ผู้เขียน หัวข้อ: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก  (อ่าน 7821 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pluemapple

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
  • มือใหม่หัดซิ่ง
Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 08:58:54 »
อยากให้ช่วยเเนะนำทีครับ
ผมอายุ 19. สูง164  ก่อนหน้านี้ขับ City 2009(ของแม่)
การขับขี่ ปกติ เป็นคนขับไม่เกินกฏหมาย นานๆทีจะ120-140(เส้นทางชลบุรี)
แต่ชอบขับเร่งเเซงครับ ที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่หน่อยมี10กว่าคน แต่ที่บ้าน. มี mux/bmwx3
แต่ไม่มีรถเก๋งละครับ(ซีตี้ขายแล้ว) ใช้งานหลักก็ส่วนใหญ่ในเมืองแต่ออกต่างจังหวัดก็พอควร
รายละเอียดไม่ค่อย รู้มากครับ ผมชอบ ภายใน civic กับความสะดวกสบาย แต่ เห็นหลายคนแนะนำ มาสด้า3บอกขับสนุกปลอดภัยกว่า ตัวถังหนากว่า แต่ผมชอบ ที่มันสวยดีครับ
ระหว่าง mazda 3 sp กับ honda civic rs
หรือไม่ก็ขอเหตุผลที่พี่ๆเลือกละกันนะครับ

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,145
  • I'm............................
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:33:21 »
โจทย์นี้ผมไป Civic RS ครับ
1. คุณชอบ
2. มีคนเยอะ เผื่อใช้งานหลายคน ที่นั่งโปร่งสบายกว่า
3. สมรรถนะเครื่องน่าสนใจด้วยความที่เป็นเครื่องใหม่ และแนวโน้มว่าจะประหยัดกว่า

ที่เหลือไปลองนั่งลองขับดูครับ ส่วนตัวผมชอบ 3 มากกว่าแต่บางทีก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:35:16 »
ชอบคันไหน เอาคันนั้นครับ

ออฟไลน์ Focuszaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 672
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:48:50 »
Civic แบบไม่ต้องคิด ครับ แรง,กว้างขวาง,Option ก็เพียงพอต่อการใช้งานครับ   


ปล.น่าอิจฉาจุง อายุ 19 ได้รถเป็นของตัวเองแล้ว ยินดีกับรถคันใหม่ล่วงหน้าด้วยนะครับ ^^

ออฟไลน์ SINGHA

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
    • อีเมล์
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:53:41 »
ต้องถามใจตัวเองดูว่าชอบคันไหนมากกว่าก็ไปคันนั้น

ออฟไลน์ nudragon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,871
  • MT Mania!!
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:54:06 »
นาทีนี้ผมเชียร์ CIVIC RS

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,618
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:55:58 »
ถ้าเป็นรถคันแรก และยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษารถมากนัก....

แนะนำให้ไป Mazda 3 ครับ เพราะเป็นเครื่อง NA ไม่จุกจิกเท่าไหร่
ในขณะที่เครื่อง Turbo มันจะมีระบบและชิ้นส่วนที่ต้องคอยหมั่นดูแลเป็นพิเศษ  ซึ่งจุกจิกกว่า (แปลว่าค่าซ่อมบำรุง เข้าศูนย์แต่ละทีก็มีค่าใช้จ่ายมากกว่าด้วย)

ออฟไลน์ ottomjd

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:02:50 »
ในเมื่อคุณมีใจไปทาง Civic ก็จัดไปเลยครับ
ซื้อรถที่ชอบครับ จะได้ไม่รู้สึกเสียดายภายหลัง

แต่ถ้าเป็นผมต้องดูว่าใครใช้รถบ้าง ถ้าผมใช้เป็นหลัก ผมเลือก MZ3
เพราะถ้าที่บ้านมีคันอื่นที่ใหญ่กว่าอยู่แล้ว ผมไม่ชอบท้าย Civic แรกๆสวยดี
ด้านหน้าสวย แต่ด้านท้ายมันแปลกๆ และเบาะหลังจม
มันนั่งสบายแต่ลุกยาก บวกกับพลาสติกเบาะหลังที่โดนข้อศอก
กับงานห้องเครื่องที่รุงรังมากๆ (อันนี้ความรู้สึกผมเองนะ)

