วยเถิดครับ

แะคุณ Jo เอง แม้ในที่นี้คุณโจจะเป็นฝ่ายถูก แต่ ขอความกรุณา อยู่นิ่งเฉยนับจากนี้นะครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ prai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,153
ผมว่าส่วนนึงที่เสียงมันออกมาไม่ดี มันขึ้นอยู่กับคุณภาพสายที่ใช้ด้วยครับ
และที่สำคัญ ไฟล์เพลงครับ ถ้าจะเอาฟังแล้วรู้สึกดีความอะเอียดต้องประมาณ 320+ ครับ

ออฟไลน์ Northbridge

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 751
ผมว่ายังไง ไอ้แผ่นออฟติคัล กลมๆ มีรูตรงกลาง มันก็ยังน่าจะได้เป็นมาตรฐานไปอีกนานเลยนะครับ

ผมว่าจะให้ค่ายเพลง ขายเพลงกันเป็นแต่แบบไฟล์ MP3 อย่างเดียว มันก็ดูจะไม่ค่อยมีคุณค่าทางจิตใจกับคนไปเสียหน่อย


ทุกวันนี้เรามี ebook มีเว็บไซต์ แต่ถามว่าทำไมหนังสือเป็นเล่มๆ นิตยสารเป็นเล่มๆ ยังคงขายได้

เหตุผลเดียวกันกับที่ว่าทำไมซีดียังขายได้ นั้นแหละครับ


ผมว่า ยังไงก็ต้องมี ตัดออกไปไม่ได้ เหมือนมันเป็นสื่อมาตรฐานที่เขาใช้กันทั่วๆไปน่ะครับ

อนาคตอาจจะเปลี่ยนเป็น DVD Audio ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นกว่า CD Audio ทุกวันนี้ ก็เป็นไปได้เหมือนกันนะ

ผมมองว่า USB เป็นแค่ทางเลือกมากกว่าที่จะเข้ามาเป็นตัวแทน สื่ออะไรสักอย่าง ที่ผู้ผลิตเพลง เขียนลงไปได้แค่ครั้งเดียว แล้วคนฟัง ก็เอาไปฟัง ๆๆๆ ได้อย่างเดียวน่ะครับ

ออฟไลน์ Xtream@tom

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
ผมว่าusbน่าจะเป็นoptionเสริมมากกว่านะ ยังไงซะไฟล์ที่ยัดใส่usb+เครื่องเสียงเล่นได้ก็เป็นmp3

เสียงยังห่างจากCDอยู่มากมาย แต่ทั้ง2อย่างจะไม่น่าใช้เลย ถ้าเครื่องเสียง+ลำโพงไม่ดี

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่ายังไง ไอ้แผ่นออฟติคัล กลมๆ มีรูตรงกลาง มันก็ยังน่าจะได้เป็นมาตรฐานไปอีกนานเลยนะครับ

ผมว่าจะให้ค่ายเพลง ขายเพลงกันเป็นแต่แบบไฟล์ MP3 อย่างเดียว มันก็ดูจะไม่ค่อยมีคุณค่าทางจิตใจกับคนไปเสียหน่อย


ทุกวันนี้เรามี ebook มีเว็บไซต์ แต่ถามว่าทำไมหนังสือเป็นเล่มๆ นิตยสารเป็นเล่มๆ ยังคงขายได้

เหตุผลเดียวกันกับที่ว่าทำไมซีดียังขายได้ นั้นแหละครับ


ผมว่า ยังไงก็ต้องมี ตัดออกไปไม่ได้ เหมือนมันเป็นสื่อมาตรฐานที่เขาใช้กันทั่วๆไปน่ะครับ

อนาคตอาจจะเปลี่ยนเป็น DVD Audio ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นกว่า CD Audio ทุกวันนี้ ก็เป็นไปได้เหมือนกันนะ

