ผู้เขียน หัวข้อ: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว  (อ่าน 84215 ครั้ง)

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
หลังจากกระแสตอบรับรีวิวพรีอุส ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
(อาจเป็นเพราะ โดนรถยุโรป 2 กระทู้ จับทำแซนด์วิซ 5555+ แถมไม่ได้เอาไปโปรโมทหน้าหลักอีก)
ถึงกระนั้น ผมก็ยังไม่เข็ด เลยขอเอาอดีตรถที่เคยใช้งานเป็นประจำจับมารีวิวซะเลย แฮ่!!  :P





เหตุที่ได้รถคันนี้มา เมื่อปี 2548 ผมจบม.ปลายและมีอายุ 18 ปี ก็ถึงเวลาที่จะหัดขับรถ
พอสอบขับรถผ่านได้ใบขับขี่เป็นเรื่องเป็นราว แม่ก็เล็งเห็นว่า
น่าจะมีรถคันที่สอง เพราะแกอึดอัดมานานมากว่า จะไปธุระที่ไหนต้องใช้แท็กซี่ รถเมล์
เนื่องจากคันโคโรลล่าตูดเป็ดพ่อใช้เป็นประจำ  โจทย์รถคันนี้ต้องเป็นรถขนาดกะทัดรัด
ขับง่าย ประหยัดน้ำมัน มีภายในกว้างขวาง
ก็เลยมาสะดุดที่แจ็ส และตัดสินใจจองในที่สุด
ต่อมาก็ได้มาอยู่ในมือ เมื่อครั้งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปี 1
เป็นทั้งรถประจำตัว และรถใช้ในธุระต่างๆ โดยต้องบริการเจ้าของรถ(แม่) ในทุกกรณี


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2012, 21:32:11 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 19:58:38 »



จุดเริ่มต้องของHonda Jazz นั้น วิศวกรฮอนด้าญี่ปุ่นได้มีการริเริ่มออกไอเดีย
รถขนาดเล็กแบบ Small Global Platform ภายใต้แนวคิด Man maximum, machine minimum.
ว่าง่ายๆ ก็คือรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีภายในกว้างขวาง อเนกประสงค์ในทุกด้าน
ในปี 2001 มีการเปิดตัว Honda FIT ในประเทศญี่ปุ่น ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก
ทำให้ยอดจองถล่มและยอดขายทลายถึงขั้นล้มแชมป์ 28*ปีซ้อนอย่าง Toyota Corolla ได้อย่างราบคาบ

(หรือ 33 ปี อันนี้ไม่ค่อยชัวร์เท่าไหร่)


ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:00:30 »


หลังจากฮอนด้าประเทศไทย ล้มเหลวจากการปล่อย Honda City ที่มีรูปทรงเหมือน แมงสาบยักษ์
ออกมา ทำให้คะแนนนิยมเทไปวีออส บวกกับกระแสอินเตอร์เน็ตที่เห็นรูปทรง Honda Fit
ในต่างประเทศค่อนข้างแรงมากๆ ฮอนด้าจึงแก้เกมด้วยเปิดตัว  Honda Jazz
ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปี 2546 และก็ได้ยอดจองไปมากถึงหลายพันคันในงาน



ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:02:50 »
ต่อมาในปี 2547 จึงขยายไลน์ VTEC 110แรงม้า  แต่ด้วยรุ่นเกียร์อัตโนมัติราคาเริ่มต้นที่ 6 แสนกว่า
เลยตัดออกจากตัวเลือกทิ้งไป





ภายนอกของรุ่น i-DSI จริงๆแทบจะเรียกว่าโล้นทั้งคัน ตัวรถออกแบบมาในเส้นโค้งเป็นหลัก
ทำให้ตัวถังมีความสวยงาม และปนความน่ารักหน่อยๆ
เมื่อมองมาด้านข้างของตัวรถจะเห้นการออกแบบเน้นลาดตัวถังยาว
จากกันชนหน้าไปถึงหลังคา เพื่อให้ลดการต้านลม

มิติดั้งเดิมของรุ่น i-DSI คือ ยาว 3,830 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 และสูง 1,525 มิลลิเมตร

 



แต่ที่เห็นนี้เกิดจากกระแสนิยมจากบอร์ดที่ผมเล่นประจำ ฮิตแปลงกันชนหน้า-หลังเป็นรุ่นปี 06-07
ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่แปลงตามเขา เพราะมันสวยดี แถมใช้งบไม่มากนัก




สำหรับรุ่นมาตรฐานเกรด E ขึ้นมา ใช้ล้ออัลลอยขนาด 15x6 นิ้ว ทรง 5 ก้านคู่
คู่กับยาง Goodyear NCT5 ขนาด 185/55 R15

ที่ใส่อยู่ปัจจุบันคือ Hancook 195/55 R15
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2012, 20:17:58 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:05:13 »


การออกแบบต่างๆ เส้นสายตั้งแต่หัวจรดท้าย ทำได้ลงตัว ดูทันสมัย
และไม่เก่าไวแม้จะไม่มีวางขายแล้วก็ตาม

ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ส่องสว่างได้นะดับนึง
แต่ไม่มากพอสำหรับการวิ่งต่างจังหวัดยามค่ำคืน(ไฟสูงลูกเดียว)
มีอาการไฟตกเมื่อแอร์ตัดอยู่บ่อยครั้ง

ไฟท้ายของรุ่นแรกเป็นหลอดขั้วธรรมดา หาเปลี่ยนได้เอง




ในเวอร์ชั่นไทยจะมีคิ้วประตู แต่ Fit จะไม่มี ทำให้มีคนบางกลุ่มที่นิยมการแต่ง JDM โกนทิ้งเพื่อความสวยงาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2012, 20:07:09 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:08:05 »



