CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี

ขนุนน้อย

CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 19:43:50 »
มีปัญหาต้องเลือกรถ 1 คันเดินทางจาก กทม. ไปแอ่วดอยเชียงใหม่ช่วงเมษาครับ
ขอเล่ารายละเอียดแต่ละกันหน่อย

City 1.0Turbo RS รถ 1 ปี vs Mazda2 1.5 Diesel XD รถ 3 ปี

จุดเหมือน
1. รถเดิม ล้อเดิม โช้คเดิม
2. เข้าเกียร์ บวก/ลบ ได้ทั้งคู่
3. เครื่องเดิม ไม่ Remapped

จุดต่าง
1. CVT vs 6AT
2. แรงบิดเบนซิน ดีเซล
3. Mazda 2 ใส่ยาง RE004 ส่วน City ยางเดิม AE50 ยางใหม่ทั้งคู่
4. City มีครูสคอนโทรล ส่วนเจ้า 2 ไม่มี
5. Mazda 2 ดิสก์เบรค 4 ล้อ ส่วน City ดิสก์เบรค 2 ล้อหน้า ผ้าเบรคหนาทั้งคู่

City กังวลนิดหน่อยตรงที่ CVT Temp ปกติก็ยืนพื้นที่ 95C แล้ว เอาไปขึ้นดอยภูคาเส้นเดียวกับที่คุณแพนพาเจ้าหมื่นห้าไปทำคลิป Day Dream Drive ช่วงที่พ้นโค้งหักศอก 5 โค้งติดกันก่อนถึงอุทยาน น้ำมันเกียร์ขึ้นไป 108C เลยตัดสินใจจอดเพราะกลัวเกียร์เดี้ยง (วัดจาก OBD II) อย่างอื่น ไม่มีปัญหา

ถ้าต้องฟันธง เพื่อนๆ เลือกคันไหนครับ



Fly to dream

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 19:50:31 »
คันไหนก็ได้ครับ ส่วนตัวคนที่บ้านมี Mazda2 1.5d พึ่งเอาไปเที่ยวดอยมา ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



Tien.W

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 19:52:49 »
มีคนนั่งเบาะหลังไหม ?

ถ้ามีคนนั่งเบาะหลัง City คนนั่งหลังไม่บ่นครับ แต่ 2 คนบ่นแน่

ในมุมคนขับ 2 ขับสนุกกว่า จากแรงบิดของเครื่องดีเซล จากเกียร์ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ขับมันส์กว่าแน่นอน ช่วงล่างมาสด้า แถมยาง RE004 ยังไงก็ขับมันส์ (แต่ถ้าขับไม่เป็น กลิ่นน้ำมันเกียร์ไหม้ ก็โชย เหมือนกันนะ)

...........

จริงๆ ดอยภูคาไม่ยากครับ

ทริคนิดเดียวก็คือ ให้เร่งส่ง ให้ขับเร็วครับ หลายคนไม่กล้า บอกทางชัน ต้องค่อยๆไป ผลคือ เกียร์ทำงานหนัก แต่ลมปะทะหน้ารถน้อย ความร้อนเครื่องขึ้นไปเกิน 100 น้ำมันเกียร์ ที่ใช้น้ำหม้อน้ำไปวนก็ร้อนตามล่ะครับ

อีกนิดก็คือ ถ้ารถมี Heater ช่วงนั้น ให้เปิดกระจกหมด เร่ง heater ให้สุด แป้บเดียว temp ลงมาปกติเลย

ถ้าไม่มี heater ก็เปิดแอร์ให้เย็นสุด ให้พัดลมไฟฟ้าทำงานสปีดสองยาวๆ ไม่ตัด Temp ก็ลงครับ

ไม่เชื่อลองดูครับ .. ผมบอกบ่อยๆว่า ผมไม่ได้กลัวเครื่องพัง แต่ผมกลัวเกียร์พัง โดยเฉพาะ CVT แต่ก็จะมีบางคนบอกว่า ขึ้นมาสารพัดดอยละ ไม่เห็นต้องยุ่งยากปรับนั่น ปรับนี่ขนาดนั้น ก็แล้วแต่จะคิดครับ



neung23

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 19:55:36 »
ผมไม่ชอบเบรคฮอนด้า เฟดเร็วเกิน ลงเขาถ้าไม่สเตปดีๆเหนื่อย

