อยากถามความเห็นเรื่องเหตุผลการซื้อรถแบรนด์ญี่ปุ่นของคนไทยครับ

pratuang

1. ศูนย์มากครับ 2.ราคาเซอวิสไม่แพงครับ 3.ราคาประกันไม่แพงครับ 4.อะไหล่หาง่ายครับ 5.ราคาขายต่อก็อยู่ที่ระดับดีครับ 6.การขับขี่ก็ใกล้เคียงกับรถยุโรปแล้วครับ (CAMRY และ ACCORD ) 7.ราคาซื้อรถก็โอเคครับ สามารถเอื้อมถึงได้ 8. รุ่นท๊อปของญี่ปุ่นอ๊อฟชั่นมากกว่ารถยุโรปอีกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2021, 20:44:46 โดย pratuang »



Zephyrs

ถ้าเอาคนทั่วไปไม่ใช่คนในเวปนี้นะ หลักๆที่ซื้อรถญี่ปุ่นของคนไทยเนี่ย
1. ทนมือทนเท้า 2. ซ่อมง่าย ศูนย์บริการเยอะ 3. ไม่ซับซ้อน 4. ประหยัดน้ำมัน
แค่นี้จริงๆ ไอพวกประสิทธิภาพการขับนี่นู่นนนนนเลยข้อเกือบจะหลักสิบแล้ว

แถมด้วยก็ได้ ถ้าเป็นรถยุโรปมือ 1 มีหลักการไม่มากเลย
1. ภาพลักษณ์ 2. ความสบาย 3. เทคโนโลยีแพรวพราว
การขับขี่มาเป็นข้อ 4,5 นู่นแหละ ทนทานก็คงท้ายนู่นเลยมั้ง พอๆกับประสิทธิภาพการขับขี่รถญี่ปุ่นนั่นแหละ



TeslaX

ซ่อมง่าย อะไหล่รอไม่นาน ศูนย์มีครบทุก77จังหวัด ต่างจากรถยุโรป จะเช็คระยะทีวุ่นวายมาก ต้องใช้รถยกข้ามจังหวัดสำหรับบางที่ๆไม่มีศูนย์บริการ



wooot

ด้วยงบประมาณที่มีในกระเป๋า รถญี่ปุ่นสมเหตุสมผลกับผมที่สุดครับ

พื้นฐานรถ ออฟชั่นที่จำเป็น ความสวยงามประมาณนึง และ reliability ครับ



Auto

ตอนซ่อมนี่ละ    ถ้ามองว่ารถญี่ปุ่นซ่อมแพง   ไม่ต้องฝันรถยุโรป



Devil13

ราคาเอื้อมถึง
ซ่อมง่าย รออะไหล่ไม่นาน
ค่าดูแลไม่แพง ต่อประกันก็ไม่แพง ทำประกันได้ตลอดจนเลิกขับ
ถึงอายุเยอะ แต่ไม่จุกจิก
ขายต่อราคาไม่หล่นมาก เมื่อเทียบกับยุโรป



InBkk

รถประกอบในประเทศส่วนใหญ่ เป็นรถจากแบรนด์ญี่ปุ่น
เมื่อรถญี่ปุ่นประกอบในประเทศ ราคาจึงไม่แพงมาก
เมื่อรถญี่ปุ่นราคาไม่แพงมาก รถญี่ปุ่นจึงขายดี
เมื่อรถญี่ปุ่นขายดี จึงทำให้ค่ายมีเงินทุนไปขยายศูนย์บริการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทย
เมื่อรถญี่ปุ่นทำมาเหมาะกับคนไทย ก็เลยยิ่งขายดี เวลาจะขายมือสองก็ได้ราคา เพราะ Demand เยอะ

นอกจากแบรนด์ญี่ปุ่นแล้ว ก็ดูจะมีแบรนด์หรูจากเยอรมัน และแบรนด์จีนเท่านั้น ที่พอจะทำได้ใกล้เคียง

ส่วนแบรนด์ Mainstream จาก เกาหลี เยอรมัน ฝรั่งเศส เขาไม่เห็นความคุ้มค่าในการมาลงทุนจำนวนมากๆ ในตลาดที่ไม่ได้ใหญ่มากอย่างไทย



Teera




Glazy

1.ราคาเป็นมิตรกว่า
2.ดูแลง่าย ทนทาน
Chemical Engineering
2020- BMW X1 (F48) sDrive20d Msport
2018- Toyota Fortuner 2.4V 4wd
2010- Toyota Vios 1.5at +kyb newsr



Level Z3RO

ราคา กับ ในจังหวัดไม่มีศูนย์รถยุโรปเลยครับ



Niti

รถใช้เองผมซื้อแต่รถ used ไม่ใช่ไม่อยากได้ยุโรป แต่ก็จบกับตัวเลือกฝั่งญี่ปุ่นทุกทีไปด้วยความรู้สึกว่าซ่อมดูแลแล้วจะจบ ไม่งอแงครับ  :-X
-------------------------------------------------------------
In: 350Z DE / New Fortuner TRD / Harrier XU60*2 / Alphard AH30
Out: Miata NC RHT / 86 / IS250
-------------------------------------------------------------



InBkk

แบรนด์ที่เป็น Mainstream ในประเทศไทย มันก็มีแต่แบรนด์ญี่ปุ่น ส่วนแบรนด์จีน พึ่งจะเข้ามาตีตลาด

ส่วนแบรนด์ Mainstream จาก เกาหลี เยอรมัน ฝรั่งเศส พอเจอภาษีนำเข้าๆ ไป ราคามันก็อัพขึ้นจนเทียบเท่าแบรนด์ Premium แถมศูนย์บริการก็น้อย ค่าซ่อม ค่าประกัน ใกล้เคียงแบรนด์ Premium เพราะจำนวนรถที่น้อยกว่า มันก็เลยขายได้น้อย



เนื้อน่องไม่หนัง

1. ราคา ยุโรป Premium vs ญี่ปุ่นบ้านๆ ในขนาดเท่าๆกัน
2. การบะรุงรักษาที่  ญี่ปุ่นบ้านๆ ทำได้ดีกว่าทั้งราคา และความจุกจิก

ส่วนตัว อยากได้ ยุโรปพรีเมี่ยม "ซื้อไหวแต่ไม่คู่ควร" กลัวค่าบำรุงรักษา กลัวเสียจุกจิก ยังทำใจไม่ได้



SM.

ราคาเอื้อมถึง
ซ่อมง่าย รออะไหล่ไม่นาน
ค่าดูแลไม่แพง ต่อประกันก็ไม่แพง ทำประกันได้ตลอดจนเลิกขับ
ถึงอายุเยอะ แต่ไม่จุกจิก
ขายต่อราคาไม่หล่นมาก เมื่อเทียบกับยุโรป

+1



ThisIsYuTh

ส่วนตัวเลือกรถญี่ปุ่นเพราะในราคา 2 ล้านนิดๆ รถญี่ปุ่นได้อะไรคุ้มค่ามากกว่า ตอนซื้อ CX-5 2.5T ผมเทียบ X1 กับ GLA ทั้งสองตัวเหมือนจ่ายแพงกว่า ได้ของแย่กว่าทั้งสมรรถนะ ออพชั่น ความหรูหรา แต่ได้แปะแบรนด์มาเท่านั้นเอง
2025 - Zeekr 7X (AWD)
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)