ผู้เขียน หัวข้อ: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ  (อ่าน 50255 ครั้ง)

ออฟไลน์ boyster

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
ช่วยเปรียบเทียบระหว่างe46 ตัว 323i กับ e39 523i หน่อยครับ

1. ตัวไหนจะจุกจิกกว่ากันครับ เคยได้ยินว่า e39 จะจุกจิกน้อยกว่าหรอครับ
2. ค่าบำรุงรักษา 323i ต่อปีตกปีละประมาณเท่าไหร่ครับ ของตัว 523i ได้ยินมาว่าปีละห้าหมื่น ค่าบำรุงรักษาจะต่างกันมากมั้ยครับ

แล้วโดยสรุปแล้วตัวไหนน่าเล่นกว่ากันครับ ถ้าพูดถึงในแง่ของความจุกจิก ความทน และค่าบำรุงรักษาครับ

ออฟไลน์ Tongkutsu

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 44
  • Moving Forward
    • อีเมล์
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 00:57:50 »
ตามความเห็นของผมนะครับ..e39นั้นได้ชื่อว่าเป็นBMWที่สมกับคำว่าBMWจริงๆ
เพราะทั้งในด้านFeelingต่างๆนั้นถือได้ว่าดีมากนะครับแม้กระทั่งe60ยังไม่เทียบเท่านะครับ..เว้นแต่ว่าe60มันใหม่กว่าไฮเทคกว่าเท่านั้นเอง
ในด้านค่าบำรุงรักษาe46น้อยกว่าแน่นอนครับเพราะอุปกรณ์นั้นก็น้อยกว่ากัน...แต่ในด้านเครื่องยนต์นั้นใช่อะไหล่ตัวเดียวกันได้เพราะเป็นเครื่องM52
เหมือนๆกัน..เชียร์e39ขาดใจครับงานนี้

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 06:57:57 »
น่าเล่น ในแง่ไหนล่ะครับ


ในแง่ของความทน ค่าซ่อมบำรุงที่ถูกกว่า
อะไหล่หาง่ายกว่า ความชำนาญของช่างทั่วๆไป
ยังไงๆก็ต้อง E46

แต่ถ้าในแง่ของการขับขี่
E39 ดีกว่า

ออฟไลน์ NineKlao

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,907
  • ชีวิตไม่ได้เป็นดังที่คิด ก็มันคือชีวิตนี่
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 07:37:00 »
มือสองรถที่ได้มาไม่แน่นอน
คงจุกจิกทั้งสองคัน
แต่ผมชอบ E39 523i

ออฟไลน์ panerai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,351
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 08:02:24 »
 ที่บ้านมี E46 325i ครับ เท่าที่ใช้มาจะ6ปีแล้ว เครื่องยนต์กับระบบไฟไม่เคยรวนน่ะครับ แต่จะมีปัญหาบ้างเรื่องช่วงล่างที่อะไหล่บางตัว พวกบูชปีกนกที่เสื่อมไวไปหน่อยครับ กับระบบแอร์เห็น4-5ปีก็เจ้งกันเกือบทุกคันแต่ซ่อมที่เดียวก็จบครับ
  ตอบ
 1  ตัวไหนจะจุกจิกกว่ากันครับ เคยได้ยินว่า e39 จะจุกจิกน้อยกว่าหรอครับ
    - ถ้าเป็นพวกอะไหล่ช่วงล่างผมว่า E39ทนกว่าครับ แต่E39 ระบบเซ็นเซอร์มียิบย่อยมากกว่าตัว on board computer จะค่อนข้างฟ้องนู้นนี่นั้นบ่อยๆให้ผู้ใช้ตกใจบ่อยๆ
      ส่วน 3 series (318i)เครื่องแบบ 4สูบไม่ทราบน่ะครับ แต่ได้ยินมาบ่อยๆว่าเครื่องตัวนี้มักมีปัญหาน้ำมันเครื่องหายครับ
 2. ค่าบำรุงรักษา 323i ต่อปีตกปีละประมาณเท่าไหร่ครับ ของตัว 523i ได้ยินมาว่าปีละห้าหมื่น ค่าบำรุงรักษาจะต่างกันมากมั้ยครับ
     -ของผมตกปีละหมื่นต้นๆครับ เดาว่า 323i คงไม่ต่างกันครับ กรณีไม่มีซ่อมใหญ่อะไรน่ะครับ ส่วน5 series ไม่แน่ใจแต่อาจแพงกว่าหน่อยมั้งครับ
รู้สึกว่า e39 เค้ามีเว็บของเค้าเองเลยครับลองหาในกูเกิลดูครับ ผมเคยเข้าไปอ่านเขาตอบค่อนข้างดีครับ
  
