ผู้เขียน หัวข้อ: ชวนคุย การมาของ EV 500แรงม้า ราคาไม่แพง กระทบความรู้สึกคนใช้รถ (หรือกำลังขะซื้อ) sport มั๊ยครับ  (อ่าน 12718 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kanarath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
สมัยก่อนรถ 500แรงม้าต้องมีค่าตัวเกิน 10ล. ตอนนี้ 1.6ล ก็ขับได้แล้ว
แต่เข้าใจแหละว่ามันมีองค์ประกอบอื่นอีกเช่นคุณภาพตัวรถ ช่วงล่าง การขับขี่ ภาพลักษณ์
แต่มุมนึงก็ต้องยอมรับในแง่ความรู้สึกว่าแรงม้า อัตราเร่ง มันระดับ performance car ตัวท๊อปๆเลย

เลยอยากทราบว่าสมาชิกที่ใช้ sport ตัวแรง (หรือชื่นชอบความแรง) มีความรู้สึกกับการมาของ EV 500แรงม้ายังไงบ้างครับ

ตัวอย่างเช่น ขับ 911 ม้า 400ตัว ความภูมิใจใน(เฉพาะ)ความแรงที่เคยมี เวลาหันไปเจอ EV 500ม้าจอดข้างๆที่ไฟแดง มันจะรู้สึกเปลี่ยนไปยังไงมั๊ยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2023, 08:43:34 โดย Kanarath »

ออฟไลน์ aekoy

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
sport car มันมีอะไรมากกว่า แค่แรงม้าสูงๆและอัตราเร่ง 0-100 ครับ ช่วงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ ช่วงล่าง เสียงเครื่องยนต์ หลายๆอย่างมาประกอบกันมันทำให้หลายๆคนยังคงจะจ่ายเงินมากๆเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา
Volvo 850 T-5R
SAAB 9000 Aero
BMW E30 M10 coupe M/T 1987
Volvo V60
Toyota AE111

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 749
    • อีเมล์
กระทบครับ รวมถึงการโมดิฟาย แต่งรถด้วย กว่าจะได้ 500ม้า หมดเงิน หมดเวลา หมดประกัน เสี่ยงพังอีก อันนี้โกงมากจ่ายจบมีประกันเอาไปทำช่วงล่างอีกหน่อยจบเลย
รถ sport ส่วนมากแพงเพราะภาษี + กำไร FTA 0% รัฐช่วยอีกโครตโกงง  :'(

ออฟไลน์ albacore

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 164
    • อีเมล์
ผมมองว่ารถ2ตัน กับรถ1.6ตัน ไดนามิกในการขับมันน่าจะต่างกันเยอะอยู่พอสมควรนะครับ
ถ้าชอบความสนุกในการเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้ง รถสปอร์ตน่าจะยังให้ความรู้สึกดีกว่า มั่นใจกว่าอยู่พอสมควรนะ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
อยากแรงเล่นไฟฟ้าเลยครับ หมดยุครถน้ำมันแรงๆๆ

ออฟไลน์ อีกนิดก็แรง

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 972
ไม่ครับ เหมือน smart watch ที่มาแทนที่ rolex, ap อะไรไม่ได้

ออฟไลน์ Left lane driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 701
ถ้าคนที่อยากได้รถ sport เพราะชอบการขับขี่จริงๆ และมองการขับรถเป็นงานอดิเรกในเวลาว่าง
ก็ไม่น่ามีผลเท่าไหร่ หรือไม่เขารอรถ ev ที่เป็นรถ sport จริงๆมากกว่า

เพราะอย่าง BYD Seal, Model 3 performance คาแรคเตอร์มันก็ยังไม่ใช่รถ sport ที่จะเอาไว้ขับเล่นในวันหยุดหรือขับลงสนามซะเท่าไหร่
คือต่อให้เป็น Model S Plaid ที่มี 1,000+ แรงม้า มันก็ยังไม่ใช่รถ sport อยู่ดี แถมทำเวลาในสนามช้ากว่ารถ sport ICE 400 กว่าแรงม้าด้วยซ้ำ

แต่ถ้าสำหรับคนชอบรถ sport เพราะแค่ต้องการความ "แรง" อย่างเดียว จะไปออนิว 1.9 remap ก็ไม่ต่างกัน
ซึ่งที่วิ่งกันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองก็คิดแบบนี้แหละ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,706
กระทบสิครับ คือมันจะก่อกำเนิดกลุ่มพฤติกรรมตลาดพ่อ/แม่น้องแมวน้ำมาใหม่
ควบคู่กับน้องออนิว

