ผู้เขียน หัวข้อ: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev  (อ่าน 4459 ครั้ง)

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,270
ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 12:44:56 »
แอดมินได้นำเอาคอมเม้นท์ คุณ YOSAPORN PAOCHAROEN มาเรียบเรียง แบ่งวรรค จัดบรรทัดใหม่ครับ

ประเทศไทย 🇹🇭 จะสามารถเป็นศูนย์กลาง Hub ของ EV ได้แน่นอนครับ เพราะว่า..
.
1. ปัจจุบันโรงงานประกอบและผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมใหญ่ที่สุดในอาเซียนนั้น อยู่ที่ไทยเป็นของบริษัท EA
.
2. บริษัท  BYD, Mercedes Benz, BMW, MG, GWM, Volt ก็เลือกประเทศไทย เป็นฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยตั้งให้ประเทศไทยเป็น Hub ผลิตรถ EV ในอาเซียน
.
3. BMW, Benz , Nissan, BYD, EVLOMO ก็ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ EV ในประเทศไทย ตั้งให้เป็นฐานผลิตในภูมิภาค
.
4. Foxconn ร่วมมือกับ ปตท. ลงทุนประมาณ 72,000 ล้านบาท จัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ชื่อ HORIZON PLUS พร้อมศูนย์วิจัย R&D ดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลาง EV อาเซียน เซ็นสัญญากันไปเรียบร้อยแล้ว
 .
5. ล่าสุด BYD ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์ EV ยอดขายอันดับ 1 ของจีน ได้ร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทสยามกลการของไทย ซื้อที่ดิน จำนวน 600 ไร่ เพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BYD และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ มูลค่าการลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวา เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน รวมไปถึงออสเตรเลีย และ อังกฤษ ด้วยกำลังการผลิตเบื้องต้นที่ 150,000 คัน ต่อปี (ซึ่งไทย มีข้อตกลง FTA กับประเทศเหล่านี่)
.
6.บริษัท  อีวี ไพรมัส จากจีน มีแผนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ฉะเชิงเทรา มูลค่าการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มขึ้นไลน์ผลิตได้ในช่วงปลายปี 2566 โดยจะผลิตเพื่อขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศ ตั้งเป้าการผลิตอยู่ที่ 4,000 คันต่อปี
.
7. “บ้านปู เน็กซ์” ร่วมกับ “เชิดชัยฯ” และ “ดูราเพาเวอร์” ผู้ผลิตแบตสัญชาติสิงคโปร์ ร่วมกันตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในประเทศไทยที่ โคราช ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ภายในปี 2569 บุกตลาดในเอเชียแปซิฟิก
.
8. บริษัท  EVLOMO บริษัทชั้นนำด้านยานยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา กำลังสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาด 8 กิโลวัตต์ ซึ่งจะมีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน สร้างในพื้นที่ EEC ด้วยเงินลงทุน 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังจับมือกับ OR ในการติดตั้งตู้ EV Super Charge 150kW อีกว่า 100 สถานีในประเทศไทย
.
9. Ford วางแผนดันไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ในภูมิภาคเอเชีย ทั้ง รุ่น เรนเจอร์ และ เอเวอร์เรสต์
.
10. ปัจจุบันทางรัฐบาล ได้ออกนโยบาย ให้ ขสมก. ร่วมกับ เอกชนที่ทำการวิ่งรถ ให้ใช้รถเมล์ EV วิ่งทดแทนรถเก่า ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเห็นหลายคัน ในหลายๆเส้นทางแล้ว รวมถึง รถบัสของ บขส. ด้วย
.
11. ปัจจุบันก็เริ่มมีการ ใช้ EV Boat เรือไฟฟ้าสาธารณะแล้ว วิ่งในหลายๆเส้นทาง เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา คลองแสนแสบ คลองผดุงกรุงเกษม เป็นต้น
.
12. บริษัทเอกชน ไม่ว่าจะเป็น PTTOR , EA หรือพวก การไฟฟ้า  ก็เร่งทำการขยายจำนวน แท่นชาร์ทรถยนต์ ไฟฟ้าทั่วประเทศ เป็นต้น
.
13. ตอนนี้มีบริษัทสัญชาติไทยหลายบริษัท ที่เริ่มผลิตรถ  EV ในประเทศไทย เช่น EA, Mine, NEX , Sakun C 
.
14. ไทยเรามีบริษัทผลิตแบตเตอรี่สัญชาติไทยหลายบริษัท เช่น GPSC , BANPU , BPP , BCPG ,EA เป็นต้น
.
15. การสนับสนุนธุรกิจแบตเตอรี่ของภาครัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ขยายนโยบายลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนและวัตถุดิบที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่ จาก 2 ปี เป็น 5 ปี และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ซึ่งหากตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% เพิ่มอีก 5 ปี ทำให้บริษัทที่อยู่ในธุรกิจแบตเตอรี่มีความต้องการขยายกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น
.
16. ข้อมูลปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติโครงการยานยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว 26 โครงการเป็นของ 17 บริษัท คิดเป็นยอดกำลังการผลิตรถไฟฟ้า 830,000 คัน และคาดการณ์ว่าภายในต้นปี 2566 ประเทศไทยจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1 ล้านคัน และภายในปี 2573 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีสัดส่วน 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของประเทศไทย หรือ 700,000 คันต่อปี
.
17. ภาครัฐได้ออกนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เช่น การอุดหนุนราคา การลดภาษีนำเข้า และลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2%  นโยบายเรื่องภาษีรถ EV ของรัฐ ยิ่งทำให้ยอดขายรถ EV สูงขึ้นมาก ดังพิสูจน์ได้จากยอดขายในงาน Motor Show ล่าสุด เติบโตสูงขึ้นมาก การกระตุ้นนี้ ทำให้เกิดยอดการใช้รถ EV สูงมากขึ้น มันก็จะบังคับให้ สิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรม EV เติบโตขึ้นตามไปด้วย เช่น แท่นชาร์ทรถ , โรงงานผลิตแบตเตอรี่ , ศูนย์ซ่อม , ช่างเทคนิคที่มีความรู้ด้าน EV ทุกอย่างจะเกื้อหนุนกัน ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งแวดล้อมแบบนี้ ยังไม่สามารถหาได้จากทั้งใน เวียดนาม , อินโดนีเซีย , มาเลเซีย , ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นคู่แข่งของเรา แน่นอนครับ
•
เครดิต : คุณ YOSAPORN PAOCHAROEN

