« ตอบกลับ #92 เมื่อ: มีนาคม 18, 2016, 22:17:06 »
ความคิดผมก็ยังยืนยันว่า ไม่ใช่ลดต้นทุน ต้องเป็นเหตุผลอื่น
เบาะหลังส่วนนั้นก็เป็นหนังเทียมอยู่แล้ว แอคคอร์ดผมก็หนังเทียม ตรงนั้นก็ฟองน้ำแฟบๆสันบังโคลน
และการที่ขยายปีกไป1คืบในชื้นงานเดียวกัน จะแพงกว่าต้องสร้างชิ้นงานอีกชิ้นได้อย่างไร
พลาสติคฉีดชิ้นงานนึงมันถูกมากๆเลยครับ ชิ้นแค่นี้ราคาไม่กี่สิบบาทเท่านั้น
ต้นทุนมันจะไปแพงที่โมลด์ฉีด แต่ผลิตเยอะๆ ไปหารกับราคา part ก็ยังถูกมากอยู่ดี
แต่อย่าไปสับสนตอนขายปลีกผ่านศูนย์มันจะกลายเป็นราคาหลักร้อย-หลักพัน เพราะ
สินค้าพลาสติคฉีดเอาไว้ฟันกำไรเยอะๆ ตอนขายอยู่แล้ว
ส่วนพลาสติคแบบดูด ที่ไว้ทำพวก part ชุดแต่งทั้งหลายจะสลับกัน ค่าโมลด์ถูกม๊าก
แต่ค่าชิ้นงานแต่ล่ะชิ้นแพงลิ้ว
คนโรงงานจะรู้ครับว่านี่คือลดต้นทุน
ขอบคุณ ครับ ยอมรับแล้ว แพ้ความตั้งใจคุณที่พยายามอธิบาย
ผมทำโรงฉีดพลาสติคมา 17 ปีครับ
ตามที่คุณ ned ว่าครับ คนโรงงานจะรู้
ราคาชิ้นงานตัวนี้ ยอดขายตลอดช่วงอายุ civic โมเดลนี้ อย่างน้อยก็น่าจะมี 50,000 คัน
หารเฉลี่ยเป็นราคาต่อชิ้น ไม่กี่สิบบาทหรอกครับ แถมราคาเม็ดพลาสติคตอนนี้ก็ถูกลงเยอะ
Abs ราคาตอนนี้ เทียบกับปีที่แล้ว ถูกลงเกือบ 20% ยิ่งซื้อเป็นสิบตัน ราคายิ่งถูกลงไปอีก
พาร์ทพลาสติกภายในห้องโดยสาร ในส่วนที่ไม่ได้รับแรง
ผมว่าน่าจะทำจาก PP มากกว่า ABS นะครับ
เพราะ PP นี่ก็ราคาถูกที่สุดแล้วในบรรดาพลาสติกด้วยกัน
และขอย้ำให้อีกสำหรับเรื่องลดต้นทุน
สำหรับโรงงานผลิตน่ะครับ
ลดได้สตางค์เดียวก็คือลดครับ
ยกตัวอย่างโรงงานผมเลยก็ได้
โรงงานผมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านยี่ห้อดัง
โรงงานผมผลิตปีละ 2.4 ล้านเครื่อง
สมมติว่า สกรูตัวละ 10 สตางค์ (จริงๆก็ราคาประมาณนี้แหละแต่ตัวเลขมันไม่กลม)
ถ้าลดสกรูได้ 1 ตัว ต่อผลิตภัณท์ 1 เครื่อง
แค่สกรูตัวเดียว ลดต้นทุนได้ปีละ 240,000 บาท นะครับ