
แสดงว่าน้องได้สูตรมาแล้วคำนวนเป็นอย่างดีแล้วนิี่ครับ หากเงินเดือนขึ้นอีกปีล่ะ 5-10% หลังหักภาษีแล้วประกันสังคมแล้วน่าจะได้เกินนะครับ 3 ล้านกับเงินเก็บที่ว่านี่ แต่ต้องใช้ชีวิตเต็ม 100% จริงๆ เลยน่ะคือไม่กินไม่เที่ยวไม่บ้าวัตถุ สังคมฟุ้งเฟ้อไม่ต้องมีเหมือนกับวัยรุ่นปัจจุบันนี้ เต็มร้อยเลยมีสิทธิ์ครับ ผมบอกในฐานะตอนนี้อายุเท่าที่คุณบอกมาและเคยคิดเหมือนคุณ เอาชีวิตจริงมาบอกครับ ว่าคุณต้องเต็มร้อยจริงๆเลยกับการเก็บเงินอย่างที่ว่าและหลายกระทู้เขาได้แนะนำมานะ
สิ่งสำคัญที่จะบอกต่อนี่สิ ว่าเงินเฟ้อทุกปี ปีละ 4-5% เมื่อถึง 3 ล้านแล้วรถที่ได้ไม่น่าจะเป็นรถยุโรปครับ อาจะเป็นยุโรปมือสองเสียแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นครับ เมื่อคุณมีรถราคา 3 ล้านแล้วค่าใช้จ่ายในการดูแลต่อเดือนละครับ ไหวเปล่าปัจจุบันนี้หากซื้อรถเงินสดราคา 3 ล้านแบบไม่ผ่อนนะครับ ใช้รถสักเดือนละ 4-5000 โล ค่าดูแลค่ายาง ค่าประกัน ค่าบำรุงรักาา ค่าน้ำมัน ค่า,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ตกราวเดือนละประมาณ ขั้นต่ำ 70,000-120,000 นี่เป็นค่าใช้จ่ายในปัจจุบันประมาณนี้แบบไม่ได้ผ่อนครับ และมีอีกทางคือหากเป็นแบบในปัจจุบันนี้คือ ถอยรถมาแล้วจอดแบบขับน้อยๆ แบบทรมารใจตรงนี้ต่างหากครับว่าคุณเองรับได้หรือเปล่าครับ น้ำมันวิ่ง กม.ละกี่บาทครับ ประกันปีล่ะเท่าไหร่ ยางรถยนต์ละครับ ค่าถ่ายน้ำม้ันเครื่อง ซ่อมแซม ดูแล และยังไม่รวมหน้าตาอีกต่างหากเมื่อขับรถระดับนี้แล้ว ก็ จมไม่ลงล่ะ
ประเด็นสำคัญอยู่ที่เมื่อถึงเวลาแล้วจะเป็นอย่างไรต่างหาก ว่าจะอยู่แบบไหนแล้วรักษามันไว้ได้หรือเปล่า แต่หากใช้ชีวิตเป็นผมเห็นคนที่มีเงินรวมหลักทรัพย์ หลายสิบจนถึงร้อยล้าน ยังใช้ D-segment ค้มรี่ เทียน่า แอคคอร์ด มีเพียง แต่ไม่ใช้ชีวิตแบบ .............รันทด.............หดหู่...............น่าสงสาร..............น่าสมเพศ....................แล้วจะมีคิดว่าชีวิตทำไมลำบากเช่นนี้
มีอีกทางครับ เพราะเงินเดือนผู้จัดการแบงค์เดือนก็ไม่ถึงแสน ทำไงล่ะ คุณต้องเปลี่่ยนงานครับ หรือหารายได้เพิ่มเติมอีกสัก 2-3 เท่าตัวจากนี้รับรองครับ สมศักดิ์ศรี และอยู่ดีแน่นอนครับ แต่สำหรับคนที่มีความฝัน ก็ขอให้สำเร็จนะครับ.....หากเริ่มเปลบี่ยนแปลงเสียแต่วันนี้ครับ เพราะงานที่ทำดีแต่คิดเอาต่อละกันครับ?

??