ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+  (อ่าน 20946 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
Re: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2011, 08:47:14 »
ขออภัย คุณ Ji.Cl. ครับ
อัตราเร่ง ของ Tiida 1.6G ถึงจะพอๆ กับ Focus 2.0S+ ก็จริง
แต่ผมว่า ความนิ่งเมื่อความเร็วสูง, การเก็บเสียง, ช่วงล่าง, สัมผัสพื้นถนน คนละเรื่องเลยอะครับ
Tiida เข้าโค้งความเร็วสูงหน่อย รู้สึกเหวี่ยงพอสมควร

ความมั่นใจในการขับขี่ ผมว่า โฟกัสขับแล้วดูแน่นกว่ามาก รวมถึงออปชั่นต่างๆ
อยากให้จขกท. คิดถึงจุดนี้ด้วย ทางที่ดีไปลองขับครับ

แต่เรื่องประหยัดน้ำมัน ซดกว่าเจ้าอื่นพอควร ถ้าใช้รถหนักๆแค่เสาร์-อาทิตย์  คงโอเค
แต่ถ้าเดินทางทริปไกลๆหน่อย น่าจะกินน้ำมันกว่าคันอื่น หลายร้อยบาทเหมือนกัน


ปล. โฟกัสตัวนี้ สวยรอบคันอยู่นะ ไม่แพ้ตัวใหม่เท่าไหร่หรอกครับ (แต่ภายในสู้ไม่ได้เลย)
ไม่เป็นไรครับผม

Tiida ยอมรับว่าผมยังไม่เคยลอง แต่อันนี้ "พอรู้" มาว่าแพ้ลมปะทะ และการทรงตัวที่ต่างกัน ส่วนเจ้าโฟกัส

คือผมก็ เพ่งไปจุดที่ความประหยัดน้ำมันครับ ตั้งแต่ Reply แรกแล้วผมก็วงเล็บให้เรื่องประหยัดสำคัญกว่าอัตราเร่ง

ผมเอง ไม่ได้ขับรถแบบออกตัวปรู๊ดปร๊าด ในชีวิตประจำวันน่ะ อย่าว่าแต่ Focus 2.0 เลย ผมพอใจกับอัตราเร่งของ Mazda 3 1.6 ที่เคยลองด้วยซ้ำครับ

(Civic 0 - 100 ผมขับ ราวครึ่งนาทีอ่ะครับ แต่ไม่สนท้อปสปีด ถ้าถนนโล่งพอ ผมเคยปล่อยไหลถึง 170-190)

แบบว่าตีนต้นยกให้เขาไป ถึงตีนปลายเมื่อไรค่อยว่ากัน แต่เวลาพูดกับคนอื่น ผมต้องยกมาตรฐานเรื่องอัตราเร่งขึ้นมาอีกนิด

เพราะคงมีไม่กี่คนที่ต้องการอัตราเร่งในชีวิตจริงแค่ที่ผมต้องการ

อะไรที่ผมรู้สึกว่าพอดี ผมจะพูดว่าอืด อะไรที่ผมรู้สึกว่าเหลือๆ ผมจะพูดว่ากำลังดี อะไรประมาณนี้ครับ

แต่ที่ผมพูดว่าไม่แนะนำเบนซินในโฟกัส ก็คือผมเพ่งไปที่อัตราการสิ้นเปลือง โดยเฉพาะในเมือง

ช่องว่าง นั้น จริงอยู่ว่ามันคงไม่ถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว แต่ช่องว่างระหว่างมันกับคู่แข่ง ผมว่ามันเยอะเกินไปครับ




ขออภัยถ้าล่วงเกินใครนะครับ

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2011, 09:05:03 »
ว่าถึงเรื่องอืดของมาสด้าเครื่อง2000ลองดูตัวเลขวัดอัตราเร่งความเร็วต้นดีๆสิครับ มันต่างจากซีวิคเครื่อง2000ยังไม่ถึง1วินาทีเลย ทั้งๆที่มันไม่ได้มีวาล์วแปรผันหรูหราเหมือรใครเค้าเกียร์ก็ยังโบราณ4ระดับแต่สามารถตามติดรถที่เด่นที่สุดในกลุ่มได้แบบไม่เขอะเขิน ขนาดไม่ได้มีของดีเหมือนใครเค้าแต่ก็ยังมาได้ขนาดนี้ น่าสนใจมากๆว่าหลังจากใส่เครื่องสกายกับเกียร์ใหม่เข้าไปแล้วเครื่องของมาสด้าคงจะน่าดูชมทีเดียว  :)


