รูป รุ่น ไมเนอร์เชนจ์ จาก Magazine>New cars in Thailand นั่นเอง
เริ่มจากที่วันนี้ ผมได้ล้อเพื่อนเล่นๆว่า "Hey, hijack Tiida นายหน่อยนะ" ระหว่างการขนคนระยะสั้นๆ
เพื่อนผมคนนั้นดันตอบกลับมาว่า "เอาสิ" ผมก็เอาจริงเหมือนกันครับ เตรียมขึ้นไปตำแหน่งคนขับเลย
Impression นั้น แปลว่าประทับใจ จริงๆ อาจจะแค่หมายถึง ความทรงจำที่ติดจริงอยู่ในใจเท่านั้น
แต่กับ Tiida 1.8 HB HID ตัวนี้ ผมขอกล่าวไว้เลยว่าเป็นความทรงจำในด้านที่ดีจนต้องเอามาเขียน
แม้ว่าจะได้ขับเพียงระยะทางสั้นๆก็เถอะ
ระยะทางที่สั้นๆนี้ รวมแล้วน่าจะแค่ประมาณหนึ่งกิโลเมตรครึ่ง
ลักษณะถนน ก็ควรจัดอยู่ในหมวด ในซอย ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสับเซตของในเมือง
เพียงแต่ไม่เจอการจราจรที่ติดขัด และใช้ความเร็วย่าน 20-40 กม. ต่อชั่วโมงเท่านั้นครับ
เอาล่ะ เกริ่นมามากแล้ว ก็ขอเข้าเรื่องต่อ ตั้งแต่ที่ผมและเพื่อนสองคนเดินเข้าไปที่รถแล้วกันครับ
เดินมาจากทางหลังรถ ผมเดินไปฝั่งขวาซึ่งที่นั่งคนขับอยู่ด้านนี้ ในขณะที่เพื่อนทั้งสองก็ไปเข้าประตูซ้ายกัน
สำหรับเพื่อนเจ้าของรถก็ไม่ลืมแตะประตูห้องสัมภาระเบาๆ เพื่อเปิดประตูให้ผมผ่านระบบสมาร์ทเอ็นทรี่
และแล้วมันก็เข้าไปนั่งข้างหลังกันทั้งสองคน ปล่อยให้ผมเป็นคนขับรถซะงั้น แต่ไม่เป็นไรผมไม่ถือครับ
ข้อสังเกตก็คือ ระหว่างที่เจ้าของรถจัดของเพื่อให้มีที่นั่งอยู่บนเบาะหลังซ้าย ผมยังบิดกุญแจไม่ได้
จนเขาเข้ามานั่งบนเบาะหลังขวา สัญญานจากกุญแจรีโมทจึงส่งถึงระบบ Keyless Start และผมก็บิดที่บิดติดเครื่อง
และนั่นคือความประทับใจแรกที่เข้ามาครับ แม้ว่าประตูแถวสองยังไม่ปิด เสียงติดเครื่องขนาด 1.8 ลิตรเงียบมาก
ความเงียบของมันเอาชนะทั้งฮอนด้าแจ๊ส โตโยต้ายาริส และโคโรลล่า 1.6 และไปได้อย่างขาดลอย!!
ผมก็ได้แต่ฉงนงงงวยนัก ขณะที่ปรับตัวให้เข้ากับกระจกมองหลังบนเบาะหนังที่นุ่มนั่งสบายครับ
ก่อนถอยออกจากซองจอดในลานจอดก็ทำความคุ้นเคยกับทัศนวิสัยโดยรอบ ครึ่งหน้าถือว่าโล่งตา
เมื่อหันหลังไปมองขณะถอย ก็ไม่ถึงกับลำบากมากนักครับ แม้ว่าเสา C ซ้าย จะเป็นจุดบอดนิดๆก็ตาม
คันเกียร์จับถนัดมือ ฟอนต์ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เลยแต่จะสนใจมันไปทำไม จริงไหมครับ แล้วเราก็ออกรถ
ทางออกจากลานจอดรถมีสภาพเป็นหลุมๆบ่อๆของอิฐตัวหนอนจากอาการทรุดของทรายข้างล่างอยู่บ้าง
ไม่มีทางเลี่ยงครับ ผมก็จำเป็นต้องขับผ่านทางนั้นไปอย่างใจเย็นๆ ไม่รีบ ซึ่งช่วงล่างเดิมๆ นุ่มดีครับ
มันสามารถรับแรงกระเทือนให้พวกเราไม่รู้สึกถึงความกระด้างแบบดิบๆเลย แต่ก็ไม่ปวดหัวนะครับ กำลังสบาย
ออกสู่ถนนเล็ก แต่กลับพบเจอลูกระนาดใหญ่ ซึ่งระบบซับแรงไม่ทำให้ผิดหวังครับ ขับไปไม่ช้าก็ยังไม่เจ็บ
สักพักก็มีโค้ง แคบๆตามแบบซอยนั่นแหละครับ เลี้ยวไปไม่เร็วแต่ก็รู้สึกเกาะๆนะครับ วงเลี้ยวแคบดี
พูดถึงพวงมาลัย ไม่รู้สึกว่ามีระยะฟรีครับ แต่กลับหมุนได้ง่าย สบายมือมากจนแทบไม่ต้องออกแรงเลย
สำหรับส่วนของคันเร่งนั้น ไม่ทราบว่าเป็นคันเร่งไฟฟ้าหรือเปล่า ดูในเว็บนิสสันก็ไม่มีบอก ใครทราบบอกทีครับ
แต่ในย่านความเร็วที่กล่าวไป เหยียบเป็นไป ความเร็วไหลลื่น ไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ 1-2-3 จาก 4AT
และที่สำคัญ เสียงเร่งเครื่องเงียบมากครับ!! เอาล่ะ กล่าวถึงพวงมาลัย คันเร่งไปแล้ว อีกอย่างก็คือเบรค
แม้ว่าทีด้าใช้เบรคหลังเป็นแบบดรัมยันรุ่นท๊อป มันก็สามารถหยุดรถให้จอดสนิทได้อย่างหายห่วงตามเท้าสั่ง
ช่วงท้ายๆก็กลับรถบนถนนใหญ่ครับ(6 เลน) ตรงเลนกลับรถฝั่งตรงข้ามมีรถจอดทิ้งไว้ สิ่งที่บังสายตามีเท่านั้นครับ
ว้า ถึงที่หมายซะแล้ว ก็สลับกับเพื่อนให้จอดทาบทางเดินเท้าไป เพราะไม่คุ้นเคยครับ เหลือที่แคบไม่กล้าเสี่ยง
สรุป เท่าที่ได้ขับ ทีด้า เป็นรถที่นั่งสะดวก สบาย ขับสู่ที่หมายปลายทางได้อย่างราบรื่นครับ ขอบคุณครับ