รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก

Weetting

เอาตัวแค็ปมาบรรทุกรึท่าน  :o

ให้ผมวิเคราะห์แบบประหลาดๆหน่อยไหม

เท่าที่มสังเกต ดีเซลยุคหลังมา  แทบไม่มีค่ายใดที่ประหยัดขึ้นเท่าไหร่เลย  

มังกรทอง กับ All-new D-MAX  สังเกตว่าวิ่งยาวๆไม่กระทืบคันเร่ง มันก็จะประหยัดพอๆกัน

แต่เทคโนโลยีห่างกันหลายขุม   เพราะอะไร ลองเอาเครื่อง AN D-MAX ไปใส่บอดี้มังกรทอง รับรองขับกันได้ แถว 19-20 สบาย เพราะบอดี้หนักน้อยกว่ากันมากโขทีเดียวเชียว  

วกกลับมาค่ายฟอร์ด&แฝดมาสด้า    

เครื่องคอมมอนเรล ตัวก่อน(ที่เอาบล็อคเดิมเป็น 20 ปีมาปรับปรุงใส่รางเข้าไป)  ก็ยังแบกน้ำหนักบอดี้น้อยกว่า ลองกลับกันเอา คอมPuma ไปใส่บอดี้ตัวเดิม

กินน้อยลงแน่ๆ เพราะบอดี้เล็กกว่า   สรุปทั้ง เรนเจอร์เก่า และ ใหม่  มันกินน้ำมันพอๆกัน  (เรนเจอร์ ก่อนคอมตัวไม่มีเทอร์โบก็กินพอกัน)

เห็นไหมว่ามันกินไม่ต่างกันที่ต่างกัน คือ อัตราเร่ง ความเร็วสูงสุด ความเงียบ ความปลอดภัย

ผมว่าแนวทางการสร้างรถ ดูเครื่องแล้วลองเพิ่มน้ำหนักดูว่ากินมากกว่าเดิมไหม  แบกน้ำหนักได้เท่าไหร่จึงกินเท่าเดิม  แล้วค่อยตกแต่รถ  

ส่วนที่คุณ เย็นชาบอก นั้น ว่าทำไมยี่ห้อนี้ขึ้นเขาดี แบบดีไม่ดี คุณมีรถหลายคัน ลองเปิดดูการเดินของท่ออากาศแต่ละค่ายครับ

ค่อยๆไล่ไป ว่าทำไม  ความยาวขนาด เทอร์โบ  แล้วจะรู้ว่าทำไม โก้แรงบิดมารอบต่ำมาก และหมดไวมาก  และทำไม ISuzu แรงม้า แรงบิด เครื่องถึง

ยังด้อยกว่าชาวบ้านเขา  ทำไม นาวาร่า ฟอร์ด มิตซู เร่งรอบแล้วสนุกคล้ายเบนซิน จุดประสงค์มันต่างกันครับ

ท่านต้องลองดูแล้วชม ตั้งสมมุติฐานเอาเอง  

แล้วก็เหมือนที่หลายท่านว่าไว้  ท่านเอาเครื่องเล็กมาลากของหนักมันไม่ประหยัดกว่าเครื่องใหญ่ลากของหนักหรอกครับ  อันนี้คนเล่นรถก็รู้กันอยู่แล้ว





THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day



redsun

อันนี้ผู้บริโภคควรรู้ด้วยว่าเอามาทำอะไร ใช้อะไร?

ปล.ถ้าตัวTEST DRIVE มีให้ลอง LOAD น้ำหนักสัก 1-2ตันน่าจะเห็นชัดก่อนซื้อ (คงไม่มีใครทำ)



NgoH

รถบรรทุกของสำคัญที่แรงบิท แรงบิทมากก็ลากจูงได้มาก



wut get real

ท่าน จขกท บอกรายละเอียดไม่ชัดเจนนะครับ ยี่ห้อ รุ่น ไหนอะไร  ::)
รุ่นมีแค๊ปก็บรรทุกเพื่อการพานิชย์ได้นะครับไม่แปลกนะ
Accord  G9
Prius
Hilux Revo



banch

ผมวิ่งตัวเปล่ายังไม่ประหยัดเลยครับ 2.2 DBL Hi AT ;D




BestHuafoo

ผมว่า จขกท. ต้องกลับมาตอบให้เคลียร์อีกครั้งครับ

เรื่องถังน้ำมัน วีโก้ 76 ลิตร ฟอร์ด 80 ลิตร เติมกลับคงไม่ต่างกันมาก

แต่ที่แน่ๆ สำหรับผมแล้ว น้ำหนักรถเปล่า วีโก้รุ่น2.5 Cab อยู่แถวๆ 1540-1560
ในขณะที่ BT กับ Ranger แคป น้ำหนักรถไม่เปิดเผยในเวป แตพอจำในโบชัวร์ได้ว่าแถวๆ
1600-1700 กิโล ซึ่งเดิมก็หนักอยู่แล้ว พอบรรทุกด้วยยิ่งเป็นภาระเข้าไปอีก