การเข้า-ออกประตูและการสตาร์ทรถนั้นยังคงใช้ระบบดั้งเดิมตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง
คือ การไขกุญแจซึ่งมีมาให้ 3 ดอก กัดดอกเป็นลักษณะ Wave-Key ยากแก่การก็อปปี้
แต่ก็อย่าไว้วางใจ ควรหาระบบนิรภัยอื่นๆ ติดตั้งเพิ่มไปด้วย
(เดิมเคยติดตั้งรีโมทกันขโมย แต่นานวันรีโมทพัง ขี้เกียจซ่อม ดึงทิ้งไปแล้ว)

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:10:25 »



ด้านการเข้าออกค่อนข้างง่ายและรองรับกับสรีระของคนตัวใหญ่ได้ดี
ต่ำแหน่งเบาะจะสูงกว่ารถเก๋งซีดานทั่วไปเล็กน้อย
ตัวเบาะพอนั่งได้สบายๆ จุดวางแขนทำมาได้เหมาะสมดี



ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:12:42 »



ด้านหลังนั้น ทำมาให้เข้าออกได้ง่ายไม่แพ้กัน
แม้ฐานล้อจะมีแค่ 2450มิลลิเมตร แต่ภายในกว้างขวาง
บริหารจัดการพื้นที่ได้เยี่ยม ที่วางขาและเพดานมีให้เหลือเฟือ
ส่วนตัวพนักพิงเบาะหลังนั้นค่อนข้างชันและแข็งไปหน่อย
อาจทำให้นั่งนานๆมีปัญหา











เมื่อเปิดห้องสัมภาระ จะพบกับความน่าอัศจรรย์ของวิศวกรฮอนด้าว่า
เขาจัดสรรพื้นที่ในรถขนาดเล็กเท่านี้ได้อย่างไร นอกจากมี Leg room
เหลือเฟือแล้ว ก็ยังมีห้องสัมภาระมากถึง 380ลิตร
พอสำหรับการขนสัมภาระขนาด 4-5 คน เดินทางไกลได้สบายๆ




แต่รูปมันไม่เกี่ยวกับที่เขียนเมื่อกี้แฮะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2012, 21:34:35 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:22:48 »


จุดขายอีกจุดนึงของฮอนด้าคือ สามารถพับเบาะหลังลงไปได้ และพื้นเรียบตลอดทั้งคัน
โดยแบ่งพับเป็น 60:40 เพิ่มพื้นที่ใช้สอยสำหรับคนชอบคนของบ้าหอบฟาง
แม่ค้าขายเสื้อผ้าราคาย่อม ตามตลาดนัดเช่าทั้งหลาย
นอกจากนี้ยังสามารถพับเบาะรองนั่งขึ้นมาได้
ช่วยเพิ่มพื้นที่แนวสูงสำหรับการจัดวางกระถางต้นไม้ ตามในแคทคาล็อคเป๊ะ

วิธีพับไม่ยุ่งยาก เพียงเลื่อนเบาะหน้าไปจนสุด
แล้วเกี่ยวขอที่พนักพิงหลังเพื่อดึงลงมาแล้วเลื่อนเบาะกลับไปดังเดิม







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2012, 20:27:15 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:25:13 »








เมื่อยกพื้นยกพื้นห้องสัมภาระ
จะพบกับยางอะไหล่ขนาด 13 นิ้ว ขนาด 165/80 R13
ซึ่งทำหน้าที่เป็นยางอะไหล่อย่างแท้จริง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2012, 20:27:33 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:31:46 »




เมื่อเข้ามาดูภายในก็จะพบกับห้องโดยสารแนวเรียบๆ ไม่หรูหราฟู่ฟ่า
โทนสีเทา ทูโทน การจัดวางแดชบอร์ดทำไว้ซัพพอร์ตการผลิตพวงมาลัยซ้าย-ขวา 
ช่องใส่ของกระจุกกระจิกเต็มไปหมด ไม่ว่าจะที่วางแก้วน้ำ 4 จุด
รางใส่ของใต้พวงมาลัยและบริเวณผู้โดยสาร ช่องเก็บของใต้ฟร้อนท์วิทยุ
เอาใจเหล่าสาวมหาลัยวัยขบเผาะที่ชอบวางนู้นวางนี้ในรถเต็มรถไปหมด
ผิดกับห้องนอนของหล่อนซึ่งจะสะอ๊าด สะอาดไปไหนไม่ทราบ
(แต่ถ้าผู้ชายกรุณากลับด้านกัน ไม่เชื่อมาดูห้องนอน กับภายในรถผมได้)  ;D

ม่านบังแดด มีกระจกให้เฉพาะฝั่งคนขับ ไฟเพดาน มีเฉพาะบริเวณตรงกลางและห้องสัมภาระเท่านั้น


ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:34:32 »





พวงมาลัยแบบ 3 ก้านรูปทรงเดียวกับฮอนด้าซิตี้ ขนาดกำลังพอเหมาะมือ
สามารถปรับสูง-ต่ำได้ ก้านปัดน้ำฝนสามารถหน่วงเวลาได้ และมีใบปัดหลังมาให้ด้วยนะเฟ้ย!!!
ผิดกับรถอีโก้คาร์รุ่นใหม่ๆบางยี่ห้อที่ดันไม่มีให้ (ก็มีอยู่รุ่นเดียวนี่แหล่ะ ยี่ห้อ***อะไรไม่รู้ มันน่าด่านักเชียว)

ชุดควบคุมกระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน มีAuto ฝั่งคนขับ One Touch ทั้งขาลงและขึ้นเชียวนะเธอว์
กระจกมองด้านข้างสามารถปรับไฟฟ้าได้ทุกรุ่น แต่พับด้วยมือเอา





ชุดแผงมาตรวัดแบบ 3 เบ้าแยกส่วนออกจากกัน ตรงกลางเป็นวัดความเร็ว
ด้านซ้ายวัดรอบ และขวาเป็นเกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และไฟตำแหน่งเกียร์
เป็นครั้งแรกที่ผมมึนงงกับรถคันนี้ว่าทำไมไม่มีเข็มวัดความร้อนมาให้
จนมาตรัสรู้ได้ทีหลังว่ามีแต่สัญลักษณ์ C(เครื่องเย็น) กับ H(เตือนเครื่องร้อน)
แทน ก็น่าเสียดายนิดๆ ที่ตัดมาตรวัดตัวนี้ออกไป

โทนสีไฟยามค่ำคืนเป็นสีส้ม เข็มแดง ฟร้อนมีขนาดใหญ่ อ่านง่าย
จอแสดงระยะทางมีแค่ 3 หน้าเท่านั้นคือ  ระยะทางรวมทั้งหมด  >>> Trip A >>> Trip B

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:37:58 »


เครื่องเสียงที่ใช้เป็นขนาด 1Din จาก Pioneer เล่นได้แค่ FM AM และ CD-Player เท่านั้น
ต้องใช้รหัส 5 ตัว ในการเปิดวิทยุ หากมีการถอดแบตเตอรี่ รหัสและการบันทึกสถานีทั้งหลายถูกรีเซททันที
มีช่องเก็บของซึ่งไม่ใหญ่พอสำหรับเก็บแผ่น CD ไม่รู้จะทำมาเพื่อ -*-
คุณภาพเสียงพอใช้ได้ ปรับเบสกับแหลมขึ้นมาหน่อยก็พอรื่นรนย์ได้ในระดับหนึ่ง
หากถอดออกทั้งคู่จะมีช่องพอสำหรับการใส่ Front ขนาด 2Din

ส่วนเครื่องเล่น MP3 สมัยนั้น ยังไม่มีให้ เลยต่อแบบนี้ แก้ขัดกันไปก่อน





ระบบปรับอากาศแบบมือบิดหมุน จัดวางในตำแหน่งที่เหมาะกำลังดี
การให้ความเย็นนั้นพอใช้ ถ้าจอดตากแดดเป็นชั่วโมงก็รอนานพอตัวกว่าจะเย็น
มีทั้งบิดหมุนไล่ฝ้ากระจกหน้า มีโหมดเป่าเท้าให้ สามารถเปิด-ปิด A/C ได้
มีปุ่มไล่ฝ้ากระจกหลัง ตายแล้ว รถบ้าอะไร ราคาแค่ ห้าแสนเจ็ดหมื่น
มีให้ทั้งปัดหลังและไล่ฝ้า ในขณะที่รถราคา ห้าแสนแปดพันบางคัน ไม่มีทั้งคู่!


การใช้งานทั้งวิทยุและแอร์ค่อนข้างง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่ต้องเอื้อมมือไปไกลมาก
ค่อนข้าง User's friendly เลยทีเดียว ปุ่มไฟฉุกเฉินก็อยู่ในระดับต่ำกว่าสายตา
นิ๊ดดดดดเดียวจริงๆ แทบไม่ต้องละสายตาจากถนนทั้งสิ้น
และปุ่มมีขนาดใหญ่ สีแดงส้มง่ายต่อการสังเกต ขับๆ อยู่
เจอเหตุข้างหน้า เห็นอะไรแดงๆ ไม่รู้อยู่ภาพมัวๆเกือบตกขอบโฟกัส
ตรงมุมซ้ายล่าง  กดปุ๊บ ไฟฉุกเฉินกระพริบ สบายใจไม่โดนเสยตูด อา ฟิน  :D


ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:42:03 »


ด้านการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ทัศนวิสัย ดีอย่างที่ฮอนด้าพูดไว้ ตำแหน่งที่นั่ง สูงขึ้นมาจากรถเก๋งเล็กน้อย
เห็นวิวบนนถนนในระยะสายตาชัดเจน



เสา A ดูน่าจะเป็นปัญหาหลักในการขับขี่ เนื่องจากมีขนาดใหญ่โตมาก บังมอเตอร์ไซค์ได้มิดทั้งคัน

กระจกมองข้างยังมีมุมอับเยอะพอสมควร และมองรถที่อยู่เลนถัดๆไปไม่ชัด
โดนเฉพาะพวกตีนหนักหรือรถตู้บ้าพลัง ที่ปาดทีละ 3 เลน เคยเกือบชนมาทีนึงแล้ว




เสา B นั้นยังถือว่าหนาเกินไปสำหรับการกลับรถ




ด้านหลังมีมุมอับเล็กน้อย หากคุณชอบหันคอไปมองขณะถอยรถ


ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:43:26 »


ว่าไปแล้วรถยุคใหม่ๆ จะไปเสียเรื่องฝากระโปรงหน้าที่มองไม่เห็น
ทำให้การกะระยะจอดริมฟุตบาททำได้ยาก
แต่ถ้ามองอีกมุมนึง การจอดแบบ Parallel 
ในต่างประเทศเขาจะมีช่องจอดตายตัว เว้นระยะห่างชัดเจน
ผู้ผลิตเลยไม่ได้สนตรงจุดนี้