ออฟไลน์ tvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,488
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:03:09 »
ถ้าชอบซีวิค ก็จัดเลยครับ
2 คันนี้เทียบกัน ไม่ได้ต่างกันมากมายขนาดนั้นหรอกครับ ที่ว่าหนาๆ มันก็พูดกันไป เพราะความปลอดภัยมันมีเรื่องการออกแบบ โครงสร้าง การรับแรง ซับแรง ฯลฯ แต่ให้ชัวร์ก็ลองไปหาผลการทดสอบชนดูก็ได้ครับ
เรื่องเหล็กหนา ถ้าพูดคำนี้มา น้อยที่จะรู้เรื่องรถจริงๆ ครับ

คหสต. 2 คันนี้ เล่นได้ น่าเล่นทั้งคู่ครับ เชื่อว่าไม่มีพลาดแน่นอนครับ เอาที่ชอบเลยครับ
ปล. สำหรับฮอนด้า ถ้าได้แถมประกันเพิ่มอีก 2 เป็น 5 ปี ยิ่งดีนะครับ

ออฟไลน์ Pluemapple

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
  • มือใหม่หัดซิ่ง
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:05:24 »
ขอบคุณพี่ๆมากครับ. ชอบลูกเล่นมันcivic. แต่ไม่เครื่องลองmazdaครับ

ออฟไลน์ -Brian

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,082
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:07:33 »
ชอบคันไหนก็ไปคันนั้นครับ

ซื้อรถก่อนอื่นก็ต้องถามความชอบของตัวเองก่อน  แต่ถ้าชอบเท่ากัน

ค่อยหาเหตุผลมาหักล้างกัน

mazda 3
1. เครื่อง na แรงใช้ได้ ช่วงล่างดี พวงมาลัย เบรคดี เป็นอันดับต้นๆของกลุ่ม
2. ระบบความปลอดภัยดีกว่านิดๆ เช่น มีระบบเบรคอัตโนมัติ
3. ถูกกว่าประมาณ 1 แสนบาท
4. ภายในดูดีกว่า และวัสดุแอบดีกว่า

Civic RS
1. เครื่องอาจจะแรงกว่า (ผมยังไม่เคยลองขับ)
2. น่าจะประหยัดกว่า (รอผลทดสอบคุณจิมมี่)
3. กว้างขวาง เบาะนุ่ม
4. ศูนย์เยอะ ยี่ห้อตลาด ไม่ขัดใจผู้ใหญ่

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,405
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:20:35 »
civic rs ครับเวลานี้ อัตราเร่งก้ดีกว่าครับ มาสด้า 3 ขับสนุกจริงแต่ civic ก้แทบไม่แพ้ไรครับ คนที่บอกคุณว่า ปลอดภัยกว่า ไรหนากว่าต่างๆ

ใครกล้ารับประกันครับ ไม่มีหรอกครับ สายมโนคนไทยเยอะครับ ผมชอบทั้ง 2 คันนะแต่ตอนนี้ผมไป civic ครับ

ออฟไลน์ Pluemapple

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
  • มือใหม่หัดซิ่ง
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:44:10 »
ขอบคุณพี่ๆครับผม

ออฟไลน์ Abzolute

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
  • สวัสดีคนรักรถยนต์
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:52:00 »
ชองเครื่องจัง 1.5 เทอร์โบ แต่ที่เหลือผมเฉยๆ อยากได้อะไรๆที่เป็น 3 แต่เครื่องเทอร์โบแค่นั้น

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 11:13:15 »
จัดซีวิคไป สมวัย

ออฟไลน์ ProVaMed

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 341
    • อีเมล์
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 11:13:38 »
ลองดูอัตราเร่งเปรียบเทียบกับ เครื่อง 2.0 ครับ

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 11:14:44 »
มาสด้าที่หนากว่าไม่ใช่เปลือกตัวถังครับแต่เป็นคานกันกระแทกกับชิ้นส่วนค้ำตามจุดต่างๆที่หนากว่าในซีวิค เปรียบจากรุ่นเก่าแล้วกันเป็นมาสด้า3BKกับซีวิคFD ซับเฟรมของมาสด้าใหญ่กว่าของซีวิคครับลงไปก้มดูก็ได้ รวมถึงเหล็กกันโคลงด้วยที่ของซีวิค11มิล โฟกัส20มิล แลนเซอร์EX18มิล แล้วพอคนเอาไปเปลี่ยนเป็นกันโคลงของซีวิคสเป็คนอกที่มีขนาดใหญ่กว่า อาการท้ายดิ้นเวลาเข้าโค้งแรงๆก็ลดลงชัดเจน รูปเปรียบเทียบขนาดเหล็กกันโคลงลองหาดูกูเกิ้ลได้เพราะที่ผมมีอยู่ลงเบอติดต่อคนขายเดี๋ยวจะกลายเป็นเข้าข่ายโฆษณา  :-X