ผมเชื่อแบบนั้นนะ



diefun

ขอบคุณ ที่เอาประสบการณ์ที่ใช้งานจริงมาเล่าให้ฟังครับ

จะเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล



NINENOI

แล้วจะทำ 2.2 มาทำไมหนอ ไม่ทำ 2.5 กับ 3.0 เหมือนเดินหน่ะดีแล้ว
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น



Panda_GuY

เครื่อง 3.0 cc น่าจะดีกว่านะครับ แบกหนักขึ้นเขาบ่อยด้วย



boykung

ที่บริษัทมี isuzu dragon eye กับ isuzu super platinum

จับบรรทุกเท่ากัน ของที่ใช้บรรทุกภายในเหมือนกัน หนัก1.5ตัน ตัวรถตีตู้หลังคาเหล็กสูง วัดจากพื้นได้ระยะ 2.8เมตร ถูกต้องตามกฏหมาย

วิ่งระยะทางเดียวกัน เส้นทางเดียวกัน คนขับคนเดียวกันคือผม ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 90กิโล/ชั่วโมง

สรุปได้ว่า dragon eye ประหยัดกว่าที่ 14โล+/ลิตร
ส่วน super platinum ได้ที่10โลนิดๆๆ/ลิตร

ทำให้เกิดความสงสัยว่า รถรุ่นใหม่ โอเคใหญ่ขึ้น หนักขึ้น แต่เครื่องก็ดีขึ้น ใหม่ขึ้น ม้ามากขึ้น บิดมากขึ้น ตัวเลขความประหยัดน่าจะได้พอๆกับตัวเก่าที่ ตัวรถเบากว่า แต่เครื่องก็รุ่นเก่า แรงม้าก็น้อยยังกะecocar แรงบิดก็น้อย แต่บรรทุกหนักเท่ากัน ไม่น่าจะความประหยัดต่างกันขนาดนี้นะ
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016



Nyquist

รถขนของเค้าก็ใช้เครื่อง 2.5 กันทั้งนั้นแหละ (3.0 มีน้อย)
ที่บ้านผมก็ใช้เครื่อง 2.5 ทุกของตันกว่าๆ
ถ้าไม่เชื่อ ว่างๆก็ลองไปเดินๆดูพวกรถกะบะที่ใช้ขนของดูคับ ไม่ค่อยมี 3.0 หรอก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2012, 13:45:00 โดย Nyquist »



massyy

ขอตอบรวมๆเลยล่ะกันน่ะคับ ปกติแถวเหนือใช้ตัวแคปบรรทุกน่ะคับ มีส่วนน้อยน่ะคับที่ไม่ใช่แคป เพราะอะไรมีโอกาสคุณลองไปถามดูน่ะคับ
ส่วนเรื่องถังน้ำมันที่ใหญกว่ากันน่ะคับ ถ้ามัรไฟโชวให้เติมตอนเติมมันจะพอๆกันส่วนมากผมใช้วิธีเติมเต็มทุกคั้งแล้วมาหารค่าใช้จ่าย
เน้นน่ะคับ คับผมเอามาบรรทุกน่ะคับ



