ผมเชื่ออย่างนึงว่า
Toyota จะยังเป็นผู้นำในตลาดรถบ้านเราไปอีกอย่างน้อย 10 ปี
พอถึงวันที่ คนเจเนอเรชันใหม่ ผลัดเปลี่ยนขึ้นมามีอำนาจซื้อรถมากขึ้น
มันจะเหลืออยู่แค่ว่า ถ้าค่ายใด ทำศูนย์บริการได้ดีกว่า Toyota
ประทับใจลูกค้าได้เท่า Honda ในยุคแรกๆที่เข้ามาเมืองไทย หรือมากกว่า
แค่นี้ ก็ได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ และผ้คนที่รู้เรื่อง จะพากันบอกปากต่อปาก
และจะไม่มีวันเหลียวแล Toyota เพียงเพราะหมดทางเลือกอีก
ถึงตอนนั้น คนที่ซื้อ Toyota ก็จะมีทั้ง พวกที่ มั่นใจแล้วว่าคงต้องเป็น
Toyota แน่ๆ เพราะตอบโจทย์เขาและครอบครัวที่สุด และพวกที่
ไม่รู้เรื่องรถ ไม่รู้จะซื้ออะไร คือ จะมี 2 พวกนี้จริงๆ
ที่เหลือ จะหันไปหารถยี่ห้ออื่นกันหมด
แต่เราจะยังไม่เห็นปรากฎการณ์นี้ใน 3 ปีนี้แน่ๆ ครับ
ตามที่พี่ จิมมี่ กล่าวไว้เลยคับ
เราหลายท่านบอกว่าจะไม่ซื้อ ยี่ห้อนี้แล้ว เพราะลดนู้น นี้ นั้น เอาเปรียบ ดูถูกลูกค้า
แต่ทั้งหมดที่ทำให้ โตโยต้า สามารถมายืนเป็นเจ้าตลาดได้
ก็เพราะการลงทุนในด้านสินค้าตอนแรกๆที่ทำตลาด ลงทุนด้านบริการหลังการขาย
ลงทุนด้านการสร้างความหน้าเชื่อถือ
และพอมาถึงยุคนี้คือ ยุคของการกอบโกย ทวงคืนในสิ่งที่ลงทุนไป ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
ผมมองว่ามันเป็นวัฏจักร ของธุรกิจ ที่ ยอมขาดทุนหรือกำไรน้อยในช่วงแรกของธุรกิจ
เมื่อธุรกิจมั่นคงก้อเริ่ม แสวงหาผลกำไรที่มากขึ้น โดยการแสวงหากำไร อาจจะใช้วิธีการที่เราๆ
ไม่ค่อยพอใจ เช่น เพิ่มราคาขายคุณภาพเท่าเดิม ราคาเท่าเดิมคุณภาพลดลง ราคาเพิ่มคุณภาพลด
และวิถีของธุรกิจ ก็เป็นอย่างนี้ ไปในทุกๆประเทศ แล้วแต่ว่า ประเทศไหนจะรุนแรงหรือเอาเปรียบกัน
มากน้อยแค่ไหน
ผมขอยกตัวอย่าง ประเทศอินเดีย ที่รถยอดนิยมคือ ซูซูกิ และ ฮุนได
ซึ่งปัจจุบันรถทั้ง 2 ยี่ห้อก็ครองส่วนแบ่งตลาด 50-60 % ทั้งๆที่ขายแพง อ็อปชั่นน้อย
แต่กับโตโยต้าหรือฮอนด้า ที่กระทู้ล่างๆ เคยเอามาให้ดู มีทั้ง Sunroof airbag push-start
แต่กลับขายไม่ได้ เพราะการครองตลาดของผู้บุกเบิกมาก่อน
เพราะฉะนั้น ผมมองว่ายุคมืดของโตโยต้าคงอีกนาน
ถ้ายังไม่มีเจ้าไหน พยายามสร้างมาตรฐานใหม่ หรือ นำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่โดนใจคนส่วนมาก