#AdminPocky/Logistics&Development Thailand 

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,270
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 12:46:04 »
เพื่อนทาง LINE ส่งมาครับ
ไม่ทราบว่าเท็จจริงอย่างไร

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,999
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 13:20:01 »
เคยได้ยินเรื่องนี้มา 3-4 ปีแล้วครับ
แต่ยังไม่เห็นอะไรที่เป็นรูปธรรมเลย  :'( น่าจะต้องรอดูกันต่อไปยาวๆครับ

ออฟไลน์ a@s

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 347
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 13:23:17 »
เห็นลงเพจข่าว State Time อยู่ ไม่รู้จะเป็นไปได้แค่ไหน

ออฟไลน์ XMSL

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 13:46:36 »
ส่วนตัวเท่าที่ติดตามข้อมูลแบบผ่านสื่อและนโยบายภาครัฐ เห็นทิศทางการพัฒนาตามข้อมูลข้างต้นถูกต้องมากกว่า 7-80% และชัดเจนขึ้นเรื่อยๆกว่าเมื่อ 3-5 ปีก่อนเยอะมากครับ (แสดงให้เห็นว่ามีการทำงานกันตามแผน) แต่การที่จะบอกว่าเป็นฮับหรือไม่ฮับก็ต้องดูเพื่อนบ้านคู่แข่งเราด้วย มาเลย์/อินโดเองก็พยายามดึงส่วนแบ่งกันอยู่อย่างไม่ยอมเลิกราง่ายๆเหมือนกันครับ.

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 14:41:15 »
ผมว่าข้อมูลค่อนข้างตรงและเดินตามแผนไปเรื่อยๆ ช้าหน่อยเพราะเจอโควิดด้วย

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 15:27:10 »
แค่เปลียนมลภาวะไปอีกรูปแบบ ในทางขยะมีพิษแถมกำจัดได้ยากอีก

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 16:01:01 »
แค่เปลียนมลภาวะไปอีกรูปแบบ ในทางขยะมีพิษแถมกำจัดได้ยากอีก

มันเป็นขยะอีกรูปแบบที่สามารถเก็บกวาดได้ง่ายกว่าเดิมครับ ดีกว่าปล่อยให้ควันเสียลอยไปในอากาศแบบเละเทะ
ค่อยๆก้าวไปข้างหน้าให้ดีขึ้นที่ละนิดก็ยังดีครับ ดีกว่าย่ำอยู่กับที ต่อไปแต่ละบ้านจะเริ่มใช้โซล่าเซลกันมากขึ้น เราอาจจะมีโรงงานไฟฟ้าฟ้าที่สะอาดมากขึ้น

ออนไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,953
    • อีเมล์
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 16:05:19 »
ภาครัฐฯเค้าก็สนับสนุนทุกทางแหละ อยู่ที่เงื่อนไขแต่ละบริษัทฯถูกใจหรือไม่ถูกใจแค่ไหน


ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 16:59:34 »
เอาตรงๆไทยมันรูปธรรมสุดในการใช้รถ EV ในภูมิภาคนี้เลยนะ ประเทศอื่นให้แค่สิงคโปร์แต่มันก็เล็กไป นอกนั้นมันไม่ได้เลยนะพัฒนาไม่พอและไม่ก็เป็นประเทศผลิตน้ำมัน  ไทยนี่แหละเหมาะสุดอยู่ที่จะทำไงให้บริษัทใหญ่ๆหันมาลง
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ zionzz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 196
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 19:15:20 »
คือเอกชนดันรัฐสุดแรงเกิดเลยครับเรื่องนี้ เพราะถ้าเราไม่ทำเราจะเสียทุกอย่างให้อินโด ซึ่งรัฐเขาก็เข้าใจ ก็เงินทั้งนั้น ธุรกิจยานยนต์รัฐเราโอ๋จะตาย
เพียงแต่มันรวมถึงต้องโอ๋โตโยต้าด้วย มันเลยมีการดึงเช็งกันเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้ช้าอะไรนะ ผมถือว่าเร็วละ

ก็รอดูไปครับ ช่วงเปลี่ยนผ่านมันจะกินเวลาประมาณ 20ปี นี่ก็เดินมา 5ปีละ นับจากการเปิดตัว model 3
จำได้ว่าตอนนั้นผู้ประกอบการบ้านเราประชุมใหญ่เลยนะ กระแสมันเกิดแล้ว ยังไงก็มาถึงบ้านเราแน่

ส่วนผมปล่อยให้คนพร้อมไปก่อนเลย ใช้คันเดิมไปอีกยาวๆ

ออฟไลน์ rtong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,175
    • อีเมล์
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 20:18:17 »
ถ้าค่ายเจ้าตลาดอย่างและ tesla  toyota honda และรวมถึง isuzu ย้ายไปลงทุนที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป

เพราะค่ายที่ จขกท.กล่าวมาข้างตน เป็นรถที่ยอดขายยอดผลิตไม่ได้เยอะ บางค่ายเป็นรถหรู ต่อให้รวมยอดส่งออกด้วยก็คงไม่ทำให้ไทยสู้เพื่อนบ้านได้

คิดว่าตอนนี้รถ EV อินโดนีเชียน่าลงทุนกว่าไทย เพราะรัฐสนับสนุน

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 21:01:42 »
อัพ​เดท​ล่าสุด BMW มีแผนประกอบ iX1 ที่โรงงานระยอง (Mini อาจตามด้วย)

ไปต่างจังหวัด​หลายภาคในครึ่งปีหลังนี้สถานีชาจน์​เพิ่มขึ้นมากทั้งในปั้มเอง และตามที่พัก อย่างคืนละ 600-800ก็มีแท่นชาร์จ​แบบเก็บเงินแล้ว ไม่จำกัดแต่โรงแรมมีชื่อเท่านั้น ร้านอาหารร้านกาแฟข้างทางก็​เจอระดับ 20kW กันแล้ว

สำหรับอินโดผมมองว่ารัฐพร้อม ทรัพยากร​ในประเทศพร้อม แต่โครงสร้าง​พื้นฐานไม่พร้อม เกาะเยอะ ถนนไม่ทั่วถึงและสภาพไม่ดีเยอะ หลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าเลย คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้ต้องการใช้รถ BEV ยิ่งกว่าไทยอีก ที่สำคัญราคาน้ำมันถูกอันดับต้นๆของอาเซียน แต่ในอีก 10-20ปีเค้าเจริญ​ขึ้นแล้ว ด้วยประชากร​เค้าเยอะก็ได้เปรียบ​
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2022, 21:12:43 โดย U9WS »

ออฟไลน์ TCP

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 707
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 21:06:40 »
แค่เปลียนมลภาวะไปอีกรูปแบบ ในทางขยะมีพิษแถมกำจัดได้ยากอีก

มันเป็นขยะอีกรูปแบบที่สามารถเก็บกวาดได้ง่ายกว่าเดิมครับ ดีกว่าปล่อยให้ควันเสียลอยไปในอากาศแบบเละเทะ
ค่อยๆก้าวไปข้างหน้าให้ดีขึ้นที่ละนิดก็ยังดีครับ ดีกว่าย่ำอยู่กับที ต่อไปแต่ละบ้านจะเริ่มใช้โซล่าเซลกันมากขึ้น เราอาจจะมีโรงงานไฟฟ้าฟ้าที่สะอาดมากขึ้น

ผมว่า คุณ deertesla คิดผิด และคุณ I-PULSE คิดถูก
การที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาแพงมากๆ .. พอถึงวันที่มันหมดสภาพ .. มันจะ "มีราคา" มีมูลค่ามากกว่าไอเสียรถยนต์สันดาปแน่นอน
ตอนนี้ เหลือแค่กระบวนการรีไซเคิลที่ทำให้มันถูกกว่านี้ + สภาวะแวดล้อมทางมลพิษสู่โลก มันบังคับว่า .. ห้ามใช้น้ำมันปิโตรเลียมกับรถยนต์อีกแล้ว
(ยังใช้กับเรือและเครื่องบินได้อยู่ ส่วนน้ำมันดีเซลและเบนซินส่วนที่เคยบริโภคด้วยรถยนต์ขนาดเล็ก เอาไปส่งโรงไฟฟ้าให้หมด
เพราะมลพิษที่ออกมา มันยัง treat ได้ดีกว่า ปล่อยเป็นไอเสียกับรถยนต์แต่ละคันๆ อย่างปัจจุบัน)

ออฟไลน์ TCP

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 707
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 21:08:24 »
ถ้าค่ายเจ้าตลาดอย่างและ tesla  toyota honda และรวมถึง isuzu ย้ายไปลงทุนที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป

เพราะค่ายที่ จขกท.กล่าวมาข้างตน เป็นรถที่ยอดขายยอดผลิตไม่ได้เยอะ บางค่ายเป็นรถหรู ต่อให้รวมยอดส่งออกด้วยก็คงไม่ทำให้ไทยสู้เพื่อนบ้านได้

คิดว่าตอนนี้รถ EV อินโดนีเชียน่าลงทุนกว่าไทย เพราะรัฐสนับสนุน

อย่าเชื่อมากนัก .. มีหลายข่าวแล้วที่ฝ่ายอินโดเต้าข่าวขึ้นมาเอง ฝ่ายผู้ผลิตรถ ยังบ้อแบ้อยู่เลย

ออฟไลน์ Terng

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,762
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2022, 21:30:06 »
เอาตรงๆไทยมันรูปธรรมสุดในการใช้รถ EV ในภูมิภาคนี้เลยนะ ประเทศอื่นให้แค่สิงคโปร์แต่มันก็เล็กไป นอกนั้นมันไม่ได้เลยนะพัฒนาไม่พอและไม่ก็เป็นประเทศผลิตน้ำมัน  ไทยนี่แหละเหมาะสุดอยู่ที่จะทำไงให้บริษัทใหญ่ๆหันมาลง