   ส่วนตัวไหนจุกจิก ผมว่าถ้าเจออู่หรือช่างที่ซ่อมจบๆ ความจุกจิกคงไม่มากทั้งคู่ครับ อยู่ที่เราจะย่อมรับปัญหาเฉพาะรุ่นของรถคันนั้นๆได้รึเปล่าครับ
   เรื่องสมรรถนะการใช้งาน E46 รถเล็กเครื่องใหญ่ยังไงก็ปรูดปร้าดกว่าครับ แต่แคบ ส่วนE39 523i เท่าทีเคยขับมันอืดที่ความเร็วต่ำๆน่ะครับไม่ค่อยทันใจ แต่การเก็บเสียงค่อนข้างดี กับบุคลิกของตัวรถจะเฟริมๆดีครับ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2011, 08:05:29 โดย panerai »

ออฟไลน์ Mr.Joe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 441
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 11:35:47 »
ถ้าหาสภาพได้ดีพอกัน
คิดจะเก็บยาว
ไป E39 ครับ
ไม่ได้มีอะไรดีกว่า E46 มากมาย
แต่ประเด็นคือซีรี่ 5 หลังจากนั้นมันหมดความขลัง เน้นความเป็นยัปปี้มากกว่าความเป็น Driver's car
เปรียบเหมือนเบ๊นซ์ E-class พอจบ W124, 210 ก็หมดความเจ๋งเรื่องสมรรถนะสูงบนความถึกทน
ตอนนี้เบ๊นซ์กลายเป็นยัปปี้ติดหรูที่อ่อนแอ

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,661
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 12:50:53 »
ขอตอบในฐานะที่ใช้มาแล้วทั้ง2คัน

E39 ป่วนกว่าเช่นพวกระบบไฟ กับเสียง*หอน ทั้งหลายเพราะระบบมันเยอะกว่าE46เยอะมาก เครื่องอึดทน เกียร์อึดทนมากๆ ทั้งคู่ ราคาอะไหล่พอกัน

E46 ช่วงล่างพังไวกว่า แต่ค่าซ่อมถูกกว่า จุดซ่อมน้อยกว่า  ของเล่นในรถน้อยกว่า จุดซ่อมน้อยกว่า ขับไม่ดีเท่า E39 แน่นอน ล้าน% !!!

E39 มันได้ชื่อว่า The Best BMW They've ever made. อยู่คับ ภายในสวยมากผมชอบแล้วก็ ภายนอกมันสวยได้อีกนาน ยิ่งตัง Sport Package จากโรงงานน่ะสวยมากๆ

ผมใช้ 523i Sport ปี03 สี Kalahari Beigh อยู่แล้วเปลี่ยนมาใช้ E46 330i อยู่ตอนนี้ โดยรวม Happy คับยกเว้นเรื่องโคตรแคบอย่างเดรยวที่อึดอัด แต่พอวิ่งเกิน 150 ปุ๊ป จะคิดถึงE39อย่างสุดใจเลยครับ รถบ้าอะไรไม่รู้ วิ่ง220บนบูรพาวิถี ลมแรงแค่ไหนไม่รู้สึกอะไรเลยแถมเงียบเอามากๆ (ช่วงล่างหน้า-หลัง โช๊ค) ต้องสมบูน100% นะคับ ส่วนใหญ่อายุป่านนี้ สึกหรอไปเยอะแล้วคับ

----

พวกลงท้ายด้วย x23i ปี 01-04 มันเครื่อง M52tu 184แรงม้า 2396cc ในE39ผมว่าอืด และเสียงดังไปนิด(แต่ก็เงียบและเสียงหวานหูมากๆแล้ว) ถ้าเทียบกับM54 ใน330i อันนี้เงียบสุดๆ

BMW อย่าไปมองพวก4สูบ ไปถามช่างเก่งๆได้เลยคับ มันป่วนและอืด.....มาก

แต่e39 ในตลาดที่ขายอยู่ หาสภาพดีๆซักคันยังไม่มี เพราะผมกำลังจะกลับไปใช้อีก ชอบจริงๆคับรุ่นนี้ ตังมีซ่อมมันถึง คุณจะรักมันเลยล่ะคับ