ถ้าว่ากันที่เรื่องตัวถัง สิ่งที่มาสด้าดีกว่าแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนั่นคือค่า structural rigidity ที่สูงกว่าซีวิค ค่านี้วัดกันด้วยการทดสอบเอาตัวถังมาบิดแล้วดูว่าต้องใช้แรงมากเท่าไหร่ถึงจะบิดได้1องศา มีหน่วยวัดภาษาอังกฤษว่า Newton-meters per degree (Nm/deg) สรุปสั้นๆว่า ยิ่งค่านี้มีมากเท่าไหรยิ่งหมายถึงความสามารถในการรักษาความเถียรของตัวถังและมุมล้อยามที่แล่นทางตรง เปลี่ยนเลนฉับไว และการเข้าโค้ง  http://blogs.youwheel.com/2014/04/25/car-body-torsional-rigidity-a-comprehensive-list/ เคยสังเกตุไหมว่าเวลาพูดถึงการเปรียบเทียบการขับขี่ทีไรมักจะพูดว่ามาสด้าตัวถังมันแน่นกว่า? ที่บอกว่าแน่นกว่านั่นคือความสามารถของตัวถังในการรักษาเสถียรภาพยามที่การขับขี่มีแรงกระทำต่างๆเข้ามานั่นเองไม่ว่าจะจากสภาพแวดล้อมเช่นพื้นถนนเป็นหลุมบ่อหรือลมตีด้านข้างหรือจากการขับขี่ของตัวคนขับเอง ซึ่งจุดอ่อนของฮอนด้าอยู่ตรงนี้นี่แหละที่มักเน้นตัวรถที่มีน้ำหนักเบาเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับวีเทคและด้วยความที่ไม่ได้เป็นรถพรีเมี่ยมเช่นacuraจึงไม่ได้มีการใช้ตัวถังที่เบาแต่คงไว้ซึ่งstructural rigidityด้วย มาในซีวิครุ่นใหม่ที่มีการเอาเทอโบมาใช้เรียกอัตราเร่งไม่ใช่naอย่างเดียวแล้วทำหใ้ฮอนด้าสามารถเน้นที่เสริมความแกร่งของตัวถังได้มากขึ้นกว่าในรุ่นที่ผ่านๆมา แต่สังเกตุจากรีวิวสั้นๆที่พูดถึงว่าลดอาการท้ายดิ้นลงไม่ได้ขจัดอาการท้ายดิ้นไปจนหมดสิ้น (มาสด้า3ตั้งแต่รุ่นแรกมาไม่มีปัญหาท้ายดิ้น) รวมถึงจากการที่หลายๆคนไปลองขับแล้วให้ความเห็นว่าดีขึ้นแต่ไม่ได้ถึงขนาดว่าจะแทนที่มาสด้า3ไปได้เลย ก็น่าจะพอประมาณได้ว่าเรื่องช่วงล่างและความมั่นคงนี่ซีวิคยังไม่ดีเท่ามาสด้า3อยู่  :-X

สรุปอีกทีคือเป็นทางเลือกว่าเน้นเรื่องอะไรมากกว่ากัน? เน้นการเร่งแซงก็ไปซีวิคเน้นการขับขี่ก็มาที่มาสด้า3 รถระดับนี้มีข้อดีแตกต่างกันคนละด้าน ยังไม่สามารถที่จะดีไปหมดทุกด้านเป็นสถาณะstatusห้าเหลี่ยมสมมาตรได้  :)     
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ balliblue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 11:24:23 »
นาทีนี้ civic RS น่าเล่นสุดแล้วใน C segment mz-3 ก็ดี แต่แคบ โมเดลเรื่มจะเก่าแล้ว เดี๋ยวก็ตกรุ่น civic แพงไปหน่อย แต่ก็อยู่ได้นาน เครื่องก็ใหม่ด้วย ถ้าขับบ้านๆ ทั่วไป civic คุ้มกว่าอยู่แล้ว

