ผู้เขียน หัวข้อ: สาเหตุใด VolVo ตั้งราคาขายรถถูกมากแล้ว แต่ทำไมยังขายได้น้อย  (อ่าน 29681 ครั้ง)

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
นอกจากศูนย์บริการที่น่าหวาดผวาแล้ว
ผมว่าตัวรถของวอลโว่เองก็ยังไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่
ถ้าถามว่าคุณจ่ายเงินแพงกว่าเพื่อซื้อรถยุโรปแล้วคุณคาดหวังอะไรบ้าง
เครื่องแรง ช่วงล่างเกาะถนน ภาพลักษณ์ รูปลักษณ์ภายนอกภายใน bla bla bla
ทุกวันนี้ที่วอลโว่มีดีก็แค่สวย นั่งสบาย ส่วนอื่นๆนั้นก็ดูเป็นรองไปหมด
ช่วงล่างก็ยวบยาบ ไม่ต้องเทียบกะ benz bmw ดีไม่ดี mitsu ford mazda ยังจะขับดีกว่า
เครื่องเทอร์โบตัวเลขแรงม้าก็สวยดี แต่ขับจริงแล้วก็ไปไม่ค่อยไหวแถมยังกินน้ำมันซะ
ความจิงผมว่าตลาดที่วอลโว่น่าจะไปได้ดีคือกลุ่ม wagon crossover เพราะวอลโว่ทำออกมาน่าใช้ดีแถมคู่แข่งแทบก็ไม่มี
xc60 xc70 xc90 v60 v70 อยากให้เอามาขายให้ครบๆ
แฟนพันธุ์แท้วอลโว่ที่รออยู่ก็เยอะ ลูกค้าใหม่ที่อยากได้รถอเนกประสงค์ก็มีไม่น้อย น่าจะขายได้ดี

ออฟไลน์ prai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,154
อ้างถึง
ลองสังเกตดูจะพบว่า ทั้งวอลโว่ เปอโยต์ โอเปิ้ล และเรโนลต์ ก็หันมาใช้วิธีควบรุ่น หรือแชร์แพลทฟอร์มกับรุ่นเล็กมากขึ้น เพื่อประหยัดต้นทุน
ซึ่งวอลโว่ก็ใช้วิธีนี้เช่นกันในการผลิต S80 ดังนั้นรากเหง้าการพัฒนาของวอลโว่ในปัจจุบัน จึงไม่อาจเทียบกับพรีเมียมแบรนด์ได้ครับ

ผมคิดว่าใช้วิธีนี้ตัดสินไม่ได้นะ โอเค Volvo S80 อาจจะแพทฟอร์มร่วมกับฟอร์ดและวอลโว่และรวมถึงแลนด์โลเว่อร์ด้วยไม่แน่ใจว่าจากัวร์ด้วยหรือเปล่า ผมว่าปัญหามันอยู่ที่ต้นทุนมากกว่าครับ ถ้าคุณใช้วิธีนี้ตัดสิน ยกตัวอย่าง เมอร์เซเดส E Class CLS Class ML Class ก็ไม่ใช่พรีเมี่ยมแบรนด์สิครับ เพราะแชร์พื้นฐานเดียวกัน

ผมว่าผมบอกไว้ชัดเจนในกระทู้บนแล้วนะว่า "เป็นการควบรุ่น หรือแชร์แพลทฟอร์มกับรุ่นเล็ก"

แล้วกรณี E ML CLS-class มันเข้าข่ายแบบที่ผมบอกรึเปล่า



ยกตัวอย่างการควบรุ่น หรือแชร์แพลทฟอร์มกับรุ่นเล็ก

S80 แชร์พื้นฐานร่วมกับ S60 เพื่อลดต้นทุน

ส่วน E-class แชร์พื้นฐานกับ C-class รึเปล่า คำตอบคือไม่ใช่

คราวนี้เห็นรึยังว่าต้นทุนการพัฒนาของ Mid-Size Luxuary กับ Mid-size Family มันต่างกัน ผมจึงสรุปไปดังที่กล่าวมาแล้วครับ
ถ้าพูดถึงตำแหน่งของสินค้าแล้ว E Class มีต่ำแหน่งกว่า CLS Class ครับ
และ S80 ก็ไม่ได้ไปใช้พื้นฐานร่วมกับ S60 นะครับ แต่ S60 หนะไปใช้พื้นฐานร่วมกับ S80 ครับ เข้าใจความหมายนะครับ
และผมก็ยังยืนยังว่า Volvo เป็นพรีเมี่ยมแบนรด์ครับ ดูแค่การเลือกใช้วัสดุ การประกอบก็ต่างกับตลาดแมสอย่างชัดเจนแล้วครับ