แต่ด้วยความที่รถมีความยาวแค่ 3.83 เมตร มันก็ทำให้ผมบ้าพอที่จะกระทำการจอดแบบนี้
แล้วไอ 2 คันที่ประกบหน้าหลัง ขึ้นเบรคมือทั้งคู่ด้วย ไม่ได้โม้แต่อย่างใด
ถ้าใครเคยวนหาที่จอดตรงสถานี BTS หมอชิต ช่วงเที่ยงๆ คงจะเข้าใจกันดี






ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:44:51 »
สำหรับสมรรถนะเครื่องยนต์
ฮอนด้าเลือกใช้บล็อกเครื่องยนต์รหัส L
มีการจัดวางเลเอ้าท์ใหม่ ใช้ชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กลง
เพื่อรับกับพื้นที่ห้องเครื่องยนต์ซึ่งมีจำกัด
โดยในไทยเริ่มขายในเครื่องยนต์ L15A4  i-DSI
(Intelligent-Dual Sequential Ignition นะ ไม่ใช่ Department of special investigation.)  ;D

ความจุ 1,497 ซีซี 4 สูบ 8 วาล์ว
เส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบ x ช่วงชัก 73 x 89.4 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 10.5: 1

88 แรงม้า / 5,500 รอบต่อนาที
131 นิวตันเมตรที่ 2,700 รอบต่อนาที


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 16, 2012, 13:54:04 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:48:42 »


ใช้หัวเทียน 2 หัวต่อ 1 ลูกสูบ โดยหัวเทียนส่วนหน้าจุดระเบิดนำ
แล้วหัวเทียนชุดหลังจะจุระเบิดตาม เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบ
ลดการปล่อยไอเสียและมลพิษต่างๆ  และจะจุดระเบิดพร้อมกันเมื่อรอบเครื่องยนต์  3,500 รอบขึ้นไป

จุดที่น่าติก็มีแค่วางช่องรับลมอยู่ต่ำเกินไป
ทำให้เมื่อขับลุยน้ำสูงประมาณท้องรถทำให้รถไม่มีแรงในบางเวลา


ตัวเครื่องยนต์นั้นสามารถจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
และเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ทำงานด้วยพลูเล่ย์ 2 ชุด หดและขยายตัวตามลักษณะการขับขี่
อัตราทดมาแบบลื่นไหล ไม่มีการแบ่งเป็นขั้นๆตายตัว  ทำให้ทำงานได้ราบรื่น ไม่มีอาการกระตุกเปลี่ยนเกียร์
เกียร์เดินหน้า   2.367 - 0.407
เกียร์ถอยหลัง  4.227 - 2.367
เพืองท้าย 6.285







นอกจากนี้ รุ่นเกียร์อัตโนมัติทุกรุ่น ติดตั้งระบบ 7-speed mode
ทำให้ล็อคอัตราทดได้ 7 จังหวะ และเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้เอง
เกียร์ CVT ทำงานได้ค่อนข้างราบลื่น ต่อเนื่อง ไม่มีการกระตุกเปลี่ยนเกียร์
แรงดึงพอมีอยู่บ้าง แต่น้อยเมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติทั่วไป  
และที่สำคัญ รอบเครื่องยนต์ต่ำใช้ได้เลยทีเดียว

80 ที่ 1900รอบ/นาที
100 ที่ 2500 รอบ/นาที
110 ที่ 2700 รอบ/นาที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2012, 21:35:22 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:51:44 »

มาถึงตรงนี้ ใครกางสเปค Jazz ออกมา
ถ้าคุณเป็นคนชอบรถยนต์สนใจเรื่องยนานยนต์ แต่ไม่ได้สนเบื้องลึกทางทฤษฎีของเทคโนโลยีต่างๆ
มีเดินออกจากโชว์รูมดื้อๆ เอาแน่นอน 4 สูบ แคมชาร์ฟเดียว แถมมีแค่ 8 วาล์ว
ใครเห็นเป็นต้องมีแขวะแน่ๆว่า รถใหม่ แต่เครื่องใช้เทคโนโลยียุคโบราณ
สงสัยออกตัวอืดเต่ากัดยางแน่นอน แต่พอใช้งานจริง กลับไม่แย่อย่างที่คิด
ช่วงการขับขี่ในความเร็ว 20-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมีความกระฉับกระเฉงค่อนข้างมาก
ทำให้รู้สึกคล่องตัวเมื่อต้องมุดไปมุดมาในเมือง ถ้ากดแบบเต็มตีน เกียร์แบบ CVT
จะกวาดเข็มวัดรอบขึ้นไปค้างเอาไว้จุดนึง จากนั้นเข็มความเร็วเริ่มขยับ
ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จนไปแผ่วๆหลัง 130 ซึ่งก็เพียงพอแล้ว


ข้อมูลจากหนังสือรถยนต์สมัยนั้นเทส Honda Jazz เอาไว้ว่า
0-100 ประมาณ 14.09 วิ  80-120 10.82 วิ ความเร็วสูงสุดสำหรับรุ่นเกียร์  CVT  171 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นับว่าทำผลงานได้ดีสำหรับ 88 แรงม้ากับการรับน้ำหนักถึง 1070 กิโลกรัม

แล้วก็ทำให้เข้าใจว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ จะกี่สูบ กี่แรงม้าก็ช่าง
ถ้าวิศวกรคำนวณปัจจัยต่างๆมาแล้วว่าเหมาะสมต่อการใช้งาน
มันก็สามารถนำเทคโนโลยีเก่าๆ หมุนเวียนกลับมาให้เห็นได้อีกครั้ง
ขนาด สโกด้า เยติ ยังสามารถเอาเทอร์โบ ลงในเครื่องขนาด 1.2 ลิตร สี่สูบ แปดวาล์วได้เลย