ออฟไลน์ Visual

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 763
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 11:27:30 »
ซื้อรถอย่าถามความชอบคนอื่นครับ ถามตัวเองดีกว่า คุณไม่ได้เป็นคนขับรถเร็วก็ไม่ต้องไปสนใจเรื่องสมรรถนะอะไรมากมาย มันตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 คันอยู่แล้ว
เลือกคันที่ชอบมาก่อนคันนึง แล้วเข้าไปดูในคลับว่ามี defect รึเปล่า ถ้ามีมันร้ายแรงมั้ย รับได้มั้ย
honda มักมีปัญหาจุกจิกกับเรื่องการประกอบครับ ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ส่วนใหญ่จะแก้จบได้
เลือกรุ่นที่ชอบและจ่ายไหวไว้ก่อน

ออฟไลน์ min217

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 11:33:24 »
เคยขับ City มาและเป็นรุ่นเดียวกับผม ถ้าถูกใจอยากให้ขยับไปเป็น Civic RS ผมว่าน่าจะเหมาะกับคุณและครอบครัว

ออฟไลน์ Nut_K

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,226
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 12:19:18 »
Civic 1.8 vs 3 = 3

Civic 1.5T RS vs 3 = Civic 1.5T RS

ออฟไลน์ Focuszaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 672
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 12:36:52 »
มาสด้าที่หนากว่าไม่ใช่เปลือกตัวถังครับแต่เป็นคานกันกระแทกกับชิ้นส่วนค้ำตามจุดต่างๆที่หนากว่าในซีวิค เปรียบจากรุ่นเก่าแล้วกันเป็นมาสด้า3BKกับซีวิคFD ซับเฟรมของมาสด้าใหญ่กว่าของซีวิคครับลงไปก้มดูก็ได้ รวมถึงเหล็กกันโคลงด้วยที่ของซีวิค11มิล โฟกัส20มิล แลนเซอร์EX18มิล แล้วพอคนเอาไปเปลี่ยนเป็นกันโคลงของซีวิคสเป็คนอกที่มีขนาดใหญ่กว่า อาการท้ายดิ้นเวลาเข้าโค้งแรงๆก็ลดลงชัดเจน รูปเปรียบเทียบขนาดเหล็กกันโคลงลองหาดูกูเกิ้ลได้เพราะที่ผมมีอยู่ลงเบอติดต่อคนขายเดี๋ยวจะกลายเป็นเข้าข่ายโฆษณา  :-X

ถ้าว่ากันที่เรื่องตัวถัง สิ่งที่มาสด้าดีกว่าแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนั่นคือค่า structural rigidity ที่สูงกว่าซีวิค ค่านี้วัดกันด้วยการทดสอบเอาตัวถังมาบิดแล้วดูว่าต้องใช้แรงมากเท่าไหร่ถึงจะบิดได้1องศา มีหน่วยวัดภาษาอังกฤษว่า Newton-meters per degree (Nm/deg) สรุปสั้นๆว่า ยิ่งค่านี้มีมากเท่าไหรยิ่งหมายถึงความสามารถในการรักษาความเถียรของตัวถังและมุมล้อยามที่แล่นทางตรง เปลี่ยนเลนฉับไว และการเข้าโค้ง  http://blogs.youwheel.com/2014/04/25/car-body-torsional-rigidity-a-comprehensive-list/ เคยสังเกตุไหมว่าเวลาพูดถึงการเปรียบเทียบการขับขี่ทีไรมักจะพูดว่ามาสด้าตัวถังมันแน่นกว่า? ที่บอกว่าแน่นกว่านั่นคือความสามารถของตัวถังในการรักษาเสถียรภาพยามที่การขับขี่มีแรงกระทำต่างๆเข้ามานั่นเองไม่ว่าจะจากสภาพแวดล้อมเช่นพื้นถนนเป็นหลุมบ่อหรือลมตีด้านข้างหรือจากการขับขี่ของตัวคนขับเอง ซึ่งจุดอ่อนของฮอนด้าอยู่ตรงนี้นี่แหละที่มักเน้นตัวรถที่มีน้ำหนักเบาเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับวีเทคและด้วยความที่ไม่ได้เป็นรถพรีเมี่ยมเช่นacuraจึงไม่ได้มีการใช้ตัวถังที่เบาแต่คงไว้ซึ่งstructural rigidityด้วย มาในซีวิครุ่นใหม่ที่มีการเอาเทอโบมาใช้เรียกอัตราเร่งไม่ใช่naอย่างเดียวแล้วทำหใ้ฮอนด้าสามารถเน้นที่เสริมความแกร่งของตัวถังได้มากขึ้นกว่าในรุ่นที่ผ่านๆมา แต่สังเกตุจากรีวิวสั้นๆที่พูดถึงว่าลดอาการท้ายดิ้นลงไม่ได้ขจัดอาการท้ายดิ้นไปจนหมดสิ้น (มาสด้า3ตั้งแต่รุ่นแรกมาไม่มีปัญหาท้ายดิ้น) รวมถึงจากการที่หลายๆคนไปลองขับแล้วให้ความเห็นว่าดีขึ้นแต่ไม่ได้ถึงขนาดว่าจะแทนที่มาสด้า3ไปได้เลย ก็น่าจะพอประมาณได้ว่าเรื่องช่วงล่างและความมั่นคงนี่ซีวิคยังไม่ดีเท่ามาสด้า3อยู่  :-X

