ผู้บริหารสูงๆของบริษัทผลิตรถยนต์รู้สึกอะไรมั้ยครับถ้ารถยี่ห้อตัวเองถูกตำหนิด่าทอ

a601970

ผมอยากถามเพื่อนสมาชิกที่ทำงานหรือเคยทำงานในบริษัทผลิตรถยนต์ครับว่า
เวลารถของบริษัทที่กำลังขายอยู่แล้วถูกตำหนิด่าทอเสียดสีเสียๆหายๆ ผู้บริหารระดับสูงๆเขารู้สึกยังไงครับ
หรือไม่รู้สึกอะไร
อย่างเช่นมีรถหลายรุ่นหลายยี่ห้อถูกตั้งฉายาว่า ยืนหนึ่งบ้าง ไฟแยงตาบ้าง รุ่นนี้มันเลือกเจ้าของบ้าง
บ้าพลังบ้าง รถวัยรุ่นสร้างตัวบ้าง ประกอบแย่ สนิมมาตั้งแต่ป้ายแดง บางยี่ห้อถึงขั้นมีเพลงประจำรุ่น ฯลฯ
พอดีอยากทราบมานานแล้ว แต่ไม่รู้จะถามที่ไหน
ขอขอบคุณทุกคำตอบล่วงหน้าครับ



Symphonic

เขาจำแนกแยกแยะครับ อันไหนปัญหาจริงๆ เช่นคุณภาพ การประกอบ
เราก็สั่งการ ตั้งทีม ตรวจติดตามการแก้ปัญหา

แต่ถ้าอันไหนมันอคติ มายาคติ เช่น วัยรุ่นสร้างตัว บ้าพลัง อันนั้นเป็น
ส่วนของการตลาด การประชาสัมพันธ์ การสร้างภาพลักษณ์ ก็สร้าง
นโยบายขึ้นมา  แต่ก็มีทีมวิเคราะห์แหละครับ เพราะบางทีมันก็เป็น
IO คู่แข่งที่โจมตีทางการตลาด



kiwiwi

ต้องแบ่งเป็น 2 จำพวกครับ

โดนด่าแต่ยอดขายเดิน
กับ
โดนด่าแต่ยอดขายไม่เดิน

แบบแรก ก็คงไม่รู้สึกอะไร เพราะยอดขายมันก็เดินได้ตามเป้าที่กำหนด

ส่วนแบบที่2 เรียกได้ว่าหน้าด้านหน้าทนเหมือนน.สมาคมกีฬายอดฮิตของไทยเลย ใครไม่อายแต่ผมอาย ><



Floppy-T

ถ้าย้ำว่า ผู้บริหารระดับสูงนะ ระกับ Executive เลย

ส่วนตัวมองว่า ไม่สนใจครับ วัดกันที่ตัวเลขผลประกอบการ กำไร เท่านั้นเลยครับ แค่นั้นจริงๆ ตัวเลขเท่านั้นครับ !!

นอกจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะดำเนินการอะไรจริงๆ

ถ้าระดับล่างลงมา ก็คงมีคิดบ้างครับ



kati348

แล้วแต่นโยบายของแต่ละบริษัทครับ ที่ทำงานผมเป็นบริษัท อิเลคทรอนิกส์ แต่ละปี นอกจากเรื่องผลประกอบการ มันจะมีเรื่อง คุณภาพ และ เรื่อง feed back จากลูกค้า เป็นแมทริกส์ ในการคิด performance ด้วย ดังนั้นปีไหนที่แม้ผลประกอบการดี แต่คุณภาพสินค้าห่วย ลูกค้าด่ารัวๆ ก็อดได้โบนัสกัน  ::)



Devil13

เอาจริงๆ ไม่มีผู้บริหารคนไหน หรือในธุรกิจไหน มาสนใจเรื่องแบบนี้เหรอก
มีแต่พวกสาวกเท่านั้นแหละ ที่สนุกปากกับเรื่องแบบนี้
ผมอยู่ทั้งในวงการรถยนต์ และธุรกิจอาหาร เค้าไม่สนเรื่องพวกนี้
ใครจะดิ้นตายก็ปล่อยเค้าไป ตราบใดที่ยอดขายยังดี



apinui

เค้าไม่สนใจหรอกครับ และไม่สนใจมานานแล้ว ...