อัตราสิ้นเปลืองในเมืองนั้นบอกได้เลยว่าระหว่างเครื่องเบนซิน2000ของมาสด้าและเครื่องดีเซลของฟอร์ดไม่ต่างกันครับ (มาสด้ากับฟอร์ดใช้เครื่องเดียวกันการกินน้ำนคงไม่ต่างกันเท่าไหร่) ทั้งๆที่เรากำลังพูดถึง เรื่องของรถที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่ากินน้ำมันกับประหยัดน้ำมัน ความแตกต่างนี้จะเห้นเด่นชัดกต่อเมื่อแล่นทางไกลที่รถไม่ติดมีลมเข้าห้องเครื่องเหมาะสมนั่นแหละ ซึ่งผู้ใช้เองก็สามารถทำให้อัตราการใช้น้ำมันใกล้เคียงกันได้ แค่อย่าเร่งแซงไร้สาระอย่าขับเร็วแบบขาดสติเท่านี้ประหยัดได้โขแล้ว ผมว่าปัญหาเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมันยี่ห้อฟอร์ดนี้แหละ ถ้าแปะตราโตโยต้าเมื่อไหร่ล่ะจะขายดีจนหมดสต็อกในเวลาไม่นาน เพราะสังคมไทยชอบมองี่ขนาดเครื่องกัน 2000 cc ราคาแปดแสนบาททั้งที่ยี่ห้ออื่นไปกันล้านบาทแล้ว ถ้าไม่ติดประเด็นเรื่องยี่ห้อตัดสินใจไมยากเลย  :P
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ WS.

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 237
Re: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2011, 11:36:07 »
ถึงตอนนี้เท่าที่อ่านมา สรุป
ประเด่นหลักๆ คือ เครื่อง และ โชว์รูม
ในเรื่องเครื่องคงต้องไปลองสัมผัสก่อน อาทิตย์นี้คงไปลองกับพี่ชาย ถ้ารับได้คงผ่านเรื่องนี้ไป
แต่เรื่อง โชว์รูมและการบริการหลังการขาย อันนี้น่าหนักใจ หลังจากนี้
คงต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเรื่องนี้มากๆ ก่อนตัดสินใจ  :P

ปล ขอบคุณทุกท่านถึงความเห็นอีกครั้งครับ  ;)

