ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
เนื่องจากตอนนี้ หลายคน หลายท่าน เวลารถมีปัญหา หรือเซลส์ / ศูนย์บริการ มีปัญหา
ก็จะส่งอีเมล์มาหาผม ให้ช่วยเรียกร้อง ประสานงาน กับบริษัทรถยนต์ให้ที
จนตอนนี้ แทบไม่ต้องเป็นอันทำมาหากินแล้ว!
หนักหนาที่สุด คือกลางเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ตื่นนอน
ผมต้องประสานงานทั้งหมด 4 เคส จาก 4 ยี่ห้อ
จนผมแทบไม่ต้องเอารถออกไปถ่ายรูป หรือเขียนรีวิวกันเลย!
ทุกอย่างที่วางแผนไว้ในวันนั้น มันผิดแผนไปทั้งหมด จนตารางงานวันนั้น
ล่มไม่เป็นท่า....ยิ่งพักหลังมานี้ แต่ละเคสที่ส่งมา ก็ออกแนวขี้หมูราขี้หมาแห้ง
เป็นเคส ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เล็กน้อยเกินกว่าที่คนในบริษัทรถยนต์ จะปล่อยให้เกิดขึ้น
แต่มันก็ยังเกิดขึ้น จนได้ เกิดขึันแต่ละที ก็มาอ้างว่า "ประสานงานผิดพลาด
ขาดการติดต่อสื่อสารที่ดี miss communication กันทุกที จน
น่ารำคาญบางเคส ส่งเรื่องให้สำนักงานใหญ่ มีคำตอบกลับมาให้พอเป็นพิธี
แล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ ผ่านไปเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนๆ
ต้องให้ลูกค้าโวยอีกมา ถึงจะเดินเรื่องกันทีนึง จนนี่จะครบปีนึงอยู่แล้ว
บางเคส ส่งเรื่องไป ตอบกลับมา หายหัวไปเลยครับ!!! ไม่มีการตอบกลับ
หรือบอกกล่าวกันสักนิดเลยว่า มีการประสานงานอะไรกันบ้างไปแล้ว
หรือลืมประสานงาน ก็บอกกันตรงๆก็ได้
บางเคส ก็มีปัญหาแค่กลิ่นประหลาดๆ ถึงขั้นโวย จะเปลี่ยนรถ
แต่บางราย เจอเคสเดียวกัน แก้กันมาเป็น 10 กว่ารอบ ก็ไม่หาย
อันนี้ ก็น่าเห็นใจ...
นอกจากบริษัทรถยนต์ หลายแห่ง จะมีไอ้พวกทำงาน ซุยๆ ให้ผมต้องด่าทอแบบนี้แล้ว
ลูกค้า เอง ก็ทำตัวน่าด่าได้ไม่แพ้กัน!บางราย ส่งข้อความมา บ่นๆๆๆ ด่าๆๆๆ เพียงแค่ว่า พนักงานรับโทรศัพท์ พูดจาไม่สุภาพ!!
ผมได้แต่ ฟอร์เวิร์ด ส่งเข้าไป บริษัทรถ ก้โทรมาตอนเช้าตรู่
คนกำลังนอน ก็โทรมารายงานเคส กันเลย ก็มี ทั้งที่ผมเพิ่งนอนไปได้ 2 ชั่วโมง!
มันไม่ใช่รายเดียว แต่มีมากกว่านั้นมาแล้ว!
บางราย หนักกว่านั้น เคสรถมีปัญหา แทนที่จะอธิบายให้มันดีๆ
ละเอียดๆ เขียนอีเมล์ ติดต่อคนอื่น ให้มันเป็นภาษาทางการหน่อย
ดันขาดสติ หรือขาดการอบรมสั่งสอนหรือไงไม่ทราบ ส่งมาแค่...
"เป็นอีกแล้วคะ" คำเดียว สั้นๆ พร้อมรูป 1 รูป
คือมันแปลได้ว่า
"จิมมี่ มันเป็นอีกแล้ว คุณต้องช่วยฉัน!"
แบบนี้ น่าช่วยไหมครับ?
นี่คือส่วนหนึ่งจากสารพัดเรื่อง ที่ผมเจอมาตลอด 4 ปี ตั้งแต่ เปิด Headlightmag.com มา
ยังไม่นับรวม สารพัดเคสหก่อนหน้านี้ ที่เริ่มรับช่วยเหลือ กันมาตั้งแต่ยังเล่นพันทิบ...