----------------------------

EDIT เพิ่มครับ เผลอทำตกว่าด้วยเรื่องเกียร์ไป 1 พารากราฟ  :P


กำลังเครื่องที่ได้มาเท่านี้ถือว่าเพียงพอแล้วกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เหมาะกับการขับหวานเย็นรักษ์โลก
ถ้าใครชอบบู๊ ก็ยังพอไหวนิดหน่อย แต่ถ้าจะให้ดี ยอมกัดฟันเพิ่มตังไปเล่นเครื่องวีเทคจะดีกว่า
แต่ต้องไม่ลืมว่าเกียร์ CVT มีข้อจำกัดด้วยนะ ถ้าใช้ดีๆ มีคิกดาวน์บ้างแต่ไม่บ่อย
เปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะหรือเร็วกว่าปกตินิดนึง ตอนสตาร์ทรถทุกเช้าวอร์มเครื่อง
เดินเบาซัก 1-2 นาทีแล้วค่อยๆปล่อยไหลไป เครื่องร้อนได้ที่เมื่อไหร่ค่อยจัดเต็ม
มันจะอยู่กับคุณได้เป็น 2-3 แสนโลเลยทีเดียว และมีคนทำมาแล้ว
แต่ถ้ารุนแรงชนิดตีนติดเหล็กพื้นรถกับมันทุกวัน ไม่ถึงแสนโลรับประกันได้ส่งจดหมาย
ให้ญาติพี่น้องมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรม ทำฌาปนกิจแน่นอน
ค่าใช้จ่ายสำหรับการเบิกใหม่ทั้งลูกหากพัง ประมาณแสนสี่ แพงมากขอบอก
ถ้าคิดว่าตัวเองขับรถโหดจริงๆ ยอมเมื่อยเท้าซักนิดกับรุ่นเกียร์ธรรมดาก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าเล่นมากกว่าเห็นๆ


(อันที่จริง CVT ตามเชียงกงก็มีขายเกลื่อนนะ มาครบชุด 3-5หมื่น หุหุหุ)  ::)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2012, 19:34:19 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:54:06 »


ว่าด้วยตัว 7-speed โหมดนั้น รถดูดึงขึ้นนิดหน่อย
ไม่ได้ให้ช่วยเกิดความสนุกสนานเท่าไหร่เลย
แถมเป็นการเพิ่มต้นทุนให้รถโดยเปล่าประโยชน์
และรอบเครื่องก็ขึ้นมาสูงโดยไม่จำเป็น


อ่อ ตรงนี้ขอพูดเรื่องเกียร์อัตโนมัติที่มีโหมดเลือกเปลี่ยนเกียร์นิดนึง
อาจจะทำร้ายชาวออโต้เมติกไปบ้างก็ขออภัย

คือไม่ว่าเกียร์จะมีสปอร์ตโหมด คันเกียร์ บวก-ลบ  Flap Paddle หลังพวงมาลัย
หรือแม้แต่เทคโนโลยี Dual Clutch ที่ผู้ผลิตโม้ว่าว่าใกล้เคียงกับการขับเกียร์ธรรมดา 
ผมยังขอยืนยันคำเดิมว่า ระบบพวกนี้ ให้อีกเป็น 20-30ปีข้างหน้า
ก็ไม่มีวันได้ฟิลลิ่งแบบรถเกียร์ธรรมดาเด็ดขาด ตราบใดที่คุณไม่มี

-แป้นคลัตช์ มาให้ออกกำลังกายเท้าซ้าย
-มีคันเกียร์ไว้ให้ขยับข้อมือเป็นระวิง
-รถไหลย้อนกลับเมื่ออยุ่บนทางลาด
-กะคลัตช์พลาดออกตัวแล้วดับ
-คลัตช์ยังไม่จับแต่กดคันเร่งมากไปจนล้อฟรี
-เข้าเกียร์ผิดจังหวะเสียงขบดังครืด
-ลากเกียร์ 1 จนหมดเรดไลน์ ให้ฟรีทิ้งเล่นในเกียร์ 2

ไม่มีวัน และถ้าผมจะขับรถเกียร์อัตโนมัติ ขอปล่อยโหมด D
แล้วก็เอามือซ้ายจับกาแฟดูด ขับเรื่อยเปื่อย ชิลๆ ดีกว่า  :P

ออฟไลน์ PICKER

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • อีเมล์
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 20:55:38 »
อ่านเพลินเลยครับ
โฉมนี้ ผมว่า classic ไปแล้วหล่ะครับ

ขอบคุณที่ทำรีวิวใหชมครับ

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:01:39 »
^
ขอบคุณครับ





ช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ข้างหลังแบบคานบิด ทอร์ชั่นบีม H-Shape
การสะเทือนยังคงติดเด๋งๆ ดึ๋งๆ พอสมควร แต่ยังพอรับได้
การเปลี่ยนเลนไวๆ ในช่วง 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนวิภาวดี
มายังคงมีการหวาดเสียวจากการโยนของท้ายรถอยู่บ้าง
การขับขี่ทางไกลที่ความเร็วพื้นฐาน 100-120 กำลังดี
ไม่น่ากลัว ยังพอเทโค้งกว้างๆที่ความเร็วระดับนี้ได้อยู่