ออฟไลน์ BaSkInElItEgUyS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,607
  • BaSkInElItEgUy PeRsEuS PrInCe of ZuEs
    • อีเมล์
Re: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2011, 11:37:09 »
จากการใช้งานจริงนะครับ แบ่งเป็นข้อย่อย ดังนี้
   1. สมรรถนะเครื่องยนต์
           ยอมรับเลยครับว่าเครื่องยนต์ไม่ได้จี๋ดเหมือนในซีวิค หรืออัลติส แต่มันไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย  พอเอาเข้าจริงๆ ใช้งานในชีวิตประจำวันนี่สบายๆเลยครับ อัตราเร่งแซงพอได้สำหรับผม คือไม่ต้องเค้น ไม่ต้องลุ้นจนเหงื่อตกอะไร ถ้าเคยขับ Optra หรือ Mazda3 มาก่อน ผมว่าโฟกัสไม่ใช่ปัญหาแน่นอนครับ ผมให้ 7/10
   2. เกียร์ Sport Mode
          อาการเกียร์กระตุกมีแน่นอนครับ มีค่อนข้างมากด้วย ยิ่งถ้าคุณจอดรถติดไฟแดงแล้วต้องการออกตัวเร็วๆ เกียร์จะกระตุกแบบรู้สึกได้ชัดเจน  แต่ในทางกลับกัน คุณออกตัวแบบค่อยๆเหยียบประหนึ่งว่าขับเกียร์ CVT อาการเกียร์กระตุกจะแทบหายเข้ากลีบเมฆไปเลยครับ ในความคิดผม ทางวิศวกรรมของฟอร์ดคงอยากให้คนขับขับแบบไปเรื่อยๆ มากกว่าออกตัวเอามันส์นะครับ  คือถ้าขับรถแบบถนอมเครือ่งถนอมเกียร์แล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ ผมให้ 6.5/10
    3. ช่วงล่าง
         ด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังมัลติลิ้งค์  เป็นจุดขายของโฟกัสเลยครับ การเซ้ทระบบช่วงล่างผมว่าดีที่สุดในกลุ่มเลยก็ว่าได้ การสสาดโค้ง แม้ว่าจะเป็นท้ายตัด แต่ไม่มีอาการท้ายดื้อให้เห็นนะ จั๊มป์คอสะพานก็โอเค ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ก็ยังได้อยู่ ถ้าช่วงล่างผมให้ 9.5/10
   4. Interior
         พื้นที่ภายใน บอกไว้ก่อนเลยนะครับ ถ้าคุณตัวใหญ่ๆ เนี่ยมีปัญหาแน่นอน เพราะกรอบประตูโฟกัสนั้นเรียกได้ว่ามโหฬารกันเลยทีเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้หนาขนาดนั้นทำไม ซึ่งก็คงน่าจะเกี่ยวกับระบบเซฟตี้แหละครับ เมื่อกรอบข้างประตูมันหนามาก ทำให้ต้องบีบพื้นที่ในห้องโดยสารไปโดยปริยาย คอนโซลกลางก็ใหญ่มากกกกกกกกกกกก  ไม่รู้จะใหญ่ไปทำไมขนาดนั้น ถ้าใช้งานสองคน แนะนำให้เลื่อนเบาะถอยหลังหน่อยนะครับ เพื่อลดปัญหาหัวเข่าติดคอนโซลกลาง แต่ถ้านั่งด้านหลังด้วยเนี่ย แป๊บๆไม่เป็นไร แต่นานๆไปมีเมื่อยแน่ครับ เพราะเบาะหลังตั้งตรงไปนิด เบาะหน้าโอกระชับดี ที่สำคัญตำแหน่งนั่งขับอยู่ค่อนข้างสูง มองเห็นชัดเจนดีมาก ความสะดวกสบายคุ้มค่ามากกว่าราคาที่จ่ายนะครับ ทั้งการควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย แอร์ออโต้ พนักท้าวแขนตรงกลางเลื่อนได้ แอร์หลัง กระจกหลังตัดแสงออโต้ ปัดน้ำฝนออโต้ ไฟหน้าออโต้ กระจกข้างพับได้ และที่ผมชอบมากกระจกทั้งสี่บานเป็นแบบ one touch และ Jam Protection หมดเลย ภายในผมให้ 7.5/10
   5. Exterior
         ภายนอก รูปร่างโดดเด่นนะครับ เพราะว่าบนถนนมีน้อย รถท้ายตัดของโฟกัส จะต่างจากของมาสด้าสาม เนื่องจากมันเป็นท้ายตัดแบบเฉียงๆ เอียงมุมค่อนข้างมาก ต่างจากมาสด้าพอสมควรที่ออกไปในแนว Estate มากกว่า คือถ้ามองว่าสวยก็สวยนะครับ แต่มันนานแล้วแค่นั้นเอง ส่วนตัวผมว่ามันไม่เหมือนใครดี ขับไปไหนมาไหน ก็ไม่มีคันอื่นมาแย่งซีน เพราะไปจอดแต่ละที่แทบหาพักพวกไม่เจอ ติอย่างเดียว ไฟถอยหลังข้างเดียว กะไฟตัดหมอกก็มีข้างเดียว มันเลยดูตลกเบาๆ  ผมให้ภายนอก 8/10
   6. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
        ล่าสุดเลยนะครับ เมื่อวานนี้เอง สดๆร้อนๆ ผมเดินทางจากกรุงเทพ - เพชรบูรณ์ จับอัตราสิ้นเปลืองมาเป็นช่วงๆนะครับ ทำได้ดีที่สุด คือ 14.2 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ถ้าวัดตั้งแต่ออกรถมาถึงบ้านเลย เฉลี่ยได้ 13.3 กิโลเมตรต่อลิตรครับ ผมว่ามันก็เพียงพอแล้วนะสำหรับที่เราใช้งานปกติ คือผมไม่ขับซิ่งนะครับ ความเร็วที่ใช้ก็ 90-120 มีเร่งแซงปกติ ติดไฟแดงประมาณ หกเจ็ดที่ได้ ออกตัวแบบปกตินะครับ คือไม่ให่คันหลังจี้ตูดแล้วตบไฟแซงนะครับ สามารถออกตัวทิ้งห่างคันหลังได้ปกติ  แต่ตอนที่ใช้งานในกรุงเทพ หรือในตัวเมืองของต่างจังหวัดจะกินกว่าแน่นอน เฉลี่ยอยู่ทีประมาณ 8-10 กิโลเมตรต่อลิตร ครับ เคยขับไปคณะที่อนุเสาวรีย์ ไปกลับ อยู่ที่ 8.45 กิโลเมตรต่อลิตร (อนุเสาวรีย์-มธ.รังสิต) ไม่ได้ขึ้นโทลเวย์  การบริโภคน้ำมันผมให้ 7/10
   7. ศูนย์บริการ
       ผมติดต่อแค่ที่ศูนย์แถวโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนนะครับ ก็ถือว่าใช้ได้ แต่บางศูนย์ที่เคยไปจอง เอ่ยนามเลยนะครับ โชว์รูมที่เพชรบูรณ์เนี่ย ผู้จัดการคำพูดเชื่อไม่ได้เลย พ่อผมถอนจองสองรอบละ เพราะจองไปแล้วมาขอเปลี่ยนเงื่อนไขของแถมซะงั้น ดังนั้นต้องเลือกศูนย์ดีๆนะครับ เอาที่ผมเคยสัมผัสละกัน รวมๆผมให้ 6.5/10
   

