BEV มันจะเป็น Mainsream ในประเทศไทยได้ก็ต่อเมื่อเข้ามาตั้งโรงงานหรือสายการผลิตในประเทศไทยเท่านั้น การนำเข้าจากจีนหรือประเทศอื่นมันเป็นได้แค่ขี้เล็บที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงตลาดยานยนต์ของประเทศไทยได้ เนื่องจากจำนวนที่นำเข้าจากจีนทุกวันนี้มันเป๊นแค่ค่าขนมหรือการเอากำลังการผลิตที่เหลือส่งมาขาย แต่ถ้าจะให้การนำเข้ามารับผิดชอบตลาดรถส่วนใหญ่ในประเทศนี้น่ะคงได้แค่ฝันกลางวัน เพราะตามหลัก Make or Buy ประเทศที่มีห่วงโซ่อุปทานยานยนต์พร้อมสรรพอย่างประเทศไทย หากมีปริมาณขายหลายแสนหรือหลักล้านคัน มันคุ้มค่ากว่าสำหรับค่ายรถที่จะมาลงทุนเปิดสายการผลิตในประเทศไทยที่พื้นฐานพร้อมกว่าประเทศอื่นใน ASEAN อยู่แล้ว เมื่อมียอดขายจำนวนมากเจ้าตลาดเดิมที่ครองตลาดอยู่ก็มาตั้งสายการผลิตขายสบายๆ ส่วนผู้เล่นหน้าใหม่ก็ต้องดิ้นรนตะเกียกตะกายเข้ามาตั้งโรงงานบ้างเพื่อลดความเสียเปรียบในด้านต่างๆ สุดท้ายมันก็กลายเป็นการผลิตในประเทศเหมือนเดิม
เอาจริงๆบริษัทรถยนต์และพวก Mega Supplier ในประเทศไทยน่ะชิลๆสบายๆเลยด้วยซ้ำ เพราะถ้าตลาดไทยเปลี่ยนเป็น BEV เมื่อไหร่ก็หมายความว่าพวกเค้าเตรียมรับคำสั่งผลิตปริมาณมหาศาลเมื่อนั้น ตลาดรถไทยที่เคยถูกพิจาราณาว่ากลายเป็น Mature Market ไปแล้วจะกลับมามีชีวิตสร้างยอดผลิตให้เป็นกอบเป็นกำเพราะทุกคนอยากที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่ เหมือนตลาด Mature Market ที่กำลังเกิดใหม่อย่างยุโรป คนที่ตายคือพวก SME หรือพวก Tier-N เล็กๆที่เป็นของคนไทยล้วนเพราะไม่มีเทคโนโลยีอะไรไปแข่งขันกะเค้า
+1ครับ
+10000
ช่วง นี้ก็ปล่อย เด็กมหาลัย ไม่รู้อะไรเป็นอะไร จินตการ ว่า Toyota Honda Nissan จะเป็นเหมือน Nokia Koduc ไปก่อนครับ
หารู้ไม่ เทคโนโลยรี กับ การผลิตเพื่อให้ได้กำไร มันคนละเรื่องกัน
เคยบอกไปล้านรอบแล้ว คนทำธุรกิจ เค้าไม่มาลงทุนกับอะไรที่มัน ลงทุนแล้วไม่คุ้มค่าหรอก
แค่ยกเครื่องยนต์ออกจาก รถ Hybrid แล้วหาแบตมาลงเป็น EV ขาย มันไม่ยากหรอก แต่ทำแล้วได้กำไร มั้ย นั่นละคำตอบ
ก่อน จะฝันถึง mainstream EV ในไทย
เอายอดขาย EV ให้มันได้สัก 10 % ของ Hybrid ในไทยให้ได้ก่อนเหอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