สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาว HLM วันนี้ก็อยากให้เพื่อนๆ ทำความรู้จักกับรถผมซักคันนึง
สำหรับคันนี้เป็นรถคันที่สองที่ผมซื้อมา
ก่อนได้คันนี้มาก็อยากบอกว่า คันแรกของผมเป็น Nissan Priema GXE ปี 97 ซื้อมือสองมาตอนปี 2000 แล้วขายไป ปี 04
ในการหารถคันใหม่ตอนนั้น ตัวเลือก และงบคือ ขายคันเก่าได้มา สามแสน เอามาเป็นเงินดาว์ เป็นรถคูเป้ราคาไม่แพง
ซึ่งตอนนั้น รถใหม่ไม่มีขาย จึงมองที่มือสอง ซึ่งมี สองคันคือ
BMW 318iS Coupe (E36) มือสองราคาแปดแสน รถปี 93-95
เครื่อง M40 1.8L 118hp 4 Auto (สเป็กไม่แน่ใจ)
Honda Civic Coupe (EK) มือสองราคาหกแสนห้า รถปี 99-01
เครื่องD16A 1.6L Vtec 120 hp 4 Auto
สรุป ผมตกลงเลือก Honda Civic Coupe เพราะ
-สามารถใช้อะไหล่ร่วมกับ 4D ได้ ทั้งครึ่งคันหน้า ส่วนด้านหลัง พึ่งศูนย์ฯได้ (อ่อประตู เป็นตัวเดียวกับ 3D. ที่ญี่ปุ่น)
-เครื่อง D16Y 1.6 VTEC แรงดี มีแววประหยัดกว่า เกียร์ออโตน่าจะขับสบายและซ่อมไม่แพง
-ได้รถใหม่ หน่อย (รถสามปี) เข้าศูนย์ฯฮอนด้าได้ มีให้วิ่งได้อีกเป็นแสนโล
-อีกอย่าง มันเป็นรถสเป็ก US ซึ่ง Honda กล้าที่จะเอามาขายคนไทย ในราคาไม่แพงมาก (มั่ง)
ได้มือสองจากเต็นรถแถววงแหวนบางแค มาราคา 650,000 บาท
จ่ายเงินดาว์ไป 300,000 บาท ที่เหลือผ่อนต่อ 3 ปี (36M) ตกไม่เท่าไหร่ ถึงแม้จะต้องเสีย VAT อีกหน่อยก็ตาม
แล้วมันก็มาอยู่ที่บ้าน สังเกตรหัสตัวถัง จาก CIVIC 4D EK4 บ้านเรา มันกลายเป็น CVC-85 ซ่ะงั้น งงไหมครับ
มาถึงบ้านก็ทำการจัดแจ้ง ล้างรถเครือบสีก่อนเลยเพื่อตรวจสอบสถาพรถ ซึ่งไม่ค่อยเดิมเท่าไหร่
คือเจ้าของเก่าเปลียนแม็ก จากเดิม 14นิ้ว เป็น 15 นิ้ว ยางเป็นเป็นมิชลิน Club Sport 195/50R15
แล้วก็โช้คกับสปริง มุดไปดูเป็นของแต่งจาก Honda Acc โดยตรง กระบอกโช้คสีแดง สปริงสีเหลือง (ราคาศูนย์ประมาณสามหมื่นกว่าบาท)
แล้วมีสปอยเลอร์หลังทรงเตี้ยสำหรับรุ่นนี้ของศูนย์มาอีกชิ้นนึง (ราคาศูนย์ประมาณแปดพันกว่าบาท ไม่รวมทำสี)
เปิดประตูที่ใหญ่มากๆ มาดูภายในคันนี้ครับ รุ่นนี้เป็นรุ่นTop (จำได้ว่ามีแค่รุ่นเดียว แพงกว่า 4D Top อีก) แต่ไม่ใช้ตัว RacingR น่ะครับ
คอลโซน ยกยากตัว 4 ประตูมาได้เลย ทั้งหมด ตั้งแต่หัวถึงคอลโซนนี้ครับ
แผงประตูด้านขวา ด้านบน ที่ล็อคประตู กับที่เปิดประตู หน้าตาดูดี พร้อมที่วางแขนกำลังพอเหมาะมีที่ใส่ของด้านล่างให้นิดหน่อย
ด้านนี้ผมทำตรงที่วางแขนหัก เพราะทิ้งน้ำหนักมาไปหน่อยแต่ก็พอซ่อมได้ครับ สำหรับประตูนี้ สามารถยกตัว EK9 (3D JP) มาเปลี่ยนใส่ได้
คอลโซนหน้า สีออกเทาๆ เหมือน 4D บ้านเรา ใครอยากเป็น Type R สามารถยก EK9 มาใส่ได้เลย (ถ้าให้ดีเอามาทั้งหัวพร้อม B16)
สำหรับคูเป้ มีเฉพาะเกียร์ ออโต้ 4 Speed เท่านั้น ถ้าใครได้ เกียร์มือ แปลว่าเจ้าของเก่าแปลงมาแล้ว
