Volvo คิดถูกที่ตั้งราคารถรุ่นนี้เอาไว้ในระดับที่น่าสนใจมาก จนเมื่อนำคุณภาพและอุปกรณ์ความปลอดภัยมาเทียบ
กับราคาของรถ ก็ทำให้ Mercedes และ BMW ดูเป็นรถที่แพงเวอร์ไปโดยถนัดตา
แต่ถ้าพวกเขาตั้งราคา D3 ไว้ 3.5 ล้าน และ 2.5FT ไว้ 4.2 ล้าน ..ผมก็คิดว่าจะมีคนสนใจน้อยลงกว่านี้มาก
S80 มอบความรู้สึก ความสบาย และคุณภาพวัสดุที่ทัดเทียมกับคู่แข่ง ดังนั้นหากแม้เรารู้อยู่ดีว่าราคาอะไหล่แพง แต่ราคาที่ถูกกว่า BMW รุ่นพิกัดใกล้เคียงกันเป็นล้านบาท มันก็ทำให้น่าคิดว่าล้านบาทตรงนั้นเอาไปทำอะไรได้อีกบ้าง
แต่ถามว่าทำไมผมถึงรู้สึกเฉยๆกับรถคันนี้ ก็คงเป็นเรื่องความความสบายในการขับซึ่งผมมีปัญหากับตำแหน่งคันเร่ง
ที่เยื้องซ้ายของมัน ทำให้ผมไม่สามารถกดคันเร่งโดยเอาเข่าขวาพิงประตูไว้ได้ ต้องยกลอยไว้ตลอดเวลา
สำหรับคนผอม มันเป็นเรื่องเล็ก สำหรับคนตัวไม่เล็ก มันเป็นเรื่องใหญ่ครับ แล้วพอย้ายไปนั่งเบาะหลัง ผมก็ยังรู้สึกว่าตัวเบาะน่ะมีความนุ่มดีกว่าเบนซ์ แต่ขนาดมันยังไม่ถูกใจผมเท่าไหร่
ในเรื่องการขับขี่ S80 2.5FT มีสุ้มเสียงที่ไพเราะมาก ผมคิดว่าไม่เพราะไม่แพ้เสียง 6 สูบเรียงของ BMW เลย แถมออกจะ
กร้าว ห้าวกว่าเสียด้วยซ้ำไป แต่มันมีแค่เสียงเท่านั้นล่ะ เพราะอัตราเร่งของมันไม่ได้ถือว่าเร็วอะไรเลย แม้ความรู้สึกจะบอกว่า
เร็ว แต่เราจะเชื่ออะไรดีล่ะ ความรู้สึกหรือว่านาฬิกา? ผมขับ S80 2.5 ด้วยความรู้สึกว่าเห้ย แรงบิดไม่น้อยนะ แรงม้าก็ไม่น้อย
เกียร์ก็เป็น 6 สปีด ..แล้วมันไปแพ้ E250CGi ที่ใช้เครื่อง 1.8ลิตร เกียร์ออโต้ 5 สปีดทดห่างๆได้ยังไง
เช่นเดียวกันกับ D3 ซึ่งไม่ได้ทำให้ผมประทับใจกับอัตราเร่งของมันนัก โอเค ในความเห็นจิมมี่มันเร็วพอ แต่ในความเห็นผม
เมื่อต้องเทียบกับคู่แข่งที่มีความจุ 2.0 และ 2.1 ลิตร มันไม่ได้ให้ความรู้สึกบันเทิงใจเท่าไหร่ BMW ใช้อัตราทดเกียร์ 8 จังหวะ
มาช่วยให้ดึงตับแล่บตั้งแต่ออกตัว ต่อเนื่องไปจนยันปลาย ส่วนเบนซ์เกียร์เห่ย แต่คุณจะงงว่าเกียร์ทดยาวๆแบบนี้ทำไม
มันออกตัวดึงดีแบบนี้..มันไม่ดึงแบบ BMW เพราะว่าเกียร์ 1 ของเบนซ์นั้นทดยาวมาก ในขณะที่ BMW สั้นกว่ามาก แต่ถ้าคุณเอามือปิดเข็มวัดรอบ แล้วดูแต่เข็มความเร็ว คุณจะแปลกใจว่าเครื่อง 2.1 บ้าอะไรไหลดีแบบนี้ (แต่นาฬิกาก็บอกว่า E250CDI แพ้ 520d เหมือนกัน)
