พอได้ข่าวว่า Ford สำนักงานใหญ่ นำ
Ford Everst คันจริง
มาโชว์ตัวที่ห้าง Fashion Island ก็รีบไปเก็บภาพมาฝากสมาชิกทุกคนเลยครับ
แถมเป็นรุ่น 2.2 Titanium 4x2 A/T ที่ยังไม่เคยโชว์ตัวที่ไหนมาก่อนในไทย
ยิ่งไม่พลาดเลยครับ รถจะโชว์อยู่จนถึงวันพรุ่งนี้ พฤหัสที่ 7 พฤษภาคมครับ
ส่วนตามโชว์รูมยังไม่มีรถให้ดูครับ (แต่ที่งานมีดีลเลอร์ 4 เจ้ารับจองอยู่ครับ)
ส่วนการจองตอนนี้ สำหรับรุ่นท๊อปอย่าง 3.2 Titanium Plus+ ขอบอกว่าคิวรับรถ
ให้ทันภายในปีนี้ก่อนที่จะเริ่มใช้ภาษีสรรพสามิตใหม่ 2559 นั้นโควต้าเต็มหมดแล้วครับ
ใครที่จองไปแล้วก็ลุ้นครับ ว่าคิวของท่านจะทันหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีใครบอกได้
เริ่มส่งมอบรถในเดือนสิงหาคมครับ
ส่วนรุ่น 2.2 Titanium 4x2 และ 3.2 Titanium 4x4 นั้นยังมีอยู่ครับ จองตอนนี้
รับรถได้เดือนสิงหาคมครับ คิวไม่เยอะ และรถยังเหลือโควต้าทันปีนี้อยู่พอสมควร
ใครที่รอทดลองขับ หรือ Test Drive รถน่าจะมาถึงโชว์รูมประมาณเดือนกรกฏาคมครับ
พร้อมแล้วก็...มาดูกันเลยดีกว่า
Ford Everest 2.2 Titanium 4x2 A/T 1,269,000 บาทภายนอกส่วนที่ต่างจากรุ่น Top 3.2 Titanium Plus+ ที่เห็นชัดๆเลยก็คือ ล้ออัลลอยที่ลดขนาดลงมา
เหลือ 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 กระจกมองข้างและมือเปิดประตูทั้ง 4 บานจะเป็น
สีเดียวกับตัวรถ บันไดข้างสีดำล้วนไม่มีสีเงินเมทัลลิคตกแต่ง ไฟหน้ายังคงเป็นโปรเจคเตอร์
แต่หลอดเป็นฮาโลเจน และตัดไฟ Daytime Running Lights และที่ฉีดน้ำโคมไฟหน้าออก
ยางที่ให้เป็น Bridgestone Dueler 684II ขนาด 265/60 R18 ครับ
ก้มถ่ายช่วงล่างด้านหลังมาให้ดูครับ เป็น คอยล์สปริงแล้วนะ
รุ่น 2.2 Titanium เบาะแถวที่ 3 จะเป็นปรับและพับมือ เลยมีสลักมือดึงเพิ่มมาให้
ตรงกลางเบาะทั้งสองที่เป็นแบบ 50 : 50 (ใครตัวเล็กก็ต้องเอื้อมนิดนึงครับ เวลาดึงเบาะขึ้นมา)
ภายในภายในห้องโดยสารวัสดุที่ตกแต่งจะต่างจากรุ่น Top 3.2 Titanium Plus+ ครับ
จะเป็นวัสดุสีเงิน Metalic ด้าน ( ตัวท๊อปจะเป็นสีเข้มๆผิวมัน ) เบาะนั่งหุ้มหนัง
คุณภาพหนังก็ดีใช้ได้ครับ ผมไม่มั่นใจว่าคุณภาพหนังของตัวนี้กับตัวท๊อปต่างกันรึเปล่า
แต่สัมผัสแรกคิดว่าต่างครับ ความนุ่มของหนังจะน้อยกว่าผิวด้านและสากกว่าเล็กน้อย
ใครที่ไปชมคันจริงตัว Top 3.2 Titanium Plus+ อาจสังเกตเห็นความต่างตรงนี้ครับ
คอนโซลด้านบนที่เดินตะเข็บด้ายนั้นหายไป รวมถึงส่วนที่บุหนังตรงแผงประตูข้าง
ตะเข็บก็หายไปครับ แน่นอนครับรุ่น Top ย่อมต้องได้งานที่ปราณีตกว่าแน่ๆ
มาตรวัด เกรงใจเค้าครับ เลยไม่ได้ขอให้เสียบกุญแจเปิดให้ชม
หน้าจอ Touchsceen ตรงกลางควบคุมหลายๆอย่างในตัวรถเลยครับ มีฟังก์ชั่น
ให้ใช้งานให้เล่นเยอะ เริ่มตั้งแต่ วิทยุ CD MP3 USB Bluetooth เข็มทิศ
มีปฏิทินให้ด้วย ควบคุมระบบแอร์ได้ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ปรับแต่งเครื่องเสียง
หน้าจอ และอื่นๆอีกมากมายครับ คิดว่าน่าจะมีฟังก์ชั่นและลูกเล่นซ่อนเอาไว้อีกมาก
ปุ่มควบคุมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Terrain Command จะหายไปครับ
เปิดภายในมาใครที่ช่างสังเกตจะเห็นว่า สักหลาดบุหลังคาจะต่างจากรุ่น Top ครับ
คันนั้นใช้สีดำ แต่คันนี้จะเป็นสีเบจ น่าจะทำให้บรรยากาศโดยรวมดูโปร่งขึ้นครับ
มาถึงเบาะแถวที่ 2 กันบ้างครับ ขึ้นลงก็สะดวกใช้ได้ครับ มีมือจับโหนตรงเสา B มาให้
บันไดเหยียบขึ้นลงก็กว้างดีไม่เหมือน Ranger ที่ค่อนข้างเล็กไปนิด Headroom เหลือๆครับ
จะเหลือเยอะกว่ารุ่น Top เพราะไม่ต้องเผื่อพื้นที่สำหรับหลังคากระจก Panoramic Sunroof
เวลาปิดที่บังแดด แน่นอนครับรุ่น 2.2 Titanium จะให้ความรู้สึกโปร่งกว่า