หน้าปัด ไปได้ถึง 240 km/hr ซึ่ง จริงๆแล้ว ลองมาได้แค่ 175 เท่านั้น ช้ากว่าตัว 4d ที่ไปถึง 180 ได้ไงไม่รู้
พวงมาลัย หน้าตาบ้าน มากก 4 ก้าน มีดีที่ หุ้มหนังสีเทาให้เข้ากับภายใน พร้อมที่กดแตร์แบบใกล้ชิด (กดสะดวกดีผมชอบ)
ส่วนการปรับนั้น ได้แค่สูงต่ำ แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ถือว่าปรับได้ต่ำเตี้ยเข้ากับเบาะมากกก
ด้านขวามีที่ปรับกระจกมองข้าง พับได้ หน้าตาทั่วๆไปครับ มีว่างอีก 2 ช่องให้หาอะไรมาใส่ เช่น สวิทย์ไฟตัดหมอก
เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับสูงต่ำ ก้มเงิยได้ ซึ่งตัวเบาะมันถือว่าเตึ้ยกว่า 4d พอควรครับ (แบบว่านอนขับ แต่พรีหลูด เตึ้ยกว่าน่ะ)
คอลโซลกลาง เป็นศูนย์รวมการควบคุมต่างๆ ภายในรถ เริ่มจากด้านบนคอลโซล มีช่องแอร์ สำหรับเป่ากระจกหน้าด้วย
ต่อลงมา เป็นช่องแอร์กลาง ด้านขวามีปุ่มไฟฉุกเฉิน ด้านซ้ายเป็นปุ่มไล้ฟ้า ครับ
แถวต่อมา ด้านซ้าย นาฟิกาแบบดิจิตอล ด้านขวาวิทยุAlpine เดิมจากโรงงานแต่ผมขออัปเกรตมันหน่อยเพราะของเดิมเล่นเทป
ถัดมา ที่ปรับความเย็นแบบง่ายๆ เข้าใจได้รวดเร็ว สะดวกดี (อ่อ แผงนี้ใครได้ของ JP มาจะอลังการกว่านี้เยอะครับ)
ต่อมา ที่เขี่ยบุหรี ซึ่งผมไม่สูบ และไม่ให้ใครสูบในรถผมด้วย มันจึงกลายเป็นที่เก็บเหลี่ยนแทน ข้างๆก็ที่จุดบุหรี
ส่วนด้านล่างลงมีที่เก็บของใหญ่ และวางแก้วน้ำแบบดีด (ซึ่งเจ็งง่ายมาก)
ด้านขวามีช่องแอร์ของคนขับ ที่ลมไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ (ส่วนสวิทย์เป็นของเครื่องเสียงครับ)
ด้านซ้าย คนนั้งข้างๆ มีแค่นี้ให้ดูเล่นครับ ที่เก็บของแบบพอเพียง กับที่วางของด้านบนคอลโซน (จบ)
บังแดดคู่หน้า แบบบ้านๆ พร้อมไฟส่องดู พอมีไฟอยู่บ้างแต่ไม่สว่างเท่าไหร่ อ่อ มีไฟตรงกลางเพดานอีกดวงด้วย
พื้นที่ภายในถือว่าเท่าๆ กับ 4d น่ะครับ ไม่แค่บ ดูจากที่ว่างเบาะหลัง แต่ๆ เบาะหลังบางกว่า 4d หน่อยนึง
คนนั้งหลังนี้ ไม่ควรสูงเกิน 170 เพราะหัวเกือบถึงเพดานพอดี รวมทั้งเสา C ที่ลาดเอียงลง แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่
เบาะหลังเป็นหนังสีเทา ไม่มีที่วางแขนตรงกลาง พับเบาะลงมา แบบ 60:40 ได้ มีที่บางของด้านข้างด้วย วางขวดน้ำได้
ทางเข้าแคบหน่อยเป็นปกติของรถคูเป้ แต่นั่งได้เหมือน 4D ครับ (บางคนนั่งแล้วยังไม่รู้ว่าเป็น Coupe
ที่เก็บของด้านหลัง ใหญ่เท่า 4d ครับ แต่มีที่โผ่มาตรงกลาง เป็นยางอะไหล่ครับ แบบ Full Size เลย
ใช้มาซักพักนึงก็จัดการเครมสีกับประกัน (ค่อยๆ เครม) เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนเดิมแต่คนละเบอร์ครับ
สี แดง Milano Red สีเดียวกับ พลีหลูด สีสดมาก เพิ่มเงินแค่ แปดพันบาท
จัดล้อใหม่ สีทองรมดำ 16"
ช่วงล่าง จากเดิมที่เป็น Acc Honda เปลียนเป็น KONI Sport กระบอกเหลือง ปรับหนืดได้
คู่กับสปริง Tanaba NF210 สีขาว
ต่อมาก็ท่อ จัดเอาทรงนี้ เงียบๆ (จริงๆ แล้วท่อเดิมผุครับ เลยเปลียนมันซ่ะเลย)
ต่อมาก็มีเหตุให้เปลี่ยนล้อใหม่ (ไปลงขอบทางมาแม็กแตก ไป 2 วง ดุงวงนิง)
เลยเปลี่ยนเป็น EVO สีขาว 16" แทน ของเดิมที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน (แตกง่ายมากก)
ส่วนตัว Coupe Racing ออกมาปี 2000 ซึ่งจะมีออกมาในตอนหลัง โดยจะของที่เพิ่มมาคือ
- มีลิ้นหน้าหลังอันเล็กๆเพิ่ม ทรงไม่เหมือนใครเพิ่ม (ไม่มีอะไหล่ให้ซื้อเพิ่ม)
- กระจังหน้าสปอร์ท เป็นตะแกรงสีดำ พ่นสีเดียวกับตัวรถ จากของเดิมเป็น ขอบโครเมียม (เบิกศูนย์ได้ ราคาประมาณสามพันบาท)
- ชายข้างทำสีเดียวกับตัวรถ เดิมเป็นพลาสติกสีดำ
- มีสปอยเลอร์หลังทรงสูงพร้อมไฟเบรค แต่ไม่สูงมากเหมือนของ DC2 Type R
- ภายในเป็นเบาะผ้าสีดำ ท้าวแขนก็เป็นผ้าสีดำลายสปอร์ท
ส่วนฟิมล์ก็จัดให้เหมือนตัวนอก ครึ่งหน้าเขียว 40 หลังดำ 05 เป็นLamina ครับ ครึ่งหน้าเขียวไปหน่อย
พร้อมกันจัดลิ้นหน้าทรง Mugen มาใส่ให้ครบ เป็นของก็อป (ต่อขูดและพังบ่อย)
ส่วนแม็กก็เปลี่ยนเป็น 16" x 6.5 off 40 กับยาง 205/45R16 แทน ได้ฟิวสปอร์ทขึ้นเยอะครับ
สำหรับเครื่องยนต์ D16Y8 SOHC 1,600cc. เหมือนเป็นเครื่องสหกรณ์ ของ HONDA เลยครับ
มีใส่ในหลายๆรุ่น แรงพอตัวพร้อมมีความประหยัดให้ จาก VTEC E ถึงแม้จะเป็นเกียร์ Auto 4 Speed ก็ขับสนุกได้
เครื่องตัวนี้ รุ่นแรก (95-98) ฝาจะเป็นสีดำ ส่วนผม เป็น MC (99-01) แล้วฝาเป็นสีเงิน อ่อ รุ่นนี้ มี ABS ด้วยน่ะครับ
การใช้งาน ผมใช้ขับไปทำงานชานเมือง ในเมือง แถวพระราม 9 สีลม ขับในเมืองไม่มีปัญหา
รถติดยังไง ก็ไม่เคยงอแงครับ ความร้อนนิ่งมาก (ส่งสัยเป็นเพราะ หม้อน้ำไม่มีคอย์ร้อนบังลม)
วิ่งในเมือง (0-80km/h)เคยจับน้ำมันได้ประมาณ 7-8 โล ลิตร ครับ
ส่วนวิ่งตจว. (100-130km/h)ไม่ค่อยประหยัดเท่าไหร่ ได้ 10 โล ลิตรครับ (หรือเพราะมันขับมัน)
ถังนึงขับได้ประมาณ 400 กม. (100-120km/h) ครับ (เติมกลับเกือบ 40 ลิตร)
ปี 06 รถคันนี้จำต้องขายเพราะ แม่บอกว่าสีมันแรงไป(สีแดง กับวับพฤหัส) ไม่ดี (มีอุบัติเหตุกับตัวผม)
จำต้องขายออก (แต่แม่เพิ่มเงินซื้อคันใหม่ให้) ไปด้วยความเสียดาย เพราะรถคูเป้สมัยนี้ไม่มีใหม่ๆ แล้ว
และราคารถใหม่ที่ขายก็ไม่ถึงล้าน จนเดียวนี้ผมยังอยากจะซื้อมันกลับมาขับเล่นใหม่อีกซักคันเลย
ผมขายคันนี้ไป สามแสนบาท (และเห็นเจ้าของใหม่ขับผ่านให้ผมเห็นที่เอมโพเลียม) ปัจจุบันรุ่นนี้ มันขายกัน สี่แสนอยู่เลย
หากผิดพลาดเรื่องใด ก็ขอโทษ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
หรือมีอะไรเพิ่มเติมก็จะเพิ่มให้ครับ
ขอบคุณครับ