ผู้เขียน หัวข้อ: honda ประเทศไทยได้ช่วยให้คนในประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น ?  (อ่าน 6065 ครั้ง)

ออฟไลน์ Akrachai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 350
    • อีเมล์
อันนี้ขำๆนะครับ ฮ่าๆ

เจ้าแบรนด์ honda นี้ส่วนใหญ่ประเทศไทยจะได้ออปชั่นน้อยกว่าญี่ปุ่นอยู่พอสมควร มันเลยมีช่องว่างให้คนไทยนำสินค้าของตกแต่ง + ระบบต่างๆ ที่รถยนต์ honda ญี่ปุ่นมี เข้ามาขายได้และกำไรสูง เนื่องจากคุณไม่ยอมให้จากโรงงานมาเลยเป็นมาตรฐานนั้นเอง (ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเพิ่มต้นทุนขนาดไหนเชียว มันคือรถตลาดเลยนะ)

เช่นพวกตระกูล jazz GD GE GK , city GM5 GM6 , civic FC FK FB FD , HRV
ผมเห็นร้านในโลกออนไลน์เต็มไปหมดที่นำของเดิมจากรถญี่ปุ่นที่ได้มาจากโรงงาน (OEM) มาขายในบ้านเราแล้วราคาสูงพอตัว ทั้งๆที่ญี่ปุ่นคือเดิมโรงงาน 555555

** แต่งแถบตายสุดท้ายได้เดิมญี่ปุ่น ** 

ที่ตั้งกระทู้แค่อยากจะบ่นฮอนด้าไทยแลนด์เฉยๆ ว่าจกงกอะไรหนักหนา

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
cost reduction ครับ ตัดได้บาทนึงก็เอา
ดังนั้นอะไรที่ดูแล้วตัดได้ ค่ายรถส่วนมากมักจะตัดครับ ซึ่งง่ายสุดก็คือออปชั่นที่หายไปนั่นแหละครับ
ตอนนี้ออปชั่นหลายอย่างที่ตกทะเลไปก็งมเจอแล้ว ตั้งแต่พี่จีนเริ่มตีตลาดเมืองไทย

ออฟไลน์ sudlor_gang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 565
เจ้าตลาดก็งี้อ่ะเน๊อะ กฎหมายกลวงๆ รถสนิมยังไงใครก็ซื้อ เกียร์พังยังไงก็ซื้ออ่ะ ฟ้องๆๆ แล้วก็เงียบ
คนจะแข่งต้องตั้งโรงงานที่ไทย ลงทุนเยอะคงยากแหล่ะ
CRV สเปคกากมาก ราคาโคตรแพงก็ขายได้

ได้แต่มองตาปริบๆ ทำไรไม่ได้
มีเงิน 1.6m อยากได้ SUV ในตลาดมีแค่ CR-V แพงสเปคกาก H6 ยังใหม่ยังไม่กล้าซื้อ HS เวลาพิสูจน์ละว่า defect มีเยอะ
สรุปซื้อ SUV ไม่ได้
ต้องไปออก accrod , camry
อนาถตัวเองมาก

พี่โตเอา rav4 มาแข่งไม่ได้หรอ คนอยากได้ SUV ไม่ได้อยากได้ PPV

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,705
พี่รู้มั้ย ว่าส่วนใหญ่รถบนโชว์รูมญี่ปุ่น (ทุดยี่ห้อ) เป็นรุ่นเบาะผ้า
ล้อกระทะ ฝาครอบป้าดติก

ส่วนรุ่นท็อปออปชั่นเต็ม มักอยู่บนแค็ตตาล็อก มีให้เลือก
แต่ลูกค้ามักไม่เลือก

ไม่ใช่อะไรหรอกฮะ รุ่นย่อยรถที่ขายในญี่ปุ่น มันมีตั้งแต่
ออปชั่นโล้นกว่าเรา ไปจนรุ่นท็อปที่ออกชั่นแน่นกว่าเรา

เรียกว่าเร้นจ์มันกว้างกว่า รถเขาจึงไม่ได้ดีกว่าเราไปทั้งหมด
ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่ายินดีจ่ายแค่ไหน
ของบ้านเราก็เช่นกันฮะ ถ้าพี่ยินดีจ่าย เดี๋ยวรุ่นออปชั่นเพิ่มก็ค่อยๆ ตามมาครับ


ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,232
    • อีเมล์
รถที่ผลิตไทย ส่งไปขายออสเตเลีย เมื่อหลายปีก่อน

รถเก๋ง .. ไฟหน้า Halogen ทุกคัน ไม่ได้ xenon
รถเก๋ง .. กระจกมือหมุน 4 บาน
รถเก๋ง .. มือเปิดสีดำ ล้อกระทะ เบาะผ้า เกรดเดียวกับ ที่เราเอามาขายทำ taxi

แต่ที่ดีกว่าก็มีนะ เช่น เกียร์ M/T 6 สปีดในรถเก๋ง / ถุงลม 6 ใบ ตั้งแต่รุ่นถูกสุด (เมื่อ 10 กว่าปีก่อนนะ บ้านเรายังแทบไม่รู้จักถุงลม 6 ใบเลย) / กระบะมีเข็มขัดนิรภัย 3 จุด ที่เบาะ cab

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
civic นี่คนลาวเข้ามาขำ หัวเราะดังๆ อ๊อปชั่นไทยกันเลยทีเดียว

