อยากเห็นคะแนนรวมสรุปเป็นตัวเลขบ้างอ่ะครับ พอจะเปิดเผยได้ป่าว
อยากทราบว่าคิดจากอะไรบ้าง
ในบทความก่อนหน้านี้หัวข้อ JIMMY'S Talk จะมีบทความที่กล่าวถึงเงื่อนไขการพิจารณาอยู่แล้วดังนี้ครับ
เกณฑ์การให้คะแนนจะถูกแบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆดังนี้
1. การออกแบบภายนอกของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นด้านความสวยงาม การใช้งาน ซึ่งเป็นหัวข้อในเชิงความชอบส่วนตัว
แต่มันก็เป็นความชอบส่วนตัวของกรรมการหลายคนซึ่งผมบอกได้เลยว่ามีความเห็นที่ไม่ตรงกันเยอะมาก
2. การออกแบบภายใน ซึ่งว่ากันในด้านความสวยงามและการใช้งาน เช่นเดียวกับภายนอก แต่มีโฟกัสที่การใช้งาน
เพิ่มมาค่อนข้างมาก เพราะบางอย่างเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่นการจัดวางตำแหน่งปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ
หรือแม้กระทั่งความยากง่ายในการอ่านค่าของหน้าปัด
3. ความสะดวกสบายในการโดยสาร ซึ่งหมายถึงการจัดพื้นที่ภายในรถ ความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงจากรถ
รวมไปถึงการออกแบบเบาะนั่งให้สามารถสร้างความพึงพอใจให้คนขับและผู้คนที่อยู่ในรถด้วยกัน
4. วัสดุและอุปกรณ์ติดรถที่มีให้ เมื่อนำไปเทียบกับรถที่เซกเมนต์เดียวกันหรือรถที่มีระดับราคาใกล้กัน
5. ความปลอดภัย เราไม่ได้นำรถไปชนก็จริง แต่จะวัดความปลอดภัยจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
ที่ตัวรถมีให้ รวมถึงลักษณะการออกแบบบางส่วนของรถที่จะเอื้ออำนวยต่อความปลอดภัยหรือสาปส่งให้
เกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นมา
6. อัตราเร่ง ซึ่งมีความหมายครอบคลุมถึงความเร็วในการออกตัว ความเร็วในการเร่งแซง การตอบสนองต่อการ
กดของคันเร่ง ซึ่งกรรมการแต่ละคนอาจให้น้ำหนักความสำคัญแต่ละจุดไม่เท่ากัน บางคนอาจเน้นการเร่งแซง
มากกว่าการกระทืบออกตัวจากจุดหยุดนิ่งซึ่งไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่
7. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เมื่อเทียบกับเซกเมนต์ของตัวรถ
8. ความนุ่มนวลของช่วงล่าง การซับแรงกระแทกจากสภาพถนนที่ไม่สมบูรณ์ มีกรวดทราย เป็นถนนมีรอยต่อ
หรือวิ่งผ่านเนินลูกระนาด
9. ความมั่นใจในการขับขี่ วัดจากความผ่อนคลายในการบังคับควบคุมในการวิ่งทางไกล ความมั่นใจในการ
เข้าโค้ง การกระแทกเบรคพร้อมหักหลบแบบฉุกเฉิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักพบได้ประจำสำหรับคนใช้รถบนถนน
และคนที่ขับรถเร็ว ทั้งนี้ขอแจ้งให้ทราบก่อนว่าเราไม่ได้พิจาณาจากความสามารถในการวิ่งรอบสนามแข่ง
หรือการวิ่งจิมคาน่าแบบนั้น เพราะเราไม่ได้ทดสอบรถทั้ง 72 คันในลักษณะดังกล่าว
หลายคนอาจมองว่าข้อ 8 กับ 9 ไม่น่ามาด้วยกันได้อยู่แล้ว แต่ไม่จำเป็นเลย เพราะอย่าลืมว่ารถบางคันก็มี
ความกระด้างที่ความเร็วต่ำๆในขณะที่ขับขี่ความเร็วสูงกลับไม่ดีอย่างที่คิด หรือรถบางคันมีช่วงล่างที่สามารถ
ปรับความแข็ง-อ่อนได้ ก็มีสิทธิ์ที่จะทำคะแนนทั้งสองหัวข้อได้ดีเช่นกัน
10. ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายลงไป เป็นการพิจารณาคุณสมบัติโดยรวมของตัวรถ เทียบกับ
ราคาที่ผู้ซื้อจะต้องจ่าย และค่าตัวของคู่แข่ง
นี่คือ 10 ข้อหลักที่จะถูกนำมาเป็นเกณฑ์ นอกจากนี้ยังจะมี Key Keeping Factor ซึ่งเป็นการวัดความพึงพอใจ
ที่กรรมการมีต่อรถรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ซึ่งนำเข้ามาเป็นส่วนในการพิจารณาด้วย
ที่แน่ๆ เราไม่คิดถึงเรื่องราคาขายต่อ ความทนทานในการใช้ระยะยาว ราคาอะไหล่
ศูนย์บริการ ไม่นำมารวม เพราะเราต้องการเน้นที่ตัวรถ กับสิ่งที่มันสามารถทำได้เป็นสำคัญ
สรุปคะแนนเป็นตัวเลข เปิดเผยได้ครับ แต่จะขอเผยเฉพาะ 31 คันแรกเท่านั้น