Devil13

ผมใช้รถเพื่อขนสินค้าการเกษตรส่งเส้นทาง น่าน - เชียงใหม่ เป็นภูเขาส่วนมาก
ที่ใช้วิ่งอยู่มี isuzu ปี 08 กับ 09 สองคันนี้กับ triton ตัว ล่าง 2.5 หมดทุกตัว
พอเห็นโฆษณารถรุ่นใหม่ เครื่องเล้ก2.2  แต่แีรงเยอะ เกียเยอะ ประหยัดน้ำมัน เลยถอยมา1คัน
เส้นทางประจำคือ ไปกลับ น่าน เชียงใหม่ ระยะทางไปกลับประมาน 600โล บรรทุกประมาน1-1.5ตัน
ขากลับเด็กโทรมาบอกขอเติมน้ำมันเพิ่มน่ะคับ ก็คิดว่ารถใหม่เด็กคงเหยียบเล่น
ทั้งๆที่ ตัวเก่าๆ เติมไปที่ล่ะ 1ุึึ700(ที่น่านนำ้มันแพงกว่า กทม)   แต่ตัว 2.2 ซัดไป2000ถึงจะพอ วันไหนบรรทุกมากหน่อยก็ไม่พอ
จนช่วงหลัง มีโอกาสก็ต้องวิ่งส่งทีสองคันเลยลองให้วิ่งไปพร้อมๆวิ่งไวเท่าๆกัน ก็ยังเหมือนเดิม ลองสลับคนขับก็ยังเหมือนเดิม
สรุปแล้ว เครื่อง 2.2 ไม่ประหยัดตาม cc ที่เล้กลงเลย
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาทันทีเลย T T ผิดหวังมาก
แล้วแบบนี้รถเก๋ง ecoboot จะเหมือนกันมั้ยคับเครื่องเล้กแรงแต่กินน้ำมัน 
แบบนี้ไม่ผลิดเครื่องใหญ่ๆไปเลยล่ะคับจะได้มีแรงบิดเยอะๆ ไม่ต้องหวังพึ่งเทอโบมากกลัวอีกหน่อยต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากกว่าเดิมอีก

แน่ใจนะไม่มาดิสเคดิต Ford ตอนเดียวยังไม่มีขายเลย ทั่นเอามาขนของได้อย่างไร

คนที่เค้าซื้อมาใช้บรรทุก ใช่ว่าจะต้องซื้อตอนเดียวเสมอไป
เพราะพวกรถลาก-ส่งของแถวบ้านผมเป็น Cab ทั้งนั้นเลยครับ ;)



mavin36

ผมใช้รถเพื่อขนสินค้าการเกษตรส่งเส้นทาง น่าน - เชียงใหม่ เป็นภูเขาส่วนมาก
ที่ใช้วิ่งอยู่มี isuzu ปี 08 กับ 09 สองคันนี้กับ triton ตัว ล่าง 2.5 หมดทุกตัว
พอเห็นโฆษณารถรุ่นใหม่ เครื่องเล้ก2.2  แต่แีรงเยอะ เกียเยอะ ประหยัดน้ำมัน เลยถอยมา1คัน
เส้นทางประจำคือ ไปกลับ น่าน เชียงใหม่ ระยะทางไปกลับประมาน 600โล บรรทุกประมาน1-1.5ตัน
ขากลับเด็กโทรมาบอกขอเติมน้ำมันเพิ่มน่ะคับ ก็คิดว่ารถใหม่เด็กคงเหยียบเล่น
ทั้งๆที่ ตัวเก่าๆ เติมไปที่ล่ะ 1ุึึ700(ที่น่านนำ้มันแพงกว่า กทม)   แต่ตัว 2.2 ซัดไป2000ถึงจะพอ วันไหนบรรทุกมากหน่อยก็ไม่พอ
จนช่วงหลัง มีโอกาสก็ต้องวิ่งส่งทีสองคันเลยลองให้วิ่งไปพร้อมๆวิ่งไวเท่าๆกัน ก็ยังเหมือนเดิม ลองสลับคนขับก็ยังเหมือนเดิม
สรุปแล้ว เครื่อง 2.2 ไม่ประหยัดตาม cc ที่เล้กลงเลย
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาทันทีเลย T T ผิดหวังมาก
แล้วแบบนี้รถเก๋ง ecoboot จะเหมือนกันมั้ยคับเครื่องเล้กแรงแต่กินน้ำมัน 
แบบนี้ไม่ผลิดเครื่องใหญ่ๆไปเลยล่ะคับจะได้มีแรงบิดเยอะๆ ไม่ต้องหวังพึ่งเทอโบมากกลัวอีกหน่อยต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากกว่าเดิมอีก