*ตามความเข้าใจของผมคือ คือ Mid-size Family ที่คุณกล่าวถึงคือตลาดแมสนะครับ จะได้เข้าใจตรงกันนะครับ

Chariot

  • บุคคลทั่วไป
คำว่า Mid-size Family คืออะไร หมายถึงรถขนาดเท่ากันแต่เน้นครอบครัวไม่เน้นหรูหราเหรอครับ

ผมว่าไม่น่าใช่นะ ตอนนี้เรากำลังคุยปนกันระหว่าง ตำแหน่งทางการตลาด และ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ปัจจุบัน S80 ก็ยังมีตำแหน่งทางการตลาดเทียบเท่ากับ E-Class และ Series 5 นะครับ
เพียงแต่จับตลาดคนละรูปแบบเท่านั้นเอง E-Class มีคุณค่ายึดถือที่ตัวแบรนด์อยู่แล้ว
Series 5 ก็หนีไปลุยเรื่องเทคโนโลยีอัดแน่นเต็มคันเพื่อสมรรถนะและการขับขี่
S80 ไปแนวครอบครัวกว่าก็จริง แต่ความหรูหราและอุปกรณ์ที่ใส่มาก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก

ถ้าเราคุยปนกันระหว่างสองประเด็น พอมองให้กว้างขึ้นก็จะเจอปัญหาอีกครับ
อย่างถ้ามี Mid-size Luxury และ Family แล้วรถอย่าง Camry Hybrid, Teana, Accord อยู่ตรงไหน
สำหรับผม ผมคิดว่ามันสับสนกว่าเดิมครับ

Camry Teana Accord 6 Mondeo Malibu ก็จัดอยู่ในหมวด Mid-size Family เดียวกับ S80 น่ะแหละครับ เพียงแต่ที่โตกับฮอนราคาถูก เพราะมันประกอบใน

ผมแอบหวังว่า ConceptYOU ตัวใหม่ที่ทรงดูเรโทร อาจจะช่วยสร้างคุณค่าให้แบรนด์นี้ได้บ้าง..

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ผมคิดว่า เราไม่สามารถเอา Volvo ไปเทียบกับรถหรูจากเยอรมันได้ เพราะในแง่การตลาดแล้ว Volvo ยังเป็นแค่ Semi-Luxury เท่านั้น (เหมือนกับ Audi/Autounion ก่อนปลายยุค 90 นั่นละ) เพราะรถล่างสุดของแบรนด์ (440/460/S40) ยังอาจไม่ถึงขั้นเรียกว่าเป็น luxury car ได้ และยังไม่มีตัวใหญ่เอาไว้ฟัดกับ S, A8, 7-Series

ดังนั้น Volvo น่าจะเป็นแบรนด์ที่ขายความแปลก ความเฉพาะมากกว่าที่จะเน้นตลาดหลักรถหรูครับ

S80 ในการวางตลาดบางประเทศน่าจะอยู่ใกล้ๆ 5-series แล้วครับ

และการเป็นรถขับหน้า มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรด้วย เพราะหลายๆ ท่านที่ยึดติดกับแบรนด์ Audi อย่าลืมว่า Auto Union หลังสงครามโลก เริ่มต้นจากรถขับหน้า เครื่องวางตามยาว 2 จังหวะครับ เช่น DKW F102, Audi F103 (อันนี้ 4 จังหวะ พัฒนามาจาก F102)

รถพวกนี้ คือบรรพบุรุษของทั้ง 80/A4 และ VW Passat ครับ

รถขับหน้าอย่าง Volvo, Audi หรือแม้แต่ Acura สามารถพัฒนาต่อยอดเป็นรถหรูได้ครับ สิ่งสำคัญไม่ใช่รูปแบบของงานวิศวกรรม สิ่งสำคัญคือวิสัยทัศน์ทางการตลาดครับ

ส่วน Saab แต่เดิมก็ไม่ใช่รถหรู เน้นแปลกครับ แต่พอ GM เอาไป ดันไปฝันว่า มันจะกลายเป็นแบรนด์ยุโรปสุดหรู คู่กับ Mercedes, BMW ได้ แต่มันผิด concept เลยไปไม่รอดครับ

เสริมนิดครับ Skoda Superb ตัวปัจจุบัน ใช้ platform ที่ดัดแปลงมาจาก A5 (PQ35) ของ VW Golf, Scirocco, Audi A3 (และ Skoda Octavia) ครับ ไม่ได้มาจาก Passat ตรงๆ เหมือนโฉมแรก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 03, 2012, 03:41:36 โดย YIM »
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ที่แน่ๆ วอลโว่ S80 สีดำ