รวมคะแนนนะครับ จากการใช้งานจริง 52/70 คิดเป็น 74.29%


     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนจะซื้อให้ไปทดลองขับก่อนนะครับ ก่อนผมจะซื้อผมก็ไปทดลองขับทุกรุ่นในพิกัดเดียวกันหมดเลย ทั้งรถเทสต์ และรถของคนรู้จัก ทำให้รู้ข้อดีข้อเสียของแต่ละรุ่น  ที่สำคัญเรารับกับข้อเสียมันได้หรือไม่ มันคุ้มค่ากับราคาที่เราจ่ายไปมากแค่ไหน เลือกรถที่เหมาะกับ Life Style เราให้มากที่สุดแหละครับ จะได้ใช้รถได้อย่างมีความสุข


.
.
.
ปล.  ผมไม่ได้มองในเรืองราคาขายต่อ เพราะผมซื้อรถมาใช้ ไม่ได้ซื้อรถมาขายต่อ รถถ้าได้เปลี่ยนมือก็ราตาตกหมดแหละครับ จะมากจะน้อยขึ้นกับสภาพรถและความต้องการด้วย ผมกะใช้ไม่ต่ำกว่า 7 ปีอยู่แล้ว  แต่ถ้ากังวลเรื่องราคาขายต่อ ผมว่าคุณก็เล่นได้แค่เจ้าตลาด และต้องเป็นรุ่นที่ขายดีๆด้วยนะครับ รุ่นที่ขายไม่ค่อยดีก็ราคาตกเหมือนกันนั่นแหละครับ.