แน่ใจนะไม่มาดิสเคดิต Ford ตอนเดียวยังไม่มีขายเลย ทั่นเอามาขนของได้อย่างไร
ตอนเดียวมีนานแล้วครับ ที่สัตหีบ



promt

รถกระบะที่ผมเคยใช้ สรุปความประหยัดคร่าวได้ดังนี้

อีผุ รุ่น มังกรทอง สุดยอดประหยัด แต่เสียงเครื่องยนต์จะดังไปไหน

โตต้า รุ่น ไมตี้เอ็กซ์ รุ่นสูบน้ำมัน (เกินกว่าซด) วิ่งเกิน 130 ท้ายปลิว มีเสียวตูด

โตต้า รุ่น เหาะข้ามรถไฟ 3.0 L ประหยัดลงหน่อย วิ่งเกิน 140 สบาย หนึบ

โตต้า รุ่น เหาะข้ามรถไฟ - common rail ประหยัดที่สุด ตั้งแต่เคยขับมาของโตต้า

หลังจากนั้นก็ ขับเก๋งอย่างเดียว



Fly to dream

ภาษีถูกกว่าแน่ๆ  ;) ;) ;)
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



Nioka

ขอตอบในส่วนของรถแคปนะครับ

แถวบ้านผมตอนนี้เทรน แคปขนของก็มากกว่าแต่ก่อนแล้วครับ

ทำกรงเหล็กไปไว้บนหัวเก๋ง และสามารถบรรทุกได้เท่าๆกับตอนเดียว (ประมาณ 3.5-5 ตันแล้วแต่ความบ้าของคนขับ)

ทำไมถึงเปลี่ยนมาเป็นแคป เพราะความสบายกว่าครับ ตอนนี้ก็อายุเริ่มจะเยอะพุงเริ่มออกมีเงินมากขึ้น ตอนเดียวมันอึดอัดครับ

แถวบ้านผม อันดับ1 ยังเป็น nissan ครับ vigo triton d-max เห็นอยางละคัน แต่ nissan เห็นเยอะหน่อย มีทั้งเก่าและนาวาร่า

ส่วนเรื่อง 2.2 กินน้ำมันมากกว่า ผมว่า เพราะ นนตัวรถครับ เป็นผมของมองเจ้าตลาดละครับถ้าขนแค่ 1.5 ตัน

เพราะ น้ำมัน1 ถังวิ่งได้ 1,000กม แน่ๆ เพราะตัว 3.0 v-cross 1 ถังมีเหยีบบางประหยัดบางยังวิ่งได้ 800 ปลายๆเลย

เชื่อว่าตัว 2.5 ได้เกิน 1,000 แน่ๆ กลับไปเล่นเจ้าตลาดน่าจะโอกว่าเยอะเลยครั บ



z4kas

กระทู้มาตอนจะซื้อรุ่นนี้พอดีเลย - -*

เอาเรื่องคุณจิมมี่ก่อน
- ผมเห็นคุณจิมมี่เขาเตือนนะครับ และใส่รายละเอียดมาว่า มันวิ่งได้เท่านั้นเท่านี้
ก็ไม่เห็นมีประโยคไหนที่แย้งว่ามันประหยัดนะ ถ้าอ่านดี ๆ ก็คือ มันก็เปลืองนะแหละ - -"

- ส่วนเรื่องแคป ตามนั้นครับ
ขนของสมัยนี้ ไม่ได้มองแต่ตัวถูกตอนเดียวอย่างเดียวแล้ว
แบบแคปมันให้ประโยชน์ที่หลากหลาย และสบายกว่า ในธุรกิจขนาดเล็ก ค่อนไปกลาง
แต่ถ้าขนาดใหญ่ หรือต้องขนมาก ๆ บ่อย ๆ จริง ๆ ก็เห็นเป็นตอนเดียวหมดนะ

- ส่วนเรื่อง ซีซี น้อย เอาไปแบกของ ......ผมกำลังจะเป็นหนูรายต่อไป - -*

แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังครับ หลังจากได้รถ และบรรทุกแล้วนะครับ



tg

ผมว่าเรื่องเครื่องยนต์ยังไงFordหรือมาสด้า ก็จะกินน้ำมันมากกว่าเจ้าตลาดอยู่แล้วถึงซีซีจะน้อยกว่าก็ตาม แต่ในเรื่องของความแรงของรถอาจจะได้รถที่แรงกว่าเจ้าตลาดก็เป็นได้