ออฟไลน์ nmd

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 175
มีใครคิดเหมือนผมไหมว่าเจ้า seal จะต้องมีจิ้มตูดคันหน้ากันบ้างแน่ๆ
เพราะผมไม่คิดว่าเบรคของรถคันนี้จะเอาอยู่ครับ
มันเล็กไปสำหรับรถที่หนักถึง 2.1 ตัน แต่มีอัตราเร่ง 0-100 3.8 วิ
พวกรถสปอร์ตแท้ๆ ไว้ใจได้มากกว่าเยอะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2023, 06:22:01 โดย nmd »

ออฟไลน์ XaNaX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 589
    • อีเมล์
มันสู้กันไม่ได้นะ แรงจริงแต่ความเร็วสูงสุดได้แค่ 180กม/ชม เท่านั้น
ส่วนสปอร์ตคาร์ 200กว่าๆ อย่างน้อยๆก็ 250กม/ชม

อีกอย่างความเท่ ความหรูก้ต่างกันเยอะ

ออฟไลน์ Superpong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 315
    • อีเมล์
กระทบครับ อย่างตอนนี้ถ้าจะรถแพงๆเพื่อกำลังรู้สึกเหมือนตนเองโง่ทันที ทั้งๆที่จ่ายได้ถูกกว่านั้นเยอะ

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,643
    • อีเมล์
ผมไม่ได้อยู่ในข่ายที่มีปัญญาซื้อนะครับ แค่ได้ฟัง ได้สัมผัสกับความคิดของกลุ่มที่มีกำลังซื้อได้จริงมาบ้าง อาจจะแตกต่างไปบ้าง กับกลุ่มอื่นที่มีกำลังซื้อจริงก้อได้ มาคุยกันเฉยๆละกัน

กระทบมั้ย ผมว่าไม่ เคยคุยในวงสนทนาเค้าก้อบอกว่า

-ก้อลองซื้อมาขับดูดิ ถูกๆ ไม่ชอบขายทิ้ง ขำๆ
-ไม่เห็นน่าซื้อเลย เกลื่อนแน่ๆ ใครๆก้อซื้อได้
-ขับแรงๆไปทำไม คนมองไม่เห็น เร็วเกิน (555)
-จอดช่อง super car ในห้างดังได้มั้ย?
-ซื้อทั้งที คนต้องมองแล้วรู้ว่าแพงดิ ส่วนมันจะแพงมั้ย คุ้มมั้ย คนที่สงสัยอีกเยอะที่มอง ที่วิจารณ์ไม่มีโอกาสจะเข้าใจหรอก เพราะซื้อไม่ได้อยู่แล้ว


ผมคิดนะ ถึงจุดที่รวยมีเงินมากๆ ถ้าใจไม่ได้รักความเร็ว หลงเสน่ห์การขับขี่จริงๆ เท่าที่เห็นประเด็นหลัก ที่คนซื้อรถ super car คือ เขาทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ ครอบครองไม่ได้ เท่านั้นเอง

ผมคนนึงที่ยอมรับเลยว่า ถ้ามีรถเเพงๆได้ ก้อคงมีความสุขที่รู้ในใจตัวเองว่า เออ เราทำได้คนอื่น(อีกเยอะ) ได้แค่มอง

ประมาณนี้แหละครับ

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
ผมชอบนะ จะได้มีรถแรงๆราคาไม่แพงมาบ้าง ส่วนเบรคกับช่วงล่างต้องมีคนเอาของมารับทำหรือโมกันแน่นอนเพราะตั้งราคาขายแบบนี้ซึ่งขายดีแน่นอน แค่วันเดียวSealก็ขายไปพันกว่าคันแล้ว ถ้าวิ่งในเมืองคงไม่ได้ใช้กำลังเท่าไหร่ยกเว้นวิ่งทางไกลแต่คงโดนใบสั่งเพียบ 55
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ joextreme

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 331
    • อีเมล์
ต้องดูคำนิยามของคำว่า รถสปอร์ต แต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน
ส่วนตัว คนละ segment คนละเรื่องคนละราวกันเลย
มันเหมือนๆเอา speaker จีน วัตต์สูงๆ มาเทียบกับ hi end speaker
มันขาดความปราณีตและความสุนทรี เทียบกันไม่ได้
อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลและตัวเลข รวมถึงความสุขใจที่ได้ครอบครอง
ทั้งหมดนี่ กิเลส ล้วนๆ
 