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
    • อีเมล์
Re: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2011, 11:56:01 »
ผมขอตอบในฐานะคนใช้ Focus 1.8 Sedan และ 2.0 Sport plus

อัตราเร่ง ไม่ได้ต่างกันชัดเจน ถามว่าอืดไหม ถ้าเหยียบปกติ ผมว่าตามพวกรถญี่ปุ่น Segment เดียวกันไม่ทัน
แต่ถ้าช่วงเร่ง 80 - 120 ผมว่าพอไหวกับพวก 1.6 นะครับ
แต่การใช้งานจริงผมว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็เหยียบเข้าไปมากกว่าชาวบ้านเขานิดหน่อย

คัน 2.0 ผมเพิ่งได้มาหนึ่งเดียว ใช้ขับต่างจังหวัดอย่างเดียว เชียงใหม่-ลำปางประจำ
อัตราเร่ง ผมว่าสูสีกับ Civic FD 1.8 แต่ช่วงล่างผมว่าน่าจะมั่นใจกว่านะครับ
ผมขับเข้าโค้งที่ 120 ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะหลุดโค้งอะไร ก็นิ่งดี
ที่ผมชอบคือพวงมาลัย ระยะฟรีกำลังดี

เรื่องกินน้ำมัน ในเมืองประมาณ 8 กิโลลิตร ขับนอกเมืองประมาณ 12-13 กิโลลิตร แต่ผมเหยียบนะครับ
ถ้าเรื่องกินน้ำมันไม่ใช้ปัญหา หรือ กะจะติดแก็สอยู่แล้ว ก็คงจะ OK
แต่เรื่องอัตราเร่ง มันอยู่ที่แต่ละคน ผมชอบเหยียบ แต่คำว่าเหยียบของผมรอบเครื่องไม่เคยเกิน 3000 นะครับ
เหยียบให้ได้ระดับความเร็วที่ต้องการ เห็นไหมครับว่าการเหยียบแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น คุณต้องดูว่าความจำเป็นในการใช้งาน

แต่ถ้าพูดถึงราคา 849,000 กับรถที่ใกล้ตกรุ่น
ข้อดี คือ พวงมาลัย ช่วงล่าง Options ในรถค่อนข้างมาก ยกเว้นไม่มี Keyless entry
ข้อเสีย คือ ศูนย์ดี ๆ มีน้อย ราคาอะไหล่ระยะยาว อัตราเร่งมีถือว่าอืดถ้าเทียบกับเครื่อง 2.0 และกินน้ำมัน

ส่วนตัวผม ไม่มีปัญหากับข้อเสียเหล่านั้น เพราะ ค่าน้ำมันเดือนละ 4 - 5 พันผมพอรับได้
อัตราเร่งผมขับทางใกล้ขึ้นเขา ไม่ใช่ประเด็นหลัก ผมต้องการรถที่เกาะถนน มั่นใจในการขับขี่

ตอนแรกผมตั้งใจจะซื้อ Fiesta 1.6 เพราะคันเก่าใช้ Focus 1.8 เดิม
บังเอิญตอนไปงาน Motorshow เห็นมันลดราคา คิดว่าน่าจะจุของได้เยอะกว่า เพราะของผมเยอะ

หลังจากใช้มา 1 เดือน ถามว่าพอใจไหม ผมพอใจกับเงินที่จ่ายไปมาก
นอกจากนี้ผมไม่ต้องเสียเงินค่าแต่งรถ เพิ่ม เพราะเขาแต่งมาให้แล้ว

เรื่องตกรุ่นไม่ใช่ปัญหาของผม เทคโนโลยีเก่า แต่รถผมมันใหม่
โชคดีที่ผมได้ศูนย์บริการดีด้วย ทุกอย่างลงตัวหมด

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2011, 12:45:01 »
นอกเรื่องนิดหน่อยนะครับ ชอบการตอบในกระทู้นี้มากเลย แตกต่างทางความคิดเห็นกันแต่ไม่แตกแยกกัน ตอบแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยต่อให้คนที่โดนแย้งมาอ่านก็ไม่เสียความรู้สึก เอาข้อมูลมาหักล้าง มาแชร์กันอย่งนี้ชอบมากครับผม