GreenG

กระบะใหม่จากการสังเกตดู  ออกตัวเกียร์ 1 เท่านั้นด้วยครับ ;)



joeyote

ขอตอบในส่วนของรถแคปนะครับ

แถวบ้านผมตอนนี้เทรน แคปขนของก็มากกว่าแต่ก่อนแล้วครับ

ทำกรงเหล็กไปไว้บนหัวเก๋ง และสามารถบรรทุกได้เท่าๆกับตอนเดียว (ประมาณ 3.5-5 ตันแล้วแต่ความบ้าของคนขับ)

ทำไมถึงเปลี่ยนมาเป็นแคป เพราะความสบายกว่าครับ ตอนนี้ก็อายุเริ่มจะเยอะพุงเริ่มออกมีเงินมากขึ้น ตอนเดียวมันอึดอัดครับ

แถวบ้านผม อันดับ1 ยังเป็น nissan ครับ vigo triton d-max เห็นอยางละคัน แต่ nissan เห็นเยอะหน่อย มีทั้งเก่าและนาวาร่า

ส่วนเรื่อง 2.2 กินน้ำมันมากกว่า ผมว่า เพราะ นนตัวรถครับ เป็นผมของมองเจ้าตลาดละครับถ้าขนแค่ 1.5 ตัน

เพราะ น้ำมัน1 ถังวิ่งได้ 1,000กม แน่ๆ เพราะตัว 3.0 v-cross 1 ถังมีเหยีบบางประหยัดบางยังวิ่งได้ 800 ปลายๆเลย

เชื่อว่าตัว 2.5 ได้เกิน 1,000 แน่ๆ กลับไปเล่นเจ้าตลาดน่าจะโอกว่าเยอะเลยครั บ

คริคริ ใช้ 2.5 VGS HR 4Dr ถังนึง ทะลุ 1000 โลจริงๆครับบ ประมาณ  1100-1200 วิ่ง 110 สบายๆ
เห็นแบบนี้ ไล่บี้พวก รถตู้บ้าพลัง กระจุยกระจาย
PAST: 2009 HONDA CITY SV
          2007 MINI ONE
          2007 PEUGEOT 207
          2013 HONDA ACCORD 2.0EL G9
          2016 MAZDA 2 Skyactiv XD High Plus L
NOW:  2012 ISUZU D-MAX Hilander 4DR Z/P
          2017 Subaru XV 2.0i-P



Tan Int


เรื่องนี้ก็ไม่ค่อยต่างจาก Vigo น้าผมเท่าไหร่ครับ
คือแม่ผมขับไปคืนน้า ผมเลยวัดอัตราสิ้นเปลือง(รุ่นที่ใช้คือ 2.5E PS 102 แรงม้าครับ)

ได้ 8.33 กม/ลิตรครับ(ถึงจะคลาดเคลื่อนก็น่าจะอยู่แถวๆ 8-11 km/l ครับ)
อาจเพราะเครื่องเล็กเกินไปสำหรับน้ำหนักที่มันจะต้องขับเคลื่อน

ลองเทียบกับคนดูเลยครับ ระหว่างคนตัวโต กับตัวเล็ก ให้ลากอะไรก็ได้หนักๆ ไปสัก 100 เมตร
คนตัวเล็ก ก็เปรียบเหมือนเครื่องยนต์เล็กๆ คือก็ลากไปได้นะ แต่สูญเสียพลังงานเยอะกว่าคนตัวโต  จึงบริโภคกลับเข้าไปมาก :)
1994 Civic EH9 (4dr) VTi (Made in Japan)
1998 Civic EK 1.6VTi-E Special Edition
2011 Corolla Altis E CNG (Come back)



archian

ถ้ามันมากมาย ....   ขายเลยครับ!!!



MandM

ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ไม่เห็นจะเป็นการดิสเครดิตตรงไหน

เจ้าของกระทู้ เองได้ทดสอบแล้ว ว่าวิ่งตามกัน และ เปลี่ยนคนขับ แล้ว ฟอร์ดก็ยังกินน้ำมันมากกว่าซึ่งก็ชัดเจนแล้ว

การขับรถสองคันไปด้วยกัน คันนึงเติมมากกว่า ก็แสดงว่ากินกว่า ชัดเจนนะครับ

มันคนละกรณีกับขนาดถังน้ำมัน ที่เติม 70 ลิตร 80 ลิตร เด็กต้องโทรขอเติมเพิ่ม ส่วนต่างอันนั้นเข้าใจเป็นปกติ ถังใหญ่ขึ้นเติมมากขึ้น

