ดูจากการใช้งานเป็นหลักครับว่านั่งกันกี่คน พรีอุสนั่งกัน 4 คนก็ยังสบายนะครับไม่มีปัญหาเลย หรือ 5 คนก็ยังได้ แต่ถ้าต้องโดยสารทางไกลกันบ่อยๆ รถใหญ่กว่าจะนั่งได้สบายกว่าครับ ก็ควรเป็น Accord มากกว่า
และจะบอกว่าพรีอุสหากไม่เปิด Power Mode นั้นจะอืดอาดจนเราอึดอัดเลยนะครับ แต่ถ้ารับได้ มันก็เป็นรถเปลี่ยนนิสัยให้เราอยากขับประหยัดๆมากขึ้นได้เลยครับ ผมก็ขับรถช้าลงเยอะหลังจากมาขับมัน ก็ดีในแง่ความปลอดภัยมากขึ้นด้วย และบทจะเปรี้ยว ก็กด PWR วิ่งได้ครับ แซ่บอย่าบอกใครเลย
Accord 2.0 นั้นจะออกแนวนั่งสบายกว้างขวาง (แต่ผมไม่ค่อยชอบเบาะหลัง แข็งๆตึงๆไปหน่อย แม้จะรองรับสรีระดีกว่าพรีอุส แต่ความนุ่มของพรีอุสกำลังดีเลย) แต่มันจะไม่ปรู๊ดปร๊าดมากถ้าเทียบกับคันเก่าของคุณสมัยมันยังใหม่ๆ มันจะออกแนวแบบไปเรื่อยๆ เร่งได้บ้างตามสภาพ แต่ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานครับ อัตราเร่งดีกว่า Prius แน่นอนแต่มีข้อแม้ว่า Prius ต้องห้ามเปิด Power Mode เท่านั้นครับ
การดูแลรักษาไม่ยากอย่างที่คิดครับ ใช้ไปหมื่นกว่าแล้วไม่รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ต้องดูแลวุ่นวายเลยครับ เหมือนรถปกติมากๆ และขึ้นชื่อว่าโตโยต้าผมยังเชื่อว่ามันทนครับ (รอดูกันอีกทีหลายๆปี)
แต่ Accord G8 2.0 ที่รุ่นพี่ผมใช้อยู่ตอนนี้มีปัญหาจุกจิกกวนใจ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ พี่เค้าบอกก็เปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่บ่อยหน่อย รายการละไม่กี่ร้อย หรือพันสองพัน แล้วแต่กรณี บางทีไอ้นู่นดัง ไอ้นี่ดัง พวงมาลัยดังแก๊กๆๆตั้งแต่ปีแรก ทุกวันนี้ยังไม่หาย แต่ดังทีไรก็เอาไปศูนย์ให้เค้าดูให้ก็หาย ประมาณนั้นครับ หากรับได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตครับ
แต่ถ้าตัวเลือกมาทาง Accord ล่ะก็ ผมแนะนำไปเล่นเทียน่า 2.0 เถอะครับ
ผมกลับไม่อย่างงั้นในแง่ ของพรีอุส ตัวผมขับกับน้องสาว
ใช้ eco mode ตลอดไม่รู้สึกว่ามันอืด เคยลองจับ 0-100 ได้ 11 วิ
PWR mode ที่รู้ก็คือ เพิ่มการตอบสนองของคันเร่ง 20% ไม่ได้เพิ่มกำลังแรงม้าแต่อย่างใด
ผมขับ 5 คน วันแม่ไป ปากช่อง ก็ไม่ได้กด PWR mode เลย ใช้แค่ normal mode
ถูกต้องครับ การกด PWR ไม่ได้ช่วยให้แรงม้าเพิ่มครับ แต่มันทำให้คันเร่งตอบสนองไวขึ้น ในขณะที่ ECO MODE มันจะหน่วงเวลาเรากดลงไปครับ แต่เมื่อเหยียบมิด มันก็ไปสุดเหมือนๆกัน