ผมมองว่า USB เป็นแค่ทางเลือกมากกว่าที่จะเข้ามาเป็นตัวแทน สื่ออะไรสักอย่าง ที่ผู้ผลิตเพลง เขียนลงไปได้แค่ครั้งเดียว แล้วคนฟัง ก็เอาไปฟัง ๆๆๆ ได้อย่างเดียวน่ะครับ

DVD-Audio มีแล้วครับ และ ดับไปเรียบร้อย พร้อมกับ SACD

DVD-Audio เขาโฆษณาว่าใช้เพียงแค่เครื่องเล่นดีวีดีที่รองรับ DVD Audio ก็จะให้เสียงที่ดีระดับเทพ
ส่วน SACD โฆษณาว่า ให้เสียงระดับเทพที่เหนือกว่า DVD-Audio

แต่.............................


ความเป็นจริงอันแสนโหดร้าย

ทั้งคู่ไม่ได้เสียงดีกว่า CD สักเท่าไหร่ แถมยังแย่กว่า CD ด้วยซ้ำ (อันนี้ผม A-B เทสต์เองเลยนะครับ ใช้แผ่น Pink Floyd ชุด Dark Side of the Moon เทียบ CD แผ่นทองของ MFSL กับ SACD เสียงของ SACD แย่กว่า CD เสียด้วยซ้ำ ได้เพียงแค่เสียงมัลติแชนแนล ทั้งๆที่เปิดด้วยเครื่องเดียวกัน(DVD Pioneer DV655A ตัวนี้เล่นได้ทั้ง SACD และ DVD Audio ที่เขาว่าเป็นเครื่องหนึ่งในตองอูเลยนะนั่น))

ผมว่าที่ทั้งคู่ดับ เรื่องนึงก็คุณภาพของตัวมันเอง ที่ไม่ได้ดีเด่กว่า CD ที่จะเอามาแทนที่สักเท่าไหร่ ถึงแม้กระนั้น CD ก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้แผ่นเสียงล้มหายตายจากไปได้ แต่ยังอยู่กับนักฟังเพลงระดับออดิโอไฟล์ที่ชื่นชอบเวทีของเสียงที่กว้างขวางที่ CD ไม่อาจทำได้ และ น้ำเสียงที่นุ่มนวลชวนให้หลงใหล แต่ตอนนี้แผ่นระดับออดิโอไฟล์ดันมีแต่ แจ๊ส เสียส่วนใหญ่ แต่ผมกลับไม่ชอบทั้งขับ(เคยลองขับทีนึง)และฟัง(เพราะ first impression ที่ล้มเหลว) ส่วนอีกเรื่อง ก็การตลาดแหละครับ แผ่นดันมีนิดเดียว แถมยังแพงและไม่ได้ต่างจาก CD นัก ซื้อ CD คุ้มเสียกว่า ส่วนตัวเครื่อง เครื่องที่จะทำให้เสียง SACD แจ่มจริงๆก็หลักแสน ซึ่งราคาระดับนั้นผมว่าเครื่องเล่น CD ก็เทพแล้วนะครับ

ส่วนเรื่องคุณภาพของแฟลชไดรฟ์ เท่าที่ผมลองฟัง ผมว่า Kingston DT101 ให้น้ำเสียงที่โอเค Sandisk Cruzer Blade เสียงไม่เลว แต่ Kingston DT101 เสียงดีกว่า พริ้วกว่าหน่อยนึง แต่ผมยังไม่แน่ใจว่ามียี่ห้ออื่นเสียงดีกว่านี้อีกไหม (อันนี้เพลงเดียวกันและเปิดด้วยเครื่องเดียวกันครับ)

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047

ออฟไลน์ jones

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 937
ผมว่ามันสมควรมีมาในเครื่องเสียงรุ่นใหม่ๆนะครับไอ้ usb เนี่ย แต่ยังไม่อย่างยิ่งควรที่จะตัด cdออกครับ
ผู้ชายลัลล๊า อิอิอิ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,085
ผมว่ายังไม่ถึงเวลา ที่จะเปลี่ยนเป็น USB โดยไม่มี CD ครับ