กำลังเครื่อง สองคันนี้ผ่านฉลุย

ึมวยคู่นี้เป็นผมจะห่วงพื้นที่โดยสารมากกว่าอย่างอื่น
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport



lexus

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 20:09:28 »
ขับ1-2คน มาสด้าดีกว่าครับ สาดโค้งดีกว่า อัตราเร่งค่อนข้างlag แต่พอมาแล้วพุ่งดี. ประหยัดน้ำมันมาก20ยืนพื้น



LapisLazuli

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 20:13:39 »
City ไม่มีเกียร์ L อันตารายกว่า โดยเฉพาะ ตอนลงเขา
(มีคลิปจาก WC TV Online ที่ลงดอย เเล้วเบรคความร้อนสูง จนขึ้นเตือน)

เเต่ถ้า เป็นตัวที่มี Paddle Shift ถ้าใช้เซียนๆ แล้วใช้คู่กับเกียร์ S ก้อคงไม่มีปัญหา



ขนุนน้อย

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 20:25:05 »
มีคนนั่งเบาะหลังไหม ?

ถ้ามีคนนั่งเบาะหลัง City คนนั่งหลังไม่บ่นครับ แต่ 2 คนบ่นแน่

ในมุมคนขับ 2 ขับสนุกกว่า จากแรงบิดของเครื่องดีเซล จากเกียร์ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ขับมันส์กว่าแน่นอน ช่วงล่างมาสด้า แถมยาง RE004 ยังไงก็ขับมันส์ (แต่ถ้าขับไม่เป็น กลิ่นน้ำมันเกียร์ไหม้ ก็โชย เหมือนกันนะ)

...........

จริงๆ ดอยภูคาไม่ยากครับ

ทริคนิดเดียวก็คือ ให้เร่งส่ง ให้ขับเร็วครับ หลายคนไม่กล้า บอกทางชัน ต้องค่อยๆไป ผลคือ เกียร์ทำงานหนัก แต่ลมปะทะหน้ารถน้อย ความร้อนเครื่องขึ้นไปเกิน 100 น้ำมันเกียร์ ที่ใช้น้ำหม้อน้ำไปวนก็ร้อนตามล่ะครับ

อีกนิดก็คือ ถ้ารถมี Heater ช่วงนั้น ให้เปิดกระจกหมด เร่ง heater ให้สุด แป้บเดียว temp ลงมาปกติเลย

ถ้าไม่มี heater ก็เปิดแอร์ให้เย็นสุด ให้พัดลมไฟฟ้าทำงานสปีดสองยาวๆ ไม่ตัด Temp ก็ลงครับ

ไม่เชื่อลองดูครับ .. ผมบอกบ่อยๆว่า ผมไม่ได้กลัวเครื่องพัง แต่ผมกลัวเกียร์พัง โดยเฉพาะ CVT แต่ก็จะมีบางคนบอกว่า ขึ้นมาสารพัดดอยละ ไม่เห็นต้องยุ่งยากปรับนั่น ปรับนี่ขนาดนั้น ก็แล้วแต่จะคิดครับ

ขอบคุณมากครับ ขอตอบที่ละประเด็นนะครับ

1. ไปกันสองคน ไม่มีผู้โดยสารหลังครับ
2. ผมก็คิดว่าภูคาไม่ยากครับ ทางขึ้นผาตั้งจากเวียงแก่นโหดกว่า ภูคาจะลุ้นๆ ตรงที่เจอรถวิ่งช้าดักหน้า กับแพะชาวบ้านที่วิ่งเพ่นพ่านตามถนน Anyway, ขาลงจากยอด 1715 ไปบ่อเกลือ เบรคเดิมเอาอยู่ ไม่มีไฟเตือนความร้อนเบรคโชว์ครับ
3. City ไม่มี Heater เนี่ยสิครับ ตอนไปน่านครั้งก่อนเจอฝนแล้วฝ้าขึ้นเต็มรถเลย จะลองวิธีดันแอร์แล้วกันครับ
4. ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า Honda เซ็ต Water Temp เครื่องตัวนี้มาสูงจัง วิ่งนึ่งๆ นี่ 103-105C ไปเลย รอหมดประกันแล้วจะไปติดออยเกียร์แน่ๆ ครับ  เพราะเคยมีประสบการณ์กับ E46 ออยเกียร์แตก



nl2br

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 20:26:17 »
คู่นี้ เลือก 2 ครับ ขึ้นลงดอย+เกียร์ทอร์คธรรมดา+เครื่องดีเซล ดิส 4 ล้ออีก...ถ้าไปกันไม่เกิน 2 คนนะครับ
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่