แต่ถ้าเป็นรถเดิม ยางเดิม Goodyear NCT5 และขับเกิน 150 ขึ้นไป  
Downforce  ใต้ท้องรถ จะพาคุณให้ได้ใกล้ชิดยมบาลมากขึ้น
ต้องใช้สมาธิในการจับพวงมาลัยเอาเรื่องอยู่  การเปลี่ยนไปใช้ยาง
Performance ขนาด 195/50 หรือ 195/55 พอช่วยให้มั่นใจได้บ้าง


ประสบการณ์ส่วนตัวกับยางที่เปลี่ยนมาทั้ง 2 ชุด
อันแรก ยางติดรถ Goodyear NCT5  185/55 R15 ประสิทธิภาพกลางๆ
แรงเสียดทานมีน้อย ไม่มีความยึดเกาะใดๆ ใช้ระยะในการเบรกมากกว่าปกติ
ทนใช้จนถึง 5 หมื่นกิโลเมตร ราคาต่อเส้น 1800-2000 บาท แต่แลกกับชีวิตคนแล้ว ไม่คุ้ม


เส้นแรกที่เปลี่ยนเลย  TOYO Proxes T1R 195/50 R15 ยางแนวแอบซิ่ง
เกาะและจิกพื้นบนถนนแห้งเอาเรื่องเลยทีเดียว เสียงหอนดังเล็กน้อย
ตามสไตล์ยางประเภทนี้ มี Rimgaurd เพิ่มความสวยงามเมื่อจับกับ
ล้อแม็กซ์หน้ากว้างๆ ราคาค่าตัว 2800-3200 ต่อเส้น ไม่แรงมาก
แต่ผมได้มาที่ 2600 เผอิญเจอร้านยางดีๆย่านรังสิตจัดโปรส่งเสริมการขายพอดี สบายกระเป๋ากันไป

เส้นที่ 2 Hancook Enfren 195/55 R15 ยางเกาหลีนุ่มเงียบ รีดน้ำใช้ได้
การเสียดทานของตัวยางไม่น่ากลัวแบบพวกยางประหยัดน้ำมันหลายๆเจ้า
ราคาถูก 2300-2400 ต่อเส้น แต่ใช้ได้ไม่นานก็ต้องขายรถทิ้งเสียก่อน


พวงมาลัยพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPS  มีการตอบสนองที่ไวดี
แต่ก็เบาโหวงเกินไปแม้อย่ความเร็วสูง เบาจนบางทีรู้สึกไม่อยากขับรถคันนี้
จริงอยู่ว่า พวงมาลัยเบา เอาใจผู้หญิง แต่แหม หนืดกว่านี้นิดนึงก็ไม่ได้
ทำให้เหล่าคุณเธอหงุดหงิดขึ้นมาหรอกครับว่าพวงมาลัยหนักไปไม่มีแรงหมุนอ่ะ
เพราะยังไงมันก็เป็นเพาเวอร์ ไม่ใช่พวงมาลัยจากรถยุค 80


การเก็บเสียง ที่ความเร็วต่ำ พอใช้ได้กับรถระดับนี้
แต่เมื่อขึ้นไประดับความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่าได้หวังอะไรมาก เพราะทั้งลมและยางที่ดังเข้ามา
เสียงหอนในระบบเกียร์ ทำลายห้องโดยสารจนเสียความรู้สึกกันไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2012, 21:04:59 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:12:35 »
ระบบความปลอดภัยต่างๆ เนื่องด้วยคันนี้เป็นรุ่นเกรด  E AT ซึ่งยังอยู่ในยุคที่การมีถุงลมนิรภัยและระบบเบรก
ABS เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตยังเลือกปฏิบัติกับลูกค้าอยู่ จึงไม่มีมาให้ ต้องซื้อตัวท็อปของแต่ละเกรดที่ลงท้ายด้วย AS เท่านั้น


ตัวเบรกเป็นแบบวงจรไขว้ หน้าดิสเบรก หลังเป็นดรัมเบรก
ซึ่งผมบางครั้งกลับชอบดรัมเบรคมากกว่าในแง่การบรรทุก
ประสิทธิภาพเบรกของผ้าเบรคเดิมติดรถ ไม่ค่อยดีเด่เท่าไหร่นัก
ต้องใช้แรงเบรกมากกว่าปกติเพื่อให้รถหยุด พอขับไปได้ 7 หมื่นโล
เลยเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อดังๆตามท้องตลาด ค่อยเบรคดีขึ้นมาบ้าง
ส่วนแป้นเบรกกับคันเร่งขอติหน่อยตรงที่เยื้องกลางมากเกินไป ทำให้ขับขี่ทางไกลลำบาก


ตัวถังนิรภัย G-CON ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการถูกชน
และลดการบาดเจ็บของผู้โดยสารให้น้อยที่สุด
วางถังน้ำมันไว้กลางมีคานเหล็กเสริมความปลอดภัย แถมเป็นการเพิ่มเนื้อที่ในห้องโดยสารในตัว
กันชนหน้า มีการคำนวณแนวลาดของฝากระโปรงเอาไว้เผื่อหาก
ชนคนในความเร็วไม่สูงมาก จะไม่ได้รับอันตรายถึงตาย
ข้อมูลนี้ได้มาตอนเข้าอบรมขับขี่ปลอดภัยกับฮอนด้าสมัยอยู่มหาลัย



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2012, 22:28:26 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:15:34 »