การเข้าออกเบาะแถวที่ 3 ค่อนข้างเป็นจุดด้อยสำหรับรถรุ่นนี้ครับ เพราะเบาะแถวที่ 2 นั้น
สามารถปรับและพับได้แค่นี้จริงๆ ไม่สามารถพับทบไปด้านหน้าอีก Step ได้ เหมาะสำหรับ
เด็กๆหรือผู้ใหญ่ตัวเล็กๆมากกว่าสำหรับการนั่งโดยสารและการเข้าออกเบาะแถวที่ 3
พื้นที่ Legroom ก็อย่างที่เห็นในภาพเหลือไม่เยอะมากครับ แต่ก็พอนั่งโดยสารไปได้
ระยะทางสั้นๆสำหรับผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กๆนี่จะเป็นอาณาจักรพื้นที่ส่วนตัวของพวกเค้าเลย
สรุปโดยภาพรวมสำหรับรุ่นนี้ คิดว่าคุ้มค่ากับราคามากครับ ถ้าใครขับรถไม่เร็ว ไม่ห่วงเรื่องอัตราเร่งเท่าไหร่
ได้ความคุ้มค่าของอุปกรณ์ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ เรียกว่ามีมาให้
อย่างเหลือเฟือเลยครับ กับราคาค่าตัวแค่ 1,269,000 บาท ประหยัดจากรุ่น Top ได้
มากกว่า 330,000 บาท ด้านล่างนี้จะเป็นสเป็คของรุ่น 2.2 Titanium 4x2 A/T
ผมรวบรวมมาให้ที่นี่ เรียบร้อยแล้วครับ
Everest 2.2 Titanium 4x2 A/T 1,269,000 บาทอุปกรณ์มาตรฐาน
- เครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค TDCi 2.2 ลิตร VG Turbo
- กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 3,200 rpm
- แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,500 rpm
- เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา
- ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
- ระบบกันสะเทือนหลังแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์
- กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ
- กระจังหน้าโครเมียม
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
- ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์
- ไฟตัดหมอกหน้า/หลัง
- ราวหลังคา / บันไดข้าง
- สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม
- ล้ออัลลอย 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ( Cruise Control )
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
- ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วน
- กระจกไฟฟ้าหน้า-หลัง พร้อมระบบเปิด-ปิดสัมผัสเดียวด้านคนขับ
- พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง
- เบาะนั่งหุ้มหนัง
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะแถวที่ 2 พับเรียบได้แบบแยกส่วน 60 : 40
- เบาะแถวที่ 2 ปรับเอนและเลื่อนหน้า-หลังได้
- เบาะแถวที่ 3 พับเรียบได้แบบแยกส่วน 50 : 50
- ช่องต่อไฟ 12V จำนวน 3 จุด
- วิทยุ CD / MP3 / AUX / USB 2 จุด / SD Card
- ระบบสั่งด้วยเสียง SYNC พร้อมเชื่อมต่อ Bluetooth
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS / EBD
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
- ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัด HLA
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและป้องกันการลื่นไถล TRC
- ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ RSC
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย
- เซนเซอร์กะระยะถอยจอด
- สัญญาณกันขโมย
- กุญแจ Immobilizer
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
------------------------------------------------------------------------------
บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง น่าสนใจต่อการรับชมเพิ่มเติม
// ไม่ต้องต่อคิว ! พาชมภายใน Ford Everest 3.2 Titanium Plus+ คันจริง //
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=43725.0// เจาะสเป็ค-Option-ราคา-รุ่นย่อย All new Ford Everest //
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,43533.0.html