ขนุนน้อย

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 20:29:56 »
City ไม่มีเกียร์ L อันตารายกว่า โดยเฉพาะ ตอนลงเขา
(มีคลิปจาก WC TV Online ที่ลงดอย เเล้วเบรคความร้อนสูง จนขึ้นเตือน)

เเต่ถ้า เป็นตัวที่มี Paddle Shift ถ้าใช้เซียนๆ แล้วใช้คู่กับเกียร์ S ก้อคงไม่มีปัญหา

สบายครับ จังหวะที่ผมลงดอยภูคาไปสะปัน ผมขับค่อนข้างเร็วเพราะต้องทำเวลา
ก็ไม่มีอะไรครับ ไฟเตือนความร้อนเบรคไม่โชว์ CVT Temp ดีกว่าขาขึ้นพอสมควรด้วย อาจะเพราะลมปะทะเยอะกว่า



ขนุนน้อย

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 20:43:37 »
ผมไม่ชอบเบรคฮอนด้า เฟดเร็วเกิน ลงเขาถ้าไม่สเตปดีๆเหนื่อย

กำลังเครื่อง สองคันนี้ผ่านฉลุย

ึมวยคู่นี้เป็นผมจะห่วงพื้นที่โดยสารมากกว่าอย่างอื่น

ขับ1-2คน มาสด้าดีกว่าครับ สาดโค้งดีกว่า อัตราเร่งค่อนข้างlag แต่พอมาแล้วพุ่งดี. ประหยัดน้ำมันมาก20ยืนพื้น

คู่นี้ เลือก 2 ครับ ขึ้นลงดอย+เกียร์ทอร์คธรรมดา+เครื่องดีเซล ดิส 4 ล้ออีก...ถ้าไปกันไม่เกิน 2 คนนะครับ

ไปกันสองคนครับ ของน้อย แบบนี้เจ้า 2 น่าจะเวิร์ค  8)



MyName

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 20:51:44 »
ขึ้นลงดอย ผมก็ยังเลือก 2 1.5D นะ

ช่วงล่างลัดเลาะตามโค้งเขา รถคุมอาการตัวถังดีกว่า
พวงมาลัยคล่องมือกว่าตามโค้ง
กำลังเครื่องไม่ต่างกัน เพราะใช้ได้แค่ช่วงตีนต้นถึงกลาง
Engine Break เกียร์ D คือสุดดดด หน่วงดีและรู้งานมากกกก

ปัญหามีอยู่แค่เบาะเล็กครับ ต่อให้ไม่มีคนนั่งหลัง
แต่เอาแค่เบาะหน้าเลย รัดตัวเข้าโค้งจริง แต่นั่งนานๆ เมื่อยครับ
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira Mint 850cc AT



เนื้อน่องไม่หนัง

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 21:05:22 »
ถ้านั้งเครื่องลงเชียงใหม่ แล้วเช่าผมจะเลือก mazda2 ครับ
แต่ถ้าต้องขับจาก กทม ขึ้นไป ขอเลือก city
Mazda น่าจะชอบโค้งมากกว่า แต่ city น่าจะสบายกว่าตอนขับ กทม-เชียงใหม่ เชียงใหม่-กทม
ขับขึ้นลงดอย ถ้าไปเรื่อยๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร



YenChar

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 21:38:23 »
ในฐานะที่ขับดีเซลทุกวัน และชอบเที่ยวเขา เที่ยวดอย ขอเชียร์ดีเซลครับ