ด้านความประหยัดนั้น
ใช้งานมา 6 ปี ถือว่าอยู่ดับที่น่าพอใจ ปกติจะใช้น้ำมันเบนซิน แก็สโซฮอลล์ 95 E10 เป็นหลัก
เฉลี่ยที่วิ่งทุกๆครั้งที่เติมกลับไป จะอยู่ที่ 12-13 กิโลเมตรต่อลิตร
ถ้าวันไหนเท้าจัดหน่อยมีตกลงไปต่ำกว่า 11 แน่นอน

แต่ก็เซฟเงินในกระเป๋าได้เยอะมาก
เติมเฉลี่ยจ่ายเดือนละ 3,400-3,800 บาท

และถ้าเป็นการเดินทางไกลล่ะ

ผมเคยเอาเจ้าน้ำเงินคันนี้ ไปเชียงใหม่ ขึ้นดอยอินทนนท์ เมื่อปี 50 ช่วงปีใหม่
โดยเติมน้ำมัน แก็สโซฮอลล์ 95 ของบางจาก จนเต็มถัง กดทริป 0 ผู้โดยสารทั้งหมด 4 คน
มีสัมภาระ ขับไปเรื่อยๆตามสายเอเชีย เข้าสาย 1 ไปตาก เข้าลำปาง
ขับมือเดียวทั้งไปและกลับ ด้วยความเร็วเฉลี่ย 100-110 เจอรถมาเร็วก็หลบเอา
แวะพักทุกๆ 200-300 กิโลเมตร จนมาไฟแดงตอนกำลังผ่านตัวจังหวัดลำพูน
อีกนิดก็จะถึงตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ขอเติมก่อนดีกว่า







เข้าปั๊มเชลล์ ระยะทางที่วิ่งไป 669.2 กิโลเมตร อัดเต็มถัง
เติมกลับ 37.17 ลิตร อีกนิดเดียวก็เกลี้ยงถังแล้ว
วัดได้ 18.00 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าประหยัดไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะนี่
ถ้าเป็นเครื่อง 1,200 ซีซีนี่เอ็งมันก็ อีโก้คาร์ดีๆนี่เอง  :o


ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:20:52 »

สรุป
"สุดยอดซับคอมแพคขนาดเล็ก กะทัดรัด ขับง่าย ประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับคนทุกวัย"

แม้รถจะมีบุคลิกวัยรุ่น แต่มันไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นวัยรุ่นอย่างเดียว คนรุ่นพ่อรุ่นแม่บางท่าน
ซื้อรถให้ลูกใช้ แต่พอขับเอง ดันติดใจจนแย่งลูกมาขับเองก็มีเหมือนกัน
ตัวรถนั้นตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ขับออกต่างจังหวัด ก็พอได้
อย่าอคติหรือคิดว่าจะต้องรถเครื่องใหญ่เท่านั้นถึงจะวิ่งไหว แต่สำหรับแจ้สนั้น
อย่าไปเย่อกับรถใหญ่ๆมากนัก เพราะกำลังเครื่องสู้ไม่ได้ เว้นแต่จะใช้ขุมพลัง
VTEC แทน รูปทรงสวยงาม ไม่ดูเก่าไว จะขับเดิมๆก็ได้
หรือจะไปแต่งเติมจนถึงขั้นถลุงลง Track Day ก็แล้วแต่คุณ


ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:24:53 »
การมาของ Honda Jazz ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนของวงการรถยนต์ในไทย
และเป็นรถที่ทำให้กระแสความนิยมรถแบบท้ายตัดเริ่มกลับเข้ามาบูมอีกครั้ง เหมือนสมัย Civic EG 3 ประตู

เคยมีผู้ใหญ่ท่านนึงที่รู้จักบอกไว้ว่า ตั้งแต่ Jazz เข้ามา ตลาดกลุ่ม After Market
กับวงการที่เกี่ยวกับการแต่งรถซึ่งเหี่ยวเฉามาหลายปี กลับมาบูมอีกครั้งนึง

โดยผมก็สังเกตอยู่เหมือนกันว่า ในช่วงเวลาที่ตัวถัง GD วางขาย
เริ่มมีร้านขายของแต่ง สำนักแต่งดังๆ เข็น ชุดโหลด ชุดสตรัท ล้อแม็กซ์ ท่อไอเสีย บอดี้พาร์ทต่างๆ
ที่เป็นของ Honda Jazz ผุดมามากขึ้น และตามใบปิดโฆษณาตามหนังสือรถมักจะมี
Honda Jazz เป็นพรีเซ็นเตอร์ปนอยู่ในนั้นตลอด บางคนเอารถตัวเองไปลอง D.I.Y.
จนถึงขั้นจดสิทธิบัตรสินค้าตัวเองวางขาย หรือเปิดร้านเป็นธุรกิจเล็กๆ
เกี่ยวกับHonda Jazz ขายของกันเฉพาะในกลุ่มเพื่อนด้วยกัน
และบอกปากต่อปาก จนมีลูกค้าอื่นๆ ไหลเข้ามา
จนสร้างเนื้อสร้างตัวได้ มีรายรับเป็นเลข 6-7 หลักต่อเดือนเลยทีเดียว

กลายเป็นในยุคนั้น ร้านไหนไม่มีของแต่งกลุ่มรถยนต์นั่งให้ Honda Jazz มีเจ๊งแน่นอน  


ในบางอารมณ์ ผมรู้สึกว่า Jazz ตัวนี้ ถลุงการ D.I.Y. รถได้มันส์สะใจกว่าตัวปัจจุบันเยอะ
ส่วนตัวก็เคยล้วงแคะแกะเกา ดึงนั่นถอดนี่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนกันชนท้ายเอง ยกรถเปลี่ยนท่อไอเสียเอง
แปลงใบปัดหลังให้อยู่ในแนวตั้ง ถอดกระกบคอพวงมาลัยเพื่อปลด Shift Lock
เข้าเกียร์ N ดับเครื่องถอดกุญแจได้ เอาฝาหลังมาพ่นดำเงาเลียนแบบ Jazz ปี 08  
หนักสุดในชีวิตคือเอาสติ๊กเกอร์ดำด้านมา Wrap ฝากระโปรงหน้านี่แหล่ะ มันมือดีเหมือนกัน





