ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมค่ายรถยนต์ไม่ค่อยง้อคนไทยและให้ออฟชั่นต่างๆน้อยกว่าต่างชาติ!!!  (อ่าน 20912 ครั้ง)

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 622
ผมขอแสดงความเห็นอย่างใจที่คิดเลยนะครับ อาจจะแรงไปนิดส์แต่ก็ขออภัยเพราะอยากตอบตรงๆ

ผมคิดว่าเพราะคนไทยส่วนมากโง่ครับ ไม่ได้ฉลาดซื้อเหมือนฝรั่ง และที่สำคัญประเทศเรายังไม่มีสื่อที่รับใช้ผู้บริโภคอย่างแท้จริง มีแต่สื่อที่รับใช้นายทุน

คุณลองอ่านนิตยสารรถยนต์ทุกฉบับบนท้องตลาด มีเล่มใดบ้างที่กล้าด่ารถอย่างตรงๆแรงๆ ทดสอบรถทุกคัน แมร่งดีหมดทุกคันเลย มันเป็นไปได้ยังไง
ผิดกับสื่อของเมืองนอก เขากล้าที่จะบอกลูกค้าว่า รถคันนี้อย่าไปซื้อ แมร่งห่วยแตก  

เราต้องยอมรับว่าสื่อยานยนต์มีผลกับลูกค้ามากๆ เพราะลูกค้า80% ไม่ใช่คนที่บ้าเรื่องรถแบบพวกเราที่จะหาข้อมูลกันอย่างหนักหน่วง พวกเรารู้เรื่องรถที่จะซื้อดีกว่าเซลล์ด้วยซ้ำ ผมกล้าพูดว่าผมมั่นใจว่าผมรู้จัก honda accord 2013 ดีกว่าเซลล์90%ของบริษัทฮอนด้าทั้งประเทศไทย   และผมเชื่อว่ายูสเซอร์ทุกคนในนี้ก็เป็นเหมือนผม  แต่ผู้บริโภคส่วนมากล่ะ เขาไม่มีเวลามาบ้าแบบพวกเรา พอจะซื้อรถสักคัน ก็อาจจะไปเดินดูที่โชว์รูม หรือไม่ก็ซื้อนิตยสารรถสักเล่มที่รีวิวรถคันนั้น ทั้งๆที่ปกติไม่เคยซื้อหนังสือเกี่ยวกับรถมาก่อน พอมาอ่านรีวิวก็พบว่าดีไปหมดทุกอย่าง ก็แน่ล่ะ ผมอ่านหนังสือรถมาเป็นสิบๆปี ยังไม่เคยเจอรถรุ่นไหนที่นิตยสารรถเทสแล้วบอกผมว่า รถมันห่วยอย่าไปซื้อ มีแต่บอกดีทุกคัน

รีวิวรถ กลายเป็นรีวิวที่รับใช้นายทุน ขายตัวเองให้แก่ค่ายรถ ไม่เคยทำหน้าที่รับใช้ผู้บริโภค ในสายตาผมรีวิวรถยนต์ตามนิตยสารมีค่าแค่เป็นโฆษณาขนาดยาวเท่านั้น

ผมไม่เชื่อเลยกับคำพูดที่ว่า ประเทศไทยเป็นตลาดเล็ก ค่ายรถไม่คุ้มทุนถ้าจะใส่ออฟชั่นดีๆมา
ตรงกันข้ามซะอีก ผมว่าไทยนี่แหละตลาดสำคัญเลย เพราะสำหรับฝรั่งรถมันเป็นแค่พาหนะ แต่สำหรับคนไทยรถมันคือชีวิต มันคือหน้าตาทางสังคม รถเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าทรัพย์สินอย่างอื่นเสียอีก บางคนบ้านเล็กเป็นกะต๊อบ แทนที่จะเอาเงินไปซื้อบ้านดีๆก่อน กลับเอาไปซื้อรถแพงๆแทน

ตัวอย่างสำคัญที่ทำให้ผมรู้เลยว่า ค่ายรถสามารถใส่ออฟชั่นมาเยอะๆได้ แต่จะไม่มีทางทำ นอกจากว่าขายไม่ดีเท่านั้น ถึงจะทำ
 
ผมต้องยกตัวอย่าง accord 2013 อีกครั้ง คุณคิดว่าถ้า G8ขายดี
คุณจะได้เห็นออฟชั่นมากมายอย่างนี้ใน G9 เรอะ  ...ไม่มีทาง
เพราะ G8 ขายไม่ดี สู้มวยรองอย่างเทียน่ายังไม่ได้ ไม่ต้องไปเทียบกับแคมรี่เจ้าตลาด

ในขณะที่แคมรี่2012 ใส่ออฟชั่นมาอย่างอุบาทว์ เพราะแคมรี่ avc40มันขายดีแบบถล่มทลายไง
โตโยต้าก็เลยมองว่า ตัดออฟชั่นออกไปอีก คนก็ยังซื้อ  

ฮอนด้าก็ถือว่าทุเรศเหมือนกัน ออฟชั่นใน G8 ผมถือว่าอุบาทว์มาก แล้วพอสุดท้ายขายสู้ชาวบ้านไม่ได้ ก็มาจัดเต็มในรุ่นถัดไป

แบบนี้สำหรับผมคือไม่มีความจริงใจกับลูกค้า ถ้าคุณทำได้ ทำไมไม่ทำแต่แรก ทำไมต้องรอให้ขายไม่ดีก่อน ถึงค่อยทำ

หลายๆอย่างมันทำให้ผมเกลียดค่ายเจ้าตลาด อย่างโตโยต้า และ ฮอนด้า แต่มันก็ลักลั่นย้อนแย้งในตัวเอง เพราะค่ายมวยรองก็ยังไม่ปรับปรุงศูนย์บริการ ทำให้ผมก็ไม่มั่นใจที่จะซื้อเหมือนกัน  

ความจริงปัญหาค่ายรถเอาเปรียบผู้บริโภคจะหมดไปจากประเทศไทย ถ้า
1.สื่อยานยนต์ รับใช้ผู้บริโภค เลิกรับใช้นายทุน ลองไปศึกษาดูว่าทำไม สื่อที่กล้าด่าค่ายรถในเมืองนอกเขาถึงยังอยู่กันได้ ถ้าด่าค่ายรถแล้วเจ๊ง เขาก็คงเจ๊งไปแล้ว
2.ผู้บริโภคเลิกบ้าโตโยต้า กับ ฮอนด้า เปิดใจลองดูรถค่ายมวยรองบ้าง ถ้าออฟชั่นเขาดีกว่า รถขับดีกว่า ศูนย์บริการพอรับได้ มีเหตุผลอะไรที่เราต้องไปสนับสนุนรถขับห่วยๆ ออฟชั่นหายๆของเจ้าตลาด  
3.เลิกบ้าราคาขายต่อเสียที คุณซื้อรถมาใช้หรือซื้อมาขาย ถ้าคุณบอกคุณเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่า คุณก็คิดผิดตั้งแต่มาซื้อรถยนต์แล้ว คุณไปซื้อทองคำหรือซื้อหุ้นดีกว่า
บางคนบอกผมว่า ซื้อนิสสันราคาขายต่อตกกว่าเป็นแสนนะ ผมกลับมองว่า คุณเอาเงินแค่1แสน มาตัดสินของราคาเป็นล้านที่คุณจะซื้อเรอะ  ผมมองว่าคนไทยยังมีตรรกะคิดที่แปลกๆ เหมือนกับตอนเกียร์ออโต้ออกใหม่ๆ คนก็จะพูดกันว่าซ่อมยาก คำถามคือ คุณต้องเป็นคนซ่อมเองเรอะ ,แล้วเคยซ่อมจริงๆเรอะถึงรู้ว่าซ่อมยาก  ชอบเอาเรื่องบ้าๆบอๆมาตัดสินใจเรื่องที่ใหญ่กว่า



เพราะค่ายรองมันศูนย์บริการพอรับ'ไม่'ได้ ไงครับ

แถม qc ก็...

จะออก fiesta รุ่นท้อป 1.6 ให้น้องเพราะถุงลม 7 ใบ ระบบกันลื่นไถล และอีกมากมาย แต่อ่านเจอเพลาหลุดเอย ดับกลางอากาศเอย จะแซงแล้ววืดเอย (อันหลังเจอกับตัวตอนนั่งรถเพื่อน) เลยไม่รู้จะเอารถที่ปลอดภัยเยอะ แต่มีแนวโน้มจะได้ใช้ถ้าขับมัน หรือรถที่ไม่มีดี.

สุดท้ายเลยซื้อ fd2.0 มือ2 จากญาติให้เขา ได้ครบด้วยอุ่นใจด้วย
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
เรื่องนี้ สงสัยจะยาว ถ้าผมต้องตอบ....

สื่อบางราย อวยบริษัทรถยนต์ ก็เพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจขาดใหญ่ร่วมกัน

แต่ถ้าคุณโทษแต่สื่อ ผมบอกเลยว่า คุณมองปัญหาแค่ฉาบฉวย


ต่อไปนี้คือตัวอย่าง....

