ผู้เขียน หัวข้อ: Japan D segment vs Europe car  (อ่าน 3164 ครั้ง)

ออฟไลน์ wesborland

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 327
    • อีเมล์
Japan D segment vs Europe car
« เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 10:51:11 »
ขอถามแบบซื่อๆบื้อๆเลยครับ
Camry , Accord ตัวท็อป เทียบกับ Series5 ตัวบ๊วยเลย หรือตัวที่เอามาทำลิมูซีน มันต่างกันขนาดไหนครับ
1. วัสดุ ตกแต่งภายใน , งานประกอบ
2. ความนุ่มนวล การเก็บเสียง
3. กำลังเครื่อง สมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน
4. ความปลอดภัยก่อนชน เบรค ช่วงล่าง เซนเซอร์การเตือนต่างๆ
5. ความปลอดภัยขณะชน/หลังชน ถุงลมนิรภัย ความแข็งแรงของตัวถัง


ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ boogie2020

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,042
    • อีเมล์
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 11:03:49 »
เอาเท่าที่เคยลองละกันคับ Camry ไฮบริจตัวท็อป  กะ 530e ตัว Elite

1. วัสดุ ตกแต่งภายใน , งานประกอบ  > จากตำแหน่งคนขับ ผมว้าวกับ 530e มากกว่า   ส่วน Camry ผมว่าเบาะหลังอลังการกว่า
2. ความนุ่มนวล การเก็บเสียง >  Camry นุ่มกว่าเห็นๆ 
3. กำลังเครื่อง สมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน > 530e กินขาดทุกย่าน แถมเสียงเครื่องตอนจังหวะกดมิดของ Camry นี่ลั่นทุ่งมาก
4. ความปลอดภัยก่อนชน เบรค ช่วงล่าง เซนเซอร์การเตือนต่างๆ > ไม่ได้ทดลองคับ แต่เบรคบีเอ็มผมไม่ชินละมั้ง กดแล้วหัวทิ่มตลอด ๆ
5. ความปลอดภัยขณะชน/หลังชน ถุงลมนิรภัย ความแข็งแรงของตัวถัง > อันนี้ไม่รู้
-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------

ออฟไลน์ GT3

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 503

ออฟไลน์ chaithawat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,540
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 11:29:58 »
1 วัสดุแล้วแต่จุดครับบางจุดญี่ปุ่นทำได้ดีกว่า เช่น พวงมาลัยไม่สากมือ คอนโซลนุ่มกว่า คอนโซลเกียร์ไม่ก๊อบแก๊บ ดูด้วยตายุโรปสวยกว่าจริงแต่ลองกดลองสัมผัสหรือหลังสามปีไปแล้ว ผมว่าดีเซกเมนต์ญี่ปุ่นเป็นต่อทำได้ดีกว่าบางรุ่นครับ เนียนนุ่ม แน่น ไม่ก๊อกแก๊ก ลอกเหนียว พอง
2 ความนุ่มการเก็บเสียง ญีปุ่นบางรุ่นอย่าง teana ทำได้ดีกว่าครับ  bm เสียงพื้นดังทุกรุ่นครับลองสังเกตุดู ช่วงล่างสปอร์ต ยังไงก็แข็งเด้งดังตามคอนเซป altimate drive แบบที่ญี่ปุ่นยังห่างไกล ทั้งความแรงและความมัน ถนนเรียบๆขับความเร็วสูงๆเนียนนิ่ง แต่ข้อเสียก็มีเช่นถ้าเจอถนนไม่เรียบ ขรุขระเป็นคลื่น ญีปุ่นขับหน้าจะขับได้ง่ายสบายกว่า พวงมาลัยไม่วอกแวก หน้าไม่ไว  พวงมาลัยดิ้นไปมาหรือดึงตามถนนน้อยกว่ายุโรปขับหลังครับ เหมือนมันดูดไปพื้นถนนขับค่อนข้างยากครับ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 28, 2022, 11:10:39 โดย chaithawat »

ออฟไลน์ Showbiz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 176
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 11:47:15 »
มีเงินไปยุโรปครับ ดีกว่าหลายอย่างแต่แลกมาด้วยราคา และ ค่าบำรุงรักษาที่สูง

แต่ถ้าเป็นแคมรี่ จะมีข้อดีคือ ระบบรวนยากกว่า อาจจะสบายใจกว่าเวลาใช้งาน

horizen

  • บุคคลทั่วไป
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 12:28:51 »
กระทู้แนวนี้มาทุกเดือน

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=82570.0

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=41731.0

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=69153.30

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=47607.30

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=77216.0
ขอบคุณที่ขุดมาให้อ่านครับ แต่ว่า

กุมภาพันธ์ 27, 2022
ธันวาคม 07, 2014
มกราคม 26, 2019
ธันวาคม 03, 2015
กันยายน 25, 2020

มันก็ห่างกันเป็นปีเลยนะ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,870
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 12:30:53 »
มีบางอย่างที่ 2 รุ่นนี้มันแทนกันไม่ได้(ในเคสที่พร้อมดูแลเขาทั้งคู่นะ)​

ถ้าชอบขับ ชอบซิ่ง ต้อง BMW
ถ้าชอบขับแบบสุนทรีย์ ต้อง CAMRY

ออฟไลน์ Ra32

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 151
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 12:46:00 »
กระทู้แนวนี้มาทุกเดือน

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=82570.0

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=41731.0

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=69153.30

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=47607.30

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=77216.0
ขอบคุณที่ขุดมาให้อ่านครับ แต่ว่า

กุมภาพันธ์ 27, 2022
ธันวาคม 07, 2014
มกราคม 26, 2019
ธันวาคม 03, 2015
กันยายน 25, 2020

มันก็ห่างกันเป็นปีเลยนะ

ขอบคุณ คุณGT3ที่รวบรวมมาให้ด้วยครับ ผมก็มองว่าเป็นปกตินะครับไม่ได้ถี่ยิบอะไรขนาดนั้น รถรุ่นใหม่ๆมีเปิดตัวกันตลอดๆ จะมี Japan D segment vs Europe car มาเป็นระยะๆก็ดูไม่แปลกครับ 
ผมชอบด้วยซ้ำกระทู้แนวนี้ ชอบการอธิบายเปรียบเทียบให้เห็นภาพจากประสบการณ์คนที่เคยสัมผัสมาจริงๆ :D

ออฟไลน์ wesborland

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 327
    • อีเมล์
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 12:54:37 »
กระทู้แนวนี้มาทุกเดือน

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=82570.0

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=41731.0

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=69153.30

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=47607.30

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=77216.0
ขอบคุณที่ขุดมาให้อ่านครับ แต่ว่า

กุมภาพันธ์ 27, 2022
ธันวาคม 07, 2014
มกราคม 26, 2019
ธันวาคม 03, 2015
กันยายน 25, 2020

มันก็ห่างกันเป็นปีเลยนะ

ขอบคุณ คุณGT3ที่รวบรวมมาให้ด้วยครับ ผมก็มองว่าเป็นปกตินะครับไม่ได้ถี่ยิบอะไรขนาดนั้น รถรุ่นใหม่ๆมีเปิดตัวกันตลอดๆ จะมี Japan D segment vs Europe car มาเป็นระยะๆก็ดูไม่แปลกครับ 
ผมชอบด้วยซ้ำกระทู้แนวนี้ ชอบการอธิบายเปรียบเทียบให้เห็นภาพจากประสบการณ์คนที่เคยสัมผัสมาจริงๆ :D

ที่สงสัยขึ้นมาเพราะบริษัท logistics ข้ามชาติเจ้าใหญ่เจ้านึง เช่ารถให้ผู้บริหารเป็น Camry ล้วนๆ มี4-5ท่านที่ดื้อขอเป็น Ford Everest สงสัยจะรักจริง

แต่บริษัทไทยเจ้าใหญ่อีกเจ้า เช่า Benz C-Class เอามาให้ผู้บริหารนั่ง ผมหล่ะงงมากเลยว่ารถมันก็เล็กน่ะ สงสัยจะอยากเซฟค่าใช้จ่ายไม่ยอมเช่า E classให้ แต่ถ้าเอาสะดวกสบายจริงทำไมไม่เช่า Camry ให้ก็ไม่รู้

แล้วก็พวกรถของเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานเลย Series5 , E-Class รัวๆเลย แทนที่จะเล่น Camry

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,870
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 13:13:10 »
กระทู้แนวนี้มาทุกเดือน

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=82570.0

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=41731.0

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=69153.30

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=47607.30

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=77216.0
ขอบคุณที่ขุดมาให้อ่านครับ แต่ว่า

กุมภาพันธ์ 27, 2022
ธันวาคม 07, 2014
มกราคม 26, 2019
ธันวาคม 03, 2015
กันยายน 25, 2020

มันก็ห่างกันเป็นปีเลยนะ

ขอบคุณ คุณGT3ที่รวบรวมมาให้ด้วยครับ ผมก็มองว่าเป็นปกตินะครับไม่ได้ถี่ยิบอะไรขนาดนั้น รถรุ่นใหม่ๆมีเปิดตัวกันตลอดๆ จะมี Japan D segment vs Europe car มาเป็นระยะๆก็ดูไม่แปลกครับ 
ผมชอบด้วยซ้ำกระทู้แนวนี้ ชอบการอธิบายเปรียบเทียบให้เห็นภาพจากประสบการณ์คนที่เคยสัมผัสมาจริงๆ :D

ที่สงสัยขึ้นมาเพราะบริษัท logistics ข้ามชาติเจ้าใหญ่เจ้านึง เช่ารถให้ผู้บริหารเป็น Camry ล้วนๆ มี4-5ท่านที่ดื้อขอเป็น Ford Everest สงสัยจะรักจริง

แต่บริษัทไทยเจ้าใหญ่อีกเจ้า เช่า Benz C-Class เอามาให้ผู้บริหารนั่ง ผมหล่ะงงมากเลยว่ารถมันก็เล็กน่ะ สงสัยจะอยากเซฟค่าใช้จ่ายไม่ยอมเช่า E classให้ แต่ถ้าเอาสะดวกสบายจริงทำไมไม่เช่า Camry ให้ก็ไม่รู้

แล้วก็พวกรถของเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานเลย Series5 , E-Class รัวๆเลย แทนที่จะเล่น Camry

ถ้าเป็นเอกชน ก็คงหน้าตา หรือ ความคุ้มค่า และฐานะบริษัท
เจ้าหน้าที่รัฐ ก็หน้าตาและความอยากของคนๆนั้น

ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วๆไป ก็อยู่ที่เงิน
เงินมากก็เรื่องนึง
เงินน้อยก็เรื่องนึง
เงินน้อยแต่อยากให้ดูมีมากก็เรื่องนึง

เรื่องแบบนี้พูดยากครับ

ออฟไลน์ brownie

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 245
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 13:57:14 »
มี 530i กับ Camry hybird ตัวใหม่อยู่ครับ

1. วัสดุ ตกแต่งภายใน , งานประกอบ ---> 530i หรูหราหมาเห่ากว่าครับ ก็ว่ากันตามราคา รถแพงกว่ากันเท่าตัว
2. ความนุ่มนวล การเก็บเสียง ---> ช่วงล่างมันเทียบกันตรงๆไม่ได้ BMW เป็น M sport แข็งเฟริม ส่วน Camry มันแนว comfort แต่นั่งหลัง Camry สบายกว่า ช่วงความเร็สสูง BMW เก็บเสียงได้ดีกว่าระดับนึงเลย
3. กำลังเครื่อง สมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน ---> กำลังเครื่อง การขับขี่ 530i กินขาด แต่ประหยัดสู้ hybrid ไม่ได้อยู่แล้ว ใช้งานเหมือนกัน 8 km/l vs 13 km/l
4. ความปลอดภัยก่อนชน เบรค ช่วงล่าง เซนเซอร์การเตือนต่างๆ ---> 530i เบรค prefect ส่วน Camry เบรคจะวืดๆ เพราะมีช่วงรอยต่อระหว่างการหน่วงมอเตอร์ กับ เบรคจริง ระบบความปลอดภัย Camry ชนะ เพราะ 530i รถ5ปีแล้ว ไม่มีอะไรมาให้เลย
5. ความปลอดภัยขณะชน/หลังชน ถุงลมนิรภัย ความแข็งแรงของตัวถัง ---> ไม่เคยลองสักทีครับ

ถ้าเอาคุ้มค่าผมว่า Camry นี่รถดีเลย ที่สำคัญถูกว่าครึ่งนึง  แต่ถ้าเอามันส์ไป BMW ครับ

ออฟไลน์ aleebahbah

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 385
    • อีเมล์
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 14:16:44 »
เคยเปรียบเทียบเหมือน จขกท. ครับ แต่เป็น d-seg ญี่ปุ่น กับ ยุโรปตัวเริ่มต้น อย่าง 220i, 320d
ซึ่งพอมีโอกาสไปลองดู พวกพรีเมี่ยมยุโรปมันว้าวจริงๆนะครับ งานพรีเมี่ยมตามราคา แต่ d-seg ก็ไม่แย่ คือ เหมาะสมตามช่วงราคามันครับ
แต่สุดท้าย พอพิจารณาจาก lifestlye และงบประมาณของตัวเอง ตอนนี้อยากคบพวก PPV ไม่ก็ c-suv ญี่ปุ่น ดีๆซักคันครับ  ;D

ออฟไลน์ Altima

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,149
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 14:56:48 »
ในเรื่องเครื่องลองให้ไทยขาย Camry 3.5 V6 กับ Accord 2.0T แล้วค่อยเอามาเทียบดีกว่าครับ

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,975
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 15:02:47 »
บริษัท c class ให้ผู้บริหารนั่งผมก็งงทุกครั้งครับ

แต่พอไปไล่ดูรถตามตำแหน่ง  เค้าเปิดรถเรียงตามราคาครับ

รถผู้บริหาร
ระดับต้น   ppv
ระดับสูงขึ้นมาขั้นนึง  dseg
สูงขึ้นมาอีกขั้น  europe entry
สูงขึ้นมาอีกขั้น europe mid
ผู้บริการสูงสุด V class, caravelle​

ส่วน logistics ที่ท่านว่า
4-5 คนนััน  เค้าบอกว่า PPV ปลอดภัย​กว่าครับ 
จากคนใน 😆😆

THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ Benzione

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 15:36:12 »
ผมว่าสมัยนี้ Jap D-Seg ทำรถตอบโจทย์คนใช้รถได้ใกล้เคียง Europe Car ในหลายๆ ด้าน
สำหรับผม ถ้าใช้เหตุผล ยังไงๆ Jap D-Seg ก็เป็น Choice แรกๆ ครับ
แต่ถ้าใช้อารมณ์มาร่วมตัดสินใจด้วย Europe ก็ให้คนจ่ายมากกว่าในหลายๆ ด้านเช่นกัน
มันเปรียบเทียบกันยากนะครับ จริงๆ แล้ว

ส่วนพวกบริษัทฯ ที่ซื้อหรือเช่ารถมาให้ผู้บริหารใช้ ไม่ได้มีเรื่องราคาต่อหน่วยอย่างเดียวหรอกครับ
หลายครั้งมันมีเรื่องธุรกิจอื่นๆ มาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้บางครั้ง Europe คุ้มค่ากว่า Jap ในหลายด้าน


ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,340
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 16:38:11 »
ถ้ามองว่ารถดีไม่จำเป็นต้องซิ่ง Camry ก็น่าใช้ครับ

ก่อนไมเนอร์ ที่ล้อขอบ 17 คนอาจจะบ่นว่ามันไม่สวยนัก แต่เจอหลุม ฝาท่อ กทม รูดสบายมากๆ และเสียงยางเงียบกว่าล้อ 18 ด้วยเพราะยางหน้าแคบกว่า

ถ้ามองว่าเป็นรถสมรรถนะสูง ผมคงเฉยๆ ทำได้เสมอตัว ไม่ดีไม่แย่ แต่ถ้ามองว่าเป็นรถสบาย เอาจริงๆ ถ้าขับไม่เกิน 110 -120 Camry ก็นั่งไม่ต่างกับ 5 ครับ เผลอจะนุ่มกว่าด้วย

คิดอีกแบบว่า พื้นฐานแบบอัลพาร์ด (จริงๆก็พื้นฐานดีกว่า เจนใหม่กว่าทั้ง Alphard และ LM เบาะมีหมอนมิกกี้แบบอัลพาร์ด เอนได้บ้าง แต่เป็นทรงรถเก๋ง ในราคา 1.5-1.8 ล้าน มันจะดูคุ้มขึ้นมาเยอะเหมือนกันครับ

ถ้าพี่โตใส่ซับเสียงมาเยอะกว่านี้ มันจะ perfect แต่คิดว่าตั้งใจไม่ใส่มา เพราะถ้าดีกว่านี้อีกสัก 10-20 % มันจะนุ่มเงียบเท่า ES แล้ว (ซึ่ง ES มันนั่งแทบไม่ต่างจาก LS500h ในราคา 3 ล้านกลางๆ)

เหมือนถามว่า Alphard กับ 5 คันไหนคุ้มกว่ากัน  ผมคงต้องถามกลับว่า คนถามจะนั่งตรงเบาะคนขับหรือเบาะคนนั่งครับ

ออฟไลน์ PC CK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,001
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 17:56:47 »
เอาตรงๆผมชอบd segmentญี่ปุ่นมาก
ในช่วงความเร็วที่ใช้ปกติ อาการของรถแทบไม่ต่างกะบยุโรป ออปจะนุ่มหว่า แต่เมื่อไรที่ต้องใช้สมรรถภาพของรถเราภึงจะเห็นความแตกต่างครับ เรื่องโครงสร้าง ยุโรปดีกว่าแบบไม่มโนครับ
ส่วนรับบนpresafetyต่างๆ ถ้าของยุโรปมีมาให้ ดีกว่าฝั่งญี่ปุ่นครับ
ภายในผมว่าภายในd segญี่ปุ่นไม่ได้แย่ครับ นั่งแล้วผ่อนคล่ยทและนุ่มครับ นั่งออกแนวลอยๆกว่าฝั่งยุโรปครับ
สุดท้ายอยู่ที่งบครับ ถ้างบถึงก็ไปยุโรป
แต่ถ้าดูแล้วขับแล้วนั่งแล้วรู้สึกไม่จำเป็นก็จบที่d segพี่ยุ่นก็โอครับ ผมยังอยากได้มานั่งเล่นอีกคันเลย แต่เก็บไว้สมทบทุนคันอื่นอยู่
เลือกคันที่ชอบซื้อคันที่ใช่ความฝันของเราอยู่ไม่ไกล สร้างได้ด้วยเงินเราเองครับ 555

ออฟไลน์ Sgt_Meen

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 287
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 18:19:54 »
ไม่รู้ผมอคติรึป่าวนะ แต่มักเห็นข่าว
พวกค่ายยุโรป เวลาชน => รอด แล้วไม่บาดเจ็บหนัก (เช่น CLS + Fiesta ไฟไหม้ , CLS + Brio , C-coupe ลื่นโค้งน้ำ)
กลับกันค่าย JP มักไม่ค่อยรอด ไม่ว่าจะ C-D segment หรือ PPV
-Toyota Vios 1.5 1stGen
-Honda Accord 2.3 G6
-Honda Accord 2.4 G8
+Honda Accord 2.0 G8
-Mercedes-Benz E250CGI W212
+BMW 520d Sport G30
+Mercedes-Benz E300 Coupe C238

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,814
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 20:36:12 »
มาบ่อยจริงๆ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,176
  • slower is better
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 21:37:03 »
ยังไงสายตาในสังคมก็​ไม่ยอมรับเท่าครับ

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 914
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2022, 22:58:24 »
ทั้งหมดนี่อะยุโรป แต่คุณเทียบไม่ค่อยแฟร์ ส่วนมากเขาจะเทียบ D-Seg กับ Compact มากกว่า ทั้งเรื่องราคา ขนาด และกำลังเครื่อง

เอา Camry/Accord เทียบกับ 5 หรือ E งี้ ร้อยทั้งร้อยก็ตอบยุโรปดีกว่า แต่ถ้าพวก 3/C หรือต่ำกว่านั้นไปอีกนี่ค่อยน่าวิเคราะห์หน่อย

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 826
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2022, 12:15:57 »
วัสดุภายในให้ญี่ปุ่นเลยครับ

 ยุโรปสวยเเต่รูปจริงๆ  เรื่องซีดเรื่องลอก   เรื่องกรอบเเตกลาย เรื่ิองเหนียวเยิ้มนี้

 คันไหนไม่เป็นถือว่าเเต้มบุญสูงมาก

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,752
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2022, 12:27:09 »
1. วัสดุ ตกแต่งภายใน , งานประกอบ
- ผมว่าแล้วแต่รุ่นนะ ยุโรปตัวล่างบางทีเป็นพลาสติกแข๊งผมก็ไม่ค่อยชอบ แต่ถ้าได้ Trim Aluminum ก็ให้ฟิลต่างกันเยอะอยู่

2. ความนุ่มนวล การเก็บเสียง
- ความเร็วต่ำผมว่า ญึ่ปุ่นสบายกว่า ยุโรปดีกว่าถ้าวิ่งเร็วๆ

3. กำลังเครื่อง สมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน
- คิดว่ายุโรปนำ พวก Diesel 2.0cc ก็ประหยัดเว่อๆ  Phev ก็อัตราเร่งดีเว่อๆ  แต่ญี่ปุ่นแค้เป็นตัว Hybrid ประหยัดและแรงแบบเพียงพอ

4. ความปลอดภัยก่อนชน เบรค ช่วงล่าง เซนเซอร์การเตือนต่างๆ
- สมรรถณะคิดว่ายังไงยุโรปแน่นอน

5. ความปลอดภัยขณะชน/หลังชน ถุงลมนิรภัย ความแข็งแรงของตัวถัง
- อันนี้ไม่คิดว่ายุโรปนำ เดาล้วนๆ

ส่วนตัวยังคิดว่า ปรัชญาการออกแบบรถของญี่ปุ่นกับยุโรปต่างกัน
ญี่ปุ่นดีที่ความเร็วต่ำไปกลางๆ 120-140 แนวๆว่าเน้นใช้ในเมือง
ส่วนยุโรปคือทุกคันต้องไปอัดไป Autobahn ได้ 200 ต้องไหวแบบแช่ได้ไม่เครียด
ซึ่งก็ต้องแลกด้วยความสบายในช่วงความเร็วต่ำ

ออฟไลน์ godzodiac

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 61
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2022, 13:21:43 »
ไม่ติดเรื่องเงินไปยุโรปเถอะครับ ^^

ออฟไลน์ harvard

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
Re: Japan D segment vs Europe car
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2022, 09:09:55 »
จากประสบการณ์ สิ่งที่ camry Hybrid ให้คือขับแล้วสบายใจ ไม่จุกจิก ไม่ซับซ้อน ซ่อม
ง่าย ศูนย์บริการรับผิดชอบดี วิ่งเกินสองแสนโลไม่มีปัญหา
ข้อเสียคือ ขับไม่สนุก เซ็งๆ ไม่เร้าใจ