เห็นด้วยมากๆเลยครับ เอาจริงๆสิงคโปร์พื้นที่มันเล็กมากๆ การพัฒนาประเทศก็ทำให้ครอบคลุมได้ง่ายกว่า ดังนั้นจุดชาร์จเค้าก็เลยดูครอบคลุม แต่ถ้ามาเทียบกับ กทม. จำนวนอาจจะมากกว่า รองรับจำนวนรถ EV ได้มากกว่าไปแล้ว การจะเป็น Hub การผลิตไทยจึงมีความพร้อมในแง่ของการเป็นตลาดรองรับการผลิตเพื่อใช้บริโภคภายในประเทศด้วย ไม่ใช่แค่เพียงผลิตเพื่อเน้นส่งออก ผมว่าความเป็นไปได้ที่เราจะผลิตและประกอบตัวรถ โดยนำเข้าแบตจากในอาเซียน หรือนำเข้าวัตถุดิบมาผลิตเอง ยังดูมีความน่าสนใจมากกว่าจากมุมมองผู้ผลิต
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2022, 00:27:29 »
แค่เปลียนมลภาวะไปอีกรูปแบบ ในทางขยะมีพิษแถมกำจัดได้ยากอีก

มันเป็นขยะอีกรูปแบบที่สามารถเก็บกวาดได้ง่ายกว่าเดิมครับ ดีกว่าปล่อยให้ควันเสียลอยไปในอากาศแบบเละเทะ
ค่อยๆก้าวไปข้างหน้าให้ดีขึ้นที่ละนิดก็ยังดีครับ ดีกว่าย่ำอยู่กับที ต่อไปแต่ละบ้านจะเริ่มใช้โซล่าเซลกันมากขึ้น เราอาจจะมีโรงงานไฟฟ้าฟ้าที่สะอาดมากขึ้น

ผมว่า คุณ deertesla คิดผิด และคุณ I-PULSE คิดถูก
การที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาแพงมากๆ .. พอถึงวันที่มันหมดสภาพ .. มันจะ "มีราคา" มีมูลค่ามากกว่าไอเสียรถยนต์สันดาปแน่นอน
ตอนนี้ เหลือแค่กระบวนการรีไซเคิลที่ทำให้มันถูกกว่านี้ + สภาวะแวดล้อมทางมลพิษสู่โลก มันบังคับว่า .. ห้ามใช้น้ำมันปิโตรเลียมกับรถยนต์อีกแล้ว
(ยังใช้กับเรือและเครื่องบินได้อยู่ ส่วนน้ำมันดีเซลและเบนซินส่วนที่เคยบริโภคด้วยรถยนต์ขนาดเล็ก เอาไปส่งโรงไฟฟ้าให้หมด
เพราะมลพิษที่ออกมา มันยัง treat ได้ดีกว่า ปล่อยเป็นไอเสียกับรถยนต์แต่ละคันๆ อย่างปัจจุบัน)
ผมว่าถ้าจะให้มันสะอาดกว่านี้ต้องมาจากแร่ธาตุที่หาได้ง่ายและไม่ประทุระเบิดได้ง่ายเช่น sodium  มาใช้ในแบบผลิตจริงแบบ100%ก่อนครับ อีกทั้งลิเที่ยมนี่เวลาเกิดเหตุไฟไหม้ มันดับได้ยากมากๆครับแถมเปลืองทรัพยากรในการดับและใช้เวลานานมาก แถมแพงและหายากมากๆครับ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 06, 2022, 00:32:50 โดย deertesla »

ออฟไลน์ S6

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,134
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2022, 10:43:56 »
ความคิดที่ว่ามันเป็นมลภาวะอีกรูปแบบนึง เป็นความคิดที่ดีกว่า คนยุโรปที่เขาร่วมมือกันลดรถจากน้ำมัน
ผมนี่ยิ้มเลย
การจะให้มันสะอาดหมด มันคงต้องไม่ใช้อะไรเลย แต่เราเปลี่ยนเป็นลดในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้จะดีกว่า

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2022, 11:28:45 »
ได้รับข้อความนี้ทาง Line เหมือนกัน  ::) ::) ::) ::)

ถ้าเป็นได้ก็ดีครับ ประเทศเราจะได้มีรายได้เข้ามามากๆ

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,737
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2022, 13:26:47 »
เรื่องของมลพิษ ผมยังมองว่า รถไฟฟ้าได้เปรียบอยู๋ครับ
เข้าใจว่าการผลิตและทำลายแบตเตอรี่ อาจสร้างมลพิษมากอยู่ แต่ตลอดการใช้งาน ขณะรถวิ่งและ การชาร์จไฟ มันไม่มีไอเสียเลย
ซึ่งถ้าแบตเตอรี่ถูกจักการทำในโรงงาน(ที่ได้มาตรฐาน)น่าจะจัดการมลพิษที่เล็ดลอดออกมาได้ง่ายกว่า ซึ่งโรงงานที่จัดการพวกนี้ได้ น่าจะมีไม่เยอะ และรัฐน่าจะควบคุมได้ไม่ยาก รวมถึงการผลิตไฟฟ้าด้วย

ปัจจุบัน แค่ เจอรถเมล์ออกตัวกลิ่นไอเสียก็แย่แล้ว ยิ่งในเมือง หรือจุดที่รถติดๆ อโศก สีลม สุขุมวิท ที่รถจอดนิ่งๆนานๆ ถ้าทุกคันเป็นรถไฟฟ้าได้ ไม่มีไอเสียมันน่าจะดีมากๆเลย