สำหรับผมแล้ว มันสวยมากกก
ผมมองว่าวอลโว่ก็เป็นรถระดับพรีเมี่ยมคันนึงเลยนะ

ถ้าพูดกันถึงความเป็นรถล้วนๆ ไม่มองที่ปัจจัยอื่นๆ

วอลโว่ นั่งสบาย หรูหรา ปลอดภัย วัสดุดี เครื่องเสียงยอดเยี่ยม
ถึงแม้การขับขี่จะสู้ไม่ได้ แต่จะมีซักกี่คนที่เค้นสมรรถนะมันออกมาทั้งหมด
มีซักกี่คน ที่เหยียบกันเต็มๆ สาดโค้งกันจนถึงลิมิตจริงๆ ถึงมีก็เป็นคนส่วนน้อย
ผมเชื่อว่าตลาดรถทุกวันนี้ ยังมีความคิดที่ว่า ความนุ่ม = หรู อยู่ดีนั่นล่ะครับ
ซึ่ง วอลโว่ ให้ได้ครบ ถ้าเอารถวัดกับรถจริงๆแล้วล่ะก็ วอลโว่ก็ไม่น้อยหน้าใครหรอกครับ

แต่พอมองด้านอื่นๆเข้ามาเกี่ยวบ้าง
ศูนย์บริการ ประสบการณ์(กรรมเก่าๆ ที่วอลโว่เคยทำไว้) มันไม่อาจลบล้างได้เลยจริงๆ
หลายๆคนคงเจอปัญหากับตัวเก่ามาก แล้วหันไปมองเจ้าอื่นแทน
แทนที่จะดึงลูกค้าเดิมไว้ ลูกค้าเดิมหาย ลูกค้าใหม่ไม่มี
ถึงรถจะดีขนาดไหน ราคารถถูกขนาดไหน แต่รถมันไม่ได้ซื้อครั้งเดียวแล้วจบ
มันต้องดูแล ซ่อม เปลี่ยน ฝากผีฝากไข้
แล้ว ถ้าซื้อมาแล้วซ่อมไม่จบ ไม่สบายใจ จะใช้ทำไม

ออฟไลน์ NineKlao

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,907
  • ชีวิตไม่ได้เป็นดังที่คิด ก็มันคือชีวิตนี่
ถ้า Volvo สามารถ แสดงในคนทราบถึงจุดยืนตนเอง เหมือน Mazda ได้

จะเป็นจุดเปลี่ยน เพราะคนรับรู้แบรนมาสด้าว่า ต้องขับสนุก(Zoom Zoom)

ส่วนVolvo คุณก็มีอยู่แล้ว (ชีวิตปลอดภัยในวอลโว้). แค่เอามาสื่อให้ทุกคนรู้ใหม่เท่านั้นเอง

(มาสด้าเคยอยู่ในจุดเดียวกับ วอลโวในเรื่องศูนย์ ราคาอะไหล่ ราคาขายต่อ คุณภาพรถ)

ออฟไลน์ menglovekai

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • อีเมล์
เพราะอยู่ในประเทศไทย 

ใช้รถญี่ปุ่นเกรดกลางๆ ในราคารถยุโรปตัวท๊อป (ราคาเมืองนอก) ช้ำใจเสมอมา

ผมชอบนะ รถวอลโว่ แต่ถ้าจะให้ซื้อ ยังไม่ซื้อครับ กลัวเรื่องจุกจิกและซ่อมไม่จบ เมื่อได้อายุสัก 5 ปี
อย่าว่าแต่ เบนซ์ หรือ บีเอ็มเลย พอพ้น 5 ปี หรือหมดประกัน  ซ่อมทีมีหนาว อย่าให้ได้รื่อคอนโซลเชียว เละเทะ  :P

รถเกรดนี้ ราคานี้ สวยๆ เจ๋งๆ กว่า volvo มีเยอะ ส่วนใหญ่ก็ไม่น่าจะใช้เกิน 5 ปี ก็เทิร์นเอาคันใหม่แล้ว ล่ะ(คนชอบรถนะ)