ถ้าชอบโฟกัสก็จัดเลยครับ จุดเสียก็มีบ้างแต่จุดดีผมว่ามีมากกว่านะ ที่เน้นๆก็คงเป็นเรื่องอัตราสิ้นเปลือง อัตราเร่ง ตกรุ่น ศูนย์บริการ ถ้ารับได้ก็จัดได้เลยครับ ถ้าเรื่องอัตราสิ้นเปลืองแล้วไม่กลัวแก๊สก็หมดไปอีกหนึ่งปัญหา
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ joydb10

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
Re: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2011, 13:05:24 »
ผมขอตอบในฐานะคนใช้ Focus 1.8 Sedan และ 2.0 Sport plus

อัตราเร่ง ไม่ได้ต่างกันชัดเจน ถามว่าอืดไหม ถ้าเหยียบปกติ ผมว่าตามพวกรถญี่ปุ่น Segment เดียวกันไม่ทัน
แต่ถ้าช่วงเร่ง 80 - 120 ผมว่าพอไหวกับพวก 1.6 นะครับ
แต่การใช้งานจริงผมว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็เหยียบเข้าไปมากกว่าชาวบ้านเขานิดหน่อย

คัน 2.0 ผมเพิ่งได้มาหนึ่งเดียว ใช้ขับต่างจังหวัดอย่างเดียว เชียงใหม่-ลำปางประจำ
อัตราเร่ง ผมว่าสูสีกับ Civic FD 1.8 แต่ช่วงล่างผมว่าน่าจะมั่นใจกว่านะครับ
ผมขับเข้าโค้งที่ 120 ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะหลุดโค้งอะไร ก็นิ่งดี
ที่ผมชอบคือพวงมาลัย ระยะฟรีกำลังดี

เรื่องกินน้ำมัน ในเมืองประมาณ 8 กิโลลิตร ขับนอกเมืองประมาณ 12-13 กิโลลิตร แต่ผมเหยียบนะครับ
ถ้าเรื่องกินน้ำมันไม่ใช้ปัญหา หรือ กะจะติดแก็สอยู่แล้ว ก็คงจะ OK
แต่เรื่องอัตราเร่ง มันอยู่ที่แต่ละคน ผมชอบเหยียบ แต่คำว่าเหยียบของผมรอบเครื่องไม่เคยเกิน 3000 นะครับ
เหยียบให้ได้ระดับความเร็วที่ต้องการ เห็นไหมครับว่าการเหยียบแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น คุณต้องดูว่าความจำเป็นในการใช้งาน

แต่ถ้าพูดถึงราคา 849,000 กับรถที่ใกล้ตกรุ่น
ข้อดี คือ พวงมาลัย ช่วงล่าง Options ในรถค่อนข้างมาก ยกเว้นไม่มี Keyless entry
ข้อเสีย คือ ศูนย์ดี ๆ มีน้อย ราคาอะไหล่ระยะยาว อัตราเร่งมีถือว่าอืดถ้าเทียบกับเครื่อง 2.0 และกินน้ำมัน

ส่วนตัวผม ไม่มีปัญหากับข้อเสียเหล่านั้น เพราะ ค่าน้ำมันเดือนละ 4 - 5 พันผมพอรับได้
อัตราเร่งผมขับทางใกล้ขึ้นเขา ไม่ใช่ประเด็นหลัก ผมต้องการรถที่เกาะถนน มั่นใจในการขับขี่

ตอนแรกผมตั้งใจจะซื้อ Fiesta 1.6 เพราะคันเก่าใช้ Focus 1.8 เดิม
บังเอิญตอนไปงาน Motorshow เห็นมันลดราคา คิดว่าน่าจะจุของได้เยอะกว่า เพราะของผมเยอะ

หลังจากใช้มา 1 เดือน ถามว่าพอใจไหม ผมพอใจกับเงินที่จ่ายไปมาก
นอกจากนี้ผมไม่ต้องเสียเงินค่าแต่งรถ เพิ่ม เพราะเขาแต่งมาให้แล้ว

เรื่องตกรุ่นไม่ใช่ปัญหาของผม เทคโนโลยีเก่า แต่รถผมมันใหม่
โชคดีที่ผมได้ศูนย์บริการดีด้วย ทุกอย่างลงตัวหมด