ออฟไลน์ belkw202

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 421
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2022, 14:10:29 »
คงต้องรอดูทางเพือนบ้าน โดยเฉพาะอินโดควบคู่ไปด้วยละครับ
เรามีรถไฟฟ้ามาผลิต/ประกอบในบ้านเราแน่ๆ แต่จะเรียกว่าเป็น hub เหมือนที่เราเป็น hub สำหรับกระบะ 1 ตันเลยไหมนี่คงต้องดูกันอีกซักระยะ
หลายผู้ผลิตที่มาลงทุนในบ้านเราเขาก็มีแพลนไปลงทุนในอินโดเหมือนกันนะครับ แถมเม็ดเงินลงทุนบางเจ้าในอินโดจะใหญ่กว่าเราซะด้วย
ตัวแบตเตอรี่เอง Catl และ LG ที่เป็น top 2 ก็ไปลงทุนที่อินโดแล้วเพราะเขามี nickel อยู่ แต่ supply chain อื่นๆเรายังน่าจะแข็งแรงกว่าอินโดอยู่พอสมควร
ส่วนตัวคิดว่าตอนนี้ยังยากที่จะฟันธงครับ
Tesla Model 3 Highland LR
G08 iX3 M Sport
Cx5 2.5s
Mazda 2 1.3 S
w202 c36 AMG
w212 e63 AMG
w204 c250 AMG Sport Plus
w207 e350 4matic
e90 325i

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 913
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2022, 01:48:34 »
แค่เปลียนมลภาวะไปอีกรูปแบบ ในทางขยะมีพิษแถมกำจัดได้ยากอีก

มันเป็นขยะอีกรูปแบบที่สามารถเก็บกวาดได้ง่ายกว่าเดิมครับ ดีกว่าปล่อยให้ควันเสียลอยไปในอากาศแบบเละเทะ
ค่อยๆก้าวไปข้างหน้าให้ดีขึ้นที่ละนิดก็ยังดีครับ ดีกว่าย่ำอยู่กับที ต่อไปแต่ละบ้านจะเริ่มใช้โซล่าเซลกันมากขึ้น เราอาจจะมีโรงงานไฟฟ้าฟ้าที่สะอาดมากขึ้น

ผมว่า คุณ deertesla คิดผิด และคุณ I-PULSE คิดถูก
การที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาแพงมากๆ .. พอถึงวันที่มันหมดสภาพ .. มันจะ "มีราคา" มีมูลค่ามากกว่าไอเสียรถยนต์สันดาปแน่นอน
ตอนนี้ เหลือแค่กระบวนการรีไซเคิลที่ทำให้มันถูกกว่านี้ + สภาวะแวดล้อมทางมลพิษสู่โลก มันบังคับว่า .. ห้ามใช้น้ำมันปิโตรเลียมกับรถยนต์อีกแล้ว
(ยังใช้กับเรือและเครื่องบินได้อยู่ ส่วนน้ำมันดีเซลและเบนซินส่วนที่เคยบริโภคด้วยรถยนต์ขนาดเล็ก เอาไปส่งโรงไฟฟ้าให้หมด
เพราะมลพิษที่ออกมา มันยัง treat ได้ดีกว่า ปล่อยเป็นไอเสียกับรถยนต์แต่ละคันๆ อย่างปัจจุบัน)

ถกกันให้ยาวยังไงก็ไม่จบหรอกครับ มันถูกทั้งคู่นั่นแหละในแง่มลภาวะ

น้ำมันจริงอยู่ว่าเป็นตัวสร้างมลภาวะทางอากาศ ให้ปรับปรุง ฉีดดียังไงมันก็สร้างออกมาเป็นมลพิษทั้งนั้นตามหลักการเผาไหม้
เพียงแต่ว่าแบตเตอรี่ต้องเข้าใจว่า แร่มันไม่ได้งอกตามต้นไม้ การ Mining ขึ้นมาใช้ยังไงก็สร้างมลภาวะแล้ว (และเช่นกัน ต่อให้เทคโนโลยีอีกเป็นสิบๆปีก็ทำได้แค่ลดปริมาณและต้นทุนเท่านั้น)
และก็ถูกที่ว่าแบตเตอรี่สุดท้ายแล้วมันก็จะกลายเป็นขยะลงพื้นอยู่ดี ปัจจุบันเรายังมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ (e-waste) กันเยอะไม่พออีกหรอครับ?

เรื่องรีไซเคิลกลับมาใช้ ผมถามตรงๆนะ คุณว่าการดึงแร่ในแบตเตอรี่กลับมาใช้เนี่ย มันเอามือขยุมๆแล้วหลุดกลับมาใช้ได้ครบ 100% ไหมครับ?
แล้วสารที่ใช้ในการสกัดเอาแร่พวกนี้กลับมา มัน Reuse กลับมาใช้ได้ 100% ไหม? สารมัน Sustainable รึเปล่า?
ถ้าตราบใดเรายังวนอยู่แค่คำว่า "เรื่องรีไซเคิลปัญหาคือทำให้ถูกกว่านี้" แล้วไม่พูดเรื่อง Efficiency ในการเอากลับมาได้ มันก็ไลฟ์บอยแล้วครับ
คุณแค่หนีสิ่งที่ไม่ยั่งยืน (Unsustainable) อันนึงอย่างน้ำมัน ไปสิ่งที่ไม่ยั่งยืนอีกอันอย่างสินแร่ Lithium ก็แค่นั้นเอง

ปล. ปกติผมก็ไม่ชอบต้นความเห็นนะ แต่ผมว่ารอบนี้เขาพูดถูกเรื่องมลพิษ ระหว่างอากาศเป็นพิษกับน้ำดินเป็นพิษ
ถ้าคุณมองว่าอันหลังเป็นปัญหาน้อยกว่า มันก็แค่เพราะคุณมองมันไม่เห็นก็แค่นั้นแหละ

ออฟไลน์ shando

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,863
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2022, 09:28:19 »
คนนี้มาที่ไรพากระทู้ออกทะเลตลอดเห้อ

ขอกลับมาที่เนื้อเรื่องหลักนะครับ เรื่องBYDจะตั้งฐานผลิตที่ไทยนี้ก็เคยอ่านผ่านๆตามาเหมือนกันครับ ตอนแรกเข้าใจว่าเรื่องจริง


สรุปมีใครหาแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้มั้ยครับ ว่าBYDตั้งฐานที่ไทยจริงรึเปล่า รวมถึงส่วนอื่นๆในเนื้อข่าวด้วย

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2022, 11:51:02 »
คนนี้มาที่ไรพากระทู้ออกทะเลตลอดเห้อ

ขอกลับมาที่เนื้อเรื่องหลักนะครับ เรื่องBYDจะตั้งฐานผลิตที่ไทยนี้ก็เคยอ่านผ่านๆตามาเหมือนกันครับ ตอนแรกเข้าใจว่าเรื่องจริง


สรุปมีใครหาแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้มั้ยครับ ว่าBYDตั้งฐานที่ไทยจริงรึเปล่า รวมถึงส่วนอื่นๆในเนื้อข่าวด้วย
ข่าวว่าซื้อที่ดินในนิคมของWHAแล้วครับ
https://workpointtoday.com/byd-ev-plant-in-wha-rayong/
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2022, 02:43:53 »
แค่เปลียนมลภาวะไปอีกรูปแบบ ในทางขยะมีพิษแถมกำจัดได้ยากอีก

มันเป็นขยะอีกรูปแบบที่สามารถเก็บกวาดได้ง่ายกว่าเดิมครับ ดีกว่าปล่อยให้ควันเสียลอยไปในอากาศแบบเละเทะ
ค่อยๆก้าวไปข้างหน้าให้ดีขึ้นที่ละนิดก็ยังดีครับ ดีกว่าย่ำอยู่กับที ต่อไปแต่ละบ้านจะเริ่มใช้โซล่าเซลกันมากขึ้น เราอาจจะมีโรงงานไฟฟ้าฟ้าที่สะอาดมากขึ้น

ผมว่า คุณ deertesla คิดผิด และคุณ I-PULSE คิดถูก
การที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาแพงมากๆ .. พอถึงวันที่มันหมดสภาพ .. มันจะ "มีราคา" มีมูลค่ามากกว่าไอเสียรถยนต์สันดาปแน่นอน
ตอนนี้ เหลือแค่กระบวนการรีไซเคิลที่ทำให้มันถูกกว่านี้ + สภาวะแวดล้อมทางมลพิษสู่โลก มันบังคับว่า .. ห้ามใช้น้ำมันปิโตรเลียมกับรถยนต์อีกแล้ว
(ยังใช้กับเรือและเครื่องบินได้อยู่ ส่วนน้ำมันดีเซลและเบนซินส่วนที่เคยบริโภคด้วยรถยนต์ขนาดเล็ก เอาไปส่งโรงไฟฟ้าให้หมด
เพราะมลพิษที่ออกมา มันยัง treat ได้ดีกว่า ปล่อยเป็นไอเสียกับรถยนต์แต่ละคันๆ อย่างปัจจุบัน)

ถกกันให้ยาวยังไงก็ไม่จบหรอกครับ มันถูกทั้งคู่นั่นแหละในแง่มลภาวะ

น้ำมันจริงอยู่ว่าเป็นตัวสร้างมลภาวะทางอากาศ ให้ปรับปรุง ฉีดดียังไงมันก็สร้างออกมาเป็นมลพิษทั้งนั้นตามหลักการเผาไหม้
เพียงแต่ว่าแบตเตอรี่ต้องเข้าใจว่า แร่มันไม่ได้งอกตามต้นไม้ การ Mining ขึ้นมาใช้ยังไงก็สร้างมลภาวะแล้ว (และเช่นกัน ต่อให้เทคโนโลยีอีกเป็นสิบๆปีก็ทำได้แค่ลดปริมาณและต้นทุนเท่านั้น)
และก็ถูกที่ว่าแบตเตอรี่สุดท้ายแล้วมันก็จะกลายเป็นขยะลงพื้นอยู่ดี ปัจจุบันเรายังมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ (e-waste) กันเยอะไม่พออีกหรอครับ?

เรื่องรีไซเคิลกลับมาใช้ ผมถามตรงๆนะ คุณว่าการดึงแร่ในแบตเตอรี่กลับมาใช้เนี่ย มันเอามือขยุมๆแล้วหลุดกลับมาใช้ได้ครบ 100% ไหมครับ?
แล้วสารที่ใช้ในการสกัดเอาแร่พวกนี้กลับมา มัน Reuse กลับมาใช้ได้ 100% ไหม? สารมัน Sustainable รึเปล่า?
ถ้าตราบใดเรายังวนอยู่แค่คำว่า "เรื่องรีไซเคิลปัญหาคือทำให้ถูกกว่านี้" แล้วไม่พูดเรื่อง Efficiency ในการเอากลับมาได้ มันก็ไลฟ์บอยแล้วครับ
คุณแค่หนีสิ่งที่ไม่ยั่งยืน (Unsustainable) อันนึงอย่างน้ำมัน ไปสิ่งที่ไม่ยั่งยืนอีกอันอย่างสินแร่ Lithium ก็แค่นั้นเอง