สรุปอีกทีคือเป็นทางเลือกว่าเน้นเรื่องอะไรมากกว่ากัน? เน้นการเร่งแซงก็ไปซีวิคเน้นการขับขี่ก็มาที่มาสด้า3 รถระดับนี้มีข้อดีแตกต่างกันคนละด้าน ยังไม่สามารถที่จะดีไปหมดทุกด้านเป็นสถาณะstatusห้าเหลี่ยมสมมาตรได้  :)   


ชอบๆ ความรู้ๆ ขอบคุณ คุณ 2K ครับ ^^ 

ออฟไลน์ M@<>Ne

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 48
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 13:06:55 »
มาสด้าที่หนากว่าไม่ใช่เปลือกตัวถังครับแต่เป็นคานกันกระแทกกับชิ้นส่วนค้ำตามจุดต่างๆที่หนากว่าในซีวิค เปรียบจากรุ่นเก่าแล้วกันเป็นมาสด้า3BKกับซีวิคFD ซับเฟรมของมาสด้าใหญ่กว่าของซีวิคครับลงไปก้มดูก็ได้ รวมถึงเหล็กกันโคลงด้วยที่ของซีวิค11มิล โฟกัส20มิล แลนเซอร์EX18มิล แล้วพอคนเอาไปเปลี่ยนเป็นกันโคลงของซีวิคสเป็คนอกที่มีขนาดใหญ่กว่า อาการท้ายดิ้นเวลาเข้าโค้งแรงๆก็ลดลงชัดเจน รูปเปรียบเทียบขนาดเหล็กกันโคลงลองหาดูกูเกิ้ลได้เพราะที่ผมมีอยู่ลงเบอติดต่อคนขายเดี๋ยวจะกลายเป็นเข้าข่ายโฆษณา  :-X

ถ้าว่ากันที่เรื่องตัวถัง สิ่งที่มาสด้าดีกว่าแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนั่นคือค่า structural rigidity ที่สูงกว่าซีวิค ค่านี้วัดกันด้วยการทดสอบเอาตัวถังมาบิดแล้วดูว่าต้องใช้แรงมากเท่าไหร่ถึงจะบิดได้1องศา มีหน่วยวัดภาษาอังกฤษว่า Newton-meters per degree (Nm/deg) สรุปสั้นๆว่า ยิ่งค่านี้มีมากเท่าไหรยิ่งหมายถึงความสามารถในการรักษาความเถียรของตัวถังและมุมล้อยามที่แล่นทางตรง เปลี่ยนเลนฉับไว และการเข้าโค้ง  http://blogs.youwheel.com/2014/04/25/car-body-torsional-rigidity-a-comprehensive-list/ เคยสังเกตุไหมว่าเวลาพูดถึงการเปรียบเทียบการขับขี่ทีไรมักจะพูดว่ามาสด้าตัวถังมันแน่นกว่า? ที่บอกว่าแน่นกว่านั่นคือความสามารถของตัวถังในการรักษาเสถียรภาพยามที่การขับขี่มีแรงกระทำต่างๆเข้ามานั่นเองไม่ว่าจะจากสภาพแวดล้อมเช่นพื้นถนนเป็นหลุมบ่อหรือลมตีด้านข้างหรือจากการขับขี่ของตัวคนขับเอง ซึ่งจุดอ่อนของฮอนด้าอยู่ตรงนี้นี่แหละที่มักเน้นตัวรถที่มีน้ำหนักเบาเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับวีเทคและด้วยความที่ไม่ได้เป็นรถพรีเมี่ยมเช่นacuraจึงไม่ได้มีการใช้ตัวถังที่เบาแต่คงไว้ซึ่งstructural rigidityด้วย มาในซีวิครุ่นใหม่ที่มีการเอาเทอโบมาใช้เรียกอัตราเร่งไม่ใช่naอย่างเดียวแล้วทำหใ้ฮอนด้าสามารถเน้นที่เสริมความแกร่งของตัวถังได้มากขึ้นกว่าในรุ่นที่ผ่านๆมา แต่สังเกตุจากรีวิวสั้นๆที่พูดถึงว่าลดอาการท้ายดิ้นลงไม่ได้ขจัดอาการท้ายดิ้นไปจนหมดสิ้น (มาสด้า3ตั้งแต่รุ่นแรกมาไม่มีปัญหาท้ายดิ้น) รวมถึงจากการที่หลายๆคนไปลองขับแล้วให้ความเห็นว่าดีขึ้นแต่ไม่ได้ถึงขนาดว่าจะแทนที่มาสด้า3ไปได้เลย ก็น่าจะพอประมาณได้ว่าเรื่องช่วงล่างและความมั่นคงนี่ซีวิคยังไม่ดีเท่ามาสด้า3อยู่  :-X