อันนี้พูดเรื่องจริงตามข้อมูล
แค่บอกว่าเราแพงกว่าเค้าและโล้นกว่าเค้าจริง

ออฟไลน์ Sleepy Boy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,419
    • อีเมล์
เท่าที่เห็นในเมืองนอกเขาขายกัน มักเริ่มต้นด้วยรุ่นสแตนดาร์ดโล้นๆเอาแค่พอใช้ได้ มีอุปกรณ์ตามกฎหมายกำหนด แล้วเลือกออปชั่นกันไป จนถึงตัวท็อปจัดเต็ม เอาใจลูกค้าครบทุกความต้องการ
แต่บ้านเราลูกค้าไม่สามารถเพิ่มออปชั่นโน่นนี่เองได้ โดนล็อกสเปคขาย เหมือนโรงงานขี้เกียจปรับสเปคแต่ละคันให้มันวุ่นวาย
เรื่องต้นทุนก็มีส่วน เพราะถ้าโรงงานประหยัดไปได้คันละ 10,000 บาท ขายได้ 10,000 คัน ก็ประหยัดเงินได้ 100 ล้านบาท เอามาเป็นโบนัสให้พนักงานได้ตั้งเยอะ  ;D

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
คิดว่าถ้าติดตั้งมาากโรงงานแล้วราคาจะเท่าเดิมเหรอครับ ผู้บริโภคก็ต้องรับภาระไปอยู่แล้ว บริษัทรถที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดไม่มีทางเฉือนกำไรของตัวเองหรอก

ถ้าอยากได้อ็อปชั่นเยอะๆมี 2 ทางครับ

1.หนีไปซื้อยี่ห้อที่ไม่ใช่เจ้าตลาดหรือผู้นำตลาดที่ต้องอัดอ็อปชั่นมาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
2.คนไทยต้องสร้างแบรนด์รถยนต์ของตัวเองขึ้นมาแล้วตั้งราคาขายถูกๆ ใส่อ็อปชั่นมาเยอะๆ แล้วคนไทยก็ต้องช่วยกันอุดหนุนกันจนมันเป็นผู้นำตลาดเพื่อกระตุ้นให้รถญี่ปุ่นอัดอ็อปชั่นมาแข่ง

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,393
เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ออฟไลน์ Akrachai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 350
    • อีเมล์
พี่รู้มั้ย ว่าส่วนใหญ่รถบนโชว์รูมญี่ปุ่น (ทุดยี่ห้อ) เป็นรุ่นเบาะผ้า
ล้อกระทะ ฝาครอบป้าดติก

ส่วนรุ่นท็อปออปชั่นเต็ม มักอยู่บนแค็ตตาล็อก มีให้เลือก
แต่ลูกค้ามักไม่เลือก

ไม่ใช่อะไรหรอกฮะ รุ่นย่อยรถที่ขายในญี่ปุ่น มันมีตั้งแต่
ออปชั่นโล้นกว่าเรา ไปจนรุ่นท็อปที่ออกชั่นแน่นกว่าเรา

เรียกว่าเร้นจ์มันกว้างกว่า รถเขาจึงไม่ได้ดีกว่าเราไปทั้งหมด
ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่ายินดีจ่ายแค่ไหน
ของบ้านเราก็เช่นกันฮะ ถ้าพี่ยินดีจ่าย เดี๋ยวรุ่นออปชั่นเพิ่มก็ค่อยๆ ตามมาครับ

ใช่ครับอันนี้ผมเห็นด้วยครับ แต่....ถ้าวัดรุ่นท็อปจริงๆเพราะเมือก่อนผมติดตาม website honda japan มาตลอดและลองเทียบกันกับรถรุ่นที่มีขายในไทยและญี่ปุ่น ซึ่งตัวท็อป เมื่อเทียบกับของไทยออฟชั่นหายไปเยอะแบบชัดเจนเลยครับ (อันนี้คือจุดหลักที่ผมจะบอกแหละ)

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
การแข่งขันทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกครับ

เว้นแต่คนซื้อไปแล้วกะใช้ยาวๆๆๆๆ ก็จะกลัวการแข่งขัน กลัวที่เลือกไปแล้วราคาจะตกหรือเปลี่ยนยุคพลังงาน

ออฟไลน์ Jakkrapong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 57
    • อีเมล์
ลดออฟชั่นไม่เท่าไหร่ แต่ผมไม่อยากให้ลดคุณภาพวัสดุและงานประกอบเลยครับ

ล่าสุดผมไปดู HRV มา ไปสังเกตเห็นตรงขาเบาะหน้า ตัวที่ขายในไทยก็ตัดเอาพลาสติกครอบขาเบาะออก เห็นขาเหล็กและหัวน็อต ทั้งๆที่ตัวที่ขายในญี่ปุ่นก็ใส่มาให้ และตัวเก่าก็มี

แผ่นปิดหลุมใส่ของด้านท้ายรถ เคยดูรีวิวตัวที่ขายต่างประเทศ เค้าก็หุ้มสักหลาดมาให้ทั้งด้านบนและด้านใต้ของแผ่น แต่ของไทยด้านล่างของแผ่นปิดโชว์ผิวไม้อัดซะงั้น :(

จริงๆก็พอจะเข้าใจแหละครับว่า ต้นทุนส่วนใหญ่คงจะหมดไปกับระบบความปลอดภัย Honda Sensing จึงไปลดต้นทุนกับการเก็บงานจุดเล็กๆน้อยๆที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ไปสนใจ