คนรอบข้างของผมคนนึง
เมื่อหลายปีก่อน มีเหตุให้ต้องรับงาน เรื่องจัดออพชัน ให้กับรถเล็ก หนึ่งในเจ้าตลาดค่ายหนึ่ง
ด้วยความที่ เจ้าตัว ก็คิดแบบคุณผู้แอ่านเป๊ะเลยครับ อัดอั้น คับแค้นใจ อยากให้คนไทยได้ใช้ของดีๆ
มาถึง ท่านพี่ของผม ก็ ติ๊กเอาๆๆๆๆ ออพชัน อะไรที่อยากให้คนไทยได้ใช้ พ่อจัดประเคนให้เต็มที่

พอมาคิดคำนวนราคาขาย ซึ่งทุกค่ายจะมีสูตรการคำนวนกำไรต่อคัน และต่อโปรเจกต์อยู่
และอะไรอีกไม่รู้เยอะแยะ .....

ทุกท่านครับ ไอ้รถเล็กคันกระเปี๊ยกนั้น ราคาปาเข้าไป 8 แสนกว่าบาท !!!!!!!!!!

ไอ้หยา!

สุดท้าย ก็ต้องยอมลดออพชันบางตัวออกมา ต้องเอาออพชันตัวนั้นตัวนี้ออก
เพื่อให้ยัง "ทำราคาขายปลีกได้"

ปรากฎว่า ในวันเปิดตัว ราคาที่ตั้งไว้ ก็ยังแพงกว่าความคิดของผู้บริโภคอยู่ดี
ทั้ที่ออพชันหั่นออกไปพอสมควรแล้ว เหลือ ข้าวของจุกจิกลูกเล่นไฟฟ้า เล็กๆน้อยๆ เอาไว้

ดีลเลอร์ ก็กดดัน เพราะลูกค้าเมิน มันทำท่าจะขายไม่ออก
แถมในช่วงเปิดตัว ส่วนแบ่งที่ดีลเลอร์จะได้ต่อคัน มันน้อยมากๆ จนดีลเลอร์ต้องรวมหัว
ประชุมกัน กดดันสำนักงานใหญ่ ขนานหนัก
สุดท้าย ราคาขายที่ตั้งไว้ ก็ตั้งไว้งั้นๆ บริษัทแม่ ก็ต้องออก Incentive ช่วยดีลเลอร์
รถถึงยังขายออก ได้บ้าง แต่ทุกวันนี้ ยอดก็ยังเดินต่ำกว่าเป้ายอดขายจริง
ต้องมีของแถมเข้าช่วยกันตลอดอายุตลาด จนถึงวันที่กำลังจะหมดอายุตลาดในอีกไม่นานนี้


อีกตัวอย่างนึง

คนทำรถยนต์ เขารู้ดีครับ ว่าคนไทยอยากได้อะไร
แต่บางที กว่าจะขออนุมัติกับบริษัทแม่ในต่างประเทศ โอ้โห เลือดตาแทบกระเด็น

ปัญหาคือ ญี่ปุ่น และฝรั่ง จำนวนไม่น้อย "ไม่เข้าใจตลาดเมืองไทยดีพอ"
ซ้ำร้าย บางคน มาประจำอยู่ไม่กี่ปี "มันไม่ยอมทำความเข้าใจตลาดเมืองไทยเลย"

มีใยที่ทีมคนไทย พยายามต่อสู้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ของดีๆกัน
แต่ความพยายามกลับสูญเปล่าในหลายๆครั้ง

บางกรณี ก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ Safety Issue
เช่นในกรณีที่ว่า ทำไมไม่มี รถแรงๆ ติดสปอยเลอร์ รอบคัน เข้ามาขายในบ้านเรา
นอกจากเหตุผลด้านภาษีแรงม้า ที่จำกัดกันไม่เกิน 220 ตัว แล้ว ยังมีอีกเหตุผลคือ

ชุดแอโรพาร์ตเหล่านั้น ถ้ามาอยู่ในเมืองไทย คุณเห็นขนาดของ ไม้หมอน ที่ช่องจอดรถไหมครับ
ดูขนาดของมันก่อนไหม ในญี่ปุ่น ขนาดของไม้หมอนที่ว่านี้ ส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานเท่ากันหมด
แต่เมืองไทย มันไม่ใช่แบบนั้น ปัญหาคือ ถ้าเอารถพวกนี้เข้ามาขาย แล้วลูกค้าจอดรถ
ไม้หมอนพวกนี้ ขูดสปอยเลอร์ จะให้ทำอย่างไร? ลูกค้าประเภทศรีธนญชัย ก็จะมาฟ้องร้องดำเนินคดีได้อีก
หาว่าบริษัทรถนยนต์ ทำไมไม่คิดให้มันรอบคอบ!!!!????

พักหลังมานี้ คุณถึงจะได้เห็น ออพชันแอรโรพาร์ท ประเภท TRD Sportivo , Extremo ฯลฯ
ทำในเมืองไทย ออกแบบโดยซัพพลายเออร์ในเมืองไทย กันไงครับ ขืนเอาแอโรพาร์ตญี่ปุ่น
มาทั้งดุ้น ก็ต้องดูระดับความสูงจากพื้นถนนกันให้ดีๆด้วย

นี่แค่ตัวอย่าง ไว้วันหลัง เล่าให้ฟัง มีเรื่องสนุกกว่านี้อีกเยอะ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2013, 10:46:18 โดย J!MMY »

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
สงสัยครับคุณจิมมี่ว่าคันที่ว่านั้นคืออะไรเดาว่าฟรีดรึเปล่าครับ ถ้าใช่ผมว่าแพงจริงๆนะ ส่วนเรื่องรายละเอียดผมว่าน่าสนใจมากครับน่าจะลองเขียนเป็นบทความดีมั๊ยครับแต่ก็มาเล่าให้ฟังเรื่อยๆอย่างนี้ดีแล้วและสิ่งที่อยากทราบครับว่าค่ายรองๆทำไมเค้าไม่ปรับปรุงพัฒนาหลังการขายรวมไปถึงช่างด้วยครับติดขัดอะไรถ้าทำตรงนี้ได้ก็จะก้าวไปได้เร็วขึ้นหลายๆคนไม่ได้ใช้ค่ายตลาดแต่ต้องจำใจเพราะไปทางอื่นรวมๆแล้วก็ไม่ได้ดีกว่ากันเลย เท่าที่จำได้ที่คุณจิมมี่พูดถึงเรื่องวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและ Adtitude ของคนในองกรณ์
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์

นี่แค่ตัวอย่าง ไว้วันหลัง เล่าให้ฟัง มีเรื่องสนุกกว่านี้อีกเยอะ!

นานแค่ไหนผมก็จะรอครับ  ;D ;D

ผมมีความเห็นอันนึงอยากแชร์ ซึ่งตรงกับที่คุณจิมมี่บอกคือ

ผู้บริหารต่างชาติที่มาทำงานยุคหลัง โดยเฉพาะค่ายญี่ปุ่นนี่ ไม่ค่อยรู้ และไม่พยายามเรียนรู้ตลาด และนิสัยกับพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยมากเท่าที่ควรทำ บางคนมาจากโซนที่ตลาดต่างจากไทยมาก แต่ใช้วิธีการเดียวกัน หรือรูปแบบเดียวกันบริหารงาน ............ที่สำคัญ ไม่ฟังใครอีกต่างหาก แบบนี้มีไม่น้อยด้วยครับ

อย่างที่ผมเชื่อมาตลอดครับ ค่ายไหนรู้ใจคนไทย ต้องให้ก่อน เอาคืนทีหลังครับ แบบที่เจ้าตลาดทำ
ใช้เวลาตั้งหลายสิบปี ฝังตัวอยู่ในตลาด และสำคัญคือเข้าไปเรียนรู้ "ใจ" ของคนส่วนใหญ่ในประเทศว่าต้องการอะไร

รถยนต์ที่ราคา ณ ปัจจุบันมันเป็นอย่างนี้ เราต้องยอมรับนะครับว่า มันเป็นสิ่งที่ "เกินเอื้อม หรือ ต้องตะเกียกตะกาย" สำหรับคนส่วนมากของประเทศเรา

คิดง่ายๆ ว่า ถ้าอยู่ๆ รถยนต์คือของที่ "ผ่อน" ไม่ได้ขึ้นมา
คนในประเทศเรานี่จะมีเหลือเท่าไหร่ ที่สามารถมีรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นของตัวเองได้บ้าง

ดังนั้นทุกเรื่องทีเกี่ยวกับ "เงิน" คือปัจจัยสำคัญที่ทุกค่ายต้องนำมาคิดเป็นเรื่องแรกในโต๊ะประชุมแหงๆครับ

ข้อ 1.  รถคันนี้จะขายเท่าไหร่

ข้อ 2.  รถคันนี้จะให้อะไรบ้าง ............ถ้าคิดไม่ออกให้ย้อนกลับไปอ่านข้อ 1 ใหม่

น่าจะประมาณนี้แหละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2013, 11:06:35 โดย dht_tubes »