ขาขึ้น ไปได้ทั้งคู่ แบบสบายๆ
ขาลง ดีเซลลงสบายกว่ามาก แรงหน่วงดี

ยังไม่นับช่วงล่างและเบรค ซึ่งมาสด้าเซตติ่งมาได้ดีกว่า พวงมาลัยคม ขับบนทางโค้งมั่นใจกว่า

ถ้าทางตรงยาวๆ เดินทางไกล City คงดีกว่า แต่ทางเขาทางโค้ง ยกให้พี่มาสด้าดีเซลเถอะ (คนนั่งหลังก็จะแคบหน่อย)



Thanyanon

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 21:43:48 »
mazda2 ช่วงล่างเกาะกว่าครับ  น้ำหนักพวงมาลัยดีกว่า  เก็บเสียงดีกว่า

จุดต่าง
1. CVT vs 6AT   
2. แรงบิดเบนซิน ดีเซล
3. Mazda 2 ใส่ยาง RE004 ส่วน City ยางเดิม AE50 ยางใหม่ทั้งคู่
4. City มีครูสคอนโทรล ส่วนเจ้า 2 ไม่มี
5. Mazda 2 ดิสก์เบรค 4 ล้อ ส่วน City ดิสก์เบรค 2 ล้อหน้า ผ้าเบรคหนาทั้งคู่

จุดต่างตรงนี้ mz2 เหนือกว่าทุกข้อเลยครับ  นอกจากครูสคอนโทรล55



Aleister TJ

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 21:45:06 »
ขึ้นเขา ขึ้นดอย 2 แซ่บกว่าแน่นอนครับ ทอร์กจัด ดึงมันส์ๆชนิดกระบะเจ้าถิ่นงงเลยละ
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite



lay

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 22:00:23 »
เข้ามาอ่านได้ความรู้ดีเลย  ขอบคุณครับ



Dubee

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 22:40:30 »
จากประสบการณ์ ผมอยู่เมืองเหนือมาตลอด ขึ้นเขาขึ้นดอยนับไม่ถ้วน เอาเป็นว่าแรงม้าไม่ต้องไปดู ให้ดูที่แรงบิดครับ
ไปหาสเปกมา แล้วกางเทียบทั้งสองคัน คันไหนแรงบิดสูงสุดมาที่รอบต่ำกว่า จับคันนั้นขึ้นดอยครับ



#อินเดียหน้าโจร

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 23:03:42 »
ผมเลือก Mazda 1.5D ครับ เหตุผลคือเรื่อง engine break ครับ ซิตี้ดีขาขึ้น แต่ขาลง engine break น่าจะน้อยทำให้เบรคร้อนง่ายจากที่ตามๆมาครับ ผมได้ลองขับมาสด้า 2 เบนซินของน้องสาว ลองใช้เกียร์ Manual แล้วแรง engine break ดึงชัดเจนครับ ทดลองขับลงจากลานจอดรถ ยังไม่นับเบรคมาสด้าที่ดีมาก ช่วงล่างก็ดีมาก เทียบกับรถโรงงานในคลาสไกล้เคียงกันครับ ผมมั่นใจมาสด้ามากกว่าครับ
Altis 1.6 AT 2004 (Swap 2zz-ge 6MT)
Mazda 1.3 Sky



ขนุนน้อย

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 23:04:05 »
mazda2 ช่วงล่างเกาะกว่าครับ  น้ำหนักพวงมาลัยดีกว่า  เก็บเสียงดีกว่า

จุดต่าง
1. CVT vs 6AT   
2. แรงบิดเบนซิน ดีเซล
3. Mazda 2 ใส่ยาง RE004 ส่วน City ยางเดิม AE50 ยางใหม่ทั้งคู่
4. City มีครูสคอนโทรล ส่วนเจ้า 2 ไม่มี
5. Mazda 2 ดิสก์เบรค 4 ล้อ ส่วน City ดิสก์เบรค 2 ล้อหน้า ผ้าเบรคหนาทั้งคู่