สำหรับคนที่คิดจะซื้อใช้จนเกษียนเลยนี่ ต้องรถญี่ปุ่นมีขายในประเทศโลด

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
เริ่มต้นจากราคารถในบ้านเรามันสูงมาก เมื่อเทียบกับค่าครองชีพ
คนส่วนใหญ่ซื้อรถคันหนึ่ง ต้องผ่อนกันนานถึงจะหมด ไหนสมัยนี้รถก็ไม่ได้ทนทานเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผ่อนหมด รถก็เริ่มมีปัญหาต้องซ่อมละ คนก็อยากจะขายแล้ว
ที่กล่าวมา จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รถ ที่ซื้อง่าย ขายคล่อง เป็นที่นิยมกันมากมาย
ซึ่งถ้าเราพูดถึงรถยุโรป คงหนีไม่พ้น Benz ครับ สำหรับ BMW เด่นมากเรื่องเครื่องและช่วงล่างที่นำหน้า ยี้ห้ออื่นๆ และมีจุดขายชัดเจน
แต่สำหรับ volvo ยังเรียกว่าอยู่ตามหลัง 2 เจ้าตลาดรถยุโรปที่กล่าวมา ทั้งเรื่อง เครื่องยนต์ และ การขับขี่ แต่ สิ่งที่ได้คือราคาที่คุ้มกว่า และ รถ size ใหญ่กว่าในราคาที่เท่ากัน
แต่ถ้าย้อนมองในเรื่องราคาขายต่อแล้ว ก็อาจจะทำให้คนส่วนหนึ่งซึ่งมากกว่าครึ่ง มองกลับไปหา 2 ยี้ห้อแรก หรือ มองไปที่ รถญี่ปุ่น ขนาดใหญ่ มากกว่า

ในความคิดผมเอง ถ้า volvo อยากให้กลุ่มคนกลับมามอง และ เลือกมากขึ้น อาจจะต้องขายรถ segment ที่คู่แข่งไม่ขาย หรือ ขายแต่แพง อย่าง V50, V60 ที่มีขายแล้ว และกำลังเปิดตัว
แต่ เครื่องยนต์ ต้องให้ดีกว่าคู่แข่งด้วย อย่าง V50 ถ้าเอาดีเซลมาลง หรือ V60 มีตัวดีเซลให้เลือก ในราคาที่ต่ำกว่าเจ้าตลาด เครื่อง เบนซิน คือจุดหนึ่งที่น่าจะทำให้คนที่ใช้แล้วไม่อยากขายต่อ เพราะ ประหยัด และ ไม่จุกจิกครับ (ที่คิดอาจจะผิดก็ได้นะครับ แค่ share ความคิดนะครับ)
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

dogclubs

  • บุคคลทั่วไป
การออกแบบภายนอกล้วนๆเลย

ออฟไลน์ Preceda2

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 498
    • อีเมล์
คำว่า Mid-size Family คืออะไร หมายถึงรถขนาดเท่ากันแต่เน้นครอบครัวไม่เน้นหรูหราเหรอครับ

ผมว่าไม่น่าใช่นะ ตอนนี้เรากำลังคุยปนกันระหว่าง ตำแหน่งทางการตลาด และ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ปัจจุบัน S80 ก็ยังมีตำแหน่งทางการตลาดเทียบเท่ากับ E-Class และ Series 5 นะครับ
เพียงแต่จับตลาดคนละรูปแบบเท่านั้นเอง E-Class มีคุณค่ายึดถือที่ตัวแบรนด์อยู่แล้ว
Series 5 ก็หนีไปลุยเรื่องเทคโนโลยีอัดแน่นเต็มคันเพื่อสมรรถนะและการขับขี่
S80 ไปแนวครอบครัวกว่าก็จริง แต่ความหรูหราและอุปกรณ์ที่ใส่มาก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก

ถ้าเราคุยปนกันระหว่างสองประเด็น พอมองให้กว้างขึ้นก็จะเจอปัญหาอีกครับ
อย่างถ้ามี Mid-size Luxury และ Family แล้วรถอย่าง Camry Hybrid, Teana, Accord อยู่ตรงไหน
สำหรับผม ผมคิดว่ามันสับสนกว่าเดิมครับ
เห็นด้วยครับ
2009 Volvo S60 D5
2010 Honda CRV 2.0
2011 Subaru Impreza 2.0R MT {R.I.P.}
2014 Harley-Davidson Sportster Iron 883
2015 Honda HR-V