สรุปอีกทีคือเป็นทางเลือกว่าเน้นเรื่องอะไรมากกว่ากัน? เน้นการเร่งแซงก็ไปซีวิคเน้นการขับขี่ก็มาที่มาสด้า3 รถระดับนี้มีข้อดีแตกต่างกันคนละด้าน ยังไม่สามารถที่จะดีไปหมดทุกด้านเป็นสถาณะstatusห้าเหลี่ยมสมมาตรได้  :)   

ขอสอบถามนิดนึงนะครับ
จาก "ถ้าว่ากันที่เรื่องตัวถัง สิ่งที่มาสด้าดีกว่าแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนั่นคือค่า structural rigidity ที่สูงกว่าซีวิค ค่านี้วัดกันด้วยการทดสอบเอาตัวถังมาบิดแล้วดูว่าต้องใช้แรงมากเท่าไหร่ถึงจะบิดได้1องศา มีหน่วยวัดภาษาอังกฤษว่า Newton-meters per degree (Nm/deg) "

กับ "ยิ่งค่านี้มีมากเท่าไหรยิ่งหมายถึงความสามารถในการรักษาความเถียรของตัวถังและมุมล้อยามที่แล่นทางตรง เปลี่ยนเลนฉับไว และการเข้าโค้ง"

ส่วนตัว ผมมองว่ามันไม่น่าเกี่ยวข้องนะ

structural rigidity น่าจะหมายถึง Stiffness ของตัว Body รถมากกว่า เหมือนเป็น Spring ในทาง Rotational

แต่ในส่วนเสถียรภาพของตัวถังมันน่าจะเป็น Momentum มากกว่าไหมครับ รถที่มีน้ำหนักเยอะ ย่อมมีเสถียรภาพเยอะกว่าที่ความเร็วเท่ากัน

ถ้ายังไงอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ :-[

ออฟไลน์ kittiphat123

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,017
    • อีเมล์
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 13:16:57 »
ถ้าตอนนี้ให้เลือก เอาซีวิค ดีกว่าครับ มาสด้า3ต้องรอตัวMC ครับ
แต่ถ้าเป็นตัวผมเอง เอาซีวิค1.8ก็พอแล้วละ ถ้าใช้แบบครอบครัว ตัว1.5RSคงไม่เหมาะเท่าไร
คนนั่งกับหน้าคนขับอ่ะสนุก แต่คนนั่งหลัง ไม่สนุกด้วยนี่สิครับ

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 13:32:24 »
สองคันนี้ดีทั้งคู่ครับ แนะนำให้ไปลองนั่งลองขับทั้งสองคันแล้วเลือกคันที่ชอบ ละก็ศึกษาในคลับด้วยว่ามีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้าง

