ผมก็ใช้ J32 2.0 13 ปี/3.4 แสนโล เคยมอง L33 ก็ไม่ได้ดีกว่ามากมายจนน่าเปลี่ยน ลากใช้จนมาถึงมายุคหลังๆนี่ซื้อรถใหม่ไม่ลงจริงๆ ไม่ใช่จะอวยว่า J32 ดีนะ แต่ราคารถ 1.1 ล้าน สมัยนั้น มาถึงสมัยนี้ได้แค่รถ C-Seg ทำใจไม่ได้ ก็เลยลากใช้ยาวๆ มันก็ทนดี เกียร์ CVT ก็ยังดี น้ำมันเกียร์ผมเปลี่ยนทุก 0.8-1 แสนโลนะ ศูนย์แจ้งค่อยเปลี่ยน
ช่วงล่างนี่สุดๆแล้ว 520d F10 อีกคันของน้องที่บ้านซื้อช่วงไล่เลี่ยกันกับ J32 ก็ขับสนุก+ประหยัด แต่ไม่ได้ขับสบายกว่าเลย ค่าซ่อมรวมๆ 520d หมดไป 4 แสน ส่วน J32 หมดไปแค่ 4 หมื่น
คันต่อมากลายเป็นกระบะ ซื้อตอนสมัย J32 11 ปี/3.1 แสนโล คิดผิดจริงๆ ขับทางไกลเหนื่อยมาก ไปไหนทั้งครอบครัวยังต้องพึ่ง J32 เป็นหลัก ตอนหลังยก J32 ให้น้องไปเพราะโดนพิษโควิดไม่มีรถใช้ ก็เลยซื้อรถไฟฟ้าจีนมาใช้วิ่งงานแทนเพราะขับกระบะ 2-3 ร้อยกิโลแทบทุกวันไม่ไหว รถจีนขับไม่ดีเลยแต่ค่าไฟก็ถูกกว่าค่าน้ำมันเยอะอยู่ถือว่าแลกกัน สมัยนี้จะได้รถระดับเดียวกับ J32 น่าจะ 1.6 ล้าน+ ถ้าย้อนกลับไปไม่ซื้อกระบะ ก็คงยังใช้ J32 คันเดียวทะลุ 4 แสนโลไปแล้วมั้ง + ประหยัดเงินไป 2 ล้าน ความเห็นผม J32 คือดีงามแล้ว แนะนำให้ใช้ต่อจนพัง ขี้เกียจซ่อมก็ตัดใจขายถูกๆ ผมว่ายังกำไรนะ ไม่ต้องผ่อนคือเหลือเงินเติมน้ำมัน เหลือเก็บสบายๆ รอเปลี่ยนผ่านเป็นยุครถไฟฟ้าเต็มตัวแล้วค่อยเปลี่ยนทีเดียว