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 15, 2012, 17:26:09 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ bs

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 163
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:25:43 »
รีวิวได้ดีครับ รถยังสภาพสวยอยู่เลย :)  แต่อยากอ่านคันสีส้มอะครับ ;D
2003 toyota soruna vios 1.5 E mt            2008 honda click-i
2011 new nissan march 1.2 cvt 
2012 honda jazz ge 1.5 s at white
2013 honda click 125i >>> nv350

ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:26:56 »
เห็นข้อความ "รถกากๆ" ทำให้รีวิวดูไม่ค่อยจะน่าอ่านต่อนะครับ ทั้งๆที่ก็เขียนได้ดี ตายตอนเริ่มครับ
Jazz ก็เป็นรถที่ดีคันเลยนะครับสำหรับผม
 :-\ :-\ :-\

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:27:29 »


สำหรับการหาซื้อคันนี้มาใช้ในปัจจุบัน คงต้องเป็นมือ 2 เท่านั้น
ซึ่งมีหลากหลายราคาตามระบบส่งกำลัง
และปริมาณออฟชั่นทีมี ถ้ามีถุงลมนิรภัยค่อนข้างสูงพอสมควร

i-DSI จะอยู่ประมาณ 320,000-380,000 บาท
VTEC จะอยู่แถวๆ 350,000-430,000 บาท

ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่ความสามารถในการดูสภาพรถของคุณเอง

ส่วนด้านอะไหล่ ไม่ต้องกลัว เพราะยังมีสแปร์พาร์ทและอะไหล่จำนวนมากให้เบิกในศูนย์ฮอนด้า
ค่าบำรุงรักษาไม่แพงจนเกินไป ถึงจะปฏิเสธการเข้าศูนย์ ก็ยังมีอู่นอกที่รับทำรถฮอนด้าอยู่ไม่น้อย
ส่วนน้ำมันเครื่อง เกรด 0W-20 ที่ขายอยู่ตอนนี้ หากรถใช้งานไปเกินกว่า 1 แสนโล
อาจจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่นัก แนะนำให้ใช้แค่ 5W-30 หน่วยละ 19 บาท
แทนครับ(เปลี่ยนพร้อมกรองให้คูณไป 36 หน่วย)
ไม่ก็หิ้วข้างนอกมาเปลี่ยนเองซะเลย


แม้ว่ารถคันนี้จะขายทิ้งไป แต่ความทรงจำดีๆกับมันก็ยังชวนให้ถวิลหาอยู่บ้าง  :(
ถึงจะไม่ได้ชื่นชอบการขับเกียร์อัตโนมัติก็ตามที และหวังว่า
เจ้าของคนใหม่ (ซึ่งไม่รู้ว่าหลุดจากเต็นท์ไปหรือยัง เพราะตอนประกาศขาย มีแต่เต็นท์แห่มาสู่ขอ)  
คงดูแลได้ดีกว่าครั้งที่ผมเคยอยู่ดูแลมัน  :(





สงวนลิขสิทธิ์ภาพถ่ายทุกชนิด
หากนำไปเผยแพร่ กรุณาลงเครดิตหรือลิ้งค์มาต้นฉบับด้วย

เอื้อเฟื้อภาพบางส่วนจากหนังสือ Honda Jazz Tuning Guide พ.ศ. 2547 โดย กรังปรีกรุ๊ป
แคทตาล็อค Honda Jazz ปี 2548

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:31:40 »
เห็นข้อความ "รถกากๆ" ทำให้รีวิวดูไม่ค่อยจะน่าอ่านต่อนะครับ ทั้งๆที่ก็เขียนได้ดี ตายตอนเริ่มครับ
Jazz ก็เป็นรถที่ดีคันเลยนะครับสำหรับผม
 :-\ :-\ :-\

ใส่ขำๆ ไปงั้นแหล่ะครับ สำหรับผมเป็นรถที่รักมันมากๆ จนยังเสียดายอยู่เลยทุกวันนี้

เดี๋ยวแก้ให้แล้วกันครับ  :)



รีวิวได้ดีครับ รถยังสภาพสวยอยู่เลย :)  แต่อยากอ่านคันสีส้มอะครับ ;D


รออีกนิดครับ รวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้วคงไม่เกินสัปดาห์หน้า

แต่บอกไว้นิดนึงว่า Honda Jazz ตัวสีส้ม ซูเปอร์โคตร Epic Review

เขียนเพลินมากสำหรับคันนั้น แต่เพลินเกินจนปาไปกว่า 9000 Words  :P :o



ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,310
Re: (User's Review) 2005 Honda Jazz GD3 i-DSI ถังเดียวถึงเชียงใหม่ บ้าไปแล้ว
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 21:44:58 »
ถ้าเข้าใจไม่ผิด รหัสGD3 เป็นเครื่อง VTec ส่วน GD1 เป็น IDSI ครับ
เพิ่งขายไปประมาณปีกว่าๆ รุ่น S AT ครับ ช่วงล่างตึงตังที่สุด เสียงภายนอกเก็บเข้าในรถอย่างดี แต่ก็คิดถึงมันนะ
'19 Honda Civic EL