แต่ผมว่าคุณภาพที่เราประเมินด้วยสายตามันก็สำคัญไม่แพ้กันนะ ยิ่งถ้าเป็นอะไรที่ตัวเก่าของรถรุ่นนั้นเคให้มาแล้วมาตัดออกในรุ่นใหม่ มันกลายเป็นจุดพิจารณาของคนที่จะซื้อ (คนที่สังเกตอะไรแบบผม) ได้เหมือนกัน

ผมอาจจะพูดไม่ค่อยตรงประเด็นกับกระทู้เท่าไหร่นะครับ แค่เห็นว่าเรื่องมันเกี่ยวเนื่องกันอยู่หน่อยๆ เลยอยากเข้ามาบ่นจากคนที่ก็ขับฮอนด้าอยู่  :(
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 23, 2021, 16:38:41 โดย Jakkrapong »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,435
แต่ละตลาด เงื่อนไขไม่เหมือนกัน บริษัทรถก็ทำออกมาไม่เหมือนกันนะครับ

แต่ถ้าจะบ่นจริงๆ ขอสักเรื่อง ผมไม่ชอบที่เท้าแขนหลังแบบไม่มีกระดูกเลย  >:( >:( >:( >:( >:( >:(

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,705
พี่รู้มั้ย ว่าส่วนใหญ่รถบนโชว์รูมญี่ปุ่น (ทุดยี่ห้อ) เป็นรุ่นเบาะผ้า
ล้อกระทะ ฝาครอบป้าดติก

ส่วนรุ่นท็อปออปชั่นเต็ม มักอยู่บนแค็ตตาล็อก มีให้เลือก
แต่ลูกค้ามักไม่เลือก

ไม่ใช่อะไรหรอกฮะ รุ่นย่อยรถที่ขายในญี่ปุ่น มันมีตั้งแต่
ออปชั่นโล้นกว่าเรา ไปจนรุ่นท็อปที่ออกชั่นแน่นกว่าเรา

เรียกว่าเร้นจ์มันกว้างกว่า รถเขาจึงไม่ได้ดีกว่าเราไปทั้งหมด
ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่ายินดีจ่ายแค่ไหน
ของบ้านเราก็เช่นกันฮะ ถ้าพี่ยินดีจ่าย เดี๋ยวรุ่นออปชั่นเพิ่มก็ค่อยๆ ตามมาครับ

ใช่ครับอันนี้ผมเห็นด้วยครับ แต่....ถ้าวัดรุ่นท็อปจริงๆเพราะเมือก่อนผมติดตาม website honda japan มาตลอดและลองเทียบกันกับรถรุ่นที่มีขายในไทยและญี่ปุ่น ซึ่งตัวท็อป เมื่อเทียบกับของไทยออฟชั่นหายไปเยอะแบบชัดเจนเลยครับ (อันนี้คือจุดหลักที่ผมจะบอกแหละ)

อยากได้สเปกเดียวกันเป๊ะๆ ก็พอจะเป็นไปได้แหละครับ
แต่ราคาไม่เท่ากันแน่ๆ  แล้วเราก็คงบ่นกันอีกว่าราคากระโดดไปไกลครับ

ออฟไลน์ ไทบ้าน

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,668
ลูกค้าไม่มีอิทธิพลเหนือบริษัท  ...คติพจน์รถบางค่ายเคยว่าไว้
1990 Yamaha Mate-100
1992 Yamaha Bell-100
2000 Yamaha Tiara-R
2017 Yamaha MT-03

ออฟไลน์ porasit33

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,189
ทำไมผมรู้สึกว่า toyota ให้น้อยกว่า
โดยคนไม่ได้คาดหวังออพชั่น

กรรมเลยมาตกที่ Honda Honda ก็บอกว่าว่าอยากได้ออพชั่นไปซื้อรถจีนเถอะ 😂

กรรมทอดต่อไปคือตกที่รถจีน รถจีนบอกอยากได้รถทนๆ ไปซื้อโตโยต้าเถอะ 555

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
หลายค่ายแบรนด์รถทั่วโลกเริ่มที่จะลด option ลง เมื่อ semi conductor ขาดแคลนทั่วโลก

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,145
  • I'm............................
สมัยที่รถทุก segment ขายแพ้ Toyota

ยอมรับเลยว่า ดูตั้งใจทำรถออกมามากกว่านี้จริงๆ ครับ

เอาแค่ front เครื่องเสียง
เป็นรถญี่ปุ่นเจ้าแรกๆ เลยนะที่ทำ Bulit-in และให้ USB มา
แถมไม่คิดเลยว่าเครื่องเสียงและลำโพง City โฉม 2008-2013 คุณภาพเสียงจะดีขนาดนี้

ทุกวันนี้พอขึ้นเป็นเจ้าตลาดรถยนต์นั่ง
เหมือนเหลิง ลืมเคสทุบรถไปซะงั้น
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,864
ล้อเป็นเล่นไป บางคนไม่ซื้อรถรุ่นนั้นๆเลย หากหาของแต่งไม่ได้ก็มี

ส่วนตัว การทำให้ตลาดของแต่งมีการขยับตัว จะเป็นข้อได้เปรัยบเบาๆของค่ายรถไปโดยปริยาย

มันจะเกิดมีการพูดคุย และมีชุมชนเกิดขึ้น สินค้าก็จะขายดี ถึงแม้ว่าสินค้าตัวนั้นๆจะไม่มีอะไรพิเศษในรถญี่ปุ่นก็เถอะ