ส่วนการขับ เจ้าของกระทู้ก็แจ้งแล้วว่า บรรทุกหนัก 1-1.5 ตัน ขึ้นเขาตลอด  เครื่องเล็กกว่าจะต้องเค้นมากกว่าเครื่องใหญ่ ผมว่ามันก็ปกติ

ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจ  "การเอาประสบการณ์ตรงมาเล่าให้ฟังจากการใช้จริง โดยที่ไม่ตรงกับคุณจิมมี่ มันเป็นความผิดหรืออย่างไรครับ"

ก็เค้าใช้แล้วมัน ไ่ม่ประหยัด มันก็เท่านั้น คนอื่นจะใช้แล้วเป็นยังไง ก็ไม่แปลก เพราะการใช้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

แต่ถ้ามี คนที่ใช้งานแบบเจ้าของกระทู้ เข้ามาคุยแบบนี้ อีกซัก 2-3 คน ว่าเครื่อง2.2 ไม่ประหยัดเวลาขนของ  จะเชื่อได้ไหมครับ

หรือจะบอกว่า ที่พูดมา 3-4 คน ขับรถผิด  ???



วิเคราะห์เจาะลึกอย่างมีเหตุผล
ตัวตอนเดียว ตัวแคบ ตัวยกสูง ตัว4ประตู การกินน้ำมันแตกต่างกันไปตามสเต็บ
นิทั่น จขกท. ทั่นเอาตัวไหนมาขนของให้ลูกน้องขับ คิดว่าตอนเดียวคงจะประหยัดที่สุด แต่ยังไมมีขายเลย
หรือทั่นจะเอาตัวแค็บ มาทำพานิชย์ ก็สมควรหละเตรียมเจ๊งเลย

แต่ถ้าทั่นใช้ส่วนตัวจะเชื่อ นี่ถึงกับมีลูกน้องไม่ใช่แล้ว ก็แค่นั้น

มีหลายบริษัทที่เขาใช้แค็บเชิงพานิชย์ นะครับบ




Chris Evn

ผมใช้รถเพื่อขนสินค้าการเกษตรส่งเส้นทาง น่าน - เชียงใหม่ เป็นภูเขาส่วนมาก
ที่ใช้วิ่งอยู่มี isuzu ปี 08 กับ 09 สองคันนี้กับ triton ตัว ล่าง 2.5 หมดทุกตัว
พอเห็นโฆษณารถรุ่นใหม่ เครื่องเล้ก2.2  แต่แีรงเยอะ เกียเยอะ ประหยัดน้ำมัน เลยถอยมา1คัน
เส้นทางประจำคือ ไปกลับ น่าน เชียงใหม่ ระยะทางไปกลับประมาน 600โล บรรทุกประมาน1-1.5ตัน
ขากลับเด็กโทรมาบอกขอเติมน้ำมันเพิ่มน่ะคับ ก็คิดว่ารถใหม่เด็กคงเหยียบเล่น
ทั้งๆที่ ตัวเก่าๆ เติมไปที่ล่ะ 1ุึึ700(ที่น่านนำ้มันแพงกว่า กทม)   แต่ตัว 2.2 ซัดไป2000ถึงจะพอ วันไหนบรรทุกมากหน่อยก็ไม่พอ
จนช่วงหลัง มีโอกาสก็ต้องวิ่งส่งทีสองคันเลยลองให้วิ่งไปพร้อมๆวิ่งไวเท่าๆกัน ก็ยังเหมือนเดิม ลองสลับคนขับก็ยังเหมือนเดิม
สรุปแล้ว เครื่อง 2.2 ไม่ประหยัดตาม cc ที่เล้กลงเลย
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาทันทีเลย T T ผิดหวังมาก
แล้วแบบนี้รถเก๋ง ecoboot จะเหมือนกันมั้ยคับเครื่องเล้กแรงแต่กินน้ำมัน 
แบบนี้ไม่ผลิดเครื่องใหญ่ๆไปเลยล่ะคับจะได้มีแรงบิดเยอะๆ ไม่ต้องหวังพึ่งเทอโบมากกลัวอีกหน่อยต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากกว่าเดิมอีก

แน่ใจนะไม่มาดิสเคดิต Ford ตอนเดียวยังไม่มีขายเลย ทั่นเอามาขนของได้อย่างไร

ยังไม่เห็นคำว่า ตอนเดียว เลย คุณคิดไปเอง



นครอัญมณี

ISUZU เครื่อง  3,000 ปี 08-09
มี 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ มีแรงบิด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที

Triton เครื่อง 2,500 ตัวล่าง (ตัวแรก) 
มี 116 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ มีแรงบิด 247 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที

Ford เครื่อง  2,200 ล่าสุด
มี 150 แรงม้า ที่ 3,700 รอบ มีแรงบิด 375 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที

TATA เครื่อง 2,200 ล่าสุด
มี 140 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ มีแรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-2,700 รอบต่อนาที


ดูจาก สเป็คข้างบนแล้ว พอคาดเดาได้
จากการวิ่งในลักษณะ ตัวรถเปล่า ว่า...ใครจะออกตัว หรือ เร่งแซงดีกว่ากัน

แต่..
ก็ไม่เสมอไปทั้งหมด เพราะ ต้องดูด้วยว่า แรงบิด แรงม้า นั้น จะหมดไปที่รอบเท่าใด

อีกทั้ง
ต้องคำนวณ อีกหลายปัจจัย เช่น น้ำหนักบรรทุกรวม , อัตราทดเกียร์ ,ฯลฯ ด้วย อย่าดูแต่ แรงม้า แรงบิดอย่างเดียว ว่าใครมากจะชนะเสมอไป

ไม่เช่นนั้น....
รถกระบะที่มีขายอยู่ในท้องตลาดทุกวันนี้ ไม่มีทางวิ่งชนะรถทัวร์ หรือ รถ 10 ล้อได้แน่ๆ
เพราะ รถบรรทุกเหล่านั้น มีแรงม้ามากมาย มีแรงบิดมหาศาล กว่ารถกระบะที่กล่าวมา ทั้งนั้น
ที่เขาวิ่งได้ช้า เพราะ น้ำหนักตัวเขาเยอะ เกียร์มีมากกว่า 10 เกียร์ อัตราทดสั้นๆทั้งนั้น


และที่สำคัญที่สุด
ทางโรงงาน เขาไม่เคยบอกว่า ขณะที่ใช้กำลังเครื่องสูงสุด (เหยียบคันเร่งมิดด้าม)
รถแต่ละคันนั้น จะซดกินน้ำมัน โฮกฮาก ในปริมาณเท่าใด ในขณะช่วงเหยียบคันเร่งมิดด้ามนั้นๆ
ส่วนมาก ก็แจ้งเฉพาะค่าเฉลี่ย ตอนวิ่งด้วยความเร็วคงที่ ไม่ได้บรรทุกสิ่งของอะไร แทบทั้งสิ้น

ดังนั้น
ถ้าต้องเหยียบคันเร่งเยอะๆ ตอนแบกของบรรทุก ขึ้นเขา ยาวๆ
จะไปยึดถือเอาตัวเลขการกินน้ำมัน ตอนวิ่งทางเรียบ ไม่ได้บรรทุกสิ่งของ มาเปรียบเทียบไม่ได้เลยสักกะนิด


คุณจะรู้ซึ้ง ก็ต่อเมื่อ ได้ใช้งานไปสักเดือน
หลังจากนั้น ก็จะบอกต่อ แนวปากต่อปาก คีย์บอร์ดต่อคีย์บอร์ด ให้เป็นชื่อเสียงของรถรุ่นนั้นต่อไป


หลักสัจธรรม ที่พระสอน
ค่อยๆพิจารณา ด้วยตนเอง จากลักษณะการใช้งานที่ตนเองปฏิบัติอยู่ อย่าเพียงแค่ฟังโฆษณา แล้วเชื่อเลย

ข้อสังเกตุ
ISUZU KB เครื่อง 2,200 รุ่น 20 กว่าปีที่แล้ว มี 73 แรงม้า ก็วิ่งกินน้ำมันก็ประมาณ 14 - 15 กม/ ลิตร มีความเร็วสูงสุด140-150 เหมือนกันนะ (ตอนเป็นรถใหม่)
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด



6162002

ต้องเข้าใจ ตัวเลขที่ได้มาจาก เทอร์โบ และ มาจากเครื่องล้วนๆด้วยนะครับ
ขับขึ้นเขา หรือบรรทุกหนักๆ ยังไงๆเครื่องใหญ่ก็ทำได้ดีกว่าครับ เพราะเทอร์โบมันทำงานได้ไม่เต็มที่ *-*