ออฟไลน์ neutrino

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 750
ต่างประเทศขายรถ แข่งกันที่คุณภาพ
ประเทศไทยขายรถ แข่งกันที่ราคา 55555 :D
ขอเสริมครับ ต่างประเทศแข่งกันที่คุณภาพ
ประเทศไทยแข่งกันที่ยี่ห้อครับ แฮ่ๆๆ
บ่อยครั้งที่พาคนจะซื้อรถไปดูรถหลายๆยี่ห้อประกอบการตัดสินใจ และเขาก็รู้ว่า เจ้าตลาดเอาเปรียบ คุณภาพต่ำกว่า แต่พอตัดสินใจซื้อจริงๆ ก็ไปคว้าเจ้าตลาดทุกที
 ปัญหามีอยู่ว่า จะทำยังไงให้ผู้บริโภคไทยฉลาดและกล้าหักดิบบรรดาเจ้าตลาดครับ ทั้งนี้รถยี่ห้อรองๆทั้งหลายต้องกล้าปรับปรุงจุดด้อยตัวเองด้วยครับ เพราะพวกเราที่รู้มากเรื่องรถในเว็บนั้นเมื่อเทียบกับผู้บริโภคในประเทศถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
สงสัยครับคุณจิมมี่ว่าคันที่ว่านั้นคืออะไรเดาว่าฟรีดรึเปล่าครับ ถ้าใช่ผมว่าแพงจริงๆนะ ส่วนเรื่องรายละเอียดผมว่าน่าสนใจมากครับน่าจะลองเขียนเป็นบทความดีมั๊ยครับแต่ก็มาเล่าให้ฟังเรื่อยๆอย่างนี้ดีแล้วและสิ่งที่อยากทราบครับว่าค่ายรองๆทำไมเค้าไม่ปรับปรุงพัฒนาหลังการขายรวมไปถึงช่างด้วยครับติดขัดอะไรถ้าทำตรงนี้ได้ก็จะก้าวไปได้เร็วขึ้นหลายๆคนไม่ได้ใช้ค่ายตลาดแต่ต้องจำใจเพราะไปทางอื่นรวมๆแล้วก็ไม่ได้ดีกว่ากันเลย เท่าที่จำได้ที่คุณจิมมี่พูดถึงเรื่องวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและ Adtitude ของคนในองกรณ์

น่าจะ yaris นะครับ. เหมือนพี่จิมมี่เคยตอบกระทู้ประมานนี้ก่ินหน้านี้เคยเอ่ยว่า yaris

ผิดอะไรขออภัยนะครับ

ออฟไลน์ XL_SiZe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,041
ทดสอบได้ครับ
ว่าโทรศัพท์มือถือถ้าจะเลือกซื้อ แต่ละคนจะซื้อยี่ห้อไหน..

1. Samsung or I-Phone
2. LG or OPPO-mobile or Sony

ลองเลือกตามความจริง
ผมเดาว่าส่วนมาก ต้องเลือก ข้อ 1. (เจ้าตลาด ออฟชั่นน้อย)
ส่วนคนที่ยอมเลือกข้อ 2. บางส่วนกล้าทำ (ออฟชั่นดีกว่า ในราคาเท่ากัน)

เพราะความรู้ ความเข้าใจ คือเหตุและปัจจัยครับ
เราพูดในเรื่องที่เราเข้าใจ มันก็เลยพรั่งพรูแบบ เหตุและผลได้...

ออฟไลน์ erosa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 165
    • New Navara 2014
ผมมองว่าบ้านเราราคารถแพงเกินออพชั่นที่ให้มาครับ แต่ก็คงต้องเลือกที่เหมาะกับเรา
ขับขี่มีน้ำใจ ปลอดภัยทุกคน  อัลเมร่ารถไฮบริด

ออฟไลน์ gumpzgear

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 382
ในความคิดผม ส่วนหลักก็มาจากผู้บริโภคเราๆเนี่ยแหละครับ

ถ้าทำวิจัยขึ้นมา ว่าปัจจัยในการเลือกซื้อรถของผู้บริโภคชาวไทยคืออะไร
1.ราคาขายต่อ
2.รูปร่างหน้าตา
3.ศูนย์บริการ
4.ราคาขายปลีก
บลาๆๆๆ
ทั้งนี้เรื่องแบรนด์ผมไม่คิดว่าคนไทยส่วนมากจะซื้อรถตลาดด้วยความภาคภูมิใจในแบรนด์แบรนด์ เช่น  BMW, Benz

ดังนั้นคนขายจะใส่มาทำไมเยอะๆถ้าใส่แล้วเสียเปรียบในการแข่งขัน

ยกตัวอย่างเฟียสต้า รู้ว่าปัจจัยอื่นทำยาก เลยใส่เรื่องออพชั่นมาสู้ ผลก็ยังสู้เจ้าตลาดไม่ได้ ไม่งั้นคงเห็น Fiesta Ultimate เต็มเมืองละครับ

ออฟไลน์ อีกนิดก็แรง

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 961
เรื่องนี้ สงสัยจะยาว ถ้าผมต้องตอบ....

สื่อบางราย อวยบริษัทรถยนต์ ก็เพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจขาดใหญ่ร่วมกัน

แต่ถ้าคุณโทษแต่สื่อ ผมบอกเลยว่า คุณมองปัญหาแค่ฉาบฉวย


ต่อไปนี้คือตัวอย่าง....

คนรอบข้างของผมคนนึง
เมื่อหลายปีก่อน มีเหตุให้ต้องรับงาน เรื่องจัดออพชัน ให้กับรถเล็ก หนึ่งในเจ้าตลาดค่ายหนึ่ง
ด้วยความที่ เจ้าตัว ก็คิดแบบคุณผู้แอ่านเป๊ะเลยครับ อัดอั้น คับแค้นใจ อยากให้คนไทยได้ใช้ของดีๆ
มาถึง ท่านพี่ของผม ก็ ติ๊กเอาๆๆๆๆ ออพชัน อะไรที่อยากให้คนไทยได้ใช้ พ่อจัดประเคนให้เต็มที่

พอมาคิดคำนวนราคาขาย ซึ่งทุกค่ายจะมีสูตรการคำนวนกำไรต่อคัน และต่อโปรเจกต์อยู่
และอะไรอีกไม่รู้เยอะแยะ .....

ทุกท่านครับ ไอ้รถเล็กคันกระเปี๊ยกนั้น ราคาปาเข้าไป 8 แสนกว่าบาท !!!!!!!!!!

ไอ้หยา!

สุดท้าย ก็ต้องยอมลดออพชันบางตัวออกมา ต้องเอาออพชันตัวนั้นตัวนี้ออก
เพื่อให้ยัง "ทำราคาขายปลีกได้"

ปรากฎว่า ในวันเปิดตัว ราคาที่ตั้งไว้ ก็ยังแพงกว่าความคิดของผู้บริโภคอยู่ดี
ทั้ที่ออพชันหั่นออกไปพอสมควรแล้ว เหลือ ข้าวของจุกจิกลูกเล่นไฟฟ้า เล็กๆน้อยๆ เอาไว้

ดีลเลอร์ ก็กดดัน เพราะลูกค้าเมิน มันทำท่าจะขายไม่ออก
แถมในช่วงเปิดตัว ส่วนแบ่งที่ดีลเลอร์จะได้ต่อคัน มันน้อยมากๆ จนดีลเลอร์ต้องรวมหัว
ประชุมกัน กดดันสำนักงานใหญ่ ขนานหนัก
สุดท้าย ราคาขายที่ตั้งไว้ ก็ตั้งไว้งั้นๆ บริษัทแม่ ก็ต้องออก Incentive ช่วยดีลเลอร์
รถถึงยังขายออก ได้บ้าง แต่ทุกวันนี้ ยอดก็ยังเดินต่ำกว่าเป้ายอดขายจริง
ต้องมีของแถมเข้าช่วยกันตลอดอายุตลาด จนถึงวันที่กำลังจะหมดอายุตลาดในอีกไม่นานนี้


อีกตัวอย่างนึง

คนทำรถยนต์ เขารู้ดีครับ ว่าคนไทยอยากได้อะไร
แต่บางที กว่าจะขออนุมัติกับบริษัทแม่ในต่างประเทศ โอ้โห เลือดตาแทบกระเด็น

ปัญหาคือ ญี่ปุ่น และฝรั่ง จำนวนไม่น้อย "ไม่เข้าใจตลาดเมืองไทยดีพอ"
ซ้ำร้าย บางคน มาประจำอยู่ไม่กี่ปี "มันไม่ยอมทำความเข้าใจตลาดเมืองไทยเลย"

มีใยที่ทีมคนไทย พยายามต่อสู้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ของดีๆกัน
แต่ความพยายามกลับสูญเปล่าในหลายๆครั้ง

บางกรณี ก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ Safety Issue
เช่นในกรณีที่ว่า ทำไมไม่มี รถแรงๆ ติดสปอยเลอร์ รอบคัน เข้ามาขายในบ้านเรา
นอกจากเหตุผลด้านภาษีแรงม้า ที่จำกัดกันไม่เกิน 220 ตัว แล้ว ยังมีอีกเหตุผลคือ

ชุดแอโรพาร์ตเหล่านั้น ถ้ามาอยู่ในเมืองไทย คุณเห็นขนาดของ ไม้หมอน ที่ช่องจอดรถไหมครับ
ดูขนาดของมันก่อนไหม ในญี่ปุ่น ขนาดของไม้หมอนที่ว่านี้ ส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานเท่ากันหมด
แต่เมืองไทย มันไม่ใช่แบบนั้น ปัญหาคือ ถ้าเอารถพวกนี้เข้ามาขาย แล้วลูกค้าจอดรถ
ไม้หมอนพวกนี้ ขูดสปอยเลอร์ จะให้ทำอย่างไร? ลูกค้าประเภทศรีธนญชัย ก็จะมาฟ้องร้องดำเนินคดีได้อีก
หาว่าบริษัทรถนยนต์ ทำไมไม่คิดให้มันรอบคอบ!!!!????

พักหลังมานี้ คุณถึงจะได้เห็น ออพชันแอรโรพาร์ท ประเภท TRD Sportivo , Extremo ฯลฯ
ทำในเมืองไทย ออกแบบโดยซัพพลายเออร์ในเมืองไทย กันไงครับ ขืนเอาแอโรพาร์ตญี่ปุ่น
มาทั้งดุ้น ก็ต้องดูระดับความสูงจากพื้นถนนกันให้ดีๆด้วย

นี่แค่ตัวอย่าง ไว้วันหลัง เล่าให้ฟัง มีเรื่องสนุกกว่านี้อีกเยอะ!
ครั้งนี้ผมไม่เห็นด้วยกับพี่จิมมี่เพราะว่าผมคิดว่าค่ายรถแต่ละค่ายเอากำไรเกินงาม เรืี่องติ๊ก option ทุกอย่างแล้วราคา 8 แสนกว่า
ผมว่าไม่จริง ผมคนวงนอก แต่เห็น ford จัด option ได้เยอะกว่าเจ้าตลาด แต่ราคาต่ำกว่า 8 แสน ส่วนชุดแต่ง ผมว่าไม่เกี่ยว
ชุดแต่งกับความปลอดภัยผมมองว่าคนละเรื่องกันเลย

ที่ผมสงสัยคือ ford กับ toyota ทำไม option มันต่างกันเยอะ ทั้งๆ ที่ราคาพอๆ กัน ถ้าพี่จิมมี่บอกว่าใส่ option แล้วราคาเกิน ทำไม ford ถึงราคาไม ford ถึงราคาพอๆ กับ toyota แต่ option เยอะกว่า? นั่นคือสิ่งที่ผมคิด ผมอาจจะพูดวกไปวนมา แต่สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า
ค่ายรถที่ผลิตในเมืองไทยเอากำไรเกินงามม

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
เรื่องนี้ สงสัยจะยาว ถ้าผมต้องตอบ....

สื่อบางราย อวยบริษัทรถยนต์ ก็เพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจขาดใหญ่ร่วมกัน

แต่ถ้าคุณโทษแต่สื่อ ผมบอกเลยว่า คุณมองปัญหาแค่ฉาบฉวย


ต่อไปนี้คือตัวอย่าง....

คนรอบข้างของผมคนนึง
เมื่อหลายปีก่อน มีเหตุให้ต้องรับงาน เรื่องจัดออพชัน ให้กับรถเล็ก หนึ่งในเจ้าตลาดค่ายหนึ่ง
ด้วยความที่ เจ้าตัว ก็คิดแบบคุณผู้แอ่านเป๊ะเลยครับ อัดอั้น คับแค้นใจ อยากให้คนไทยได้ใช้ของดีๆ
มาถึง ท่านพี่ของผม ก็ ติ๊กเอาๆๆๆๆ ออพชัน อะไรที่อยากให้คนไทยได้ใช้ พ่อจัดประเคนให้เต็มที่

พอมาคิดคำนวนราคาขาย ซึ่งทุกค่ายจะมีสูตรการคำนวนกำไรต่อคัน และต่อโปรเจกต์อยู่
และอะไรอีกไม่รู้เยอะแยะ .....

ทุกท่านครับ ไอ้รถเล็กคันกระเปี๊ยกนั้น ราคาปาเข้าไป 8 แสนกว่าบาท !!!!!!!!!!

ไอ้หยา!

สุดท้าย ก็ต้องยอมลดออพชันบางตัวออกมา ต้องเอาออพชันตัวนั้นตัวนี้ออก
เพื่อให้ยัง "ทำราคาขายปลีกได้"

ปรากฎว่า ในวันเปิดตัว ราคาที่ตั้งไว้ ก็ยังแพงกว่าความคิดของผู้บริโภคอยู่ดี
ทั้ที่ออพชันหั่นออกไปพอสมควรแล้ว เหลือ ข้าวของจุกจิกลูกเล่นไฟฟ้า เล็กๆน้อยๆ เอาไว้

ดีลเลอร์ ก็กดดัน เพราะลูกค้าเมิน มันทำท่าจะขายไม่ออก
แถมในช่วงเปิดตัว ส่วนแบ่งที่ดีลเลอร์จะได้ต่อคัน มันน้อยมากๆ จนดีลเลอร์ต้องรวมหัว
ประชุมกัน กดดันสำนักงานใหญ่ ขนานหนัก
สุดท้าย ราคาขายที่ตั้งไว้ ก็ตั้งไว้งั้นๆ บริษัทแม่ ก็ต้องออก Incentive ช่วยดีลเลอร์
รถถึงยังขายออก ได้บ้าง แต่ทุกวันนี้ ยอดก็ยังเดินต่ำกว่าเป้ายอดขายจริง
ต้องมีของแถมเข้าช่วยกันตลอดอายุตลาด จนถึงวันที่กำลังจะหมดอายุตลาดในอีกไม่นานนี้


อีกตัวอย่างนึง

คนทำรถยนต์ เขารู้ดีครับ ว่าคนไทยอยากได้อะไร
แต่บางที กว่าจะขออนุมัติกับบริษัทแม่ในต่างประเทศ โอ้โห เลือดตาแทบกระเด็น

ปัญหาคือ ญี่ปุ่น และฝรั่ง จำนวนไม่น้อย "ไม่เข้าใจตลาดเมืองไทยดีพอ"
ซ้ำร้าย บางคน มาประจำอยู่ไม่กี่ปี "มันไม่ยอมทำความเข้าใจตลาดเมืองไทยเลย"

มีใยที่ทีมคนไทย พยายามต่อสู้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ของดีๆกัน
แต่ความพยายามกลับสูญเปล่าในหลายๆครั้ง

บางกรณี ก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ Safety Issue
เช่นในกรณีที่ว่า ทำไมไม่มี รถแรงๆ ติดสปอยเลอร์ รอบคัน เข้ามาขายในบ้านเรา
นอกจากเหตุผลด้านภาษีแรงม้า ที่จำกัดกันไม่เกิน 220 ตัว แล้ว ยังมีอีกเหตุผลคือ

ชุดแอโรพาร์ตเหล่านั้น ถ้ามาอยู่ในเมืองไทย คุณเห็นขนาดของ ไม้หมอน ที่ช่องจอดรถไหมครับ
ดูขนาดของมันก่อนไหม ในญี่ปุ่น ขนาดของไม้หมอนที่ว่านี้ ส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานเท่ากันหมด
แต่เมืองไทย มันไม่ใช่แบบนั้น ปัญหาคือ ถ้าเอารถพวกนี้เข้ามาขาย แล้วลูกค้าจอดรถ
ไม้หมอนพวกนี้ ขูดสปอยเลอร์ จะให้ทำอย่างไร? ลูกค้าประเภทศรีธนญชัย ก็จะมาฟ้องร้องดำเนินคดีได้อีก
หาว่าบริษัทรถนยนต์ ทำไมไม่คิดให้มันรอบคอบ!!!!????

พักหลังมานี้ คุณถึงจะได้เห็น ออพชันแอรโรพาร์ท ประเภท TRD Sportivo , Extremo ฯลฯ
ทำในเมืองไทย ออกแบบโดยซัพพลายเออร์ในเมืองไทย กันไงครับ ขืนเอาแอโรพาร์ตญี่ปุ่น
มาทั้งดุ้น ก็ต้องดูระดับความสูงจากพื้นถนนกันให้ดีๆด้วย

นี่แค่ตัวอย่าง ไว้วันหลัง เล่าให้ฟัง มีเรื่องสนุกกว่านี้อีกเยอะ!
ครั้งนี้ผมไม่เห็นด้วยกับพี่จิมมี่เพราะว่าผมคิดว่าค่ายรถแต่ละค่ายเอากำไรเกินงาม เรืี่องติ๊ก option ทุกอย่างแล้วราคา 8 แสนกว่า
ผมว่าไม่จริง ผมคนวงนอก แต่เห็น ford จัด option ได้เยอะกว่าเจ้าตลาด แต่ราคาต่ำกว่า 8 แสน ส่วนชุดแต่ง ผมว่าไม่เกี่ยว
ชุดแต่งกับความปลอดภัยผมมองว่าคนละเรื่องกันเลย

ที่ผมสงสัยคือ ford กับ toyota ทำไม option มันต่างกันเยอะ ทั้งๆ ที่ราคาพอๆ กัน ถ้าพี่จิมมี่บอกว่าใส่ option แล้วราคาเกิน ทำไม ford ถึงราคาไม ford ถึงราคาพอๆ กับ toyota แต่ option เยอะกว่า? นั่นคือสิ่งที่ผมคิด ผมอาจจะพูดวกไปวนมา แต่สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า
ค่ายรถที่ผลิตในเมืองไทยเอากำไรเกินงามม

อันนี้ผมขอแย้งนิดนึงนะครับ ผมมองว่า จริงๆ แล้ว คนที่ตัดสินเรื่อง option เนี่ย ก็คือผู้บริโภคอย่างพวกเรามากกว่า แม้แต่ผม ผมก็ยังยอมรับว่า หลายครั้งที่ผมดูรถที่ราคา มากกว่าอุปกรณ์ความปลอดภัย

ผมสมมุตินะครับ สมมุติว่า ตัวรถเนี่ย ราคา 5 แสน โดยยังไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยใดๆ ราคาขายอยู่ที่ 6 แสน

ผมจะทำยังไงกับอีก 1 แสนบาทดีครับ
ระหว่าง
1. ยัดถุงลม 6 ใบ ABS, EBD, Traction Control ให้เต็ม 1 แสน แต่ตลาดเมืองไทย คนเพิ่งจะเริ่มสนใจเรื่องเหล่านี้
2. ใส่เข้าไปเท่าที่กฎหมายกำหนดให้ใส่+ใส่เพิ่มอีกนิดให้ดูมี gimmick แล้วเหลือเงินอีกสัก 4 หมื่น เอาไปเป็นกำไร หรือเติมสิ่งอื่นๆ ที่ตลาดให้ความสำคัญ เ่ช่นเครื่องเสียง หรือชุดแต่ง หรือเป็น Incentive ให้ sales หรืออื่นๆ

ถ้าผมเป็นผู้ผลิต ผมคงเลือกข้อ 2 เพราะยังไงผมก็เปิดบริษัทเพื่อค้าขายครับ  ถ้าลงทุนมากกว่า แต่ผลตอบแทนได้แค่เท่ากันหรือน้อยกว่า ผมก็คงไล่เจ้่าหน้าที่คนนั้นออกครับ

ก็ไม่อยากให้มันเลวร้ายถึงขนาดคดีถังน้ำมัน Ford Pinto ที่บอกว่า "จ่าค่าทำขวัญ ค่าทำศพ ยังดีกว่าเปลี่ยนถังน้ำมันใ้ห้ปลอดภัยขึ้น" หรอกครับ อย่างว่า ธุรกิจก็คือธุรกิจครับ ถ้าลูกค้าิอย่างเราไม่เรียกร้อง ก็ไม่มีใครประเคนมาให้เราครับ

ร้านอาหารจะรักษารสชาติได้หรือไม่ มันก็อยู่ที่ลูกค้านั่นละครับ ถ้าลูกค้าง้อ รสชาติก็อาจจะตกลงบ้าง จนถึงจุดที่ไม่ไหวก็อาจจะเจ๊ง หรือแก้ตัวให้ลูกค้ามาติดใหม่ มันก็แบบนั้นแหละครับ


ในความคิดผม ส่วนหลักก็มาจากผู้บริโภคเราๆเนี่ยแหละครับ

ถ้าทำวิจัยขึ้นมา ว่าปัจจัยในการเลือกซื้อรถของผู้บริโภคชาวไทยคืออะไร
1.ราคาขายต่อ
2.รูปร่างหน้าตา
3.ศูนย์บริการ
4.ราคาขายปลีก
บลาๆๆๆ
ทั้งนี้เรื่องแบรนด์ผมไม่คิดว่าคนไทยส่วนมากจะซื้อรถตลาดด้วยความภาคภูมิใจในแบรนด์แบรนด์ เช่น  BMW, Benz

ดังนั้นคนขายจะใส่มาทำไมเยอะๆถ้าใส่แล้วเสียเปรียบในการแข่งขัน

ยกตัวอย่างเฟียสต้า รู้ว่าปัจจัยอื่นทำยาก เลยใส่เรื่องออพชั่นมาสู้ ผลก็ยังสู้เจ้าตลาดไม่ได้ ไม่งั้นคงเห็น Fiesta Ultimate เต็มเมืองละครับ

ผมเห็นด้วยนะครับ บริษัทเขาก็ใช้ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค มาสร้างกำไรสูงสุดโดยอาศัยจุดเ่ด่นของตนเองเสริม

Ford ยังไม่จุดเด่นเรื่อง Brand เลยเน้น Option ซึ่งผมก็ว่าคนไทยก็ตอบสนองดีในระดับหนึ่ง แต่สุดท้าย ยอดขายมันก็ฟ้องหมดทุกอย่างละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2013, 01:11:34 โดย YIM »
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
เรื่องนี้ สงสัยจะยาว ถ้าผมต้องตอบ....

สื่อบางราย อวยบริษัทรถยนต์ ก็เพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจขาดใหญ่ร่วมกัน

แต่ถ้าคุณโทษแต่สื่อ ผมบอกเลยว่า คุณมองปัญหาแค่ฉาบฉวย


ต่อไปนี้คือตัวอย่าง....

คนรอบข้างของผมคนนึง
เมื่อหลายปีก่อน มีเหตุให้ต้องรับงาน เรื่องจัดออพชัน ให้กับรถเล็ก หนึ่งในเจ้าตลาดค่ายหนึ่ง
ด้วยความที่ เจ้าตัว ก็คิดแบบคุณผู้แอ่านเป๊ะเลยครับ อัดอั้น คับแค้นใจ อยากให้คนไทยได้ใช้ของดีๆ
มาถึง ท่านพี่ของผม ก็ ติ๊กเอาๆๆๆๆ ออพชัน อะไรที่อยากให้คนไทยได้ใช้ พ่อจัดประเคนให้เต็มที่

พอมาคิดคำนวนราคาขาย ซึ่งทุกค่ายจะมีสูตรการคำนวนกำไรต่อคัน และต่อโปรเจกต์อยู่
และอะไรอีกไม่รู้เยอะแยะ .....

ทุกท่านครับ ไอ้รถเล็กคันกระเปี๊ยกนั้น ราคาปาเข้าไป 8 แสนกว่าบาท !!!!!!!!!!

ไอ้หยา!

สุดท้าย ก็ต้องยอมลดออพชันบางตัวออกมา ต้องเอาออพชันตัวนั้นตัวนี้ออก
เพื่อให้ยัง "ทำราคาขายปลีกได้"

ปรากฎว่า ในวันเปิดตัว ราคาที่ตั้งไว้ ก็ยังแพงกว่าความคิดของผู้บริโภคอยู่ดี
ทั้ที่ออพชันหั่นออกไปพอสมควรแล้ว เหลือ ข้าวของจุกจิกลูกเล่นไฟฟ้า เล็กๆน้อยๆ เอาไว้

ดีลเลอร์ ก็กดดัน เพราะลูกค้าเมิน มันทำท่าจะขายไม่ออก
แถมในช่วงเปิดตัว ส่วนแบ่งที่ดีลเลอร์จะได้ต่อคัน มันน้อยมากๆ จนดีลเลอร์ต้องรวมหัว
ประชุมกัน กดดันสำนักงานใหญ่ ขนานหนัก
สุดท้าย ราคาขายที่ตั้งไว้ ก็ตั้งไว้งั้นๆ บริษัทแม่ ก็ต้องออก Incentive ช่วยดีลเลอร์
รถถึงยังขายออก ได้บ้าง แต่ทุกวันนี้ ยอดก็ยังเดินต่ำกว่าเป้ายอดขายจริง
ต้องมีของแถมเข้าช่วยกันตลอดอายุตลาด จนถึงวันที่กำลังจะหมดอายุตลาดในอีกไม่นานนี้


อีกตัวอย่างนึง

คนทำรถยนต์ เขารู้ดีครับ ว่าคนไทยอยากได้อะไร
แต่บางที กว่าจะขออนุมัติกับบริษัทแม่ในต่างประเทศ โอ้โห เลือดตาแทบกระเด็น

ปัญหาคือ ญี่ปุ่น และฝรั่ง จำนวนไม่น้อย "ไม่เข้าใจตลาดเมืองไทยดีพอ"
ซ้ำร้าย บางคน มาประจำอยู่ไม่กี่ปี "มันไม่ยอมทำความเข้าใจตลาดเมืองไทยเลย"

มีใยที่ทีมคนไทย พยายามต่อสู้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ของดีๆกัน
แต่ความพยายามกลับสูญเปล่าในหลายๆครั้ง

บางกรณี ก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ Safety Issue
เช่นในกรณีที่ว่า ทำไมไม่มี รถแรงๆ ติดสปอยเลอร์ รอบคัน เข้ามาขายในบ้านเรา
นอกจากเหตุผลด้านภาษีแรงม้า ที่จำกัดกันไม่เกิน 220 ตัว แล้ว ยังมีอีกเหตุผลคือ

ชุดแอโรพาร์ตเหล่านั้น ถ้ามาอยู่ในเมืองไทย คุณเห็นขนาดของ ไม้หมอน ที่ช่องจอดรถไหมครับ
ดูขนาดของมันก่อนไหม ในญี่ปุ่น ขนาดของไม้หมอนที่ว่านี้ ส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานเท่ากันหมด
แต่เมืองไทย มันไม่ใช่แบบนั้น ปัญหาคือ ถ้าเอารถพวกนี้เข้ามาขาย แล้วลูกค้าจอดรถ
ไม้หมอนพวกนี้ ขูดสปอยเลอร์ จะให้ทำอย่างไร? ลูกค้าประเภทศรีธนญชัย ก็จะมาฟ้องร้องดำเนินคดีได้อีก
หาว่าบริษัทรถนยนต์ ทำไมไม่คิดให้มันรอบคอบ!!!!????

พักหลังมานี้ คุณถึงจะได้เห็น ออพชันแอรโรพาร์ท ประเภท TRD Sportivo , Extremo ฯลฯ
ทำในเมืองไทย ออกแบบโดยซัพพลายเออร์ในเมืองไทย กันไงครับ ขืนเอาแอโรพาร์ตญี่ปุ่น
มาทั้งดุ้น ก็ต้องดูระดับความสูงจากพื้นถนนกันให้ดีๆด้วย

นี่แค่ตัวอย่าง ไว้วันหลัง เล่าให้ฟัง มีเรื่องสนุกกว่านี้อีกเยอะ!
ครั้งนี้ผมไม่เห็นด้วยกับพี่จิมมี่เพราะว่าผมคิดว่าค่ายรถแต่ละค่ายเอากำไรเกินงาม เรืี่องติ๊ก option ทุกอย่างแล้วราคา 8 แสนกว่า
ผมว่าไม่จริง ผมคนวงนอก แต่เห็น ford จัด option ได้เยอะกว่าเจ้าตลาด แต่ราคาต่ำกว่า 8 แสน ส่วนชุดแต่ง ผมว่าไม่เกี่ยว
ชุดแต่งกับความปลอดภัยผมมองว่าคนละเรื่องกันเลย

ที่ผมสงสัยคือ ford กับ toyota ทำไม option มันต่างกันเยอะ ทั้งๆ ที่ราคาพอๆ กัน ถ้าพี่จิมมี่บอกว่าใส่ option แล้วราคาเกิน ทำไม ford ถึงราคาไม ford ถึงราคาพอๆ กับ toyota แต่ option เยอะกว่า? นั่นคือสิ่งที่ผมคิด ผมอาจจะพูดวกไปวนมา แต่สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า
ค่ายรถที่ผลิตในเมืองไทยเอากำไรเกินงามม

กรณีของ Ford มันต่างไปจากเคสที่ผมหยิบยกมาให้อ่าน
เขาเริ่มจับจุดคนไทยถูกไงครับ ว่าคนไทย บ้าออพชัน และออพชันที่ให้้มา มันต้องดูเกินราคา
เขาก็แอบไปตัดโน่น นี่ นั่นบางอย่างที่เราไม่ค่อยได้ใช้ ออก แล้วใส่ในสิ่งที่ลูกค้าเห็นแล้วร้องอู้หูเข้าไป

คราวนี้ Ford ทำได้ เพราะอย่าลืมว่า ตอนนี้ Ford พยายามทำนโยบาย One Ford
ให้เหมือนันทั่วโลก ดังนั้น รถที่ขายในทุกประเภทศ จะเป็นตัวถังเดียวกัน ข้าวของ อะไหล่หลักๆ
จะแชร์ร่วมกันได้ ในแบบที่ญี่ปุ่นเคยทำได้ หรือบางค่ายก็ยังทำได้ไม่ดีด้วย

ระบบ การขนส่งชิ้นส่วนจาก ซัพพลายเออร์ จำพวก Logistic ก็มีส่วน
การบริหารจัดการชิ้นส่วน จากซัพพลายเออร์ ก็มีส่วน ช่วยให้ต้นทุนทั้งโครงการพัฒนารถหนึ่งรุ่นถูกลงได้
การเลือกประมูล ซัพพลายเออร์  ที่ให้ราคาถูกกว่า อย่างเหมาะสม รวมทั้งกุศโลบายอีกหลายอย่าง
มีส่วนช่วยให้ต้นทุนถูกลง

ดังนั้น เมื่อต้นทุนถูกลง แต่สูตรการคำนวนกำไรต่อคัน หรือ อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง ยังค้ลายๆ เดิม
หรืออาจน้อยกว่าเดิมนิดเดียว แค่นี้ ก็ทำราคาถูกลงมาได้ แถมยังมีออพชันให้ลูกค้าร้องอู้หู ได้แล้วละครับ

อ้อ ได้ยินว่า Product Analysis ของ Ford Thailand ตอนนี้ เก่ง และเทพมากๆ
อยากเจอ และขอความรู้ชะมัดเลย!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2013, 03:19:46 โดย J!MMY »

ออฟไลน์ Yeahyeahs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 856
เรื่องนี้ สงสัยจะยาว ถ้าผมต้องตอบ....

สื่อบางราย อวยบริษัทรถยนต์ ก็เพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจขาดใหญ่ร่วมกัน

แต่ถ้าคุณโทษแต่สื่อ ผมบอกเลยว่า คุณมองปัญหาแค่ฉาบฉวย


ต่อไปนี้คือตัวอย่าง....

คนรอบข้างของผมคนนึง
เมื่อหลายปีก่อน มีเหตุให้ต้องรับงาน เรื่องจัดออพชัน ให้กับรถเล็ก หนึ่งในเจ้าตลาดค่ายหนึ่ง
ด้วยความที่ เจ้าตัว ก็คิดแบบคุณผู้แอ่านเป๊ะเลยครับ อัดอั้น คับแค้นใจ อยากให้คนไทยได้ใช้ของดีๆ
มาถึง ท่านพี่ของผม ก็ ติ๊กเอาๆๆๆๆ ออพชัน อะไรที่อยากให้คนไทยได้ใช้ พ่อจัดประเคนให้เต็มที่

พอมาคิดคำนวนราคาขาย ซึ่งทุกค่ายจะมีสูตรการคำนวนกำไรต่อคัน และต่อโปรเจกต์อยู่
และอะไรอีกไม่รู้เยอะแยะ .....

ทุกท่านครับ ไอ้รถเล็กคันกระเปี๊ยกนั้น ราคาปาเข้าไป 8 แสนกว่าบาท !!!!!!!!!!

ไอ้หยา!

สุดท้าย ก็ต้องยอมลดออพชันบางตัวออกมา ต้องเอาออพชันตัวนั้นตัวนี้ออก
เพื่อให้ยัง "ทำราคาขายปลีกได้"

ปรากฎว่า ในวันเปิดตัว ราคาที่ตั้งไว้ ก็ยังแพงกว่าความคิดของผู้บริโภคอยู่ดี
ทั้ที่ออพชันหั่นออกไปพอสมควรแล้ว เหลือ ข้าวของจุกจิกลูกเล่นไฟฟ้า เล็กๆน้อยๆ เอาไว้

ดีลเลอร์ ก็กดดัน เพราะลูกค้าเมิน มันทำท่าจะขายไม่ออก
แถมในช่วงเปิดตัว ส่วนแบ่งที่ดีลเลอร์จะได้ต่อคัน มันน้อยมากๆ จนดีลเลอร์ต้องรวมหัว
ประชุมกัน กดดันสำนักงานใหญ่ ขนานหนัก
สุดท้าย ราคาขายที่ตั้งไว้ ก็ตั้งไว้งั้นๆ บริษัทแม่ ก็ต้องออก Incentive ช่วยดีลเลอร์
รถถึงยังขายออก ได้บ้าง แต่ทุกวันนี้ ยอดก็ยังเดินต่ำกว่าเป้ายอดขายจริง
ต้องมีของแถมเข้าช่วยกันตลอดอายุตลาด จนถึงวันที่กำลังจะหมดอายุตลาดในอีกไม่นานนี้


อีกตัวอย่างนึง

คนทำรถยนต์ เขารู้ดีครับ ว่าคนไทยอยากได้อะไร
แต่บางที กว่าจะขออนุมัติกับบริษัทแม่ในต่างประเทศ โอ้โห เลือดตาแทบกระเด็น

ปัญหาคือ ญี่ปุ่น และฝรั่ง จำนวนไม่น้อย "ไม่เข้าใจตลาดเมืองไทยดีพอ"
ซ้ำร้าย บางคน มาประจำอยู่ไม่กี่ปี "มันไม่ยอมทำความเข้าใจตลาดเมืองไทยเลย"

มีใยที่ทีมคนไทย พยายามต่อสู้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ของดีๆกัน
แต่ความพยายามกลับสูญเปล่าในหลายๆครั้ง

บางกรณี ก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ Safety Issue
เช่นในกรณีที่ว่า ทำไมไม่มี รถแรงๆ ติดสปอยเลอร์ รอบคัน เข้ามาขายในบ้านเรา
นอกจากเหตุผลด้านภาษีแรงม้า ที่จำกัดกันไม่เกิน 220 ตัว แล้ว ยังมีอีกเหตุผลคือ

ชุดแอโรพาร์ตเหล่านั้น ถ้ามาอยู่ในเมืองไทย คุณเห็นขนาดของ ไม้หมอน ที่ช่องจอดรถไหมครับ
ดูขนาดของมันก่อนไหม ในญี่ปุ่น ขนาดของไม้หมอนที่ว่านี้ ส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานเท่ากันหมด
แต่เมืองไทย มันไม่ใช่แบบนั้น ปัญหาคือ ถ้าเอารถพวกนี้เข้ามาขาย แล้วลูกค้าจอดรถ
ไม้หมอนพวกนี้ ขูดสปอยเลอร์ จะให้ทำอย่างไร? ลูกค้าประเภทศรีธนญชัย ก็จะมาฟ้องร้องดำเนินคดีได้อีก
หาว่าบริษัทรถนยนต์ ทำไมไม่คิดให้มันรอบคอบ!!!!????

พักหลังมานี้ คุณถึงจะได้เห็น ออพชันแอรโรพาร์ท ประเภท TRD Sportivo , Extremo ฯลฯ
ทำในเมืองไทย ออกแบบโดยซัพพลายเออร์ในเมืองไทย กันไงครับ ขืนเอาแอโรพาร์ตญี่ปุ่น
มาทั้งดุ้น ก็ต้องดูระดับความสูงจากพื้นถนนกันให้ดีๆด้วย

นี่แค่ตัวอย่าง ไว้วันหลัง เล่าให้ฟัง มีเรื่องสนุกกว่านี้อีกเยอะ!
ครั้งนี้ผมไม่เห็นด้วยกับพี่จิมมี่เพราะว่าผมคิดว่าค่ายรถแต่ละค่ายเอากำไรเกินงาม เรืี่องติ๊ก option ทุกอย่างแล้วราคา 8 แสนกว่า
ผมว่าไม่จริง ผมคนวงนอก แต่เห็น ford จัด option ได้เยอะกว่าเจ้าตลาด แต่ราคาต่ำกว่า 8 แสน ส่วนชุดแต่ง ผมว่าไม่เกี่ยว
ชุดแต่งกับความปลอดภัยผมมองว่าคนละเรื่องกันเลย

ที่ผมสงสัยคือ ford กับ toyota ทำไม option มันต่างกันเยอะ ทั้งๆ ที่ราคาพอๆ กัน ถ้าพี่จิมมี่บอกว่าใส่ option แล้วราคาเกิน ทำไม ford ถึงราคาไม ford ถึงราคาพอๆ กับ toyota แต่ option เยอะกว่า? นั่นคือสิ่งที่ผมคิด ผมอาจจะพูดวกไปวนมา แต่สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า
ค่ายรถที่ผลิตในเมืองไทยเอากำไรเกินงามม

กรณีของ Ford มันต่างไปจากเคสที่ผมหยิบยกมาให้อ่าน
เขาเริ่มจับจุดคนไทยถูกไงครับ ว่าคนไทย บ้าออพชัน และออพชันที่ให้้มา มันต้องดูเกินราคา
เขาก็แอบไปตัดโน่น นี่ นั่นบางอย่างที่เราไม่ค่อยได้ใช้ ออก แล้วใส่ในสิ่งที่ลูกค้าเห็นแล้วร้องอู้หูเข้าไป

คราวนี้ Ford ทำได้ เพราะอย่าลืมว่า ตอนนี้ Ford พยายามทำนโยบาย One Ford
ให้เหมือนันทั่วโลก ดังนั้น รถที่ขายในทุกประเภทศ จะเป็นตัวถังเดียวกัน ข้าวของ อะไหล่หลักๆ
จะแชร์ร่วมกันได้ ในแบบที่ญี่ปุ่นเคยทำได้ หรือบางค่ายก็ยังทำได้ไม่ดีด้วย

ระบบ การขนส่งชิ้นส่วนจาก ซัพพลายเออร์ จำพวก Logistic ก็มีส่วน
การบริหารจัดการชิ้นส่วน จากซัพพลายเออร์ ก็มีส่วน ช่วยให้ต้นทุนทั้งโครงการพัฒนารถหนึ่งรุ่นถูกลงได้
การเลือกประมูล ซัพพลายเออร์  ที่ให้ราคาถูกกว่า อย่างเหมาะสม รวมทั้งกุศโลบายอีกหลายอย่าง
มีส่วนช่วยให้ต้นทุนถูกลง

ดังนั้น เมื่อต้นทุนถูกลง แต่สูตรการคำนวนกำไรต่อคัน หรือ อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง ยังค้ลายๆ เดิม
หรืออาจน้อยกว่าเดิมนิดเดียว แค่นี้ ก็ทำราคาถูกลงมาได้ แถมยังมีออพชันให้ลูกค้าร้องอู้หู ได้แล้วละครับ

อ้อ ได้ยินว่า Product Analysis ของ Ford Thailand ตอนนี้ เก่ง และเทพมากๆ
อยากเจอ และขอความรู้ชะมัดเลย!


พี่จิมมี่พูดถึง Ford แล้วอยากฟังเรื่องของ Ford เลย
ว่าทำไมถึงทำรถได้ตรงใจลูกค้า (ถึงจะไม่ทั้งหมด เพราะเป็น One Ford อย่างที่ว่า เช่นเรื่องเบาะหลังแคบ)
แต่เรื่องอื่นๆ ทั้ง QC ทั้งบริการหลังการขายถึงไม่สนใจกันเลย

ถ้าวันนี้ Ford ทำได้ดีในเรื่องพกวนี้ ไม่ต้องขนาดเดินจากศูนย์นึงไปอีกศูนย์นึงยังไม่ทันเหนื่อยแบบพี่โต
แต่บริการให้มันได้ใจเหมือนที่มาสด้าเป็นอยู่ก็พอแล้ว
รวมถึง QC ที่ยังมีอะไรแปลกๆออกมาเสมอ ถ้าเรื่องงานประกอบยังพอไหว
แต่พอมีผลไปถึงเรื่องการขับขี่ นั่นคือชีวิตของลูกค้าด้วยซ้ำ แปลกใจว่าทำไมถึงทำเหมือนไม่แคร์เลย 

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
ทดสอบได้ครับ
ว่าโทรศัพท์มือถือถ้าจะเลือกซื้อ แต่ละคนจะซื้อยี่ห้อไหน..

1. Samsung or I-Phone
2. LG or OPPO-mobile or Sony

ลองเลือกตามความจริง
ผมเดาว่าส่วนมาก ต้องเลือก ข้อ 1. (เจ้าตลาด ออฟชั่นน้อย)
ส่วนคนที่ยอมเลือกข้อ 2. บางส่วนกล้าทำ (ออฟชั่นดีกว่า ในราคาเท่ากัน)

เพราะความรู้ ความเข้าใจ คือเหตุและปัจจัยครับ
เราพูดในเรื่องที่เราเข้าใจ มันก็เลยพรั่งพรูแบบ เหตุและผลได้...

นี่คือตัวอย่างที่ผมใช้ Sony Z รุ่นกันน้ำครับ  :'( :'( :'(
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,29816.0.html

เหตุผลบางอย่างที่ทำให้เราต้องกลับไปใช้เจ้าตลาด อาทิ iPhone T_T

ปล. มันคือศูนย์บริการ เป็นคำตอบสุดท้าย

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์

ทำไมถึงทำรถได้ตรงใจลูกค้า (ถึงจะไม่ทั้งหมด เพราะเป็น One Ford อย่างที่ว่า เช่นเรื่องเบาะหลังแคบ)
แต่เรื่องอื่นๆ ทั้ง QC ทั้งบริการหลังการขายถึงไม่สนใจกันเลย

ถ้าวันนี้ Ford ทำได้ดีในเรื่องพกวนี้ ไม่ต้องขนาดเดินจากศูนย์นึงไปอีกศูนย์นึงยังไม่ทันเหนื่อยแบบพี่โต
แต่บริการให้มันได้ใจเหมือนที่มาสด้าเป็นอยู่ก็พอแล้ว
รวมถึง QC ที่ยังมีอะไรแปลกๆออกมาเสมอ ถ้าเรื่องงานประกอบยังพอไหว
แต่พอมีผลไปถึงเรื่องการขับขี่ นั่นคือชีวิตของลูกค้าด้วยซ้ำ แปลกใจว่าทำไมถึงทำเหมือนไม่แคร์เลย 

ผมขอแสดงความเห็นประเด็นตรงนี้แบบนี้ครับว่า ทำไมทำรถได้ตรงใจลูกค้า ผมมองว่า มาใหม่ อยากแชร์ ก็งัดของดีออกมาก่อน ทุกค่ายรถผมเชื่อว่ามีศักยภาพพอเรื่องเทคนิคต่างๆ ไม่หนีกันเท่าไหร่ อยู่ที่ว่าใครคิดเอง หรือเอาโนว์ฮาวคนอื่นมาทำ ถ้าเป็นของตัวเองต้นทุนก็ต่ำกว่า

แต่เรื่อง QC + aftersale ทำไมกลับหัวกันเลย ก็น่าจะเพราะผู้บริหารที่เป็นคนไทยนั้น ไม่กล้าแสดงฝีมือหรือความคิดมากนัก ไม่ใช่ไม่มี แต่นิสัยคือต้องดูทางลมก่อนเป็นหลัก เราจะไปรู้ได้อย่างไรว่า นายเค้ามองเรื่องอะไรเป็นหลัก สุ่มสี่สุ่มห้าเสนออะไรไป โดนเด้งก็ซวย นั่งตีกิน เลียนาย กินเงินเดือนเป็นแสนๆ ไม่ต้องเสี่ยงดีกว่า อันนี้ผมเชื่อว่าเป็นแบบนี้

คนเป็นนาย โดนเลียมากๆ มันต้องมีเขวอยู่แล้ว บางเรื่องก็ไม่รู้ ก็เลยแก้ไม่ถูกจุดมากกว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ มาลงทุนอะไรต่ออะไรเป็นหลักพัน หลักหมื่นล้าน ถ้าต้องพัฒนาหรือแก้อะไรแล้วขายได้ แต่ไม่ทำ

ส่วนเรื่อง 0 ก็อย่างที่ว่า มันเป็นอะไรที่ต้องลงทุนก่อน โตโยต้า อีซูซุ นิสสัน ฯลฯ 30-40 ปีก่อน เค้าค่อยๆทำได้เพราะว่า ปริมาณศูนย์บริการ ทั้งของตัวเองและคู่แข่งมันไม่เยอะ ขยายซักปีละ 5-10 แห่งก็เยอะแล้ว

10 ปีที่ผ่านมา 0 บริการของเจ้าตลาดเพิ่มขึ้นเป็นหลักหลายร้อย 0 นะครับ อย่างตอนนี้ผมว่าโตโยต้าทั่วประเทศไทยนี่น่าจะครอบคลุมทุกอำเภอแล้วแน่นอน บางจังหวัดอาจครบทุกตำบลด้วยซ้่ำไป

แล้วอยู่ๆ จะให้ฟอร์ด หรือ เจ้าอื่นๆ สร้าง 0 บริการให้เท่าทัน มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ

ในความคิดผมมันต้องเน้นแบบ มีก็สร้างให้ใหญ่เลย เน้นๆ เช่น ฝั่ง กทม. มีซัก 2 แห่งแบบบิ๊กๆ ฝั่งธนฯ ซัก 1 แห่ง ใหญ่หน่อย เทรนช่างให้เก่ง แก้ให้จบ  จังหวัดหลักซักปีละแห่ง ก็หรูแล้ว

0 เยอะ ทำไม่เป็น เอาน้อยๆ แห่งแต่เก่งดีกว่า

แล้วสำคัญสุดคือ ต้องคุยง่าย ยอมหน่อย อย่างหยิ่ง มันต้องใช้เวลาครับ เจ้าตลาดทำมานานจนเข้าไปสิงในใจคนไทยค่อนประเทศ อยากให้เค้ารัก มันก็ต้องทุ่ม ทุนสู้ไม่ได้ ก็ต้องใช้ใจครับ

ผมคิดของผมแบบนี้แหละ ดังนั้นดูจากที่ผ่านมาตั้งแต่ฟอร์ดเริ่มมาลุย ผมว่าไม่มีทางทำได้แน่ ถ้ายังคงแนวทางที่ว่า

รถเราดีอยู่แล้ว ต้องหยิ่งหน่อยดิ ลดทำไม ของดีต้องขายได้

โห จะซ่อม จะเคลมอะไรกันนักหนา รถก็คือรถ (แบบฝรั่งคิด) ใช้ 1-5 ปี ก็เปลี่ยนแล้ว

ฯลฯ

เพราะรถสำหรับคนไทย ณ ตอนนี้ มันเป็นสมบัติครับ ไม่ใช่แค่ยานพาหนะ

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
คนไทยมากกว่า50% ยึดติดกับแบรนด์ วัฒนธรรม ฉนั้น แบรนด์ เจ้าตลาด อยู่กับคนไทยมา 50-60 ปี ก็กลายเป็นวัฒนธรรม ของคนไทย ถ้ามี วัฒนธรรมใหม่ๆเข้ามาแบบไม่คุ้นเคย จะติดขัดในการยอมรับกันไป แต่ในที่สุด วัฒนธรรม ประเพณี ใหม่ๆก็มีการยอมรับกลืนกันไปจนได้

ออฟไลน์ Amaranthe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 708
ผมก็เป็นคนนึงที่ใช้เจ้าตลาด โดยผมเลือกรุ่นย่อยที่มีความปลิดภัยครบในระดับที่พอใจ
อาจไม่มากเท่าเจ้าอื่น ส่วนออพชั่นอื่น ๆ ก็ ไม่ซีเรียสมาก
และถ้าจะซื้อคันต่อไป ก็จะซื้อเจ้าตลาด เพราะเค้ามีข้อดีที่ผมคิดว่าสำคัญสำหรับผม

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
ผมก็เป็นคนนึงที่ใช้เจ้าตลาด โดยผมเลือกรุ่นย่อยที่มีความปลิดภัยครบในระดับที่พอใจ
อาจไม่มากเท่าเจ้าอื่น ส่วนออพชั่นอื่น ๆ ก็ ไม่ซีเรียสมาก
และถ้าจะซื้อคันต่อไป ก็จะซื้อเจ้าตลาด เพราะเค้ามีข้อดีที่ผมคิดว่าสำคัญสำหรับผม

+1 ครับ

ผมว่าคนส่วนมากที่ตอบในนี้ เว่อไป ชอบคิดว่าเจ้าตลาดกากสุดๆ
ทั้งที่ในความเป็นจริง รถเจ้าตลาดไม่ได้แย่อะไรเลย

ถ้าคิดว่าเจ้าตลาดออพชั่นห่วย ก็ไปซื้อฟอร์ดสิครับ ไม่เห็นยาก  เวลาช่างซ่อมไม่ได้อย่ามาโวยวายแล้วกัน
เจ้าตลาดลองผิดลองถูกมา40-50ปี ถึงมีได้อย่างทุกวันนี้ พอเห็นรถมาใหม่ๆ ใส่ออพชั่นมาเยอะหน่อย ก็หันไปด่าเจ้าตลาดที่ทุ่มเทเรื่องเรียนรู้นิสัยคนไทย เรื่องถึงบริการหลังการขายมาเป็นสิบปี

อนาถครับ

ออฟไลน์ kendo393

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 127
  • ชีวิตลิขิตด้วยมือตนเอง
อย่าว่าแต่ฟอร์ดเลย. แคปติว่าผม รอบเกียร์2ไป3 รอบวืดไปถึง 4000 ถึงเปลี่ยนเกียร์.
หาสาเหตุที่0 มา4 รอบแล้ว. ป่านนี้ จะปีแระ ยังหาสาเหตุไม่ได้. เพื่อนๆถามว่าใช้ดีไหม คุณคงรู้ว่าผมจะตอบแบบไหน
ส่วนเจ้าตลาดที่ไม่ซื้อเพาะผมไม่ชอบหน้าตารถเจ้าตลาดเอาซะเลย. พอเอาเชฟเข้า0 ที่กทม.ที. แทบจะขี่คอกันตาย รถล้นออกมานอก0

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
ไม่ชอบความคิดเห็นที่ดูถูกคนที่ซื้อรถยี่ห้อตลาด ว่าโง่ หัวโบราณ ยึดติดแบรนด์
อยากให้มองว่าความต้องการ หรือความจำเป็น เหตุผลในการเลือกของแต่ละคน
มันไม่เหมือนกันหรอกครับ

ยกตัวอย่างง่ายๆ
นาย A เป็นพนักงานออฟฟิศ เค้าต้องไปทำงานทุกวัน ขาดงานก็คือโดนหักเงิน
สมมติซื้อป้ายแดง ยี่ห้อรองหนึ่งมาที่ option ดีเลิศ แต่รถเกิดปัญหาขึ้นมาเยอะมาก (ซึ่งเห็นได้ตามเว็บบอร์ดทั่้วไป)
เ้ค้าต้องลางานเพื่อเข้าศูนย์ไปซ่อม ไปเคลม แค่นี้ก็เกิดความเสียหายแล้วครับ

อีกเคส นาง B เป็นแม่ค้าขายผลไม้ในตลาดใหญ่ ต้องขนผลไม้ไปขายที่ตลาดทุกวัน
เกิดวันนึงรถที่นาง B ซื้อกระบะป้ายแดงมา ยี่ห้อรอง ขับดีที่สุดในตลาด เกิดมีปัญหา ต้องไปเข้าศูนย์หาสาเหตุ
เอ้าา ช่างไม่เก่ง ต้องทิ้งรถไว้ แก้ปัญหาไม่ได้ เคลมต้องรออะไหล่ นาง B จะขาดรายได้ไปเท่าไหร่?

เทียบเป็นเปอร์เซนต์ง่ายๆ
ยี่ห้อ A เป็นยี่ห้อตลาด รุ่น A1 ขายได้ 3,000 คันต่อเดือน
มี defect ร้องเรียน 5 คัน
คิดเป็น 0.16 %

ยี่ห้อ B เป็นยี่ห้อรอง ที่อัด option มาเต็มที่ รุ่น B1 ขายได้ 500 คันต่อเดือน
มี defect ร้องเรียน 10 คัน
คิดเป็น 2 %

บางคนซื้อรถเพราะต้องเอามาใช้งาน ไม่ได้มีเวลาว่างไปนั่งเข้าออกศูนย์
ไม่อยากเสียเวลา เสียอารมณ์ เสียรายได้ไป

ถามว่าพวกเค้าเหล่านั้น โง่ หัวโบราณ
ยึดติดแบรนด์รึเปล่าครับ ไม่ได้จะออกมาปกป้องยี่ห้อเจ้าตลาดหรอกครับ
แต่ถ้าจะด่ารถก็ด่ายี่ห้อหรือแบรนด์ไปครับ อย่ามาด่าคนที่ซื้อ

ออฟไลน์ Amaranthe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 708
ที่พี่จิมมี่ยกตัวอย่าง รถคันกะเปี๊ยกรุ่นหนึ่ง พอจัดออพชั่นเต็ม
กลายเป็นว่า ราคาขาย ต้องขาย 8 แสนกว่าบาท นั้น

ผมคิดว่า ก็คงเป็นเพราะ ภาษี บ้านเราด้วย คิดกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่าไป

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 622
ผมก็เป็นคนนึงที่ใช้เจ้าตลาด โดยผมเลือกรุ่นย่อยที่มีความปลิดภัยครบในระดับที่พอใจ
อาจไม่มากเท่าเจ้าอื่น ส่วนออพชั่นอื่น ๆ ก็ ไม่ซีเรียสมาก
และถ้าจะซื้อคันต่อไป ก็จะซื้อเจ้าตลาด เพราะเค้ามีข้อดีที่ผมคิดว่าสำคัญสำหรับผม

+1 ครับ

ผมว่าคนส่วนมากที่ตอบในนี้ เว่อไป ชอบคิดว่าเจ้าตลาดกากสุดๆ
ทั้งที่ในความเป็นจริง รถเจ้าตลาดไม่ได้แย่อะไรเลย

ถ้าคิดว่าเจ้าตลาดออพชั่นห่วย ก็ไปซื้อฟอร์ดสิครับ ไม่เห็นยาก  เวลาช่างซ่อมไม่ได้อย่ามาโวยวายแล้วกัน
เจ้าตลาดลองผิดลองถูกมา40-50ปี ถึงมีได้อย่างทุกวันนี้ พอเห็นรถมาใหม่ๆ ใส่ออพชั่นมาเยอะหน่อย ก็หันไปด่าเจ้าตลาดที่ทุ่มเทเรื่องเรียนรู้นิสัยคนไทย เรื่องถึงบริการหลังการขายมาเป็นสิบปี

อนาถครับ

อ่านความคิดนี้แล้วก็เศร้าใจ

ไม่ได้ว่าคุณนะครับ แต่เศร้าใจที่คนไทยต้องเลือกระหว่างความปลอดภัยและศูนย์บริการ

ทั้งๆที่ผู้บริโภคอย่างเราน่าจะต้องได้ทั้งคู่เป็น standard
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021