ออฟไลน์ tsubasa

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,322
MINDSET ของผู้บริหารชาวญี่ปุ่น เกือบทุกยี่ห้อ ยังไม่เปลี่ยน เอาเปรียบคนไทย เอาของคุณภาพต่ำกว่าขายให้คนไทยมานานแล้ว
อยากให้ปรับ MINDSET ใหม่ซะที

ผู้บริหารคนไทยต้องกล้าที่จะสู้เพื่อคนไทยด้วยครับ

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 913
ผมว่าค่ายญี่ปุ่นมันก็นิสัยแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วหนิครับ ยุคหลังๆที่เป็นโตฮอนนี่คือชัดเจนหน่อย
แบบใครเสียเปรียบปุ๊บก็เริ่มตั้งใจทำรถ พอกลับมาแซงก็ดึงเช็ง หน้าตาใหม่ออปชั่นโล้นๆกั๊กๆ เป็นงี้มายกเว้นในช่วง 5 ปีให้หลัง
ที่รถพี่โตฯแกทำรถแบบไม่แคร์ฮอนด้าอีกต่อไป ยอดแพ้ก็ช่างแม่ม ออปชั่นก็กั๊กๆแบบนั้นแหละ
ที่เห็นชัดๆก็ Vios-Altis ที่แพ้ City-Civic มาหลายรุ่นละ แต่ก็ไม่แคร์

คือตามหลักทุนนิยมอยู่แล้วอะครับ ถ้าอยากให้ทางคนขายฟัง คนซื้อก็ต้องลดการซื้อเพื่อแสดงจุดยืน แต่ในเมื่อรถมันก็ยังขายได้ (เหลือเชื่อเลยนะ รถไม่กี่ปีสนิมขึ้นก็ไม่เคยมีคนไปงัดสักแอะ)
เขาก็คงไม่แคร์ความเห็นอยู่แล้วอะครับ คนพูดไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้พูด

ปล. จริงๆเกลียดนโยบายการขายรถในช่วงหลังๆของฮอนด้ามาก ไอที่แบบบังคับกลายๆให้ซื้อตัวท็อปรุ่น RS เพื่อให้ได้ของแต่งจนออกมาดูได้ (3 ตัวล่าสุด City-Civic-Accord เลยนั่นแหละ)

ออฟไลน์ Boatcommando

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
เท่าที่เห็นในเมืองนอกเขาขายกัน มักเริ่มต้นด้วยรุ่นสแตนดาร์ดโล้นๆเอาแค่พอใช้ได้ มีอุปกรณ์ตามกฎหมายกำหนด แล้วเลือกออปชั่นกันไป จนถึงตัวท็อปจัดเต็ม เอาใจลูกค้าครบทุกความต้องการ
แต่บ้านเราลูกค้าไม่สามารถเพิ่มออปชั่นโน่นนี่เองได้ โดนล็อกสเปคขาย เหมือนโรงงานขี้เกียจปรับสเปคแต่ละคันให้มันวุ่นวาย
เรื่องต้นทุนก็มีส่วน เพราะถ้าโรงงานประหยัดไปได้คันละ 10,000 บาท ขายได้ 10,000 คัน ก็ประหยัดเงินได้ 100 ล้านบาท เอามาเป็นโบนัสให้พนักงานได้ตั้งเยอะ  ;D
เคยมีบริษัทรถนึงในไทยนะครับ ที่คิดจะขายรถแบบแบบให้ลูกค้าเลือกสีตัวถัง กับสีภายในแยกกันได้ ไม่โดนบังคับแบบตัวถังสีดำต้องคู่ภายในสีเบจ ตัวถังสีขาวต้องคู่ภายในสีดำงี้ (แล้วเข้าใจว่าจะนำไปสู่การขายแบบยุโรป คือมีรถมาโล้นๆ เป็นตัวล่างสุด อยากได้อ๊อปชั่นอะไรจ่ายเพิ่มเอง) คือบริษัทรถหนะอยากทำ เพราะถ้าทำได้ก็ได้ใจลูกค้าเหนือคู่แข่ง ต้นทุนก็ไม่ได้เพิ่มด้วย

ผลคือคนงานในไลน์ประกอบประท้วงเละเทะครับ บอกวุ่นวายไม่อยากประกอบ จะเอาแบบง่ายๆ ขี้เกียจมานั่งดูว่ารถคันนี้สีอะไร ภายในสีอะไร โปรเจคเลยไม่ได้เกิด เลยต้องขายแบบล๊อคสี ล๊อคอ๊อปชั่นแบบนี้

ถ้าบ้านเรายังใช้แรงงานคนในการประกอบรถเป็นหลัก ยากครับ
Current Cars
1996 - Merc E200 (W124)  :-*
2022 - BMW 530e Elite (G30 LCI)

Past
2000 - Honda Civic (EK)
2003 - Honda Accord 2.0 (G7)  :-*
2015 - Honda Accord Hybrid (G9)  :-\

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,970
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

1.รายได้เฉลี่ยไทยน้อยกว่า จะให้ตัวท็อปออปชั่นเท่า
กับตลาดอื่น  คุณจะซื้อไหมซีวิค 1.6 ล้าน  ถามใจตัวเองก่อน   
2. นิสัยชอบเอาเปรียบกับดูถูกผู้บริโภคเจ้าตลาดเป็นมานานแล้วครับ  ในหลายส่วนHRV ก่อนเปลี่ยนโฉมลดcost ยับ  ลดจนน่าเกลียด  หรือหลายรุ่นได้อานิสงส์ปรับโครงสร้างภาษี จริงๆต้องลดราคาฮอนด้าบวกเพิ่ม
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
พี่รู้มั้ย ว่าส่วนใหญ่รถบนโชว์รูมญี่ปุ่น (ทุดยี่ห้อ) เป็นรุ่นเบาะผ้า
ล้อกระทะ ฝาครอบป้าดติก