Volvo ไม่ได้ถึงหน้าหงายแบบ BMW และไม่ได้ไปแบบยาวๆหลอนๆเหมือน Benz มันไปแบบดึงๆแล้วก็เหี่ยว ดึงๆแล้วก็เหี่ยว
น่าจะเป็นเหตุผลมาจากแรงม้าที่น้อยกว่าใครเพื่อน..น้อยกว่า Benz ตั้ง 41 ตัวใช่ไหมล่ะ
แต่ส่วนหนึ่งก็เกิดขึ้นเพราะน้ำหนักตัวรถ..แปลกดี รถก็ไม่ได้ใหญ่กว่าเค้า อุปกรณ์หนักๆก็ดูจะไม่มีอะไร..เป็นน้ำหนัก
ของโครงสร้างเหล็กหรือเปล่า? ถ้าหนักกว่า อืดกว่า แต่แข็งแรงปลอดภัยกว่าก็ดี แต่อันนี้คงทดลองให้ดูไม่ได้
เรื่องช่วงล่างและพวงมาลัย ผมให้คะแนนมันดีกว่ารถ E-Class ที่เป็นตระกูล Elegance แต่แพ้ E-Class ที่เป็น Avantgarde
และยังห่างไกลจากเจ้าที่เน้นด้านนี้เป็นหนักหนาอย่าง BMW
Volvo จะมีลักษณะนิ่มย้วย แม้จะมั่นคงปลอดภัยไม่แว้งกัดคุณ แต่มันไม่ใช่ช่วงล่างที่ตีนผีรายใดๆจะชอบ เพราะการโยนหรือยุบถือว่ามีการตอบสนองค่อนข้างช้า Delay 1 จังหวะเสมอ พวงมาลัยก็พอๆกันกับ E-Class คือ Safe but lifeless..ความมั่นคงที่ความเร็วสูง เกิดจากน้ำหนักตัวรถที่มากกว่าชาวบ้านมากกว่าจะเป็นเรื่องแอโร่ไดนามิกส์หรือช่วงล่าง การเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูงๆจะทำให้เราเห็นความแตกต่างในจุดนี้ได้ชัดเจน E-Class Avantgarde น้ำหนักตัวรถเบากว่า แต่ทรงตัวดีไม่แพ้กัน นั่นคือเรื่องของแอโร่ ส่วนการหักเลี้ยวที่ความเร็วสูง E-Class Avantgarde ก็เอาอยู่มือกว่า และสร้างความมั่นใจได้มากกว่า
โดยสรุปแล้ว ผมคิดว่ามันไม่ใช่ Driver's machine แบบ BMW แน่นอน ดังนั้นมันจึงน่าจะเป็นคู่แข่งกับ Mercedes-Benz มากกว่าเพราะมีนิสัยหลายอย่างใกล้เคียงกัน ในการเปรียบเทียบแบบนี้ ผมพบว่า Mercedes ให้ภายในที่ผมนั่งได้สบายกว่า
และมีอัตราเร่งยามต้องการใช้ดีกว่า แม้เกียร์จะไม่ฉลาดนักแต่ก็ไม่ตอบสนองช้าจนรู้สึกรำคาญเกินกว่าเหตุ ส่วน Volvo นั้น มีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ครบครันมาก และสำหรับคนตัวเล็ก มันให้ความสบายในการโดยสารไม่แพ้..หรืออาจจะดีกว่า Benz ด้วยซ้ำไป ..ทั้งหมดนี้ในราคาที่ถูกกว่ากันเป็นล้าน
คิดยังไงล่ะ? คุณจะลอง E250CDI 1 คัน
หรือ Volvo S80D3 บวก Impreza หน้าหมู WRX ที่วางเครื่องกับเกียร์คอแดงแล้ว 1 คัน
?