ออฟไลน์ POKKHET

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 232
    • อีเมล์
ผมว่าคนที่ต้องการ sport car จริงๆจะมองอย่างอื่นที่กว้างกว่าแรงม้าครับ มันยังคงมีเสน่ห์สำหรับคนที่ชอบนะ

ออฟไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 235
ที่กระทบแน่ๆคือ ผมเคยตั้งเป้าว่า อยากทำรถตัวเองให้ได้ 400 ม้า ลงพื้น
ตอนนี้เริ่มลังเลละครับ ว่าจะทำไปทำไม ขับสวยๆพอละกัน  ;D

แต่สิ่งที่ยังทำให้รถสันดาปฯที่ใช้ มีเสน่ห์อยู่คือ
1. ขับไปจอด Meeting มันมีเรื่องให้คุย ให้แลกเปลี่ยนกันได้มากกว่า EV
2. ไป Track Day กับก๊วนได้ วิ่งทั้งวันให้จุใจเลย น้ำมันหมดก็เติมใน Pit วิ่งเพื่อ Challenge ตัวเองว่าวันนี้จะทำ Best lap ได้เวลาเท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่ Best lap มันไม่ได้มาตั้งแต่รอบแรกๆที่แบตฯยังไม่ร้อนครับ ซึ่งตรงนี้ EV ยังให้ไม่ได้ ทั้งในแง่การชาร์จใน Pit และ ความสม่ำเสมอของสมรรถนะเวลา Battery + Drivetrain ของ EV ร้อน
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออฟไลน์ shipcake

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
    • อีเมล์
รถสปอตคือสิ่งที่จ่ายไปกับ ผ้าอาคันทาร่า หนังกลับ คาร์บอนไฟเบอร์แท้ ระบบตูดเป็ดที่ลู่ลมกางออกด้วยมอเตอร์ จานเบรกและดิสเบรกที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ วัสดุภายในและระบบการเซอร์วิส

สิ่งที่ผมกลัวที่สุดตอนนี้ คือ มือใหม่หัดแรงตามท้องถนน แมวน้ำกำลังจะกลายเป็นรถที่ผมกลัวบนท้องถนนมากที่สุด ไม่ได้กลัวแซง แต่กลัวคนขับฝีมือกระจอก

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
ผมว่า บางคนกำลังหลงประเด็น ในบางกรณี

จากที่ใช้ Y Per มา

1. รถแรงจริงครับ
2. รถขับสนุกครับ แต่มันไม่ได้ถึงขั้นสนุกมากมายขนาดนั้น เพราะหลายคนที่รู้จักตัวนี้ไปอัพเกรดโช้คกันหลายคันแล้ว (กลับกัน ถ้ารถ sport หรือ performace car มันมาให้ครบๆ แล้ว)
3. รถพุ่งจริง ในช่วงแรกๆ แต่มีระบบหน่วง รีเจน ช่วยในตอนยกคันเร่ง(บางคนใช้โหมดชิล แต่ผมไม่ชิน) ยกเบรค ยกชะลอ มันใช้เบรคค่อนข้างน้อย หรือ แทบไม่ได้ใช้ ยกเว้นจะเบรคจริงๆ จังๆ
4. รถความเร็วปลายต้องมีระยะให้วิ่ง ไม่ได้พุ่งหรือกระชาก แบบช่วง 0-100 จะเรียกว่า ความเร็วปลาย ไม่ได้ต่างจากรถธรรมดาๆ คันนึงเลย ซึ่งก็ต่างจาก sport หรือ performace car ที่ปลายไหลต่อเนื่อง
5. สิ่งที่ได้เปรียบจุดสำคัญ คือ มอเตอร์ ปั่นลงล้อ ไม่ได้ผ่าระบบ transfer ดังนั้น มันจะคุมแรงบิด คุมกำลังที่ล้อดีมากรถที่ขับล้อผ่านเพลาและระบบ transfer มันอาจจะมี lost และความไม่เท่ากันอยู่บ้างในแต่ละล้อ(เรียกว่าไม่แม่น)

สุดท้าย กระทบกับคนซื้อไหม หรือ กระทบกับคนที่ "จะซื้อ" รถ sport car ไหม

ผมตอบเลยว่า มีครับ มีเยอะด้วย

เพราะ มันมีทั้งสิ่งที่เหมือน และ สิ่งที่ต่าง

สมมุติว่า ตัดเรื่องรูปร่าง หน้าตา และ อื่นๆ ออกไปให้หมด

วัดกันตามโจทย์ ที่ถาม คือ 500 ม้า ตามสถานการณ์ปัจจุบัน จากราคาแพงกว่า หลายเท่าตัว เกือบ 10 ล้าน เหลือ ล้านกว่าๆ มันแน่นอนอยู่แล้วที่มันคุ้มกว่าเยอะที่จะซื้อ (ผมก็หนึ่งในนั้น)