และเดี๋ยวนี้ ก้เลิกยุ่งกับพวกในพันทิบไปแล้ว....เลิกรับเคสจากพันทิบไปแล้ว
แค่ลำพังรับเคสในเว็บตัวเอง นี่ก็ประสาทแดกมากพอแล้ว...
ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ หลายคน ไม่เคยคิดจะอ่านกระทู้ กฎระเบียบของเรา
ในการดำเนินการร้องเรียน กรณีรถมีปัญหา เลย!!!
ใครยังไม่เคยอ่าน มาอ่านซะที่นี่!
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,7608.0.htmlดังนั้น ต่อไปนี้ คือ Policy ใหม่ ที่จะเสริม เพิ่มเติม จาก กระทู้ ข้อกำหนดในการ
ร้องเรียน เมื่อรถมีปัญหา ตาม Link ข้างบน.....
1. ขอปฏิเสธการรับร้องเรียนในเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง เรื่องเล็กๆน้อยๆ
จุกจิก ที่ก่อให้เกิดแค่เพียง "ความไม่สบอารมณื" เช่น Call Center พูดจากวนส้นตีน
ไม่รู้จะด่าใคร ก็ส่งมาให้ JIMMY ไปฝากด่าบริษัทรถให้หน่อย
ต่อไปนี้ ขอรับแต่เรื่อง ประเภท รถมีปัญหาด้านคุณภาพ ตั้งแต่รับรถ ในเคสที่หนักหนาจริงๆ
หรือปัญหาด้านเทคนิค ในเชิงที่ ขั้นตอนการทำงานปกติของดีลเลอร์
ไม่สามารถแก้ไขจนจบได้เอง และต้องพึ่งพาสำนักงานใหญ่ ช่วย เท่านั้น!แบบนี้ จะไม่รับอีกแล้วนะครับ แล้วจะด่ากลับด้วย ถ้ายังดื้อส่งมาหลังจากนี้!
2. ปัญหาประเภท เสียง กลิ่น ประหลาดๆ จะรับเฉพาะ เคสที่ ผมพิจารณาดูแล้วว่า "คุยรู้เรื่อง"
หรือ "เป็นความผิดพลาดของบริษัทรถยนต์จริงๆ"
หรือ "ผมพิสูจน์เองแล้ว ว่ามันไม่ปกติจริงๆ"
ประเภท คุยไม่รู้เรื่อง ตั้งธงมาว่า กูจะขอเปลี่ยนรถเลย ต่อจากนี้ ไม่รับนะครับ
ด่ากลับด้วย!
3. ประเภท แก้ปัญหาไปแล้ว มันไม่จบสักที ประเภท งานประกอบ ไม่เนี้ยบ ไม่สนิท เคลมซ้ำเคลมซาก
แบบนี้ ไม่รับเช่นกันครับ เพราะถือเป็นปัญหา ด้าน Appearance
ไม่ได้ส่งผลประทบถึงด้านวิศวกรรม หรือความปลอดภัยในการใช้รถ
4. ต่อไปนี้ สำหรับบริษัทรถยนต์4.1 เมื่อรับเคสแล้ว โปรดช่วย ดำเนินการด้วยครับเพราะเคสที่ส่งไป ต่อให้ไม่อยากรับ ยังไงๆ ก็คือลูกค้าของคุณ
4.2 เมื่อรับเคสแล้ว โปรดแจ้งตอบกลับด้วยว่า รับทราบแล้ว หรือได้รับอีเมล์แล้ว
หรือ กำลังดำเนินการอยู่ อะไรก็ว่าไป
4.3 รู้ว่า เป็น Policy ในบางบริษัท แต่สำหรับ
ทุกเคส
ผมต้องการทราบความเคลื่อนไหว ว่า ไปพถึงไหนแล้ว แก้ปัญหาจบไหม ลูกค้าพอใจไหม เอาแค่นั้นพอ
ส่วนไอ้ที่จะไปตกลงกับลูกค้า ว่าจะให้นโน่น นี่ นั่นเพิ่มเติม
หรือจเปลี่ยนรถให้ทั้งคัน ผมไม่สนใจ และไม่ขอรับรู้
4.4 ถ้าบริษัทรถ บอกว่า เคสจบแล้ว แต่ลูกค้ากลับบอกว่า เคสยังไม่หาย ยังไม่จบ
ผมจะ "ตามจิก" จนกว่าคุณจะแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ "เหมือนเช่นเคย หรือหนักกว่าเคย" คือจะโทรตามจิกชนิด เอาให้เบื่อขี้หน้า กันไปข้างนึงเลย จนกว่าเคสจะหาย
และลูกค้าของคุณพอใจ!