ปล. ปกติผมก็ไม่ชอบต้นความเห็นนะ แต่ผมว่ารอบนี้เขาพูดถูกเรื่องมลพิษ ระหว่างอากาศเป็นพิษกับน้ำดินเป็นพิษ
ถ้าคุณมองว่าอันหลังเป็นปัญหาน้อยกว่า มันก็แค่เพราะคุณมองมันไม่เห็นก็แค่นั้นแหละ
นั่นแหละครับ มลพิษที่มันยังไม่เห้นตอนนี้ แต่ที่จริงมันก็เห็นกันชัดแล้วนะครับพวกขยะอิเล็คทรอนิคทั้ง ขยะสารพิษต่างๆที่มันกำจัดไม่ได้ต้องรอมันสลายในอีกแสน-ล้านปีเข่นกากกัมมันตภาพรังสี  ส่วนรียูสรีไซเคิลที่มันไม่รู้ว่ามันจะสามารถนำกลัมาได้กี่เปอร์เซ็นต์แถมสิ่งแวดล้อมจะโดนกระทบแค่ไหนจากขบวนการรีไซเคิล  แถมเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าพอแบตหมดอายุจะกลายสภาพเป็นแบบขยอิเล็คทรอนิคเพราะราคาแบต ตกรุ่น หรืออะไรก็ตามมันจะเป็นจริงและสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมมั้ยนั้น ถ้ามันเกิดจริงคือน่ากลัวมากครับ  ผมว่าเราหลงกลเล่ห์เหลี่ยมทางการตลาดของนักปั่นหุ้น บริษัทรถ และ NGO ที่สร้างภาพว่าสิ่งนึงดี แต่สิ่งนึงไม่ดีแบบพูดด้านเดียวครับ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2022, 02:46:52 »
คนนี้มาที่ไรพากระทู้ออกทะเลตลอดเห้อ

ขอกลับมาที่เนื้อเรื่องหลักนะครับ เรื่องBYDจะตั้งฐานผลิตที่ไทยนี้ก็เคยอ่านผ่านๆตามาเหมือนกันครับ ตอนแรกเข้าใจว่าเรื่องจริง


สรุปมีใครหาแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้มั้ยครับ ว่าBYDตั้งฐานที่ไทยจริงรึเปล่า รวมถึงส่วนอื่นๆในเนื้อข่าวด้วย
ผมว่าคุณหนะ พอพูดโดนใจดำเรื่องนี้รับไม่ได้เลยหรอกับการสร้างมลพิษ

ออฟไลน์ shando

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,863
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2022, 15:59:27 »
คนนี้มาที่ไรพากระทู้ออกทะเลตลอดเห้อ

ขอกลับมาที่เนื้อเรื่องหลักนะครับ เรื่องBYDจะตั้งฐานผลิตที่ไทยนี้ก็เคยอ่านผ่านๆตามาเหมือนกันครับ ตอนแรกเข้าใจว่าเรื่องจริง


สรุปมีใครหาแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้มั้ยครับ ว่าBYDตั้งฐานที่ไทยจริงรึเปล่า รวมถึงส่วนอื่นๆในเนื้อข่าวด้วย
ผมว่าคุณหนะ พอพูดโดนใจดำเรื่องนี้รับไม่ได้เลยหรอกับการสร้างมลพิษ

ผมไม่ได้ทำงานอะไรเกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้า ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้าและไม่คิดจะใช้เร็วๆนี้ ทำไมถึงเป็นการจี้ใจดำไปได้

แต่อ่านหัวข้อข่าวแล้วก็อยากรู้ว่าอนาคตไทยจะได้ไปต่อกับการเป็นประเทศผลิตรถยนต์รึเปล่า เข้ามาอ่านมีแต่เถียงไรกันก็ไม่รู้ไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อเลย

ปล.ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าใคร

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2022, 03:55:14 »
คนนี้มาที่ไรพากระทู้ออกทะเลตลอดเห้อ

ขอกลับมาที่เนื้อเรื่องหลักนะครับ เรื่องBYDจะตั้งฐานผลิตที่ไทยนี้ก็เคยอ่านผ่านๆตามาเหมือนกันครับ ตอนแรกเข้าใจว่าเรื่องจริง


สรุปมีใครหาแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้มั้ยครับ ว่าBYDตั้งฐานที่ไทยจริงรึเปล่า รวมถึงส่วนอื่นๆในเนื้อข่าวด้วย
ผมว่าคุณหนะ พอพูดโดนใจดำเรื่องนี้รับไม่ได้เลยหรอกับการสร้างมลพิษ

ผมไม่ได้ทำงานอะไรเกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้า ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้าและไม่คิดจะใช้เร็วๆนี้ ทำไมถึงเป็นการจี้ใจดำไปได้

แต่อ่านหัวข้อข่าวแล้วก็อยากรู้ว่าอนาคตไทยจะได้ไปต่อกับการเป็นประเทศผลิตรถยนต์รึเปล่า เข้ามาอ่านมีแต่เถียงไรกันก็ไม่รู้ไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อเลย

ปล.ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าใคร
ขอโทษด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Automotive Innovations

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,138
  • เตรียมสร้างอนาคต
    • อีเมล์
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2022, 10:55:02 »
เอาอีกแล้วหรอ ตาคนนี้ หุหุ เห็นไหม ว่าเค้าเบื่อคุณกันแค่ไหน พิมพ์ดีๆสักวันไม่ได้เลยหรอ ต้องออกทะเลทุกครั้งไป ไม่เหนื่อยบ้างหรอ ถามจริง ต่อไปใครเค้าจะกล้ามาตั้งกระทู้อะ ไม่รู้ไรก็นิ่งไว้บ้าง ให้คนที่เค้ามีความรู้เค้าให้ข้อมูลกัน

ขอนอกเรื่องนิดนะครับ ไม่ไหวจริงๆ
Toyota Camry 2.0G ACV41 2012 MC Black Interior
Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 2WD MY 2017
Ssangyong Stavic SV270  2006
Honda HR-V EL 2016
Toyota Fortuner 2.4V 2WD Big MC 2020
Haval H6 PHEV 2022
Mercedes-Benz C350e Dynamic Plug-in Hybrid 2023

