ได้เวลาไปลุยกันละ
ออกจากโชว์รูมไปฟิวเจอร์ปาร์ค เนื่องจากเกียร์เป็นแบบคลัตช์คู่แบบแห้ง 6 จังหวะ
ก็ลองกดช้าๆหน่อยนึงเพื่อดูอาการที่หลายๆคนบ่นกัน
การเข้าจาก 1 ไป 2 กระตุกจนน่าใจหาย บอกตามตรงโคโรล่าสามห่วง 4 สปีด
15 ปีที่แล้วยังเปลี่ยนเกียร์นิ่มกว่านี้เลย แต่ถ้าพารถไปในความเร็วที่เหมาะสม
อาการดังกล่าวจะหายไป นุ่มนวลขึ้น
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร จ่ายน้ำมันแบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้
สามารถสร้าง 170 แรงม้า 202นิวตัวเมตร มาให้ใช้กัน
อัตราเร่งเร็วและแรงเลยทีเดียว มาไวและขึ้นเร็ว มีแนวโน้มว่า
จะไล่กับ 2.0 หลายคันในตลาดได้(เผลอๆมีเร็วกว่า 0.2-0.5 วิ)
การกดหนักช่วงที่รถอยู่ในความเร็วประมาณ 20-30 Km/h
รถจะทะยานไปได้ค่อนข้างไว ผิดกับการออกจากจุดหยุดนิ่งที่มีการเข้ามาใส่เกือกของ ESP
ด้านการตอบสนองของเครื่อง เกียร์ ผ่านคันเร่งไฟฟ้านั้น ยังมีติด Lag อยู่บ้าง
ซึ่งคันเร่งไฟฟ้าในปี 2010 ขึ้นมา มันควรจะไวกว่านี้นะ อันนี้พอลองความเร็วซัก 60 กระทืบ
คันเร่งจมมิดไปประมาณ เกือบๆ วิ เข็มพึ่งจะไล่ตามขึ้นมา
ซึ่งจุดนี้ใครเคยขับรถเจ้าตลาดเครื่อง 1.8 2.0 ที่ชอบความดิบเถื่อน และไม่ต้องการระบบ
ช่วยใดๆ อาจจะขัดใจไปบ้าง เพราะขานั้น ทำเครื่อง และเกียร์ทำงานได้สัมพันธ์
กันดีมากราวกับคู่บัดดี้ที่สนิทกันมาแต่อนุบาล
แล้วหากเทียบกับพรีอุสนี่ ถ้า Normal Mode ก็ยังถือว่าไวกว่าโฟกัสคันนี้
ยิ่งเข้า Power Mode นี่ คันเร่งสายมาเองชัดๆ
**เรื่องการ Lag ของคันเร่งนี้ อย่าพึ่งเชื่อผมมากนะครับ เพราะบางส่วน
อาจเกิดจากที่ผมหันไปขับรถเกียร์ธรรมดาด้วย เลยอาจไม่คุ้นกับการตอบสนอง
ของคันเร่งรถเกียร์อัตโนมัติในยุคหลังๆ มากเท่าไหร่ แรงดึงของเกียร์คลัตช์คู่นั้น หนักและมันใช้ได้ แต่ยังไม่ฟินแบบ DSG 7 จังหวะ
ของโฟลคสวาเก้นที่ลงใน Skoda ทั้ง 4 คัน ณ วันที่ ได้ขับในกิจกรรม
ของเว็บไซด์ Headlightmag เมื่อต้นปี อันนั้นทั้งดึงหนัก ทั้งนุ่มนวลในคันเดียวกัน
ว่าด้วยฟังชั่น บวกลบเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองนี่ โอเคว่าผมเคยดูถูกระบบนี้ใน
รีวิว Honda Jazz ปี 05 ว่าไม่มีทางได้ฟีลแบบ รถเกียร์ธรรมดา แต่ไหนๆ จะใส่มาให้ลูกค้าใช้กันแล้ว
ช่วยทำเป็น ตำแหน่งโยกขึ้น โยกลง ไปเลยจะง่ายกว่านะ ทำเป็น Paddle Shift ได้ยิ่งดี
มาเป็นปุ่มกดที่หัวเกียร์แบบนี้ กะโหลกกะลามากมาย ทำให้ไม่อยากเล่นเท่าไหร่
นอกจากเอาไว้ใช้ลดเกียร์ต่ำเพื่อลงเขา
ทัศนะวิสัย ค่อนข้างดี โปร่งตาใช้ได้ กระจกมองด้านข้าง
เพิ่มมุมเว้าช่วงปลาย ทำให้เห็นรถในมุมอับมากขึ้น
พวงมาลัยเบาโหวงในความเร็วต่ำ และหนืดขึ้นเมื่ออยู่ในความเร็วเดินทาง
ตามมาตรฐานพวงมาลัยไฟฟ้าแบบที่รถทุกคัน ควรจะเป็น
ไม่ใช่เบาทั้งต้นทั้งดอกเอาใจผุ้หญิงมากเกินไป แบบ B-segment กับอีโคคาร์ บางคันในตลาด
ฟีลลิ่งแป้นเบรคนั้นตามเท้าและหน่วงความเร็วได้เยี่ยม
ถ่ายเทน้ำหนักหน้าหลังได้ค่อนข้างดี (คลานไปเรื่อยๆ ที่เลนซ้าย โดนวีออสคัน
นึงเบี่ยงจากถนนใหญ่ ตัดหน้า แล้วจอดส่งคน เหยียบไปแค่ครึ่งเดียว คนขับไม่มีตัวโก่ง วีดวิ๊ว)
สุดท้าย ช่วงล่างนุ่มมาก การผ่านพื้นผิวจราจรที่ไม่เรียบของทางคู่ขนานหน้าโรงกษาปณ์
เก็บอาการได้ดี การกระเทือนทุก อย่างจบลงที่คานรับ ชุดแพล่าง โช้ค สปริง
ไม่ลามมาหาก้นผู้ขับขี่มากนัก การเข้าโค้ง ที่เป็นสะพานวงแหวนกลับรถหน้า
โลตัสรังสิต แทบจะเกาะติดเป็นกาวยาแนวยี่ห้อตุ๊กแก
หากให้เทียบกับ Prius ที่ใช้อยู่ ถึงมันจะเป็นช่วงล่างทอร์ชั่นบีม
ที่เซ็ตติ้งมาดีเกินความคาดหมาย แต่ก็เป็นรองเจ้าโฟกัสนี้อยู่พอสมควร
ถ้าต้องขับคันนี้มือเดียวทางไกลยาวๆ นี่ ยินดีอย่างยิ่ง แต่เบาะนั่งหลัง
อาจต้องพึ่งพาหมอนเกือกม้าช่วนหนุนคอซักนิดหากจะหลับจะนอนกัน