ส่วนรุ่นท็อปออปชั่นเต็ม มักอยู่บนแค็ตตาล็อก มีให้เลือก
แต่ลูกค้ามักไม่เลือก

ไม่ใช่อะไรหรอกฮะ รุ่นย่อยรถที่ขายในญี่ปุ่น มันมีตั้งแต่
ออปชั่นโล้นกว่าเรา ไปจนรุ่นท็อปที่ออกชั่นแน่นกว่าเรา

เรียกว่าเร้นจ์มันกว้างกว่า รถเขาจึงไม่ได้ดีกว่าเราไปทั้งหมด
ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่ายินดีจ่ายแค่ไหน
ของบ้านเราก็เช่นกันฮะ ถ้าพี่ยินดีจ่าย เดี๋ยวรุ่นออปชั่นเพิ่มก็ค่อยๆ ตามมาครับ

ผมยังขำเลยครับ
Lancer EX ในไทยชอบเปลี่ยน ไฟท้ายแดงของ EVO X ในราคาแพงๆ เพราะคิดว่า มันเป็นของ EVO X
แต่ EVO X รุ่นหลังๆ ดันออกไฟท้ายเป็นรุ่ยเดียว กับ EX ประเทศไทย
และ EVO X ก็ชอบไฟท้าย รุ่นใหมา่แบบประเทศไทย ซือ้ไปเปลี่ยนกันเยอะมาก
ผมยังงง ของพวกนี้ไปโทษค่ายรถได้ยังไงกันนะ สมองล้วนๆ ที่ คิดไปเอง

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,738
เท่าที่เห็นในเมืองนอกเขาขายกัน มักเริ่มต้นด้วยรุ่นสแตนดาร์ดโล้นๆเอาแค่พอใช้ได้ มีอุปกรณ์ตามกฎหมายกำหนด แล้วเลือกออปชั่นกันไป จนถึงตัวท็อปจัดเต็ม เอาใจลูกค้าครบทุกความต้องการ
แต่บ้านเราลูกค้าไม่สามารถเพิ่มออปชั่นโน่นนี่เองได้ โดนล็อกสเปคขาย เหมือนโรงงานขี้เกียจปรับสเปคแต่ละคันให้มันวุ่นวาย
เรื่องต้นทุนก็มีส่วน เพราะถ้าโรงงานประหยัดไปได้คันละ 10,000 บาท ขายได้ 10,000 คัน ก็ประหยัดเงินได้ 100 ล้านบาท เอามาเป็นโบนัสให้พนักงานได้ตั้งเยอะ  ;D
เคยมีบริษัทรถนึงในไทยนะครับ ที่คิดจะขายรถแบบแบบให้ลูกค้าเลือกสีตัวถัง กับสีภายในแยกกันได้ ไม่โดนบังคับแบบตัวถังสีดำต้องคู่ภายในสีเบจ ตัวถังสีขาวต้องคู่ภายในสีดำงี้ (แล้วเข้าใจว่าจะนำไปสู่การขายแบบยุโรป คือมีรถมาโล้นๆ เป็นตัวล่างสุด อยากได้อ๊อปชั่นอะไรจ่ายเพิ่มเอง) คือบริษัทรถหนะอยากทำ เพราะถ้าทำได้ก็ได้ใจลูกค้าเหนือคู่แข่ง ต้นทุนก็ไม่ได้เพิ่มด้วย

ผลคือคนงานในไลน์ประกอบประท้วงเละเทะครับ บอกวุ่นวายไม่อยากประกอบ จะเอาแบบง่ายๆ ขี้เกียจมานั่งดูว่ารถคันนี้สีอะไร ภายในสีอะไร โปรเจคเลยไม่ได้เกิด เลยต้องขายแบบล๊อคสี ล๊อคอ๊อปชั่นแบบนี้

ถ้าบ้านเรายังใช้แรงงานคนในการประกอบรถเป็นหลัก ยากครับ

อเมริกาที่มี configurator ให้เล่นเกือบทุกยี่ห้อ เอาเข้าจริงพวกรถตลาดคนส่วนใหญ่กเลือกที่จอดอยู่ตามโชว์รูมเลยมากกว่านะ พอมี covid แรงงานขาด part ขาด ชิบขาด หลายๆเจ้าเริ่มไม่มี option ให้เลือกเท่าไร่แล้ว ปรับได้แค่ล้อ/ยาง

ถ้าไทยเราทำ ก็ทำได้แหละ แต่มั่นใจว่ารถสั้งconfig ไม่ถูกเท่ารถในstock อย่างน้อยคงไม่มีส่วนลดให้แน่ๆ แถมรอคิวผลิตไม่รู้อีกนานเท่าไร่ คนที่ยอมรอยอมจ่ายจริง คงน้อย ขยับไปตังท๊อปจบๆเลยอาจคุ้มกว่า

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
รู้แต่ว่าสิ้นปีโบนัสกระจุย 5555