คือเค้าดูภาพรวม ผู้บริหารเค้าไม่ได้ดูแค่รถขายได้กี่คัน

และก็ถ้ารถขายได้เดือนละ 3000 คัน แต่มี 5 คนที่ตำหนิว่ารถมีปัญหา และอีก 200 คนด่ารถด่าแบรนด์ทั้งๆที่ไม่เคยใช้ แค่ไปฟัง 5 คนแรกพูดหรืออ่านข่าวที่อื่นมาอีกที(พวกนี้มีเยอะ)

เค้าจะสนใจทำไม ทั้งๆที่ มี 3000คน/เดือนพอใจที่ซื้อรถเค้า



Weetting

ผู้บริหารสูงๆก็มอบหมายตามลำดับครับ

สมมุติ ต้องได้กำไร 3,000 พันล้านบาทต่อปี  เค้าวางเป้าแค่นี้ครับ   ลูกน้องจะทำยังไงเสนออะไร แผนเป็นยังไง ก็ไปคิดมา  แล้วเอามาเสนอ

ทำอะไรได้ทำอะไรไม่ได้ ก็เสนอไป

พวกเรื่องหยุมหยิม ก็ให้ลูกน้องระดับรองๆซิครับ ไม่งั้นจะมีสายงานการบริหารทำไม 



THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day



Tien.W

ที่เคยคุย ระดับ VP โรงงาน / SVP After Sale ของรถยี่ห้อหนึ่ง

VP โรงงาน = โอ๊ยยย ผมไม่สนใจพวก social หรอก ไร้สาระ

SVP After Sale =
ท่าน : เฮ้ยย คุณทำงานบริษัทรถยี่ห้อนี้ คุณต้องใช้ยี่ห้อนี้สิวะ ไปออกรถคู่แข่งมาได้ไง เนี่ย ผมยังซื้อใช้เองเลย (แก เกษียณพอดี)
ผม : (นึกในใจ) ส่วนลดพนักงานบริษัท ลดน้อยกว่าซื้อจากดีลเลอร์ แถมประกอบต่างประเทศ เหมือนเอาทีนประกอบ อะไหล่เล็กๆชิ้นเดียว รอ 3 เดือน ใครมันจะใช้วะ

หลังจากนั้น มาเจอกันอีก ...
ผม : รถขับดีไหมครับพี่
ท่าน : กินน้ำมันอิ๊บอ๋ายเลย แล้วของคุณเป็นไง
ผม : พี่ขับเร็วล่ะสิครับ
ท่าน : ขับเร็วบ้าอะไร วิ่ง 100 เดียว
ผม : ของผม ยาวๆ 15 - 16 ได้อยู่ แต่ปกติ ก็ 13.5 กม./ลิตร ครับ



DiKiBoyZ

ตราบใดที่ไม่มีผลกับธุรกิจ เขาไม่แคร์หรอกครับ

ด่าในคลับ ในเพจ ในแฟนเจ เขาไม่แคร์หรอกครับ ตราบใดที่ยอดขายยังมีคนซื้อ

แต่พอด่าแล้วออกสื่อ หรือ มีผลในยอดขายชัดเจน ไม่วายเขาจะคานเข่ามาขอโทษขอโพย ออกเคมเปญ ออกโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม ต่อให้เรื่องนั้นมันเล็กหรือใหญ่ก็ตาม



axister

แยกเป็น 2 ประดันครับ

ยืนหนึ่ง ไม่แน่ใจหมายถึงฟอจุ่นที่ สันดานไม่ดีรึเปล่า -> อันนี้ไม่สนใจครับ // ยืนหนึ่ง รถสไลด์ -> เต้นสิครับ แต่ถ้ามันมีปัญหาที่เครื่องจะให้แก้ได้ใน 1 ปีนิยากจังเลยครับ เค้า r&d กันมานาน แก้เสร็จก็ต้องเทสอีกนะ

ไฟแยงตา/ขวัญใจรถยก/สตาร์ท 3 สเต็ป -> ผบรห. ก็เต้นนะครับเค้าก็หาวิธีแก้ไขตาม r&d

ระดับสูงนิสูงแค่ไหนครับ ถ้าโดนคอมเม้นเยอะๆเค้าก็มาจี้ตามฝ่าย ดูตัวเลขเป็นหลักจริงแต่ brand image โดนกรองด้วยการตลาด product ก็กรองด้วย pd ส่วนนึงอยู่แล้วครับ ถ้าบอก ceo ต้องมาดูถึงขั้นสนิมขึ้นก็ไม่ใช่ แต่ถ้ากระแสมาเยอะๆ เค้าก็คงสั่งให้เอาปัญหามากางดูครับ ว่าแก้ไขได้มากน้อยแค่ไหน กระทบยอดแค่ไหน