จุดต่างตรงนี้ mz2 เหนือกว่าทุกข้อเลยครับ  นอกจากครูสคอนโทรล55

IMHO
ส่วนตัวแอบไม่เห็นด้วยตรงน้ำหนักพวงมาลัยครับ
MZ2 พวงมาลัยคมกว่าจริง แต่ช่วงความเร็วสูง ผมคิดว่าน้ำหนักน้อยเกินไปหน่อย ไม่ว่าจะยางจากโรงงานหรือ RE004 (รถMY2017)
ฝั่ง City เวลาขับที่ 120 เท่ากัน ประคองพวงมาลัยสบายกว่า เลี้ยวแล้วต้านมือกว่า



U9WS

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2021, 23:22:15 »
กรุงเทพ-เชียงใหม่ city turbo ขับและนั่งสบาย ความเหนื่อยล้าสะสม​น้อยกว่าครับ

ขับขึ้นดอยก็สนุกไม่ต่างกับดีเซล แต่ลงดอยโหดๆไม่มี L นรกมาก ใช้เบรคเยอะเกินความจำเป็น

และเวลาจอดไฟแดงเครื่องดับ เจอมอเตอร์​ไซต์​ข้างๆคุยโทรศัพท์​จะได้ยินเค้าอู้กําเมืองชัดเจนทุกถ้อย​คำ



Smith686

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 02:48:03 »
          ขับทางภูเขาเน้นแรงบิดมากกว่าแรงม้า  เครื่องดีเซลขับง่ายกว่าเบนซิล



Devil13

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 07:19:54 »
มาสด้า 2 ได้ยางดี + ช่วงล่างที่ดี เกาะโค้งดีกว่า เวลาโยนตัวในโค้งจะโครงน้อยกว่า
มาสด้า 2 ได้ดิส 4 ล้อ

ทริปนี้
ผมจิ้มมาสด้า 2 ครับ



Newhang

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 07:34:46 »
มาสด้า2 นี่ขับเหนื่อยขับล้า เพราะช่วงล่างมันแข็งไปเยอะเลย



Seatar

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 08:17:12 »
นั่งแค่2คน ไปมาสด้า2ครับ



newfaceman

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 08:32:51 »
Mazda เพราะ อีกอันรถกาก ไม่มั่นใจ  ;D



Dubee

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 08:35:34 »
มาสด้า2 นี่ขับเหนื่อยขับล้า เพราะช่วงล่างมันแข็งไปเยอะเลย

แต่ทางคดโค้งบนเขาบนดอยนี่สวรรค์เลยครับ หนึบมาก



mongolias

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 08:44:28 »
ไม่รู้ไปดอยไหนที่เชียงใหม่
แต่ ถ้าพวก อินทนนท์ อ่างขาง ผมไปด้วย Jazz GD มาแล้วไม่ต้องกังวลเรื่อง CVT ครับ รู้จังหวะเร่ง จังหวะผ่อนก็ไม่มีปัญหาครับ
ส่วนตัว ถ้าไปทริปยาวๆ ผมจะเลือกรถที่ผ่อนคลายมากกว่ารถขับสนุก ดังนั้นผมไป City ครับ



johnlee

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 09:43:00 »
มาสด้า2 นี่ขับเหนื่อยขับล้า เพราะช่วงล่างมันแข็งไปเยอะเลย

แต่ทางคดโค้งบนเขาบนดอยนี่สวรรค์เลยครับ หนึบมาก

อิจฉาเลย  ผมใช้อัลมีร่าเก่า  555555
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t



tatum0022

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 10:44:48 »
ไปได้ทั้งคู่ครับ กำลังเหลือๆ อยู่ที่ว่าเบาะใครนั่งเมื่อยน้อยกว่ามากกว่าครับ
E220d AMG 17' BBS RI-D
C200 AMG Carlsson add on 12'
Fortuner 2.8 E4 16'
Camry Hybrid 10'
Jazz JP 12'
vios 13'
Preruner 08'
Austin Mini Mark1 1962



Full Throttle

Re: CITY 1.0T vs MZ2 1.5D ขับทางไกล+ขึ้นดอย คันไหนดี
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2021, 11:35:46 »
มีคนนั่งเบาะหลังไหม ?

ถ้ามีคนนั่งเบาะหลัง City คนนั่งหลังไม่บ่นครับ แต่ 2 คนบ่นแน่

ในมุมคนขับ 2 ขับสนุกกว่า จากแรงบิดของเครื่องดีเซล จากเกียร์ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ขับมันส์กว่าแน่นอน ช่วงล่างมาสด้า แถมยาง RE004 ยังไงก็ขับมันส์ (แต่ถ้าขับไม่เป็น กลิ่นน้ำมันเกียร์ไหม้ ก็โชย เหมือนกันนะ)

...........