ออฟไลน์ polwath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 886
เท่าที่เห็นในเมืองนอกเขาขายกัน มักเริ่มต้นด้วยรุ่นสแตนดาร์ดโล้นๆเอาแค่พอใช้ได้ มีอุปกรณ์ตามกฎหมายกำหนด แล้วเลือกออปชั่นกันไป จนถึงตัวท็อปจัดเต็ม เอาใจลูกค้าครบทุกความต้องการ
แต่บ้านเราลูกค้าไม่สามารถเพิ่มออปชั่นโน่นนี่เองได้ โดนล็อกสเปคขาย เหมือนโรงงานขี้เกียจปรับสเปคแต่ละคันให้มันวุ่นวาย
เรื่องต้นทุนก็มีส่วน เพราะถ้าโรงงานประหยัดไปได้คันละ 10,000 บาท ขายได้ 10,000 คัน ก็ประหยัดเงินได้ 100 ล้านบาท เอามาเป็นโบนัสให้พนักงานได้ตั้งเยอะ  ;D
เคยมีบริษัทรถนึงในไทยนะครับ ที่คิดจะขายรถแบบแบบให้ลูกค้าเลือกสีตัวถัง กับสีภายในแยกกันได้ ไม่โดนบังคับแบบตัวถังสีดำต้องคู่ภายในสีเบจ ตัวถังสีขาวต้องคู่ภายในสีดำงี้ (แล้วเข้าใจว่าจะนำไปสู่การขายแบบยุโรป คือมีรถมาโล้นๆ เป็นตัวล่างสุด อยากได้อ๊อปชั่นอะไรจ่ายเพิ่มเอง) คือบริษัทรถหนะอยากทำ เพราะถ้าทำได้ก็ได้ใจลูกค้าเหนือคู่แข่ง ต้นทุนก็ไม่ได้เพิ่มด้วย

ผลคือคนงานในไลน์ประกอบประท้วงเละเทะครับ บอกวุ่นวายไม่อยากประกอบ จะเอาแบบง่ายๆ ขี้เกียจมานั่งดูว่ารถคันนี้สีอะไร ภายในสีอะไร โปรเจคเลยไม่ได้เกิด เลยต้องขายแบบล๊อคสี ล๊อคอ๊อปชั่นแบบนี้

ถ้าบ้านเรายังใช้แรงงานคนในการประกอบรถเป็นหลัก ยากครับ

ผมว่าควรจะทำแบบเพิ่มสายการผลิต เป็นแบบอิสระ ตามคำสั่งลูกค้า เป็นการส่งรถเข้าสายพาน พร้อมรายการประกอบแต่ละคัน มีหมายเลขระบุชัดเจน และสามารถบริหารจัดการให้ประกอบได้ถูกสเปคและถูกคันด้วย ไม่งั้นทำไม่รถในสหรัฐฯ และในประเทศอื่นๆ ถึงยังประกอบรถตามแบบที่ลูกค้าปรับเองได้ตามใจชอบหละครับ

ซึ่งมันทำได้นะครับ แต่มันต้องลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะการอบรมแรงงาน ปรับอุปกรณ์ในสายการผลิต และการตั้งสายการผลิตใหม่ รวมถึงเงินเดือน/ค่าจ้างของแรงงานก็ต้องเพิ่มด้วย เพราะความยากในการทำงานก็เพิ่มขึ้นจากระบบนี้เช่นกัน

ใครทำไม่ได้ ไม่อยากทำ ก็ไปทำสายการผลิตแบบเดิม ใครอยากได้เงินเพิ่มและมั่นใจว่าสามารถทำได้ก็เอาเลย

ตรงนี้มากกว่าครับที่ค่ายรถไม่อยากจะทำ เพราะมันเพิ่มต้นทุน (เสียเงินเพิ่ม) ทำให้ขายได้กำไรน้อยด้วย มาเป็นแบบบังคับเลือกมากกว่า ประหยัดเงินไปเยอะ

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
เท่าที่เห็นในเมืองนอกเขาขายกัน มักเริ่มต้นด้วยรุ่นสแตนดาร์ดโล้นๆเอาแค่พอใช้ได้ มีอุปกรณ์ตามกฎหมายกำหนด แล้วเลือกออปชั่นกันไป จนถึงตัวท็อปจัดเต็ม เอาใจลูกค้าครบทุกความต้องการ
แต่บ้านเราลูกค้าไม่สามารถเพิ่มออปชั่นโน่นนี่เองได้ โดนล็อกสเปคขาย เหมือนโรงงานขี้เกียจปรับสเปคแต่ละคันให้มันวุ่นวาย
เรื่องต้นทุนก็มีส่วน เพราะถ้าโรงงานประหยัดไปได้คันละ 10,000 บาท ขายได้ 10,000 คัน ก็ประหยัดเงินได้ 100 ล้านบาท เอามาเป็นโบนัสให้พนักงานได้ตั้งเยอะ  ;D
เคยมีบริษัทรถนึงในไทยนะครับ ที่คิดจะขายรถแบบแบบให้ลูกค้าเลือกสีตัวถัง กับสีภายในแยกกันได้ ไม่โดนบังคับแบบตัวถังสีดำต้องคู่ภายในสีเบจ ตัวถังสีขาวต้องคู่ภายในสีดำงี้ (แล้วเข้าใจว่าจะนำไปสู่การขายแบบยุโรป คือมีรถมาโล้นๆ เป็นตัวล่างสุด อยากได้อ๊อปชั่นอะไรจ่ายเพิ่มเอง) คือบริษัทรถหนะอยากทำ เพราะถ้าทำได้ก็ได้ใจลูกค้าเหนือคู่แข่ง ต้นทุนก็ไม่ได้เพิ่มด้วย