ไม่อยากเผย 31 คันหลัง เพราะคนที่ใช้รถ 31 คันหลัง โดยเฉพาะกับคนที่ใช้รถ
ที่ได้คะแนนท้ายๆ จะไม่ได้รู้สึกดีไปกับผมด้วย และจะกลายเป็นเรื่องไม่พอใจกันเสียเปล่าๆ
Volkswagen Golf Gti 94.500
BMW 730Ld 94.333
BMW 320d Minorchange 92.619
Lexus LS460L 92.500
Mercedes-Benz ML280CDI 91.583
Nissan Teana 250XV 90.429
BMW 530d 90.200
Volvo S80 2.5FT 89.833
Volkswagen Scirocco 2.0TFSI 89.429
BMW 523i 89.250
Volvo S60 2.0T 87.000
Nissan Teana 200XL 86.750
BMW X5 XDrive30d 86.417
BMW 325i Coupe 86.000
Mercedes-Benz C250CDI 85.000
Volvo XC60 D5 84.400
BMW Z4 SDrive23i 84.000
Mercedes-Benz E200CGI Elegance 83.600
BMW 320d Coupe 83.554
Land Rover Freelander TD4 HSE 82.167
Ford Focus 2.0 TDCI Sedan 81.667
Ford Fiesta 1.6A/T Hatchback 81.286
Toyota Camry Hybrid 81.143
Audi MTM S3 81.000
Mercedes-Benz C250CGI 80.250
BMW 325i Cabriolet 79.750
Mazda MX-5 RHT 79.600
Nissan Cube 1.5 A/T 79.600
Mazda 3 Sedan 2.0 A/T 79.500
Subaru Impreza 2.0 M/T 79.250
BMW 120d Coupe 78.917
ย่อมต้องมีคนดูผลแล้วแปลกใจ อย่าว่าแต่ท่านผู้อ่านจะแปลกใจ ทีมพวกเราทุกคนก็แปลกใจ
แสดงให้เห็นว่าความรู้สึกกับการวัดด้วยตัวเลขมันมีผลที่ต่างกันลิบลับมาก คนที่อ่านรีวิวละเอียด
น่าจะเป็นกลุ่มที่มีความประหลาดใจมากที่สุด เพราะจะรู้ว่าทีมงานแต่ละคนคิดกับรถแต่ละคันอย่างไร
ก่อนที่จะต้องมาทำคะแนน BestDrive
แล้วก็ อันนี้ขอระบายความในใจนิดนึง (ไม่เกี่ยวกับเพื่อนๆทุกคนในกระทู้นี้นะจ๊ะ แค่อยากจะแชร์กันหน่อย)
มีบางคนอีเมล์มาหาผมเป็นการส่วนตัวว่าทำไมรถญี่ปุ่นติดอันดับน้อย
(เขาแค่ถามนะครับ ไม่ได้ตำหนิ แต่รู้สึกเหมือนเขาจะน้อยใจ)
ผมได้ชี้แจงไปแล้วว่า
ต้องแยกแยะให้ชัดว่าอะไรทำให้รถญี่ปุ่นไม่ค่อยติดอันดับต้นๆ และมองไปที่เงื่อนไขซึ่งเราไม่รวม
ศูนย์บริการ อะไหล่ ความทนทาน ราคาขายต่อ ซึ่งการจะให้คะแนนในเรื่องพวกนี้ได้ด้วยตัว
ของเราเองนั้น แปลว่าเราต้องได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง มันยากมากครับ ไม่เหมือน
กับรถที่ได้มาทดสอบ จับต้องได้ ดูได้ จับเวลาได้ รู้ตัวเลขได้
หรือแม้กระทั่งการให้คะแนนในเรื่องความปลอดภัย เราไม่ได้นำผลทดสอบจากต่างประเทศมาอ้างอิง
และเราก็ไม่ได้ไปทดสอบจริง จึงได้เขียนอธิบายเงื่อนไขไปว่าเราดูจากอุปกรณ์ความปลอดภัย
และการออกแบบที่เอื้ออำนวยต่อการป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจเป็นหลัก นอกนั้น สัมผัสได้
รู้ได้ ใส่เต็มแม็กกันหมด
ผมทราบดีว่าใครเห็นอันดับรถตัวเองไม่ดีเท่าที่คาด ก็ย่อมไม่พอใจ แต่ก็เหมือนกับการมีแฟน
คุณไม่จำเป็นต้องฟัง Headlightmag มาบอกว่าแฟนเขาสวยกว่าแฟนคุณ แต่ในขณะเดียวกัน
ถ้าคุณไปบอกว่าแฟนคุณสวยกว่าของเขา มันก็จะเริ่มเป็นความเห็นที่มาจากคนที่วางพื้นฐาน
ในการวัดไม่เหมือนกัน คนที่ชอบสาวผิวสีน้ำผึ้ง ย่อมไม่มองว่าสาวผิวขาวเผือกสวย ฉันใดก็ฉันนั้น
แน่นอน แม้แต่ผมก็เข้าใจในข้อนี้ ต่อให้ผมมีรสนิยมชอบรถเทอร์โบ ขับสี่ เกียร์ธรรมดา
แต่ท้ายสุดก็แพ้ทางให้กับรถไปตั้งหลายคัน แต่ผมก็มั่นใจได้ว่ามันคือสิ่งที่ทีมงานเราทุกคน
ร่วมกันทำ ร่วมกันให้คะแนน และการทำโครงการนี้มา ยังช่วยให้ทีมงานเราทุกคนได้ค้นพบ
วิธีการคิดแบบใหม่ๆ และสร้างฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการทำรีวิวครั้งต่อไปด้วยครับ
ก็คงรบกวนแค่นี้ Feedback โดยรวมถือว่าเป็นสิ่งที่พวกเราพอใจครับ และคิดว่าในครั้งต่อๆไป
ถ้าเป็นไปได้ ก็จะทำให้ดูกันอีก แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำ 2 ปี 1 ครั้ง หรือทำเป็นประจำทุกปีดี