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 14:41:57 »
มาสด้าที่หนากว่าไม่ใช่เปลือกตัวถังครับแต่เป็นคานกันกระแทกกับชิ้นส่วนค้ำตามจุดต่างๆที่หนากว่าในซีวิค เปรียบจากรุ่นเก่าแล้วกันเป็นมาสด้า3BKกับซีวิคFD ซับเฟรมของมาสด้าใหญ่กว่าของซีวิคครับลงไปก้มดูก็ได้ รวมถึงเหล็กกันโคลงด้วยที่ของซีวิค11มิล โฟกัส20มิล แลนเซอร์EX18มิล แล้วพอคนเอาไปเปลี่ยนเป็นกันโคลงของซีวิคสเป็คนอกที่มีขนาดใหญ่กว่า อาการท้ายดิ้นเวลาเข้าโค้งแรงๆก็ลดลงชัดเจน รูปเปรียบเทียบขนาดเหล็กกันโคลงลองหาดูกูเกิ้ลได้เพราะที่ผมมีอยู่ลงเบอติดต่อคนขายเดี๋ยวจะกลายเป็นเข้าข่ายโฆษณา  :-X

ถ้าว่ากันที่เรื่องตัวถัง สิ่งที่มาสด้าดีกว่าแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนั่นคือค่า structural rigidity ที่สูงกว่าซีวิค ค่านี้วัดกันด้วยการทดสอบเอาตัวถังมาบิดแล้วดูว่าต้องใช้แรงมากเท่าไหร่ถึงจะบิดได้1องศา มีหน่วยวัดภาษาอังกฤษว่า Newton-meters per degree (Nm/deg) สรุปสั้นๆว่า ยิ่งค่านี้มีมากเท่าไหรยิ่งหมายถึงความสามารถในการรักษาความเถียรของตัวถังและมุมล้อยามที่แล่นทางตรง เปลี่ยนเลนฉับไว และการเข้าโค้ง  http://blogs.youwheel.com/2014/04/25/car-body-torsional-rigidity-a-comprehensive-list/ เคยสังเกตุไหมว่าเวลาพูดถึงการเปรียบเทียบการขับขี่ทีไรมักจะพูดว่ามาสด้าตัวถังมันแน่นกว่า? ที่บอกว่าแน่นกว่านั่นคือความสามารถของตัวถังในการรักษาเสถียรภาพยามที่การขับขี่มีแรงกระทำต่างๆเข้ามานั่นเองไม่ว่าจะจากสภาพแวดล้อมเช่นพื้นถนนเป็นหลุมบ่อหรือลมตีด้านข้างหรือจากการขับขี่ของตัวคนขับเอง ซึ่งจุดอ่อนของฮอนด้าอยู่ตรงนี้นี่แหละที่มักเน้นตัวรถที่มีน้ำหนักเบาเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับวีเทคและด้วยความที่ไม่ได้เป็นรถพรีเมี่ยมเช่นacuraจึงไม่ได้มีการใช้ตัวถังที่เบาแต่คงไว้ซึ่งstructural rigidityด้วย มาในซีวิครุ่นใหม่ที่มีการเอาเทอโบมาใช้เรียกอัตราเร่งไม่ใช่naอย่างเดียวแล้วทำหใ้ฮอนด้าสามารถเน้นที่เสริมความแกร่งของตัวถังได้มากขึ้นกว่าในรุ่นที่ผ่านๆมา แต่สังเกตุจากรีวิวสั้นๆที่พูดถึงว่าลดอาการท้ายดิ้นลงไม่ได้ขจัดอาการท้ายดิ้นไปจนหมดสิ้น (มาสด้า3ตั้งแต่รุ่นแรกมาไม่มีปัญหาท้ายดิ้น) รวมถึงจากการที่หลายๆคนไปลองขับแล้วให้ความเห็นว่าดีขึ้นแต่ไม่ได้ถึงขนาดว่าจะแทนที่มาสด้า3ไปได้เลย ก็น่าจะพอประมาณได้ว่าเรื่องช่วงล่างและความมั่นคงนี่ซีวิคยังไม่ดีเท่ามาสด้า3อยู่  :-X

สรุปอีกทีคือเป็นทางเลือกว่าเน้นเรื่องอะไรมากกว่ากัน? เน้นการเร่งแซงก็ไปซีวิคเน้นการขับขี่ก็มาที่มาสด้า3 รถระดับนี้มีข้อดีแตกต่างกันคนละด้าน ยังไม่สามารถที่จะดีไปหมดทุกด้านเป็นสถาณะstatusห้าเหลี่ยมสมมาตรได้  :)   