จริงๆ ดอยภูคาไม่ยากครับ

ทริคนิดเดียวก็คือ ให้เร่งส่ง ให้ขับเร็วครับ หลายคนไม่กล้า บอกทางชัน ต้องค่อยๆไป ผลคือ เกียร์ทำงานหนัก แต่ลมปะทะหน้ารถน้อย ความร้อนเครื่องขึ้นไปเกิน 100 น้ำมันเกียร์ ที่ใช้น้ำหม้อน้ำไปวนก็ร้อนตามล่ะครับ

อีกนิดก็คือ ถ้ารถมี Heater ช่วงนั้น ให้เปิดกระจกหมด เร่ง heater ให้สุด แป้บเดียว temp ลงมาปกติเลย

ถ้าไม่มี heater ก็เปิดแอร์ให้เย็นสุด ให้พัดลมไฟฟ้าทำงานสปีดสองยาวๆ ไม่ตัด Temp ก็ลงครับ

ไม่เชื่อลองดูครับ .. ผมบอกบ่อยๆว่า ผมไม่ได้กลัวเครื่องพัง แต่ผมกลัวเกียร์พัง โดยเฉพาะ CVT แต่ก็จะมีบางคนบอกว่า ขึ้นมาสารพัดดอยละ ไม่เห็นต้องยุ่งยากปรับนั่น ปรับนี่ขนาดนั้น ก็แล้วแต่จะคิดครับ

ความจริงแล้ว ทั้ง 2 คัน ขับทางไกลขึ้นดอยได้ดีทั้งคู่ Mazda 2 Diesel มีดีที่แรงบิดสูง ได้เปรียบในการขึ้นดอย ข้อเสียเลยก็คือเครื่องยนต์ดีเซลอาจจะมีปัญหาเห็นคนใช้รถรุ่นดีเซลเขาบ่นกัน ส่วน Honda City 1.0 Turbo RS มีดีที่อัตราเร่งแซงที่ดี ประหยัดน้ำมัน รองรับน้ำมันสะอาดได้ถึง E85 และ ขับทางไกลได้ดีกว่า ข้อเสียข้อแรกคืออะไหล่อาจจะขึ้นสนิมได้ง่ายหน่อยและข้อเสียข้อสองคือถ้าขึ้นดอยนี่ เทอร์โบอาจจะทำงานหนักและทำให้เสียได้ เปลี่ยนเทอร์โบนี่แพงหน่อยครับ ถ้าได้เปรียบทั้งขับทางไกลและขึ้นดอยเลยควรเลือก City 1.5 e:HEV แรงม้าน้อยกว่า 15hp แต่แรงบิดมากกว่า 80Nm ค่าซ่อมก็ถูกกว่าแค่ 35% ซ่อมก็ง่ายกว่าทั้ง City 1.0 Turbo และ Mazda2 Diesel แต่ City e:HEV รองรับน้ำมันสูงสุดแค่ E20 Paddle Shift ใน City e:HEV สามารถ Regenerative Brake ได้ 3 ระดับ พอสตาร์ทรถ ออกตัวครั้งแรกและใช้ความเร็วต่ำกว่าประมาณ 80km/h มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานอย่างเดียวถือว่าลดมลพิษได้ถึง 40% พอเร่งแซงหรือวิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 90km/h เครื่องยนต์จะทำงาน ถ้าอยากให้ชาร์จกลับเข้าแบตขณะลดความเร็ว Paddle Shift สามารถปรับระดับความหน่วงได้ถึง 3 ระดับ City e:HEV คือรถ Hybrid ที่ถูกที่สุดในตลาดรถ Hybrid ที่จำหน่ายในบ้านเราตอนนี้ แนะนำเลยครับ และอีกอย่างหนึ่ง ออพชั่นของ City e:HEV มีมากกว่า City 1.0 Turbo ทั้ง เบรคมือไฟฟ้า มาตรวัดดิจิตอล