แต่ถ้า ถามว่า 500 ม้า ระหว่างรถไฟฟ้า กับ รถน้ำมัน เช่น BMW i4M กับ M4 หรือ MB EQS กับ C63/E63 AMG ในราคาที่เท่าๆ กัน เลย แล้วต้องเลือก ซ้าย หรือ ขวา ผมตอบทันทีว่า ผมเลือก ICE อย่าง M4 หรือ C63/E63 แน่นอน

มันเป็นคำถามที่ต้องระบุเงื่อนไข และ รายละเอียดครับ บางที คนมองที่ราคา(ถูกกว่า) เป็นหลัก บางคนมองที่ยี่ห้อ บางคนมองที่ตัวรถ บางคนมองที่การขับขี่ มันไม่เหมือนกันครับ

ออฟไลน์ boogie2020

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,041
    • อีเมล์
ผมว่ามีผลอะ

พวกเน้นขับเอาหล่อ เน้นช่วงล่างขับในแทรคก็คงไม่มีผลอะไร แต่กับคนขับ sport car บางคน ก็ค่อนข้างมั่นใจใน performance รถตัวเอง  เพราะเคยไล่แซงรถบ้านๆ  ได้ชิล ๆ  พอมี EV แบบแรง ๆ มา  ครั้นไปวัดกับเขาแล้วรถตัวเองไม่สุดจริงๆ อาจโดนสวนหงายได้ ..... ความ proud ก็จะหายไปพอควร 


PS. อย่างเคสใน youtube กระบะที่แต่งแบบสุด ๆ 600 ม้า วัดกับ 3 Per  ถ้าแค่ 1/4 miles สับเกียร์ไม่แม่นแบบพี่คนขับในคลิป ก็ไม่รอดละคับ
-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 749
    • อีเมล์
รถ EV ที่ออกมาตอนนี้ยังไม่มี segment sport cars ยังรู้สึกขนาดนี้อีกไม่นาน ถ้า tesla roadster 2 หรือ EV ค่ายจีนตั้งใจทำ sport car จริงๆ มีผลโดยตรงแน่ๆครับมันเหนือรถน้ำมันเยอะ จุดศูนย์ถ่วง จังหวะเร่ง

ออฟไลน์ stm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 400
ผมว่ากระทบนะแต่ไม่มาก คนที่ซื้อรถสปอร์ตขับส่วนใหญ่น่าจะต้องการความแตกต่างที่พิเศษและพร้อมที่จะ
จ่ายแพง และมันมีเสน่ห์ของมันอีกแบบที่รถไฟฟ้าให้ไม่ได้ แต่ถ้ามีรถไฟฟ้าหรูแรง ขับสนุก มาแข่งด้วยในต้นทุนที่ถูกกว่าเมื่อนั้นแหละกระทบเต็มๆแน่

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,242
คนมีตังเหลือจริงๆ ที่จ่ายได้ด้วยอารมแบบไม่ต้องมานั่งคิดว่าคุ้มมั้ย ผมว่าไม่กระทบนะครับ
ความเหมือนคงมีแค่0-100แต่อย่างอื่นเทียบกันไม่ได้
วัสดุต่าง ความluxuryต่าง ช่างล่างก็ต่าง
Sport luxury กับSportบ้านไรงี้

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
เหมือนถามว่า คนจะซื้อ raptor v6 เบนซิน กลัวเปลืองน้ำมันมั๊ยแหละครับ
ก็จะมีคนบอกว่าคนรวยเค้าไม่คิดเงินเหลือ  แต่ผลมันก็บอกว่าคนรวยก็ไม่ได้คิดแบบนั้นทุกคนครับ