เพิ่มเติมที่ www.e39thailand.com/ เว็บนี้อบอุ่นมากคับ  ;)

ปล.คันในรูปผมขายไปแล้วนะคับบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2011, 12:54:35 โดย teerapote »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 13:03:39 »
E39 ลุงผมใช้ ไม่ผิดหวังครับ

ออฟไลน์ boyster

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 18:23:34 »
ขอตอบในฐานะที่ใช้มาแล้วทั้ง2คัน

E39 ป่วนกว่าเช่นพวกระบบไฟ กับเสียง*หอน ทั้งหลายเพราะระบบมันเยอะกว่าE46เยอะมาก เครื่องอึดทน เกียร์อึดทนมากๆ ทั้งคู่ ราคาอะไหล่พอกัน

E46 ช่วงล่างพังไวกว่า แต่ค่าซ่อมถูกกว่า จุดซ่อมน้อยกว่า  ของเล่นในรถน้อยกว่า จุดซ่อมน้อยกว่า ขับไม่ดีเท่า E39 แน่นอน ล้าน% !!!

E39 มันได้ชื่อว่า The Best BMW They've ever made. อยู่คับ ภายในสวยมากผมชอบแล้วก็ ภายนอกมันสวยได้อีกนาน ยิ่งตัง Sport Package จากโรงงานน่ะสวยมากๆ

ผมใช้ 523i Sport ปี03 สี Kalahari Beigh อยู่แล้วเปลี่ยนมาใช้ E46 330i อยู่ตอนนี้ โดยรวม Happy คับยกเว้นเรื่องโคตรแคบอย่างเดรยวที่อึดอัด แต่พอวิ่งเกิน 150 ปุ๊ป จะคิดถึงE39อย่างสุดใจเลยครับ รถบ้าอะไรไม่รู้ วิ่ง220บนบูรพาวิถี ลมแรงแค่ไหนไม่รู้สึกอะไรเลยแถมเงียบเอามากๆ (ช่วงล่างหน้า-หลัง โช๊ค) ต้องสมบูน100% นะคับ ส่วนใหญ่อายุป่านนี้ สึกหรอไปเยอะแล้วคับ

----

พวกลงท้ายด้วย x23i ปี 01-04 มันเครื่อง M52tu 184แรงม้า 2396cc ในE39ผมว่าอืด และเสียงดังไปนิด(แต่ก็เงียบและเสียงหวานหูมากๆแล้ว) ถ้าเทียบกับM54 ใน330i อันนี้เงียบสุดๆ

BMW อย่าไปมองพวก4สูบ ไปถามช่างเก่งๆได้เลยคับ มันป่วนและอืด.....มาก

แต่e39 ในตลาดที่ขายอยู่ หาสภาพดีๆซักคันยังไม่มี เพราะผมกำลังจะกลับไปใช้อีก ชอบจริงๆคับรุ่นนี้ ตังมีซ่อมมันถึง คุณจะรักมันเลยล่ะคับ

เพิ่มเติมที่ www.e39thailand.com/ เว็บนี้อบอุ่นมากคับ  ;)

ปล.คันในรูปผมขายไปแล้วนะคับบ


ใจจริงก็ชอบe39มากกว่าครับ แต่ว่ากลัวค่าบำรุงรักษาจะหนักกว่าเยอะ   ไม่ทราบว่าตัวe39และe46ค่าซ่อมต่อปีตกปีละประมาณเท่าไหร่หรอครับ  จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นครับ

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,661
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 18:31:02 »
39 อยู่กับผม1ปี 1.7แสน ยังไม่รวมยางครับ

แต่ซ่อมชนิดเปลี่ยนใหม่ทุกชิ้น เพราะรถมีอาการติดมาคับช่างคลำหาไม่เจอ สุดท้ายเป็นที่แอร์ Flap มันปิดไม่สุดเลยมีเสียงลมกรีดเข้ามา

ส่วน E46 ผมโดนไปประมาณ2หมื่นนิดๆ เพื่อบูรณะสภาพธรรมดาไม่ได้คลำหาปัญหาแบบ E39
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ boyster

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 19:03:52 »
39 อยู่กับผม1ปี 1.7แสน ยังไม่รวมยางครับ

แต่ซ่อมชนิดเปลี่ยนใหม่ทุกชิ้น เพราะรถมีอาการติดมาคับช่างคลำหาไม่เจอ สุดท้ายเป็นที่แอร์ Flap มันปิดไม่สุดเลยมีเสียงลมกรีดเข้ามา