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
Re: ไทย จะเป็นฮับผลิตรถ bev
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2022, 11:17:56 »
เอาที่่เห็นจริงๆ คือที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ เท่านัั้น

1. ไทยเรามีบริษัทผลิตแบตเตอรี่สัญชาติไทยหลายบริษัท เช่น GPSC , BANPU , BPP , BCPG ,EA เป็นต้น

ผิด โรงผลิตแบตเตอรี่ lithium ion ในไทย มีแค่สองโรง คือ EA กับ GPSC ซึ่งมีขนาดเล็กราวๆ 1/4 ของ EA ได้  คำว่าผลิต หมายถึง เริ่มจาก 0 คือเอาแผ่นทองแดงมารีด เข้าสายการผลิต anode cathode แล้วออกมาเป็นแบต cell/module/pack นะ แบบนี้เรียกว่า รง.ผลิต

ส่วนของ BMW, Benz , Nissan, BYD, EVLOMO  หรือ ยี่ห้ออืน นั่นเรียก โรงงานประกอบ คือ สั่งแบตเกือบสำเร็จรูปเข้ามา เอามาประกอบให้เป็นรูปร่างเท่านั้น และมีตัว charge /dis charge ทดสอบแบต  ด้วยการลงทุนแบบนี้ มันเทียบไม่ได้เลยกับ ลงทุนผลิต ความยากมันต่างกัน เหมือนเด็กอนุบาล กับ เด็กเรียนมหาลัย ประมาณนั้นเลย

2. Banpu เชิดชัย ดูราเพาเวอร์  ผมยังไม่เห็น แม้แต่ เสาเข็ม column ตั้งโรงงาน ผลิตแบตเตอรี่?

3. บริษัท  EVLOMO บริษัทชั้นนำด้านยานยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา กำลังสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาด 8 กิโลวัตต์ ซึ่งจะมีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน สร้างในพื้นที่ EEC
ผมก็ยังไม่เห็นแม้แต่ เสาเข็ม ตอกโรงงานเช่นกัน  อีกอย่าง กำลังผลิต 8 GW ถึือว่า เด็กน้อยมาก เพราะของ EA ซึ่งผลิตได้จริงแล้ว ตอนนี้ คือ 1 GW และ กำลังจะเป็น 4 GW ในปีหน้า และ เต็มกำลังผลิต คือ 50 GW เยอะสุดในอาเซียน แบบ จับต้องได้ ไม่ใช่มีแต่ข่าว

4. ปัจจุบันทางรัฐบาล ได้ออกนโยบาย ให้ ขสมก. ร่วมกับ เอกชนที่ทำการวิ่งรถ ให้ใช้รถเมล์ EV วิ่งทดแทนรถเก่า ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเห็นหลายคัน ในหลายๆเส้นทางแล้ว รวมถึง รถบัสของ บขส. ด้วย

ผิด ขสมก. ไม่มีเงินไปจัดหารถ EV   แต่ รัฐยกเส้นทางให้เอกชนไปวิ่งแทน จำนวน 143 สาย ซึ่งก็คือบ.ไทยสมายล์บัส โดยใช้รถประกอบจากโรงงาน nex และ แบตเตอรี่จาก amita   ทั้งหมด เป็นงบเอกชนลงทุนล้วนๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับ ขสมก.เลย  และ สิ้นปีนี้ จะเห็นรถ tsb ev bus รวมทั้งสิ้น 1250 คัน

รถพวกนี้ ใช้เวลาชาจ 15 นาที ได้ 80 % วิ่งได้ 300 กิโล ดังนั้น วิ่งต้นสายถึงสุดสาย ไปกลับ สามรอบ สบายๆ ใช้ ตุ้ชาจของ EA anywhere ตู้ DC 300 kw ใช้ชาจทีเดียว สองหัว พร้อมกัน หัวละ 150 kw  ในเมืองไทย ยังไม่มีใครทำได้แบบนี้ เขาเรียกว่า ultra fast charge

5. ปัจจุบันก็เริ่มมีการ ใช้ EV Boat เรือไฟฟ้าสาธารณะแล้ว วิ่งในหลายๆเส้นทาง เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา คลองแสนแสบ คลองผดุงกรุงเกษม เป็นต้น

EV boat มีวิ่งแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็น ลำเล็กๆ เพราะจุดอ่อน คือ ระบบชาจ ต้องใช้เวลาชาจนาน  ทาง EA มี เรือ cantamara วิ่งตอนนี้ อยู่ 49 ลำ ลำนึงใช้แบต 800 kw (เทียบเท่ากับรถยนต์ 25 คัน) ดังนั้น การชาจใช้ระบบ ultra fast charge ทีละ 26 หัวชาจ ใช้เวลา 30 นาที 

6. บริษัทเอกชน ไม่ว่าจะเป็น PTTOR , EA หรือพวก การไฟฟ้า  ก็เร่งทำการขยายจำนวน แท่นชาร์ทรถยนต์ ไฟฟ้าทั่วประเทศ เป็นต้น

หัวชาจไฟฟ้า ตอนนี้ ที่มีเยอะที่สุดคือ EA anywhere ระดับ 600 กว่า สถานีชาจ ในขณะที่ อันดับสอง มีแค่ 100 กว่า สถานีชาจ เหตุผลคือ ตู้ชาจ DC ไม่ว่า จะ ptt , pea, egat ต้องนำเข้า จาก ABB ตู้ละสองล้าน ทำให้ต้นทุนสูงมาก จึงไม่สามารถลงทุนได้มาก


ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ผมเห็นจริงๆ ไม่เอาจากในข่าวนะ