เพราะผมยังนิยมใช้ CD อยู่
คนที่บ้านผม ก็ใช้ CD กันอยู่ ไม่มีใครใช้ USB เลยครับ
คงมีแต่ผมนี่แหละ ที่ใช้ iPod ต่อเข้ากับเครื่องเสียงของรถ

อย่าง Jazz ที่ท่านน้าผมใช้อยู่ ก็ไม่เคยแม้แต่จะเปิดช่องต่อ USB เลยครับ
จนทุกวันนี้สาย USB หายไปแล้ว  :D


(กลับเข้าประเด็นในกระทู้)

ช่อง AUX in กับ USB เนี่ย
ผมชอบ AUX in มากกว่าครับ
เพราะเราสามารถเลือกซื้อสายสัญญาณที่มีคุณภาพได้ครับ
มันก็ทำให้เสียงดีขึ้นนิดนึงนะครับ

แต่จะให้ดี ก็มีให้ 2 อย่างเหมือน Jazz เลยก็ยิ่งดีครับ
Jazz นั้นมีให้ทั้ง AUX in และ USB
แหล่มจริงๆ
(แต่คนใช้ ก็เห็นฟังแต่ CD  :D )




แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เห็นเปลี่ยนเป็นเครื่องเล่น MD กันครับ
แล้วก็ต้องให้ฟร้อท์ ยี่ห้อ Sony ด้วย  :D
ถ้าเน้นเรื่องคุณภาพ ยิ่งควรเปลี่ยนเป็นUSBเลยครับ เพราะสัญญาณอนาลอก คุณภาพมันขึ้นอยู่กับสาย แพงค่าสาย แต่สัญญาณดิจิตอล สาย10บาทก็ให้คุณภาพเท่าสาย5แสนครับ
แต่เรื่องที่ปัจจุบันใช้แต่CDอยู่ บ้านผมก็เป็นเหมือนกันเลยครับ พ่อกับแม่ เปิดแต่แผ่นเพลงเมื่อผมยังดูดนมขวด  แทบจะไม่รู้จักเหอๆ

Phongrapee

  • บุคคลทั่วไป
ส่วนตัวคิดว่ายังไง cd ก็ต้องมีต่อไป ส่วน usb หรือ การ์ดต่างๆ หรือ aux in จะมีหรือไม่มีสำหรับผมไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้ามีมันก็ดี อะไรอะไรก็สะดวกขึ้น ไม่มีก็ไม่ขัดข้อง แต่ขออย่างเดียว cd ต้องยังคงไว้อยู่ ถ้าเล่น mp3 ได้ก็ดีมาก (สำหรับผม) แต่ผมไม่ได้ซื้อแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์นะ แต่ rip จากแผ่นแท้มารวมๆกันไว้ฟังยาวๆเวลาขับทางไกล

นอกเหนือจากนี้เช่นคุณภาพเสียง ผมถือว่าเป็นกำไร เพราะผมไม่เน้นเรื่องเสียงในรถเท่าไหร่ เปิดติด มีเสียง ฟังแล้วไม่อุบาทว์หูจนเกินไป ก็พอแล้ว

ป.ล.ผมเข้าไปดูในเว็บที่จขกท.แปะไว้ สงสัยว่าที่เขาเขียนว่า เครื่องเสียงติดรถยนต์ประเภท MTR กับ ETR มันแตกต่างกันยังไงครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 19, 2010, 16:11:08 โดย Phongrapee »

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ส่วนตัวคิดว่ายังไง cd ก็ต้องมีต่อไป ส่วน usb หรือ การ์ดต่างๆ หรือ aux in จะมีหรือไม่มีสำหรับผมไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้ามีมันก็ดี อะไรอะไรก็สะดวกขึ้น ไม่มีก็ไม่ขัดข้อง แต่ขออย่างเดียว cd ต้องยังคงไว้อยู่ ถ้าเล่น mp3 ได้ก็ดีมาก (สำหรับผม) แต่ผมไม่ได้ซื้อแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์นะ แต่ rip จากแผ่นแท้มารวมๆกันไว้ฟังยาวๆเวลาขับทางไกล