ส่วน E46 ผมโดนไปประมาณ2หมื่นนิดๆ เพื่อบูรณะสภาพธรรมดาไม่ได้คลำหาปัญหาแบบ E39

ถ้าซ่อมได้ถูกจุดโดไม่ต้องคลำหาแบบนี้จะมากกว่า e46 เยอะมั้ยครับ ผมเห็นตัวเลขแบบนี้แล้วใจแป้วเลยครับกับ e39

ออฟไลน์ The Relentless Pursuit of Perfection

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 159
    • อีเมล์
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 20:23:48 »
39 อยู่กับผม1ปี 1.7แสน ยังไม่รวมยางครับ

แต่ซ่อมชนิดเปลี่ยนใหม่ทุกชิ้น เพราะรถมีอาการติดมาคับช่างคลำหาไม่เจอ สุดท้ายเป็นที่แอร์ Flap มันปิดไม่สุดเลยมีเสียงลมกรีดเข้ามา

ส่วน E46 ผมโดนไปประมาณ2หมื่นนิดๆ เพื่อบูรณะสภาพธรรมดาไม่ได้คลำหาปัญหาแบบ E39

ซื้อมือสองมาหรอครับ ทำไมทะเบียน หมวดเพิ่งจดเอง

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,661
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 22:02:46 »
39 อยู่กับผม1ปี 1.7แสน ยังไม่รวมยางครับ

แต่ซ่อมชนิดเปลี่ยนใหม่ทุกชิ้น เพราะรถมีอาการติดมาคับช่างคลำหาไม่เจอ สุดท้ายเป็นที่แอร์ Flap มันปิดไม่สุดเลยมีเสียงลมกรีดเข้ามา

ส่วน E46 ผมโดนไปประมาณ2หมื่นนิดๆ เพื่อบูรณะสภาพธรรมดาไม่ได้คลำหาปัญหาแบบ E39

ถ้าซ่อมได้ถูกจุดโดไม่ต้องคลำหาแบบนี้จะมากกว่า e46 เยอะมั้ยครับ ผมเห็นตัวเลขแบบนี้แล้วใจแป้วเลยครับกับ e39

ไม่มากครับ อย่างที่บอก จุดเสียE39มันเยอะกว่าโดยเฉพาะพวกพลาสติกในรถทั้งหลาย ม่านประตูหลัง พังที หมื่นกว่าบาท สวิตแอร์ แค่พลาสติกนะคับ เกือบสามพัน กาบเบาะข้างละ 1000 หักบ่อยมากกกกก

คอยล์ร้อนด้านในรถแอร์ เกือบ2หมื่น

แอร์ทั้ง2รุ่นมันมีคอยลร้อน-เย็น มีลิ้นปรับอากาศไปผสมกันเพื่อนคุมอุณหภูมิ คอยร้อนเอาน้ำร้อนมาทำให้ร้อน แค่วาวล์วน้ำร้อน ก็ 6000กว่า แต่ใช้รุ่นนี้อย่าอุดฮีตเตอร์นะคับ เพราะมันหนาวแบบตกนรกเลยครับ หนาวมากกก ถ้าจะให้ลมตามเลขอุนหภูมิที่ตั้งใว้ต้องปรับให้อากาศผสมกันเท่าๆกัน แต่อยากให้เย็นสุดขั้วก็ปิดวาลวสน้ำร้อนไปซะ หนาวแน่ๆ
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,661
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 22:03:42 »
39 อยู่กับผม1ปี 1.7แสน ยังไม่รวมยางครับ

แต่ซ่อมชนิดเปลี่ยนใหม่ทุกชิ้น เพราะรถมีอาการติดมาคับช่างคลำหาไม่เจอ สุดท้ายเป็นที่แอร์ Flap มันปิดไม่สุดเลยมีเสียงลมกรีดเข้ามา

ส่วน E46 ผมโดนไปประมาณ2หมื่นนิดๆ เพื่อบูรณะสภาพธรรมดาไม่ได้คลำหาปัญหาแบบ E39

ซื้อมือสองมาหรอครับ ทำไมทะเบียน หมวดเพิ่งจดเอง

ทะเบียนเดิมมัน 6511 มันรวมได้13 ผมเลยเปลี่ยนคับ ของเดิมหมวด วพ คับ

E46 ผมเพิ่งเปลี่ยนเหมือนกันคับ ญญ-302 คับ ป้ายเดิมเลขสวยมากเจ้าของเก่าขอคืนคับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2011, 22:05:15 โดย teerapote »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ boyster

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 22:24:17 »
39 อยู่กับผม1ปี 1.7แสน ยังไม่รวมยางครับ

แต่ซ่อมชนิดเปลี่ยนใหม่ทุกชิ้น เพราะรถมีอาการติดมาคับช่างคลำหาไม่เจอ สุดท้ายเป็นที่แอร์ Flap มันปิดไม่สุดเลยมีเสียงลมกรีดเข้ามา

ส่วน E46 ผมโดนไปประมาณ2หมื่นนิดๆ เพื่อบูรณะสภาพธรรมดาไม่ได้คลำหาปัญหาแบบ E39

ถ้าซ่อมได้ถูกจุดโดไม่ต้องคลำหาแบบนี้จะมากกว่า e46 เยอะมั้ยครับ ผมเห็นตัวเลขแบบนี้แล้วใจแป้วเลยครับกับ e39

ไม่มากครับ อย่างที่บอก จุดเสียE39มันเยอะกว่าโดยเฉพาะพวกพลาสติกในรถทั้งหลาย ม่านประตูหลัง พังที หมื่นกว่าบาท สวิตแอร์ แค่พลาสติกนะคับ เกือบสามพัน กาบเบาะข้างละ 1000 หักบ่อยมากกกกก

คอยล์ร้อนด้านในรถแอร์ เกือบ2หมื่น

แอร์ทั้ง2รุ่นมันมีคอยลร้อน-เย็น มีลิ้นปรับอากาศไปผสมกันเพื่อนคุมอุณหภูมิ คอยร้อนเอาน้ำร้อนมาทำให้ร้อน แค่วาวล์วน้ำร้อน ก็ 6000กว่า แต่ใช้รุ่นนี้อย่าอุดฮีตเตอร์นะคับ เพราะมันหนาวแบบตกนรกเลยครับ หนาวมากกก ถ้าจะให้ลมตามเลขอุนหภูมิที่ตั้งใว้ต้องปรับให้อากาศผสมกันเท่าๆกัน แต่อยากให้เย็นสุดขั้วก็ปิดวาลวสน้ำร้อนไปซะ หนาวแน่ๆ

สรุปว่าe39น่าเล่นกว่าใช่มั้ยครับ ถ้าไม่ได้นับพวกการซ่อมเล็กๆน้อยๆในตัวรถ แบบแค่จะดูในเรื่องเครื่องหรือส่วนอื่นๆที่มีผลต่อการขับขี่ครับ

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,661
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2011, 01:08:21 »
ขับขี่ ยังไง39กินขาดคับ

2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ boyster

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2011, 01:14:22 »
ขับขี่ ยังไง39กินขาดคับ



อ้อครับ พิมตกไป ผมหมายถึงค่าซ่อมบำรุงในด้านหลักๆที่ไม่รวมเรื่องเล็กๆน้อยๆภายใจห้องโดยสารนี่น่าจะพอๆกันกับe46ป่ะครับ

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,661
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2011, 10:24:03 »
ไม่พอกันคับ

ช่วงล่าง 39 ปีกนก2ชั้น 46 อันเดียว อันละ3000กว่าๆ 39   มัน2ชั้น  อันละ4500 กว่าๆ 4500*4 เอาละกันคับ

แต่39มันน่าเบื่อตรงภายในนี่แหละคับ ออกแบบไม่ได้ดีเท่า46 พวกจุดยึดต่างๆ พุคมันชอบหักแล้วยึดไม่อยู่หากรื้อบ่อยๆ เสียแน่ครับ พวกแผ่นลายไม้เนี่ย และหายากซะเป็นที่สุด เพราะภายในคนละสี ลายไม้คนละลาย

ไหนจะช่วงล่างหลังอีก 39 ซับซ้อนกว่าเยอะคับ

ของเหลวๆทั้งหลายพอกัน
น้ำมันเกียร์ลิตรละ 700-900แล้วแต่อู่ ถ้า 530 หรือ 330 ลิตรละ 1200+
น้ำมันเครื่อง7ลิตร
เฟืองท้าย1.5ลิตรๆละ 1500 

ปั้ม หรือ สมอง DSC (ASC+T) 2-4หมื่น เผื่อแจ็คพอท ส่วนมากไม่ค่อยเสียจะไปรวนพวก Sensor ที่ล้อต่างๆ E39 Sensor มันเยอะมากคับใช้เองถึงรู้ รถมันฉลาดที่สุดในยุคนั้นแล้วมั๊งผมว่า