dialog ละครถ้ามีจริงตามนั้นเปิดชื่อโรงงานกลายๆมาเลยก็ได้ครับเค้าจะได้ตรวจสอบ เดี๋ยวจะเป็นแบบรถจีน คุยกับเด็กปั้มกี่ล้านเอาน่ะ ผมทำงานใน industry นี้ ในระดับ weekly meeting มี res ประเด็นมาตลอดครับ แต่หลายๆอย่างมันคือ mass production เช่นไฟแยงตาของคุกกี้นี่ ก็ถูกวางแผนแก้ไขมาแต่แรก แต่ p/o และจุดคุ้มทุนเค้าวางการผลิตไปแล้วเลยต้องรอระบาย stock ก่อนที่จะปรับครับ

การที่ผู้บริโภคออกมาเม้งว่าแค่ใส่ตัวเลื่อนมาอันเดียวก็จบ แต่ในสัญญาการผลิตมันไม่ใช่ครับ line up เค้าวางมาหมดแล้ว การที่จะเอาอะไรไปแทรกมันกระทบทั้งเวลา man power/hour และส่วนจัดซื้อที่ต้องหา supplier และคำนวน ratio ค่าใช้จ่ายทั้งหมดใหม่

ถ้าไม่โอเคมากๆ ร่วมกันบอยคอตไม่ต้องซื้อครับ เดี๋ยวเค้าหาประเทศโลกที่ 4 (ถ้ามี) ระบายออกแล้วของเราก็จะได้ของใหม่ ถ้ามันคุ้มทุนเค้าอยู่นะ แต่ถ้าไม่คุ้มก็ยกเลิกแบบ นิสสันอะครับ

เหมือนบางแบรนด์ชอบเอาโมเดลเก่าญี่ปุ่นมาขายอ่ะครับ ที่เสียบปลั๊กได้ ก็บ้านเค้าต้องแก้เกมผลิตตัวใหม่ ตัวเก่าก็ส่งมาขายประเทศหยุดพัฒนาแบบบ้านเรา หรือแก๊งเครื่องดีเซลยุโรป บ้านเค้าต้องปรับมาตรฐาน euro 1234 บ้านเราไม่มี พวกของที่ตกรุ่นแต่ได้ marketing ratio ดีก็ส่งมาทิ้งที่ประเทศหยุดพัฒนาแบบนี้แหละครับ

แต่ละปัญหา crisis ไม่เท่ากันครับ ยอดกำไรมาก่อนจริงครับ แต่ที่บ่นๆกันก็กระทบยอดทั้งนั้นมากหรือน้อยก็เรียงลำดับกันไป เค้าเป็นถึงฝ่ายบริหารเค้าแยกแยะออกแหละครับ



tswift

รับรู้ครับ ขอแค่มาตามชาแนลที่ถูกต้อง เช่น ผ่านส่วนงาน customer complaint ตรงมาที่บริษัท อันนี้ก็จะพยายามหาทางแก้ไข ชดเชยให้ลูกค้าเป็นรายๆไป

แต่ถ้า comment ด่าทอทางกลุ่ม ตาม social อันนี้แยกยากครับ ส่วนใหญ่อ่านๆมา แล้วก็พูดตามๆกันก็เยอะ



Niti

 คงรับรู้ แต่บางเรื่องทำเองไม่ได้ ก็ต้องปล่อยวางบ้าง
-------------------------------------------------------------
In: 350Z DE / New Fortuner TRD / Harrier XU60*2 / Alphard AH30
Out: Miata NC RHT / 86 / IS250
-------------------------------------------------------------



nuntapon.s

ระดับสูงลิ่วที่เป็นนักบริหารมืออาชีพโดยปกติเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอกครับ  ถ้าเขาจัดการดีแต่ละปัญหามันต้องมีเจ้าภาพแก้ไขและรายงานขึ้นไปตามลำดับอยู่แล้ว  ผู้บริหารเขาก็ดูแต่กลยุทธว่าทำไงสิ้นปีตัวเลขกำไรมันจะสวยผู้ถือหุ้นพอใจและไม่โดนไล่ออก

แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าบางคนก็คงลงมาล้วงลูกดูเองแหละถ้าปัญหามันโด่งดังเสียงด่าหนาหู  หรือแบบอยากปรับทิศทางของแบรนด์ให้ขับดีขึ้นแบบผู้บริหารโตทำ