ใช้บริการศูนย์ไหนอยู่พอจะบอกได้หรือเปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ
พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว (ศิลป์ พีระศรี)

ออฟไลน์ B@S

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
    • อีเมล์
Re: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2011, 14:15:17 »
ผมว่าช่วงล่าง ความเกาะถนนและ ความปลอดภัยสำคัญครับ โดยเฉพาะคนที่เคยชนมาก่อน เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุคนที่นั่งคอมเมนท์อยู่ไม่ได้ไปกับท่านด้วย และ เทียบราคาแล้วเหมือนได้ส่วนลดต่างกับเจ้าตลาดมาก อาจถือเป็นส่วนต่างค่าน้ำมัน หรือ ติด gas ไปเลยก็คุ้มเร็ว

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
    • อีเมล์
Re: รบกวนถามเกี่ยวกับ ford focus 2.0 S+
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2011, 17:47:38 »
ศูนย์ที่ผมใช้แล้วรู้สึกว่าดี คือ ศูนย์ เชียงใหม่   ลำปาง  และลำลูกกาครับ

อยากจะให้ความเป็นว่ารุ่นปี 2007 กับ 2011 ที่ผมใช้ มันให้ความมั่นใจเท่ากัน แต่ความรู้สึกต่างกัน
รุ่น 2007 ประตูหนักมาก รู้สึกแน่น ช่วงล่าง Firm กว่าติดแข็ง
รุ่นปี 2011 ประตูปิดแล้วมันรู้สึกกลวง ๆ ช่วงล่างค่อนข้างนิ่มถึงนิ่มมากแต่ก็ไม่เท่า Altis ขนาดใช้ยางเดิม ๆ ที่ติดมากับรถ

ตอนที่ผมกำลังจะซื้อรถเพิ่มที่จริงไม่ได้ดู Segment นี้เลย ดู B-Segment แต่บังเอิญชอบลองรถ
ว่าง ๆ ผมก็ไป Test Drive รถ เพื่อจะได้ทราบการขับขี่แต่ละคัน ซึ่งทุกคันมีข้อดีของมันเอง ผมเลือกคันที่เหมาะกับบุคลิกการขับของผม
Altis 1.8 CVT อัตราเร่งดีมาก ชอบ console ภายใน เรื่องพวงมาลัยกับช่วงล่างผมเฉย ๆ
Civic 1.8 ชอบรูปทรงภายนอก และมาตรวัด แต่การขับขี่ ไม่ใช่แบบที่ผมต้องการ
Lancer EX 1.8 ชอบรูปทรงภายนอก การบังคับเลี้ยว ช่วงล่างนิ่มไปนิดนึงแต่หนึบแน่นดี ตอนแรกอยากได้มาก แต่ติดที่แม่กับน้องสาว ไม่ชอบทั้งภายนอกและภายใน
Cruze 1.8 อัตราเร่งในเมืองดีมาก แต่ละเหยียบกันจริง ๆ แบบไม่เกรงใจ ผมว่ารอบปลาย ๆ ค่อนข้างอืด  ช่วงล่างดี แต่ผมไม่ชอบสีส้มภายใน กับเบาะหลังแบนราบ
Focus 2.0 TDCi  เหมือนกับ Benzene ทุกอย่าง แต่อัตราเร่งคงละเรื่องกัน อยากได้แต่เกินงบ
Tiida 1.6 ชอบการออกแบบภายใน แต่ช่วงล่างกระด้างเกินไป

รถทั้งหมดที่ผมทดลองขับ ที่ชอบคือ Lancer EX, Cruze และ Focus
สุดท้ายก็กลับมาเลือก Focus อักคันด้วยเหตุผลหลักคือ ราคา Options และประสบการณ์การใช้ Ford มาแล้ว

ผมยอมรับว่าไม่ค่อยมีใครจะซื้อรถรุ่นเดียวกัน เพราะเสียเงินทั้งที น่าจะหาซื้อรถที่ให้ประสบการณ์ที่แปลกออกไป
แต่สุดท้าย รถคันนี้มันก็มาอยู่ในมือผม เพราะผม คือคนจ่ายเงินซื้อรถ และใช้มัน