แค่ถ่ายของเหลวที่ถ้าเทียบกับรถยี่ปุ่นก็หน้ามืดล่ะคับ จิปาถะเยอะแยะ ปีนึง เตรียมใว้เผื่อๆ 5-8 หมื่นล่ะคับถ้าใช้เกินปีละ20000กิโล ถ้าน้อยกว่านั้น ก็ลดพวกอะไหล่ช่วงล่างลงไป แต่รถพวกนี้ใช่ยกทิ้งหมดแล้วอยู่ได้นานนะคับ ไม่เกิน 50000 กิโล มันก็ส่งเสียงเรียกเข้าอู่ล่ะ มันมีให้ซ่อมได้ตลอดๆขึ้นอยู่กับความเนี๊ยบของเจ้าของรถ นั่นแหละคับ ถ้าสักแต่ว่าขับ ผมว่ามันทนกว่ารถยี่ปุ่นอีกนะ


จำนวนที่บอกคือ"เผื่อ"นะคับ คันผมที่โดนเยอะคือไล่หาอาการเสีย พอเจอเข้าจริงๆมันไม่กี่ตัง แต่ของอื่นๆที่เปลี่ยนไปแทบจะทั้งคันมันเลยเยอะ ไม่ต้องกลัวคับถ้ามันไม่ดีในตลาดมือ2มันไม่ขึ้นชื่อขนาดนี้หรอกคับ ส่วนตำพูดที่บอกใช้ BMW ต้องขายบ้านซ่อมรถนั่นพวกท่องจำมาและเพ้อเจ้อ อย่าไปสนใจ

ใจรักลุยเลยคับ มีเพื่อนสมาชิกทั้งเว็บนี้และ e39thailand เยอะแยะคับ เดี๋ยวมาเสียใจภายหลัง

ปล..แต่ก่อนจะจับคันไหนมาใช้ เอารถเข้าอู่ที่รู้จักไปจับ GT-1 ดูซักรอบจะได้รู้ว่าต้องเสียตังอะไรมั่ง และเอาคนที่ดูรถ(รุ่นนี้)เป็นและจำพวกออพชั่นต่างๆได้ เพราะออพชั่นแต่ละรุ่นแต่ละปีมันไม่เหมือนกัน แยกกว้างๆคือ โนสเดี่ยว ปี97-00----01 และ โนสคู่ 01-04

แนะนำให้หาโนสคู่ครับ ส่วนพวก Sport Executive Comfort มันแบ่งหลังปี 2002 สังเกตุง่ายๆกระจกหน้าต่างมัน2ชั้น เปิดดูก็รู้คับ มันไม่เหมือนรถทั่วไป นี่แหละทำให้มันเงียบ สุดๆ

เงินถึงเล่นตัว Sport เลยครับ คันของผมก็ตัว Sportแท้ๆ มันแต่งมา+ของเล่น+ระบบ มาครบๆ และมันยังไม่มั่วมากนัก พวกก่อนหน้านั้น ออพชั่น+แต่งกันมั่วเยอะแล้วคับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 02, 2011, 10:47:35 โดย teerapote »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,984
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 12:07:31 »
ส่วนตัวผมก็ชอบ E39 มากกว่าอยู่ดีครับ
ไม่รู้จะตอบอะไรคุณ Teerapote ตอบไปหมดแล้วครับ
แต่คันก่อน Minor ปี 1997 ของที่บ้านนั้น รวนสุดยอด เกียร์พังด้วยครับ เท่มากเลย  :'( :'( :'(
ส่วนอีกคันตอน Minor คันนี้การบำรุงรักษาเหมือนรถทั่วไปครับ ไม่มีอะไรหนักๆพัง ที่พังมีแต่ของเล่นเล็กๆ(ราคาไม่เล็ก)

ออฟไลน์ SkyTrekker

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 50
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 19:05:19 »
E39 Only ครับ

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 19:14:08 »
ยังไงๆ ก็ e39 ครับ

ออฟไลน์ boyster

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
Re: bmw ระหว่าง e46 กับ e39 ตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 20:43:02 »
ใจจริงก็ชอบe39ครับ แต่ฟังดูแล้วท่าทางค่าซ่อมจะหนักกว่าe46เยอะเลยครับ  คิดไม่ตกเลยว่าจะยังไงดี