Pegasus7700

รู้สึกครับ  มากด้วย

ผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กรนั้น จะต้องรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าทุกช่องทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งsocial

บริษัทรถยนต์จะต้องหากลยุทธ์ในการให้บริการลูกค้าเพื่อส่งผลต่อยอดขายทั้งทสงตรงและทางอ้อม

ทั้งนี้ในลักษณะของการแก้ไขปัญหานั้น หน่วยงานกลยุทธ์จะสรุปภาพและนำาเสนอเพื่อให้ผู้บริหารเคาะ

รุปแบบของการนำเสนอ ก็จะมีแน่นอนว่า สุขภาพของbrand เป็ยแบบไหน ใช้ยาตัวไหน เป็นต้น

อย่างในมุมของช่องทาง social จะมีการทำsocial engagement เพื่อรับทราบว่ามุมมองของลุกค้า ในกลุ่มเป้าหมาย มองโมเดลนั้น อย่างไร แน่นอนว่า ผมก็เจแเคยเห็น ตัวอย่างคอมมเน์ที่ทีมผู้นำเสนอ หยิบยกตัวอย่าง คอมเม้น ว่าอยุ่ในกลุ่มการBlaimเรารุ่นแรงอย่างไรบ้าง เป็น organic หรือการปั่น

...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22



Fly to dream

เค้ารับรู้ครับและเอาไปแก้ไขแน่นอนผ่านใครก็ว่ากันอีกที เค้าก็มนุษย์คนนึงทำไมจะไม่รู้ไม่ใช่ว่าผู้บริหารนั่งในถ้ำตัดขาดทำงานแค่ผลประกอบการณ์
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



Auto

   ผู้บริหาร บริษัทญี่ปุ่นก็เหมือนกับเรา  ๆ นี่ละ  เป็นลูกจ้าง      แต่ต่างกันตรงที่เขาถูกส่งมาทำงานในไทยมีวาระคราวละ 4-5 ปี   
      หลายอย่างขึ้นกับนโยบายของผู้บริหาร หรือบริษัทแม่จากญี่ปุ่น   
        เรื่องการ complain   ในเนตอาจจะไม่ค่อยดู    ผู้บริหารเขาไม่ได้สนใจช่องทางนั้น   
          เรื่องปัญหาถ้ามีก็ดูจาก  service  เป็นสำคัญที่แผนกนั้นรายงานเข้ามา   



solo

ง่ายๆเลย คุณเห็นบริษัทรถปรับตัวตามแรงด่าไหม? คุณได้คำตอบแล้ว จบนะ



a@s

เขารับรู้หมดนั้นแหละครับ ตั้งแต่มีทีมติดตามงานdefectรถตัวเองตามศูนย์บริการ ส่วนเรื่องด่าตามโซเชียลอาจจะไม่ทั้งหมดแต่มีรับรู้แน่นอน



เนื้อน่องไม่หนัง

ถ้าอย่าง พวกวัยรุ่นสร้างตัว ตัวตึงเลนขวา ซุปเปอร์คาร์เชิงพาณิชย์ รวมถึง คันละกี้ล้านนน ด้วยเลย ผมว่าเค้าน่าจะชอบนะ คือมันตรงกลุ่มลูกค้าเขาจริงๆ กลายเป็นว่าออก x series / z edition มารอบรับกันด้วย  ส่วนรถที่ไม่มีฉายาอะไรแบบนี้คือรถที่ยอดขายน้อยเสียมากกว่า ลองนึกถึงฉายา Navara สิ...
และตัวผู้ประกอบการที่ต้องเอารถตัวนั้นมาใช้ ก็คงไม่สนใจว่า คนจะมองว่ารุ่นนั้นๆเป็นยังไง ขอแค่มันตอบโจทย์การใช้งาน เพียงพอแล้ว เพราะสุดท้ายมันอยู่ที่คนขับมากกว่า

สิ่งที่ควรจะปรับปรุงคือ เคส สนิมจากโรงงานพวกนั้นมากกว่า แต่ถ้ายังมีคนซื้อผู้ผลิตคงมองว่ามันไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่โตครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 29, 2022, 15:34:49 โดย Qwerty »



iKrit

ไม่สนใจหรอก ถ้ามันขายได้ดีก็ทำอย่างเดิมต่อไป แต่ถ้ากระทบกับยอดขาย เขาถึงสนใจ
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก