หรือฟอจูนเนอร์2.8 4x4อัตตราเร่งจะชนะปาเจโร่4x4 เพราะไมล์เพี้ยน

Pegasus7700

หากไมลเพี้ยน ผมเห็นด้วยกับคุณครับ

ส่วนเรื่อง  แนวทางการทดสอบ มันแล้วแต่สไตลของเวบครับ
HLM ไม่ใช่เป็นมาตราฐานโลก เวบที่คุณบอกมาก็ไม่ใช่

แต่เราเข้ามาดูเพื่อเป็นguidelineได้นะ

และใครจะบลัฟอะไรก็ช่างเขาครับ 0-100แรงกว่าไรงี้
ถนนจริงเจอโค้งแหกคว่ำตาย
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22



the kit

เช้าใจว่า จขกท. ต้องการสื่อ ว่าค่าที่ทดสอบมันมีความแตกต่างเท่านั้น ไม่น่าเกี่ยวเรื่อง เกทับกันนะ

ซึ่งมันก็ไม่แปลก เพราะ ในการทดลอง มันก็ยังต้องลองหลายๆ ครั้ง มาหาค่าเฉลี่ย

ที่ ตปท. แม้อุปกรณ์ในรุ่น จะต่างกันบ้าง แต่ภาพรวมมันก็ใกล้เคียงกันมาก จขกท. เลยนำมาเสนอ ว่ามันเป็นแบบนี้
ซึ่งก็เป็นการเปิดโลกทัศน์ ไปอีกแบบ

แต่โดยรวมเอาเป็นว่า PPV ไม่ว่าจะ Mu X, PJS, FTN, EVE, Colo เอามาวิ่งจริงก็ไม่ต่างกันมาก
แล้วแต่ใครชอบอะไรในรถคันนั้นๆ มากกว่า ให้ นน.ด้านไหนมากกว่า

ในหลายครั้ง การขับแข่งบนถนนแบบผิดกฎหมาย ที่ไม่ใช่แค่ทางตรง รถแรงน้อย นำหน้ารถแรงมากก็เยอะ
ไม่ใช่แค่ฝีมืออย่างเดียว มันอยู่ที่จังหวะด้วย

แต่สำคัญสุด มันอยู่ที่ใจ และลูกบ้ากล้าตายมากกว่า
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"



Pan Paitoonpong

ผมช่วยไขให้ทีละข้อนะ

1. เรื่องความต่างระหว่างเวลาของเมืองนอกกับของเรา
- ผมไม่รู้ว่าการทดสอบของเมืองนอกมีลักษณะเหมือนของเราหรือเปล่า น้ำหนักบรรทุกกี่กิโลกรัม เท่าเราหรือเปล่า
- ของเขาทดสอบกลางวันอุณหภูมิไม่ทราบ (อาจจะมีบอกในคลิปหรือเปล่าแต่ผมกดข้ามไปดูแค่ช่วง 0-100) ของเราทดสอบกลางคืน อุณหภูมิจะพยายามให้อยู่ระหว่าง 25-32 เราคุมธรรมชาติได้แค่นี้ครับ เอาให้หมดทุกคืนคงไม่ได้
- ที่สำคัญคือเราไม่รู้เลยครับว่าสภาพรถของเขากับรถของเรา คันไหนดีกว่ากัน ผมไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเซ็ตเครื่องนะครับ เอาแค่เรื่องสภาพรถ เราก็ไม่รู้ ถ้าเป็นรถเทสต์ ฝรั่งทดสอบกับคนไทยทดสอบ เวลาโหดก็โหดเหมือนกันและเสื่อมได้เร็วเหมือนกันนะครับ

- ข้อสังเกตที่หมูอาจจะพยายามบอกให้คุณดูใน Pajero Sport คือ ทำไมคนขับต้อง Spool รอบเรียกบูสท์ไว้ 2,000 รอบก่อนที่จะออกตัว..ถ้าไม่ทำล่ะ จะได้ตัวเลขช้าลง อาจจะเข้าไปแตะ 12 วิเพราะรอบูสท์นานหน่อย (แต่ไม่นานน่าเบื่อเพราะเกียร์สั้นๆมาช่วย) แล้วพอช้ากว่าตัวเลขจากเว็บผม แปลว่า Pajero Sport ก็ไมล์เพี้ยนหรือเปล่า?

- เรื่องไมล์ใครเพี้ยนกว่าใคร หมูเอาตัวเลขมาบอกให้เรียบร้อย คุณจะเห็นว่า GPS วิ่ง 100 นิ่งๆ Fortuner มากกว่า Pajero Sport แค่ 2 กิโลเมตร/ชั่วโมงบนมาตรวัด


ส่วนเรื่องความเพี้ยนของไมล์จะส่งผลแค่ไหน ไม่ยากครับ คุณลองเองก็ได้ หยิบนาฬิกาจับเวลาของคุณขึ้นมา


คุณลองจับเวลารถคันนี้ เอา 0-100 ก่อนสักสองสามรอบ แล้วอีกรอบค่อยจับ 0-98 แต่อย่าเอาเวลาที่ได้ไปเทียบกับในรีวิวนะ เพราะในคลิปนั่นนั่งหก แต่ให้คุณลองดูความต่างของเวลาระหว่าง 0-100 กับ 0-98 ว่ามันถึงวินึงมั้ย คุณลองเอาเวลาตรงนี้ไปหักลบกับ 11.54 วิของ Pajero Sport 4WD ดูก็ได้ครับ คุณก็จะรู้ว่าต่อให้เอาความเพี้ยน 2 กม./ชม.มาพูดกันก็ไม่ได้ทำให้ Pajero Sport ฉีก Fortuner ขาดกระจายได้หรอกครับ Pajero Sport ไมล์เพี้ยน 5 Fortuner เพี้ยน 7 สมมติว่าผมจับเวลา Fortuner โดยใช้ 0-102 แทน 0-100 ก็จะดูยุติธรรมขึ้น แต่ก็จะมีปัญหาอีกเหมือนกัน คนก็จะถามว่าแน่ใจหรือว่า 102 บนหน้าปัดจริง ไม่ใช่ 104 ตอนจับเวลาตอนขับแน่ใจนะว่าตาคนขับเล็งถูก

แต่ถามว่าการที่ Toyota ไมล์เพี้ยนมันไม่มีปัญหาใช่มั้ย..มันมีปัญหาที่ผมหาทางหาคำตอบได้ แต่ผมไม่ชอบ เพราะมันทำให้ผมต้องมาอธิบายยืดยาวทุกครั้งที่มีการเทียบอัตราเร่งโดยมีโจทก์เป็นรถ 2 คันที่ไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน ทั้งๆที่ถ้าใครช่างสังเกตหน่อย หยิบนาฬิกาขึ้นมาจับ 0-100, 0-98, 0-102 เทียบกันก็บอกได้แล้วว่า "สูสี" หรือ "ชนะขาด" ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการเซ็ตไมล์ให้เพี้ยนเยอะๆ แต่ถ้าประมาณ 4-5 ผมพอรับได้



2. ส่วนเรื่องการจับโดย V-box ผมก็เคยคิดครับ ราคาก็อยู่ในระดับที่พอซื้อได้ GPS ในพวก V-box นั่นมันคนละเกรดกับ App GPS Speed ในสมาร์ทโฟนนะครับ มีความแม่นยำกว่า แต่ถ้าซื้อมาใช้ ผมก็เก็บมาไว้เล่นคนเดียว ทดสอบเทียบกับเวลาของจิมมี่สักปีนึง ลงเป็น Data ประกอบไปกับการจับเวลาผ่านนาฬิกาแบบ Jimmy mode ทำไมต้องลงคู่ เพราะคนอ่านส่วนมากที่ไม่ได้เล่นรถจริงจังเขาไปลองแล้วก็ไม่เหมือนกับข้อมูลจาก V-box ก็จะมีคนถามว่าแล้วคนทั่วไปที่ไม่มี V-box เขาจะเห็นสิ่งต่างๆเหมือนกันหรือเปล่า ก็แล้วแต่ ของบางอย่างต่อให้ทำให้ถูก แต่ไม่ถูกใจ คนรับงานเข้าคือผมอีกเหมือนกัน

แต่ส่วนเสริมที่ผมชอบใน V-box คือเรื่องเบรก 100-0 เพราะอยากทำ อยากให้มี ผมจะลองนำเสนอจิมมี่ดูว่าเราสามารถหาถนนที่พื้นเรียบ เป็นสถานที่เดิมที่เดียวตลอดและปลอดฝุ่น และยังต้องใกล้พอให้สามารถนำรถไปทดสอบในช่วงที่ฝนไม่ตกได้ (เรียกได้ว่าต้องมีช่วงเวลาที่แห้งเป็นเวลาเดียวกันของวัน ตลอดทั้งปี เพราะถ้าคันนึงวัดกลางวัน คันนึงกลางคืน..ยางก็ร้อนไม่เท่ากันถูกมั้ย) ยกเว้นว่าเราไม่ซีเรียสกับผลทดสอบที่ condition ต่างกันนิดๆหน่อยๆ..แต่ผมเดาว่าคนที่ลงทุนใช้ของระดับ V-box พยายามจะเอาการทดสอบอย่างซีเรียสนะ ผมถึงต้องคิดว่า เราไม่ได้ต้องห่วงแค่เครื่องมือ แต่ต้องห่วงเรื่อง Condition ในการทดสอบด้วยเพราะต้องเป็นถนนที่มีช่วงเวลาแห้งๆทดสอบได้ทั้งปี

ขนาดเราทดสอบอัตราเร่ง หน้าร้อนหน้าหนาวยังมีประเด็น แล้วถ้าผมทดสอบเบรกหน้าร้อนหน้าหนาว ผมว่าคนที่เชียร์รถคันที่แพ้ก็มีประเด็น ผมถึงบอกว่าถ้าผมซื้อมาใช้จริง ผมก็เก็บไว้เล่นของผมคนเดียว อย่างมากก็โพสท์แชร์ให้เฉพาะคนที่รู้คุณค่าของ V-box และสามารถสื่อสาร Condition ต่างๆแล้วคิดแทนกันเองได้กับผมไว้คุยกัน ชวนพวกเราวิเคราะห์เทียบกัน แต่คงไม่เอาไปสู่ระดับสาธารณชนคนทั่วไป

3. เรื่องอัตราเร่งว่าทำไม Fortuner เร็วกว่า Revo ที่เครื่อง 2.8 เหมือนกัน

ผมเรียนตามตรงว่า ผมก็ตาโตครับ เห้ย มันเป็นไปได้ไงวะ เรื่องไมล์เพี้ยน มันก็เพี้ยนพอกันด้วยนาเอ้า

ไอ้หมูก็งงเหมือนกัน เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ว่าเราไม่คิดนะครับ ตั้งแต่จิมมี่บอกตัวเลขอัตราเร่งมา เรารู้ตั้งแต่ก่อนโพสท์แล้วครับว่าต้องมีคำถาม

บางทีก็คิดเหมือนกันว่าทำไมผมไม่จัดการแปลงตัวเลขให้มันเท่าๆกับ Revo ไปวะ งานน่าจะน้อย คำถามน่าจะน้อย ปัญหาเข้าตัวก็น้อยกว่า แต่มาคิดอีกที ผมว่าก็บอกไปตามตรง นาฬิกามันบอกยังไง เราก็บอกไปอย่างนั้นดีกว่า ส่วนถ้ามันมีอะไที่ผิดปกติ เราก็ค่อยมาหาทางคิดว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น

หมูหาข้อมูลมาให้ว่าน้ำหนักตัวของ Revo 2.8 กับ Fortuner นั้นไม่ได้ต่างกันมากอย่างที่เราคิด อย่างค่ายอื่น กระบะกับ PPV น้ำหนักจะต่างกัน 100-170 โลได้ แต่ Fortuner หนักกว่า Revo แค่ 55 กิโลกรัม!!

แต่นั้นก็ยังไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงเร็วกว่า แค่บอกว่า "ทำไมมันถึงไม่ช้ากว่า Revo อย่างที่เราคิด"
เรื่องแอโร่ไดนามิกส์....บางคนบอกว่าหน้า Fortuner แหลมลู่ลมกว่า...ผมไม่แน่ใจ เพราะไม่มีอุโมงค์ลมหลังบ้านแต่ส่วนตัวคิดว่าแอโร่น่าจะมีผลช่วงหลัง 80 ไปมากกว่า ช่วง 0-40 แรกไม่น่าจะมีผล (ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมเริ่มอยากได้เครื่องมือ Datalogger มาช่วย)

อย่างไรก็ตาม ผมสงสัยในเรื่องของ
1. สภาพเครื่องยนต์ กับเกียร์ อาจต่างกัน ไม่ใช่แค่เรื่องของความโทรม แต่เป็นเรื่องของการปรับเซ็ตต่างๆที่อาจมีการอัพเดทบางส่วน แต่ไม่ได้บอกไว้ในโบรชัวร์ เอกสารแจกสื่อมวลชน และไม่ได้ส่งผลความต่างแรงม้า/แรงบิดสูงสุด
2. อากาศ อาจจะมีส่วนน้อย แต่ถ้าส่วนน้อยนี้ไปรวมกับส่วนน้อยอันอื่น ก็อาจจะมีผล
3. การเซ็ตการตอบสนองของคันเร่ง

ซึ่งข้อ 1 กับ 3 หมูเสนอว่าจะลองส่งอีเมลไปถาม Toyota ว่าจะมีการเซ็ตคันเร่ง หรือปรับโปรมแกรมการจ่ายน้ำมันที่แตกต่างกันระหว่าง Revo กับ Fortuner หรือไม่ เมื่อทราบแล้วจะนำไปใส่ในรีวิว หรือถ้าได้ข้อมูลกลับมาทันวันอาทิตย์นี้ ก็จะพูดลงในคลิป และใส่ในรีวิวด้วย


- - - - -

ขออภัยที่ผมตอบยาวและห้วน แต่พยายามไม่ดูถูกใคร แค่นำเสนอว่า ผมมีความคิด และสมมติฐานแบบนี้และบอกข้อจำกัด กับสิ่งที่เราอยากทำมาให้ลองฟังกันดูครับ ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็มีเจตนาที่ดี และสื่อสารด้วยภาษาที่น่าฟัง ผมขอรับไว้เป็นการบ้านในส่วนที่ยังไม่สามารถตอบโจทย์คุณได้ แน่นอน ผมเคยใช้ชีวิตกับควอเตอร์ไมล์ทุกอาทิตย์ ผมเข้าใจความรู้สึกของความแม่นยำของเวลา 0.1-0.2 วิครับ แต่ในโลกแห่งความจริง การยืนดูสลิปแล้วคุยกับพวกเรากันเองที่คุยภาษาเดียวกัน กับการทำการสื่อสารกับคนแสนคนหมื่นคนนี่..เหนื่อยคนละเรื่องจนบางทีคิดว่าอยู่เฉยๆบ้างจะดีกว่า










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 23, 2016, 11:49:54 โดย Commander Cheng »
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8



fuhrer

ผมช่วยไขให้ทีละข้อนะ

1. เรื่องความต่างระหว่างเวลาของเมืองนอกกับของเรา
- ผมไม่รู้ว่าการทดสอบของเมืองนอกมีลักษณะเหมือนของเราหรือเปล่า น้ำหนักบรรทุกกี่กิโลกรัม เท่าเราหรือเปล่า
- ของเขาทดสอบกลางวันอุณหภูมิไม่ทราบ (อาจจะมีบอกในคลิปหรือเปล่าแต่ผมกดข้ามไปดูแค่ช่วง 0-100) ของเราทดสอบกลางคืน อุณหภูมิจะพยายามให้อยู่ระหว่าง 25-32 เราคุมธรรมชาติได้แค่นี้ครับ เอาให้หมดทุกคืนคงไม่ได้
- ที่สำคัญคือเราไม่รู้เลยครับว่าสภาพรถของเขากับรถของเรา คันไหนดีกว่ากัน ผมไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเซ็ตเครื่องนะครับ เอาแค่เรื่องสภาพรถ เราก็ไม่รู้ ถ้าเป็นรถเทสต์ ฝรั่งทดสอบกับคนไทยทดสอบ เวลาโหดก็โหดเหมือนกันและเสื่อมได้เร็วเหมือนกันนะครับ

- ข้อสังเกตที่หมูอาจจะพยายามบอกให้คุณดูใน Pajero Sport คือ ทำไมคนขับต้อง Spool รอบเรียกบูสท์ไว้ 2,000 รอบก่อนที่จะออกตัว..ถ้าไม่ทำล่ะ จะได้ตัวเลขช้าลง อาจจะเข้าไปแตะ 12 วิเพราะรอบูสท์นานหน่อย (แต่ไม่นานน่าเบื่อเพราะเกียร์สั้นๆมาช่วย) แล้วพอช้ากว่าตัวเลขจากเว็บผม แปลว่า Pajero Sport ก็ไมล์เพี้ยนหรือเปล่า?

- เรื่องไมล์ใครเพี้ยนกว่าใคร หมูเอาตัวเลขมาบอกให้เรียบร้อย คุณจะเห็นว่า GPS วิ่ง 100 นิ่งๆ Fortuner มากกว่า Pajero Sport แค่ 2 กิโลเมตร/ชั่วโมงบนมาตรวัด


ส่วนเรื่องความเพี้ยนของไมล์จะส่งผลแค่ไหน ไม่ยากครับ คุณลองเองก็ได้ หยิบนาฬิกาจับเวลาของคุณขึ้นมา


คุณลองจับเวลารถคันนี้ เอา 0-100 ก่อนสักสองสามรอบ แล้วอีกรอบค่อยจับ 0-98 แต่อย่าเอาเวลาที่ได้ไปเทียบกับในรีวิวนะ เพราะในคลิปนั่นนั่งหก แต่ให้คุณลองดูความต่างของเวลาระหว่าง 0-100 กับ 0-98 ว่ามันถึงวินึงมั้ย คุณลองเอาเวลาตรงนี้ไปหักลบกับ 11.54 วิของ Pajero Sport 4WD ดูก็ได้ครับ คุณก็จะรู้ว่าต่อให้เอาความเพี้ยน 2 กม./ชม.มาพูดกันก็ไม่ได้ทำให้ Pajero Sport ฉีก Fortuner ขาดกระจายได้หรอกครับ Pajero Sport ไมล์เพี้ยน 5 Fortuner เพี้ยน 7 สมมติว่าผมจับเวลา Fortuner โดยใช้ 0-102 แทน 0-100 ก็จะดูยุติธรรมขึ้น แต่ก็จะมีปัญหาอีกเหมือนกัน คนก็จะถามว่าแน่ใจหรือว่า 102 บนหน้าปัดจริง ไม่ใช่ 104 ตอนจับเวลาตอนขับแน่ใจนะว่าตาคนขับเล็งถูก

แต่ถามว่าการที่ Toyota ไมล์เพี้ยนมันไม่มีปัญหาใช่มั้ย..มันมีปัญหาที่ผมหาทางหาคำตอบได้ แต่ผมไม่ชอบ เพราะมันทำให้ผมต้องมาอธิบายยืดยาวทุกครั้งที่มีการเทียบอัตราเร่งโดยมีโจทก์เป็นรถ 2 คันที่ไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน ทั้งๆที่ถ้าใครช่างสังเกตหน่อย หยิบนาฬิกาขึ้นมาจับ 0-100, 0-98, 0-102 เทียบกันก็บอกได้แล้วว่า "สูสี" หรือ "ชนะขาด" ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการเซ็ตไมล์ให้เพี้ยนเยอะๆ แต่ถ้าประมาณ 4-5 ผมพอรับได้



2. ส่วนเรื่องการจับโดย V-box ผมก็เคยคิดครับ ราคาก็อยู่ในระดับที่พอซื้อได้ GPS ในพวก V-box นั่นมันคนละเกรดกับ App GPS Speed ในสมาร์ทโฟนนะครับ มีความแม่นยำกว่า แต่ถ้าซื้อมาใช้ ผมก็เก็บมาไว้เล่นคนเดียว ทดสอบเทียบกับเวลาของจิมมี่สักปีนึง ลงเป็น Data ประกอบไปกับการจับเวลาผ่านนาฬิกาแบบ Jimmy mode ทำไมต้องลงคู่ เพราะคนอ่านส่วนมากที่ไม่ได้เล่นรถจริงจังเขาไปลองแล้วก็ไม่เหมือนกับข้อมูลจาก V-box ก็จะมีคนถามว่าแล้วคนทั่วไปที่ไม่มี V-box เขาจะเห็นสิ่งต่างๆเหมือนกันหรือเปล่า ก็แล้วแต่ ของบางอย่างต่อให้ทำให้ถูก แต่ไม่ถูกใจ คนรับงานเข้าคือผมอีกเหมือนกัน

แต่ส่วนเสริมที่ผมชอบใน V-box คือเรื่องเบรก 100-0 เพราะอยากทำ อยากให้มี ผมจะลองนำเสนอจิมมี่ดูว่าเราสามารถหาถนนที่พื้นเรียบ เป็นสถานที่เดิมที่เดียวตลอดและปลอดฝุ่น และยังต้องใกล้พอให้สามารถนำรถไปทดสอบในช่วงที่ฝนไม่ตกได้ (เรียกได้ว่าต้องมีช่วงเวลาที่แห้งเป็นเวลาเดียวกันของวัน ตลอดทั้งปี เพราะถ้าคันนึงวัดกลางวัน คันนึงกลางคืน..ยางก็ร้อนไม่เท่ากันถูกมั้ย) ยกเว้นว่าเราไม่ซีเรียสกับผลทดสอบที่ condition ต่างกันนิดๆหน่อยๆ..แต่ผมเดาว่าคนที่ลงทุนใช้ของระดับ V-box พยายามจะเอาการทดสอบอย่างซีเรียสนะ ผมถึงต้องคิดว่า เราไม่ได้ต้องห่วงแค่เครื่องมือ แต่ต้องห่วงเรื่อง Condition ในการทดสอบด้วยเพราะต้องเป็นถนนที่มีช่วงเวลาแห้งๆทดสอบได้ทั้งปี

ขนาดเราทดสอบอัตราเร่ง หน้าร้อนหน้าหนาวยังมีประเด็น แล้วถ้าผมทดสอบเบรกหน้าร้อนหน้าหนาว ผมว่าคนที่เชียร์รถคันที่แพ้ก็มีประเด็น ผมถึงบอกว่าถ้าผมซื้อมาใช้จริง ผมก็เก็บไว้เล่นของผมคนเดียว อย่างมากก็โพสท์แชร์ให้เฉพาะคนที่รู้คุณค่าของ V-box และสามารถสื่อสาร Condition ต่างๆแล้วคิดแทนกันเองได้กับผมไว้คุยกัน ชวนพวกเราวิเคราะห์เทียบกัน แต่คงไม่เอาไปสู่ระดับสาธารณชนคนทั่วไป

3. เรื่องอัตราเร่งว่าทำไม Fortuner เร็วกว่า Revo ที่เครื่อง 2.8 เหมือนกัน

ผมเรียนตามตรงว่า ผมก็ตาโตครับ เห้ย มันเป็นไปได้ไงวะ เรื่องไมล์เพี้ยน มันก็เพี้ยนพอกันด้วยนาเอ้า

ไอ้หมูก็งงเหมือนกัน เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ว่าเราไม่คิดนะครับ ตั้งแต่จิมมี่บอกตัวเลขอัตราเร่งมา เรารู้ตั้งแต่ก่อนโพสท์แล้วครับว่าต้องมีคำถาม

บางทีก็คิดเหมือนกันว่าทำไมผมไม่จัดการแปลงตัวเลขให้มันเท่าๆกับ Revo ไปวะ งานน่าจะน้อย คำถามน่าจะน้อย ปัญหาเข้าตัวก็น้อยกว่า แต่มาคิดอีกที ผมว่าก็บอกไปตามตรง นาฬิกามันบอกยังไง เราก็บอกไปอย่างนั้นดีกว่า ส่วนถ้ามันมีอะไที่ผิดปกติ เราก็ค่อยมาหาทางคิดว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น

หมูหาข้อมูลมาให้ว่าน้ำหนักตัวของ Revo 2.8 กับ Fortuner นั้นไม่ได้ต่างกันมากอย่างที่เราคิด อย่างค่ายอื่น กระบะกับ PPV น้ำหนักจะต่างกัน 100-170 โลได้ แต่ Fortuner หนักกว่า Revo แค่ 55 กิโลกรัม!!

แต่นั้นก็ยังไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงเร็วกว่า แค่บอกว่า "ทำไมมันถึงไม่ช้ากว่า Revo อย่างที่เราคิด"
เรื่องแอโร่ไดนามิกส์....บางคนบอกว่าหน้า Fortuner แหลมลู่ลมกว่า...ผมไม่แน่ใจ เพราะไม่มีอุโมงค์ลมหลังบ้านแต่ส่วนตัวคิดว่าแอโร่น่าจะมีผลช่วงหลัง 80 ไปมากกว่า ช่วง 0-40 แรกไม่น่าจะมีผล (ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมเริ่มอยากได้เครื่องมือ Datalogger มาช่วย)

อย่างไรก็ตาม ผมสงสัยในเรื่องของ
1. สภาพเครื่องยนต์ กับเกียร์ อาจต่างกัน ไม่ใช่แค่เรื่องของความโทรม แต่เป็นเรื่องของการปรับเซ็ตต่างๆที่อาจมีการอัพเดทบางส่วน แต่ไม่ได้บอกไว้ในโบรชัวร์ เอกสารแจกสื่อมวลชน และไม่ได้ส่งผลความต่างแรงม้า/แรงบิดสูงสุด
2. อากาศ อาจจะมีส่วนน้อย แต่ถ้าส่วนน้อยนี้ไปรวมกับส่วนน้อยอันอื่น ก็อาจจะมีผล
3. การเซ็ตการตอบสนองของคันเร่ง

ซึ่งข้อ 1 กับ 3 หมูเสนอว่าจะลองส่งอีเมลไปถาม Toyota ว่าจะมีการเซ็ตคันเร่ง หรือปรับโปรมแกรมการจ่ายน้ำมันที่แตกต่างกันระหว่าง Revo กับ Fortuner หรือไม่ เมื่อทราบแล้วจะนำไปใส่ในรีวิว หรือถ้าได้ข้อมูลกลับมาทันวันอาทิตย์นี้ ก็จะพูดลงในคลิป และใส่ในรีวิวด้วย


- - - - -

ขออภัยที่ผมตอบยาวและห้วน แต่พยายามไม่ดูถูกใคร แค่นำเสนอว่า ผมมีความคิด และสมมติฐานแบบนี้และบอกข้อจำกัด กับสิ่งที่เราอยากทำมาให้ลองฟังกันดูครับ ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็มีเจตนาที่ดี และสื่อสารด้วยภาษาที่น่าฟัง ผมขอรับไว้เป็นการบ้านในส่วนที่ยังไม่สามารถตอบโจทย์คุณได้ แน่นอน ผมเคยใช้ชีวิตกับควอเตอร์ไมล์ทุกอาทิตย์ ผมเข้าใจความรู้สึกของความแม่นยำของเวลา 0.1-0.2 วิครับ แต่ในโลกแห่งความจริง การยืนดูสลิปแล้วคุยกับพวกเรากันเองที่คุยภาษาเดียวกัน กับการทำการสื่อสารกับคนแสนคนหมื่นคนนี่..เหนื่อยคนละเรื่องจนบางทีคิดว่าอยู่เฉยๆบ้างจะดีกว่า

ใช่คับประเด็นที่ผมเอามาลงเพื่อเอามาเป็นกรณีศึกษากันคับ  แค่เอาข้อมูลที่ได้มานำเสนอมาแลกเปลี่ยนกัน


ขอบคุณ คุณแพนที่มาอธิบายให้เข้าใจกันคับ ผมไม่มีข้อโต้แย้งตามที่คุณแพนบอกมาเลย
เพราะทางเว็บก็มีข้อจำกัดหลายอย่างในการทดสอบเหมือนกันผมเข้าใจในจุดนี้คับ
ส่วนตัวรู้สึกชื้นชมแนวทางของเว็บที่เอาข้อมูลจริงและปัญหาจริงมาบอกโดยไม่ปิดบังกันคับ


ส่วนเรื่องการพัฒนาอุปกรณ์การทดสอบหรือพัฒนาแนวทางการทดสอบก็ขอเป็นกำลังใจให้ในส่วนนี้คับ


ส่วนเรื่องไมล์เพี้ยนความคิดผมตอนนี้ ตอบไม่ได้แน่ชัดถ้าเอาเรื่องเวลา0-100ใครจะไปถึงก่อนกันแน่
ยกเว้นว่าจะได้มีรถสองคันแบบเดิมๆมาทดสอบด้วยกันเลยและวัดที่ควอเตอไมไปเลย อ้นนี้ไม่ได้หมายถึงให้เว็บทดสอบนะค้บมันคงมีข้อจำกัดอีก ตีเป็นสถานะตอนนี้ความรู้สึกที่ผมเข้าใจคือพอๆกันละกัน


ส่วนท่านที่บอกคุณจะมาอะไรกับตัวเลขมาก ผมบอกเลยว่าคนที่ชอบขับรถมันมีผลทางใจนะคับ บางท่านที่แค่ข้บไปเรื่อยๆคงไม่มีความรู้สึกนี้มันนานาจิตตัง เอาแค่คันนึงโดนอีกคันจี้ตูดอยู่พอกลับไปมองตัวเลขเออเว้ยรถเราแรงกว่า อยากหนีเราหนีได้เพราะรู้ว่ารถเราแรงกว่าเพราะตัวเลขมันบอกหรือเว้ยรถคันนี้ตัวเลขดีกว่ารถเรา หลบๆให้เค้าดีกว่าหน่ไปก็หนีไม่ออก  ไม่ใช่แค่เอาความรู้สึก มาวัดว่ารถข้าแพงกว่าแรงม้าเยอะกว่ารถข้า ต้องแรงกว่าแต่ตัวเองไม่เคยมาดูต้วเลขเลย ว่ามันมีปัจจัย เรื่องของน้ำหนักตัวรถ แรงบิดแรงม้า ใช้ได้จริงตอนไหนรอบเครื่องที่เท่าไร


เหมือนเรื่องวิทยุ บางคนฟังแล้วอืออันนี้เสียงดี อีกอันเสียงไม่ดี ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบฟ้งเพลงจะไม่สนใจเรื่องนี้เลยคือฟังๆไปเหอะ แต่บางคนที่ชอบฟ้งเพลงก็จะชอบรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องเสียงเป็นยังไงของรถแต่ละรุ่น ความสำคัญของรถแต่ละจุด แต่ละคนมันสำคัญไม่เท่ากันคับ

ถ้าท่านเห็นว่าไม่สำคัญแต่บางคนเค้ามองว่ามันสำคัญคับ
นี่คือเว็บรถยนต์คับ แนวทางจึงต้องอธิบายให้ครบทุกประเด็น

ยิ่งเรื่องความเร็วกับรถ มันคือของคู่กันอยู่แล้ว
หรือตอนเด็กที่คุณฝันอยากได้รถสปอต คุณแค่อยากขับเพราะมันสวยมันแพง หรือเพราะความเร็วด้วยคับ

ถ้าเป็นผมคงตอบว่าซื้อรถสปอตแต่แรงเท่ารถบ้านคงมีคนเดินถอยหลังให้รถคันนั้นไม่มากก็น้อย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 23, 2016, 13:35:17 โดย fuhrer »



eaton fuller

ลองสังเกตดูในคลิปนะครับ ที่กด 0-100 km/h

Pajero Sport เหมือนกับมีการเหยียบคันเร่ง พร้อมเหยียบเบรก
ขึ้นรอบรอไว้รึเปล่า เกือบ 2,000 รอบ ก่อนจะมีเสียงกระแทกคันเร่ง
แล้วรอบก็ค่อยพุ่งออกไป

ส่วน Fortuner เสียงกระแทกคันเร่ง เกิดขึ้นพร้อมกับรอบที่พุ่งออกไป
จากรอบเดินเบาปกติ

เร่งรอบไว้ก่อน ได้เปรียบเยอะนะครับ



Auto

เอาเข้าจริงผมว่าทั้งคู่ไม่ได้ต่างกันมากทั้งอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลือง   

 แต่ที่ต่างกันชัดเจนและต้องให้น้ำหนักในการเลือกรถ  คือ
 1. ศูนย์บริการ  Mitsu  ด้อยกว่า Toyota  อันนี้ต่างกันแน่
 2. ราคา Fortuner แพงกว่าหลายแสนบาท      เงินต่างกันเห็นชัดเจนมาก เก็บส่วนต่างทำไรได้เยอะแยะ

ขึ้นกับว่าให้น้ำหนักเรื่องใดก็คงข้อนั้นละ



pongsak_877

เครื่อง GD 2.8 ตัวนี้ผมว่าต้องอั้นอะไรไว้สักอย่าง ถ้าไม่ติดเรื่องมลพิษน่าจะแสดงพลังได้มากกว่านี้



tierak

จากข้อมูล ของ จขกท.สนใจเรื่องระยะเบรกมากกว่า เรื่องเรื่องความเร็วอีก

อยากให้ HLM ทดสอบเรื่องนี้เพิ่มคงจะดี