เพราะงั้นผมเชื่อครับว่าเครื่อง 2.2 ตัวนี้ ถ้าโหลดหนักๆ ไม่ว่าจะขึ้นเขา หรือบรรทุกหนัก สู้เครื่องที่ใหญ่กว่ายากแน่นอนครับ ไว้รถเปล่าค่อยว่ากัน *-*



Pat007

ขอออกความเห็นหน่อยครับ

ถ้าอยากให้ประหยัดก็แนะนำให้หาลูกมาพ่วง รถแรงบิดมาก ลากได้ จะประหยัดกว่ามากมาย  ;)
หรือ ให้กล่องจูน แนะนำลดม้าลง และการตอบสนองให้ช้าลง ก็คงประหยัด  ;D
*ทำรถแรงขึ้น แล้วขับแบบเดิม รถแรงก็กินกว่าอยู่แล้ว

คิดง่ายๆ เลี้ยงม้ามาก ต้องกินเยอะ 150 ตัว กับ 116 ตัว จะให้กินเท่ากันเป็นไปไม่ได้ 
ถ้าแบบเก่าทำใด้ดีอยู่ แล้วและไม่คิดจะพ่วง การเปลี่ยนรถที่มีแรงม้าเพิ่ม และ แรงบิดที่มากว่าก็กินกว่าครับ

 ::)ม้ามากแรงบิดมากจะให้ขับแบบเดิมคงทำได้อยาก ถ้าไม่ใช่เจ้าของขับเอง

 :oประหยัดมากมาย CNG  ครับ แต่อาจจอดมากกว่าวิ่ง ทำรอบไม่ดี เสียเวลาเติ่มgas.



NgoH

ขอออกความเห็นหน่อยครับ

ถ้าอยากให้ประหยัดก็แนะนำให้หาลูกมาพ่วง รถแรงบิดมาก ลากได้ จะประหยัดกว่ามากมาย  ;)
หรือ ให้กล่องจูน แนะนำลดม้าลง และการตอบสนองให้ช้าลง ก็คงประหยัด  ;D
*ทำรถแรงขึ้น แล้วขับแบบเดิม รถแรงก็กินกว่าอยู่แล้ว

คิดง่ายๆ เลี้ยงม้ามาก ต้องกินเยอะ 150 ตัว กับ 116 ตัว จะให้กินเท่ากันเป็นไปไม่ได้ 
ถ้าแบบเก่าทำใด้ดีอยู่ แล้วและไม่คิดจะพ่วง การเปลี่ยนรถที่มีแรงม้าเพิ่ม และ แรงบิดที่มากว่าก็กินกว่าครับ

 ::)ม้ามากแรงบิดมากจะให้ขับแบบเดิมคงทำได้อยาก ถ้าไม่ใช่เจ้าของขับเอง

 :oประหยัดมากมาย CNG  ครับ แต่อาจจอดมากกว่าวิ่ง ทำรอบไม่ดี เสียเวลาเติ่มgas.


ตอบดีครับ ;D เข้าใจง่ายดี ;D
ใช่ครับมีม้าหลายตัวย่อมกินเยอะกว่าม้าน้อยตัว อันนี้เรื่องจริง
รถที่มีแรงม้ามากแรงบิทมาก มันทำได้รถขับสนุกขึ้น นี่ไงคือสาเหตุหนึงทำให้เราต้องเร่งแซงเบรคบ่อย
ส่วนที่มีแรงบิทแรงม้าน้อย ทำให้ความสนุกมันลดลง จะแซงซ้ายทีขวาทีลำบาก ต้องขับแบบระมัดระวัง

มันเป็นธรรมชาติคนขับรถต้องปรับตัวกับรถที่ว่ามาโดยอัตโนมัติ




SiGSaG

ผมไม่ได้ เยินยอ อะไรนะครับ

แต่รถเพื่อการพานิชเนี่ยย  ยังไง ก็ Isuzu ครับ

ทนกว่า ประหยัดกว่า
เห็นด้วย
คุ้มจริงๆ ยืนยันเชิงพาณิชย์ isuzu ถึงจะมีบางจุดที่ด้วยกว่ายี่ห้ออื่น  แต่ภาพรวมๆแล้วก็ยังเหนือกว่าศูนย์บริการ อะไหล่ ความประหยัด ความทนทาน ราคาขายต่อคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สำหรับการพาณิชย์มากที่สุดจริงๆ ถึงมีชื่อเสียงมาได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นหลักประกันได้ถึงความคุ้มค่า ...