ผลคือคนงานในไลน์ประกอบประท้วงเละเทะครับ บอกวุ่นวายไม่อยากประกอบ จะเอาแบบง่ายๆ ขี้เกียจมานั่งดูว่ารถคันนี้สีอะไร ภายในสีอะไร โปรเจคเลยไม่ได้เกิด เลยต้องขายแบบล๊อคสี ล๊อคอ๊อปชั่นแบบนี้

ถ้าบ้านเรายังใช้แรงงานคนในการประกอบรถเป็นหลัก ยากครับ

ผมว่าควรจะทำแบบเพิ่มสายการผลิต เป็นแบบอิสระ ตามคำสั่งลูกค้า เป็นการส่งรถเข้าสายพาน พร้อมรายการประกอบแต่ละคัน มีหมายเลขระบุชัดเจน และสามารถบริหารจัดการให้ประกอบได้ถูกสเปคและถูกคันด้วย ไม่งั้นทำไม่รถในสหรัฐฯ และในประเทศอื่นๆ ถึงยังประกอบรถตามแบบที่ลูกค้าปรับเองได้ตามใจชอบหละครับ

ซึ่งมันทำได้นะครับ แต่มันต้องลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะการอบรมแรงงาน ปรับอุปกรณ์ในสายการผลิต และการตั้งสายการผลิตใหม่ รวมถึงเงินเดือน/ค่าจ้างของแรงงานก็ต้องเพิ่มด้วย เพราะความยากในการทำงานก็เพิ่มขึ้นจากระบบนี้เช่นกัน

ใครทำไม่ได้ ไม่อยากทำ ก็ไปทำสายการผลิตแบบเดิม ใครอยากได้เงินเพิ่มและมั่นใจว่าสามารถทำได้ก็เอาเลย

ตรงนี้มากกว่าครับที่ค่ายรถไม่อยากจะทำ เพราะมันเพิ่มต้นทุน (เสียเงินเพิ่ม) ทำให้ขายได้กำไรน้อยด้วย มาเป็นแบบบังคับเลือกมากกว่า ประหยัดเงินไปเยอะ

คือคุณเคยเข้าไปเห็นสายการผลิตรถหรือเปล่าครับ ปัจจุบันการผลิตมันก็เป็นแบบ Flexible Production Line อยู่แล้ว อย่างโรงงาน HONDA ที่อยุธยาปัจจุบันก็มีแค่ Line เดียวผลิตทั้ง Accord, CR-V, Civic, BR-V นั่นแหละบางวันก็ผลิตโมเดลนึงพรุ่งนี้ไปผลิตอีกโมเดลนึงหรือบางวันผลิต 2 โมเดลก็มี เพราะฉะนั้นเรื่องทักษะของพนักงานหรืออุปกรณ์ช่วยผลิตนั้นมันไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลย

การผลิตรถแบบ Customization มันอยู่ที่การจัดการชิ้นส่วนทั้งการจัดลงสายการผลิตและการควบคุมชิ้นส่วนจาก Supplier ตรงนี้ต่างหากครับที่บริษัทรถไม่อยากทำ เนื่องจากบริษัทรถชั้นนำเค้าเรียกของกันวันต่อวันไม่ใช่มีในโกดังแล้วเดินไปหยิบมา ยิ่ง Customize มากก็ยิ่งมีชิ้นส่วนหลายชนิดสิ้นเปลืองเวลาและทรัพยากรในการจัดการมากรวมทั้งเพิ่มโอกาสที่จะผิดพลาดด้วย ซึ่งความยุ่งยากทั้งหมดสุดท้ายมันก็จะแปลงมาเป็นต้นทุนและสะท้อนลงไปในราคาขายของทุกๆคันเพราะได้รับผลกระทบกันหมดลูกค้าจะรับได้หรือเปล่าล่ะครับ ดังนั้นถ้าไม่ใช่ตลาดที่มีการแข่งขันสูงหรือต้องการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขายเบียดเจ้าตลาดเดิมแล้วบริษัทไม่มีทางเสนอ Customization แน่ๆ

ออฟไลน์ bossa26

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 164
เค้าก็จัดให้ตามดีมานด์

ออฟไลน์ polwath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 886
เท่าที่เห็นในเมืองนอกเขาขายกัน มักเริ่มต้นด้วยรุ่นสแตนดาร์ดโล้นๆเอาแค่พอใช้ได้ มีอุปกรณ์ตามกฎหมายกำหนด แล้วเลือกออปชั่นกันไป จนถึงตัวท็อปจัดเต็ม เอาใจลูกค้าครบทุกความต้องการ
แต่บ้านเราลูกค้าไม่สามารถเพิ่มออปชั่นโน่นนี่เองได้ โดนล็อกสเปคขาย เหมือนโรงงานขี้เกียจปรับสเปคแต่ละคันให้มันวุ่นวาย
เรื่องต้นทุนก็มีส่วน เพราะถ้าโรงงานประหยัดไปได้คันละ 10,000 บาท ขายได้ 10,000 คัน ก็ประหยัดเงินได้ 100 ล้านบาท เอามาเป็นโบนัสให้พนักงานได้ตั้งเยอะ  ;D
เคยมีบริษัทรถนึงในไทยนะครับ ที่คิดจะขายรถแบบแบบให้ลูกค้าเลือกสีตัวถัง กับสีภายในแยกกันได้ ไม่โดนบังคับแบบตัวถังสีดำต้องคู่ภายในสีเบจ ตัวถังสีขาวต้องคู่ภายในสีดำงี้ (แล้วเข้าใจว่าจะนำไปสู่การขายแบบยุโรป คือมีรถมาโล้นๆ เป็นตัวล่างสุด อยากได้อ๊อปชั่นอะไรจ่ายเพิ่มเอง) คือบริษัทรถหนะอยากทำ เพราะถ้าทำได้ก็ได้ใจลูกค้าเหนือคู่แข่ง ต้นทุนก็ไม่ได้เพิ่มด้วย