4.5 ให้เวลาในแต่ละเคส ไม่เกิน 3 เดือน เรื่องต้องจบ!
ถ้าไม่จบ จะเริ่ม การประจานลงเว็บบอร์ด ไม่ต้องไปถึง สรยุทธ์หรอก J!MMY นี่แหละ จะจัดการเองถือเป็นการกระตุ้นให้คนในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับบริการหลังการขายทั้งหมด
ได้ลุกขึ้นมากระตือรือล้น ว่าต่อไปนี้ ผมเอาจริงแล้วนะ!
ใครทำงานซุยๆ ชุ่ยๆ เขี่ยๆ ขอไปที ปัดสวะให้พ้นตัว รักษาแต่เก้าอี้ของตน
อย่าให้รู้ จะโทรไปด่ากันถึงโต๊ะเลยทีเดียว!!!!!!!!
4.6 ต่อจากนี้ ปัญหาการร้องเรียน และการสนองตอบ ต่อการแก้ปัญหา
และความพึงพอใจของลูกค้า จะถูกนำมาพิจารณาร่วม ในการอนุญาต
ให้บริษัทรถยนต์ แต่ละค่าย ยังคงได้รับสิทธิ์ ในการลงโฆษณา
กับเว็บไซต์ ของเรา ในปีถัดไป อย่างจริงจัง!
ยิ่งบรษัทไหน มีปัญหามากๆ ลูกค้าร้องเรียนมากๆ และผมไม่เห็น
หนทางในการแก้ปัญหาที่ดีขึ้นเป็นรูปธรรม
ผมอาจจะขอสงวนสิทธิ์ ในการ ไม่อนุญาตให้มีการซื้อโฆษณาแบนเนอร์
ในเว็บของผมอีกต่อไป!!!!
เพราะผมเอง ก็รับไม่ได้ กับการโฆษณา จากบริษัทรถยนต์
ที่ขาดจริยธรรม คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่คิดถึงลูกค้า
ผู้ที่ทำให้พวกคุณยังมีเงินเดือนใช้จ่ายในครอบครัวกันเสียบ้างเลย!!
เฉกเช่นเดียวกัน เราจะไมรับโฆษณา ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
พรรคการเมือง สถาบัน บรษัท หรือองค์กรใดๆ ที่เราเห็นว่า
ไม่มีธรรมาภิบาล เป็นบริษัทที่เคยมีปัญหากับลูกค้าใหญ่โต
แต่ไม่แสดงออกถึงการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ต่อไปนี้ เราเอาจริง!
ผมหมดความอดทนแล้ว
และผมต้องการเห็นทุกสิ่ง ทุกอย่าง ในสังคม มันดีขึ้นกว่านี้
และถ้าเราไม่เริ่มต้นกันเองก่อน เราจะมารอให้ใครมาเริ่มต้นกัน?
ผมก็อยากรู้เหมือนกันละว่า การเอา ความอยู่รอดของเว็บผม มาเดิมพัน
จะได้รับการเหลียวแล และใส่ใจ จากผู้คนที่เกี่ยวข้อง ในอุตสาหกรรมนี้
มากน้อยแค่ไหน ในการที่จะทำให้ ลูกค้า หรือผู้บริโภค มีความสุข
กับรถยนต์ที่พวกเขาซือ้ไป เพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิม...
ประเด็นทั้งหมด และเหตุผลทั้งหมดที่ตัดสินใจทำอะไรบ้าๆ แบบนี้
คือ ย่อหน้าข้างบนนี้ละครับ...!
แต่ผู้บริโภคเอง ก็อย่าดีใจไปครับ
ใครก็ตาม ที่ทำตัวมีปัญหา หรือ ไม่ยอมเข้าใจในมาตรการของเรา
เราก็ขอเรียนเชิญ ไปเล่นเว็บอื่น เช่นเดียวกัน
เราต้องการ สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ของผู้ใช้รถยนต์ ที่ดีที่สุดในประเทศไทย
บอกแล้ว เว็บนี้ รายได้หนะ ไม่สำคัญเท่ากับความถูกต้อง ตรงไปตรงมา
และเป็นธรรม กับทุกคน ทั้งผู้บริโภค บริษัทรถ และสังคม ทกฝ่าย
ต้องได้รับความเป็นธรรม ที่เท่าเทียมกัน ต้องไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐาน
ของการจ้องจะเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ไม่ว่าใครก็ตามแต่...
ประกาศ ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2013 เวลา 6.10 น.
J!MMY
Website Director
www.Headlightmag.com