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,547
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ได้ขึเนกับราคาขายอย่างเดียวครับ
ราคาซื้อถูกกว่า แต่ราคาขายแทบไม่เหลือ ค่าใช้จ่ายอาจแพงกว่าหรือพอๆกัน
อีกอย่างไปลองขับยังไงมันก็สู้ BM Benz ไม่ได้อะครับ ตกแต่งก็สู้ไม่ได้เลย
ในเมืองนอกก็เป็นเกรดรองลงมา
ถ้าตลาดดลกขายดี คนนิยมคง ไม่เป็นของจีนเหมือนตอนนี้หรอกครับ
ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
ผมได้ขับ Volvo จริงจังมาแค่รุ่นเดียว คือ S40 2.4
ผมบอกได้เลยนะครับ ว่าคุณภาพการขับขี่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่า BMW 328xi เลย
แต่รถมันทำมาคนละบุคลิกกัน จะเอาไปเทียบความรู้สึกโดยตรงมันคงไม่ได้

ความมั่นใจในการขับขี่ทางไกล การทรงตัวเวลาเข้าโค้ง การควบคุม chassis
แทบไม่ต่างจาก 328xi เลย เพียงแต่ทำออกมาคนละบุคลิก 328xi มาแนว BMW
ต้อง Sport ต้องขับแล้วรู้สึกว่ามัน High-Performance อยู่ตลอดเวลา

ในขณะที่ Volvo ขับทีไรผ่อนคลายเมื่อนั้น เบาะนั่งสบายมาก ไม่รู้จะสบายไปไหน
เครื่องเสียงดีกว่า BMW Business CD เวลาขับแล้วฟังสบายหู เดินทางไกลไกลไม่เครียด
การเก็บเสียงผมคิดว่าดีกว่าด้วย ช่วงล่างก็ซับแรงสะเทือนดีกว่า แต่เวลาเข้าโค้งก็ยังมั่นใจได้
และผมเชื่อว่าถ้าใครได้สัมผัสเบาะของ S80 แล้วจะเข้าใจว่ามันนุ่มสบายขนาดไหน

ถ้าให้เปรียบเปรยกับรถญี่ปุ่น ผมมองว่า S40 ก็อารมณ์ Lancer EX ตอนนี้ นุ่มหนึบแบบกำลังดี
ส่วน 328xi ก็แล้วแต่ครับ จะเทียบกับ Impreza หรือว่ามาสด้า 3 ตัวก่อนที่มีความดิบแข็งในตัว

ออฟไลน์ tony99

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 15
เปิดใจสิครับ..  ;)

ผมใช้มาตั้งแต่ 460 อันนี้ยมรับเลยว่าจุกจิกจริง
แล้วก็มาใช้ 850 N/A ไม่ปรู๊ดปร๊าด แต่ขับทางไกลรู้สึกมั่นใจ สบาย และปลอดภัยมาก
แล้วก็มาใช้ 40 2.0T เฟรดแอนด์จอร์จ มันแรงมาก คล่องตัว นุ่มนวล แต่เสียงเครื่องดังไปหน่อย

2 รุ่นหลังนี่ ไม่เห็นจุกจิกเลยง่า...

ออฟไลน์ chamanow88

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 355
    • อีเมล์
ผมว่าเน้นคำตอบไปเชิงวิชาการไปก็ปวดหัวครับ คนไทยซื้อรถยุโรปแค่ไม่กี่เหตุผลหรอก
1.เอาหรู ไปเิบนซ์ ไม่รู้หรอกว่ามันดียังไงแต่ขับแล้วคนอื่นมองว่ากูหรู
2.เอาตามใจ ไปบีเอ็ม
3.เอาส่วนลด+ของแถมเยอะๆ ที่ไหนให้เยอะก็ไปที่นั่น
4.ขายต่อได้ราคาดี โดยไม่ได้มองว่าซื้อมาแพงกว่าแค่ไหน
อื่นๆ มากมาย

ออฟไลน์ babybigman

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 95
ผมว่าเน้นคำตอบไปเชิงวิชาการไปก็ปวดหัวครับ คนไทยซื้อรถยุโรปแค่ไม่กี่เหตุผลหรอก
1.เอาหรู ไปเิบนซ์ ไม่รู้หรอกว่ามันดียังไงแต่ขับแล้วคนอื่นมองว่ากูหรู
2.เอาตามใจ ไปบีเอ็ม
3.เอาส่วนลด+ของแถมเยอะๆ ที่ไหนให้เยอะก็ไปที่นั่น
4.ขายต่อได้ราคาดี โดยไม่ได้มองว่าซื้อมาแพงกว่าแค่ไหน
อื่นๆ มากมาย

ถูกใจความเห็นนี้มาก
Past History
1995 Honda Civic Sold
1998 Mitsubishi Lancer Sold
2003 BMW 325i Sold
2006 Kia Carnival CEO Sold
2013 E250 CGI Current
2013 Honda CRV 2014 Current
2014 Honda Freed 2014 Current