นอกเหนือจากนี้เช่นคุณภาพเสียง ผมถือว่าเป็นกำไร เพราะผมไม่เน้นเรื่องเสียงในรถเท่าไหร่ เปิดติด มีเสียง ฟังแล้วไม่อุบาทว์หูจนเกินไป ก็พอแล้ว

ป.ล.ผมเข้าไปดูในเว็บที่จขกท.แปะไว้ สงสัยว่าที่เขาเขียนว่า เครื่องเสียงติดรถยนต์ประเภท MTR กับ ETR มันแตกต่างกันยังไงครับ
มันคืออะไรหรือครับ ไม่รู้เหมือนกัน
ปล. ขอบคุณทุกค.เห็นครับ ขอฝากทุกท่านที่ทำงานบริษัทรถนำเรื่องนี้ไปพิจารณาด้วยนะครับ จะติดมาเลย หรือเป็น option ผมคิดว่าหลายๆท่านยินดีจ่ายเช่นเดียวกับผมครับ

ออฟไลน์ Night_Angel

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 530
    • อีเมล์
สั้นๆ  ผมไม่ฟัง MP3

นิยามมันคือ

บี้ แบน บาง แข็ง

ต่อใช้ 320 k  ด้วย ยังไม่ได้ กระผีกของ CD ด้วยซ้ำ

ถ้าจะเล่น File เพลง FLAC เท่านั้น  ไม่ก็เป็น Flac 24bit Studio master ไปเลย

ซึ่งยังไม่มี Front ตัวไหนเล่นได้
ぼく は くま くま.... くま......

くるま じゃないよ

2000 Lancer F-Stye --> Evolution V
1994 Lancer E-CAR 1.6 JDM

ออฟไลน์ CRO

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 843
สั้นๆ  ผมไม่ฟัง MP3

นิยามมันคือ

บี้ แบน บาง แข็ง

ต่อใช้ 320 k  ด้วย ยังไม่ได้ กระผีกของ CD ด้วยซ้ำ

ถ้าจะเล่น File เพลง FLAC เท่านั้น  ไม่ก็เป็น Flac 24bit Studio master ไปเลย

ซึ่งยังไม่มี Front ตัวไหนเล่นได้

น่าจะเล่น file RAW ไปเลยนะครับ  ;D ( ล้อเล่นนะครับอย่าซีเรียสนะครับ ;) )

ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมี CD ต่อไปครับและเพิ่ม usb เข้ามา  8)

ออฟไลน์ Night_Angel

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 530
    • อีเมล์
สั้นๆ  ผมไม่ฟัง MP3

นิยามมันคือ

บี้ แบน บาง แข็ง

ต่อใช้ 320 k  ด้วย ยังไม่ได้ กระผีกของ CD ด้วยซ้ำ

ถ้าจะเล่น File เพลง FLAC เท่านั้น  ไม่ก็เป็น Flac 24bit Studio master ไปเลย

ซึ่งยังไม่มี Front ตัวไหนเล่นได้

น่าจะเล่น file RAW ไปเลยนะครับ  ;D ( ล้อเล่นนะครับอย่าซีเรียสนะครับ ;) )

ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมี CD ต่อไปครับและเพิ่ม usb เข้ามา  8)

ทุกวันนี้ ถ้าเป็น files ก็ เอา WAV มาเลยด้วยซ้ำไปครับ  ถึงจะเล่น mp3 ได้ แต่ burr brown ที่อยุ่ใน Front มันฟ้องเสียจน เอา MP3 เข้ารถไม่ได้เลย
ぼく は くま くま.... くま......

くるま じゃないよ

2000 Lancer F-Stye --> Evolution V
1994 Lancer E-CAR 1.6 JDM