โชคดีส่วนใหญ่ผมเจอแต่แท๊กซี่ที่ขับค่อนข้างดี แต่บนถนนก็เห็นพวกที่ขับแย่ๆ เยอะเหมือนกัน
ปัญหาแท๊กซี่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ แต่จริงๆแล้ว ผมว่ามันเกี่ยวพันกับเรื่องอื่นๆ เยอะอยู่ครับ
เท่าที่ผมสังเกตนะ คนขับแท๊กซี่ ส่วนใหญ่ก็คือคนจาก ตจว. จากภาคอีสาน ซึ่งจริงๆก่อนนี้ อาชีพหลักคือการเกษตร
แต่ด้วยอะไรก็แล้วแต่ ทั้ง ค่านิยมสมัยใหม่ รายจ่ายที่มากขึ้น หนี้สิน ความฟุ้งเฟ้อ ก็ทำให้ เกษตรกรเลือกที่จะทิ้งอาชีพเดิม เข้ามาเสี่ยงดวงในเมืองกรุง ซึ่งอาชีพนึงที่ทำได้ง่าย รายได้ดีพอควร งานไม่หนัก ไม่ต้องใช้แรงงานมาก ก็คือการขับแท๊กซี่
ใบขับขี่ จะมีหรือไม่มี บางที่ก็ไม่ซีเรียส แค่ทำให้รถเคลื่อนได้ รู้ทางในเมืองครบ ก็ขับได้แล้ว ปริมาณมันเลยเยอะขึ้นเรื่อยๆ
และที่สำคัญคือ ส่วนใหญ่ไม่ได้คิดจะยึดการขับแท๊กซี่เป็นอาชีพหลัก ประกอบกับไม่มีการเข้มงวดเรื่องคุณภาพผู้ขับรถโดยสารสาธารณะด้วย ก็เลยทำให้คนขับแท๊กซี่ส่วนใหญ่ ขับรถแบบดิ้นรน(เพื่อปากท้อง) ทั้งการเลือกผู้โดยสาร ขับเร็ว ขับซอกแซ่ก เบียด แทรก เปิดเลนใหม่ ไม่เปิดไฟเลี้ยว เพราะต้องการทำรอบ
การแก้ไข เลยเป็นไปได้ยาก เพราะคนไทย ความอดทนต่ำ ถ้ามีการบังคับให้ต้องมีการสอบใบขับขี่สารธารณะที่เข้มงวด มีการเก็บชั่วโมงขับรถสาธารณะแบบเมืองนอก ก็ต้องใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายและเวลามาก ถ้ามีการบังคับคุณภาพ สภาพรถแท๊กซี่ ภาระก็จะไปตกกับอู่แท๊กซี่ด้วย คงมีไม่พอใจ ไม่อยากทำ
ซึ่งทั้งหมดนี้พอทำสำเร็จ ค่าบริการรถแท๊กซี่ก็คงต้องขึ้น(เหมือนเมืองนอก) ผู้โดยสารก็คงไม่พอใจ
ทั้งหมด คหสต. นะครับ หุหุ