ผลคือคนงานในไลน์ประกอบประท้วงเละเทะครับ บอกวุ่นวายไม่อยากประกอบ จะเอาแบบง่ายๆ ขี้เกียจมานั่งดูว่ารถคันนี้สีอะไร ภายในสีอะไร โปรเจคเลยไม่ได้เกิด เลยต้องขายแบบล๊อคสี ล๊อคอ๊อปชั่นแบบนี้

ถ้าบ้านเรายังใช้แรงงานคนในการประกอบรถเป็นหลัก ยากครับ

ผมว่าควรจะทำแบบเพิ่มสายการผลิต เป็นแบบอิสระ ตามคำสั่งลูกค้า เป็นการส่งรถเข้าสายพาน พร้อมรายการประกอบแต่ละคัน มีหมายเลขระบุชัดเจน และสามารถบริหารจัดการให้ประกอบได้ถูกสเปคและถูกคันด้วย ไม่งั้นทำไม่รถในสหรัฐฯ และในประเทศอื่นๆ ถึงยังประกอบรถตามแบบที่ลูกค้าปรับเองได้ตามใจชอบหละครับ

ซึ่งมันทำได้นะครับ แต่มันต้องลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะการอบรมแรงงาน ปรับอุปกรณ์ในสายการผลิต และการตั้งสายการผลิตใหม่ รวมถึงเงินเดือน/ค่าจ้างของแรงงานก็ต้องเพิ่มด้วย เพราะความยากในการทำงานก็เพิ่มขึ้นจากระบบนี้เช่นกัน

ใครทำไม่ได้ ไม่อยากทำ ก็ไปทำสายการผลิตแบบเดิม ใครอยากได้เงินเพิ่มและมั่นใจว่าสามารถทำได้ก็เอาเลย

ตรงนี้มากกว่าครับที่ค่ายรถไม่อยากจะทำ เพราะมันเพิ่มต้นทุน (เสียเงินเพิ่ม) ทำให้ขายได้กำไรน้อยด้วย มาเป็นแบบบังคับเลือกมากกว่า ประหยัดเงินไปเยอะ

คือคุณเคยเข้าไปเห็นสายการผลิตรถหรือเปล่าครับ ปัจจุบันการผลิตมันก็เป็นแบบ Flexible Production Line อยู่แล้ว อย่างโรงงาน HONDA ที่อยุธยาปัจจุบันก็มีแค่ Line เดียวผลิตทั้ง Accord, CR-V, Civic, BR-V นั่นแหละบางวันก็ผลิตโมเดลนึงพรุ่งนี้ไปผลิตอีกโมเดลนึงหรือบางวันผลิต 2 โมเดลก็มี เพราะฉะนั้นเรื่องทักษะของพนักงานหรืออุปกรณ์ช่วยผลิตนั้นมันไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลย

การผลิตรถแบบ Customization มันอยู่ที่การจัดการชิ้นส่วนทั้งการจัดลงสายการผลิตและการควบคุมชิ้นส่วนจาก Supplier ตรงนี้ต่างหากครับที่บริษัทรถไม่อยากทำ เนื่องจากบริษัทรถชั้นนำเค้าเรียกของกันวันต่อวันไม่ใช่มีในโกดังแล้วเดินไปหยิบมา ยิ่ง Customize มากก็ยิ่งมีชิ้นส่วนหลายชนิดสิ้นเปลืองเวลาและทรัพยากรในการจัดการมากรวมทั้งเพิ่มโอกาสที่จะผิดพลาดด้วย ซึ่งความยุ่งยากทั้งหมดสุดท้ายมันก็จะแปลงมาเป็นต้นทุนและสะท้อนลงไปในราคาขายของทุกๆคันเพราะได้รับผลกระทบกันหมดลูกค้าจะรับได้หรือเปล่าล่ะครับ ดังนั้นถ้าไม่ใช่ตลาดที่มีการแข่งขันสูงหรือต้องการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขายเบียดเจ้าตลาดเดิมแล้วบริษัทไม่มีทางเสนอ Customization แน่ๆ

ผมก็พอจะเข้าใจว่าสายการผลิตรถยนต์มาบ้างนะ แล้วก็เคยเห็นผ่านสื่อต่างๆ บ้าง แม้ว่าจะไม่เคยเข้าเยี่ยมชมสายการผลิตรถจริงเลยก็ตาม แต่การตอบของคุณทำไมไปทางดูแคลนผมซะงั้น เหมือนมาต่อว่าผมไม่รู้อะไรเลย มันทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นนะครับ

ถ้าจะอธิบายให้กระจ่าง ผมไม่มีปัญหา ผมเปิดรับเรื่องนี้ แต่การที่คุณมาถามว่าเคยไปดูของจริงไหมแบบนี้ มันดูไม่ดีกับคนที่มาอ่านและผมนะครับ