สิ่งที่แตกต่างคือ ระยะเวลาก่อนที่มันจะเริ่มตอบสนองคำสั่งเราครับ จึงทำให้อัตราเร่งที่ผมเคยจับเอาไว้ แตกต่างกัน ดังนี้
Power Mode: 11.9 secs
Normal Mode: 12.3 secs
Eco Mode: 14.4 secs
ซึ่งผมใช้ iphone วางไว้บนตัก แล้วกด Start จับเวลาเมื่อผมออกแรงกดเท้าลงไปทันที และกดหยุดทันทีที่ความเร็ว 100 km/hr ครับ ทดลองโหมดละรอบ ตอนรับรถมาใหม่ๆ และกำลังจะทำ Full Review ออกมาเร็วๆนี้ครับ เดี๋ยวลองจับตัวเลขอีกที อาจมีคลาดเคลื่อน แต่ไม่แตกต่างไปจากนี้แน่ๆครับ
ที่ผมบอกว่าอืด เพราะผมเทียบกับการขับใน ECO กับการขับ Altis 1.6G ในเมืองครับ (0-100 ผมนั่งคนเดียวเหมือนจับของพรีอุสทดลองกลางคืน ก็ได้ 11.9 ครั้งนึง และ 12.2 อีกครั้งนึง ส่วนคุณจิมมี่ทำไว้ 12.24 หากจำเลขไม่ผิด ลองไปเปิดรีวิวอีกทีนะครับ) พรีอุสมันอืดเพราะกดแล้วมันไม่ค่อยยอมทำตามคำสั่ง แต่ถ้าเรียนรู้นิสัยกันดีๆแล้ว ผมก็ขับ POWER ในเมืองให้ได้ระดับ 5.X Litre/100km ได้ไม่ยากครับ ซึ่งจะคล่องตัวกว่าการเปิด ECO แล้วขับในเมือง
ดังนั้น การใช้พรีอุสให้มีความสุข อยู่ที่ว่าจะเปลี่ยนนิสัยการขับขี่เข้าหารถได้มากน้อยแค่ไหน เพราะมันก็ไม่เหมือนรถปกติที่ไม่ใช่ไฮบริดครับ
ภาพรวม เมื่อเทียบความรู้สึกที่ต้องขายเทียน่าออกไป และเปลี่ยนเป็นพรีอุสเข้ามา
ผมยอมรับว่าเสียดายเทียน่ารุ่นเก่าเล็กๆครับ เพราะมันนั่งสบายกว่า"มาก" เก็บเสียงได้ดีกว่า และเครื่องเสียงติดรถก็ดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม พรีอุสก็ไม่ได้ด้อยกว่าในด้านเหล่านั้นไปมากมายอะไร ส่วนนึงผมเข้าใจว่ารถคนละขนาดกัน พรีอุสเองนั่งสบายในระดับนึง ช่วงล่างทำให้การโดยสารเป็นไปอย่างสบายได้ แต่มาตกม้าตายที่เบาะอันไม่โอบกระชับสรีระ และที่วางแขนสำหรับชะนีแขนยาวเท่านั้นของมัน (โรคเดียวกับอัลติสผมเลย) แต่เสียงในห้องโดยสารถ้าวิ่งในเมืองนั้น สงบกว่า(แหงสิ เครื่องมันไม่ค่อยติดบ่อยหนิ) และมันก็มีอัตราเร่งในโหมด PWR ที่เปรี้ยวมากกว่าเทียน่าเยอะ แถมคล่องตัวกว่าด้วย ที่สำคัญก็ประหยัดเงินในกระเป๋าตอนเข้าปั๊มไปมากโข (ผมไม่ไปเทียบกับ C-Segment ด้วยกัน เพราะคนละราคาในหลายๆรุ่น สมรรถนะระดับนี้หาได้เฉพาะ C-Seg ตัวท๊อปๆ หรือพวกหรูๆเสียส่วนใหญ่ ไม่งั้นก็ข้ามไปชกกับ D-Segment เลย)