ออฟไลน์ Winnie_The_Poom

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 499
    • อีเมล์
เฉยๆ ยิ่ง 0-100  3 วิ ยิ่งไม่ได้ใส่ใจเลย Sport car ส่วนตัวเชื่อว่าคนที่ซื้อนี่ เค้าซื้อความเป็นซิกเนเจอร์ให้ตัวเองนะ มันไม่ต้องทำอะไรเลย แค่คนอื่นรู้ว่า คนนี้ขับรถคันนี้ คำตอบก็มีในหัวล่ะ(บ้านรวย หล่อ เศรษฐีกระเป๋าหนัก ทำงานอะไร etc) ถ้าอย่างรถไฟฟ้าทั่วไปก็แค่รู้ว่ามันแรง แต่อื่นๆ ไม่รู้อะไรเลย แม้กระทั่งยี่ห้อ รุ่น ถ้าไม่อ่าน หรือเห็นโลโก้

ออฟไลน์ Sleepy Boy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,419
    • อีเมล์
มันเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีอยู่ กระแส ev กำลังมา มันย่อมสร้างแรงกระเพื่อมในวงกว้าง ผลที่สุดแล้ว "เวลา"จะช่วยกรองความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้ออกไป ในขณะเดียวกันผู้ผลิตก็ต้องปรับตัวให้ทัน
สิ่งหนึ่งที่รถไฟฟ้าตลาดยังทำไม่ได้คือ ความภูมิใจในการครอบครอง ถ้าเงินเหลือๆผมก็ยังอยากได้ 911 มากกว่าอยู่ดี ทั้งๆที่หลายปีมานี้แทบไม่เดยขับเร็วเกิน 150 กม/ชมเลยด้วยซ้ำ

ออฟไลน์ wcr

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
สำหรับผมกระทบในแง่ความรู้สึกนิดนึง ว่าเทคโนโลยีตอนนี้ รถมันแรงได้ขนาดนี้ในราคาขายเท่านี้แล้วนะ แต่ก็จบเท่านั้นครับ

เพราะปัจจัยอื่นองค์ประกอบอื่นมันเยอะมากกว่าจะมาใส่ใจกับม้าเยอะๆอย่างเดียว โอเคแหละถ้าทุกอย่างเท่ากันหมด ม้าเยอะกว่าก็ย่อมดีกว่าในสถานการณ์ส่วนใหญ่

แต่อันนี้มันเหมือนเยอะเกินส่วนที่ได้ประโยชน์สูงสุดไปแล้ว โดยที่ส่วนอื่นไม่ตามไปด้วยกันซักเท่าไหร่น่ะครับ เหมือนตั้งใจทำม้าเยอะๆมาขิงจนต้องลงที่ฝาท้ายซะด้วยเลย

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,740
ยังไงก็คงต้องกระทบบ้างครับ
สมัยที่ PHEV เพิ่งมา แล้วอัตราเร่งคือดีมากๆ ก็มีหลายความเห็นไปในแนวทางที่ว่า รถสปอร์ท na/ice จะอยู๋ยาก(ซึ่งมันก็หายไปจริงๆแต่เพราะเรื่งมลพิษ ไม่ใช่คนไม่ซื้อ)
แต่สุดท้ายมันก็แทนกันไม่ได้ อย่างน้อยๆเสียงท่อ เสียงเครื่องมันหายไป
แล้วพวก  Sport/SuperCar มันเป็นเหมือน เครื่องหมายของความสำเร็จไปแล้วครับ โดยเฉพาะในไทย

ออฟไลน์ นัดวิด

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
    • อีเมล์
ใครคิดยังไงผมไม่รู้นะครับ แต่ส่วนตัวผม ซื้อ tesla ไว้ขับไปส่งของครับ ส่วนรถ sport ผมชอบขับออกไปนั่งจิบกาแฟ ซิ่งเวลาเหนื่อยๆ ได้ยินเสียงเครื่อง 6 สูบ แล้วมันหวานหูดีครับ

ออฟไลน์ turbofever

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 577
    • อีเมล์
ดีดี กระทบเยอะๆ ให้ 4  king JDM ลงมาสัก 50% ของตอนนี้ เราจะไปช้อน

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
คหสต

ถ้าหารถสปอร์ต 1 คัน = ไม่กระทบ มันคนละโจทย์กัน

ถ้าคนชอบรถสปอร์ต ที่อยากหารถใช้งานคู่กับรถสปอร์ต = มีผล แทนที่จะเลือกรถธรรมดาอย่าง Camry อาจจะมาดู EV แทน (จ่ายเงินเท่ากัน ได้การใช้งานที่อาจจะตรงจริตขึ้น)

ถ้าคนชอบรถแรง อยากได้รถคันเดียวครอบจักรวาล = กลุ่มนี้มีผลมากสุด แทนที่จะซื้อ civic 1.5 โบมาโม อาจจะเปลี่ยนมาเป็น Seal ตัวต่ำ