ขอสอบถามนิดนึงนะครับ
จาก "ถ้าว่ากันที่เรื่องตัวถัง สิ่งที่มาสด้าดีกว่าแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนั่นคือค่า structural rigidity ที่สูงกว่าซีวิค ค่านี้วัดกันด้วยการทดสอบเอาตัวถังมาบิดแล้วดูว่าต้องใช้แรงมากเท่าไหร่ถึงจะบิดได้1องศา มีหน่วยวัดภาษาอังกฤษว่า Newton-meters per degree (Nm/deg) "

กับ "ยิ่งค่านี้มีมากเท่าไหรยิ่งหมายถึงความสามารถในการรักษาความเถียรของตัวถังและมุมล้อยามที่แล่นทางตรง เปลี่ยนเลนฉับไว และการเข้าโค้ง"

ส่วนตัว ผมมองว่ามันไม่น่าเกี่ยวข้องนะ

structural rigidity น่าจะหมายถึง Stiffness ของตัว Body รถมากกว่า เหมือนเป็น Spring ในทาง Rotational

แต่ในส่วนเสถียรภาพของตัวถังมันน่าจะเป็น Momentum มากกว่าไหมครับ รถที่มีน้ำหนักเยอะ ย่อมมีเสถียรภาพเยอะกว่าที่ความเร็วเท่ากัน

ถ้ายังไงอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ :-[

ผมนี่ต้องไปดูในกูเกิ้ลเลยว่าความหมายของ momentum ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า  :P ผมเป็นมือสมัครเล่นประเภทที่รวบข้อมูลในระดับทุติยภูมิขั้นปลายๆแล้วค่อยเอามาคิดวิเคราะห์แบบของตัวเองอีกที  :-X เข้าเรื่องดีกว่า momentum ที่ผมเข้าใจคือการเคลื่อนที่ไปทั้งข้างหน้าและหลังโดยดูจากมวลน้ำหนักทั้งหมดของวัตุ ผมลองค้นดูนิยามของคำนี้จากเว็บนี้ก็น่าจะเข้าใจความหมายของมันถูกนะ http://w3.shorecrest.org/~Lisa_Peck/Physics/syllabus/mechanics/momentum/car_safety_crashes.html   ;D ที่ว่ารถที่มีน้ำหนักเยอะย่อมมีเสถียรภาพมากกว่าอีกคันที่น้ำหนักน้อยกว่าที่ความเร็วเท่ากัน อันนี้ผมเห็นด้วยครับแต่คิดว่าเรื่องของ momentum น่าจะไปอยู่ในหัวข้อของเบรคและอัตราเร่งมากกว่า  :-X

ถ้าจะเอ่ยถึงโมเมนตั้มในเรื่องของช่วงล่างนั้นน่าจะเกี่ยวในแง่ที่ว่ามาสด้า3BKมีน้ำหนักมากกว่าซีวิคFDเกือบร้อยกิโลแต่ว่าความสามารถในการเข้าโค้งที่นิ่งกว่าใส่ความเร็วในโค้งได้มากกว่า(น้ำหนักมากกว่าแต่ทำไมเข้าโค้งได้ดีกว่า?)และทรงตัวทางตรงที่ความเร็วสูงเสถียรกว่า(น้ำหนักที่มากกว่าส่งผลให้ได้เปรียบในเรื่องความมั่นคงที่ความเร็วสูงเมื่อต้องพึ่งเรื่องของอากาศพลศาสตร์ด้วยแล้ว) ที่ผมคิดไว้ก็คือการที่เข้าโค้งได้ดีกว่าก็เพราะว่ามาจากการที่ structural rigidity ดีกว่านั่นแหละที่ทำให้รักษามุมล้อและเสถียรภาพของตัวถังได้มั่นคงกว่า ประกอบกับช่วงล่างของมาสด้าและคานค้ำในตัวถังตามจุดต่างที่ใช้ชิ้นส่วนที่ใหญ่กว่า(ซีวิคที่เปลี่ยนกันโคลงใหญ่กว่าก็เข้าโค้งดีขึ้นเหมือนกัน) ทำให้ขีดจำกัดการเข้าโค้งทำได้สูงกว่าซีวิค ตัวแปรสำคัญของช่วงล่างนอกเหนือไปจากตัวถังที่แกร่งกว่าก็คือช่วงล่างที่สามารถรับมือน้ำหนักที่มากกว่าแต่เอาอยู่นี่แหละครับ ใหญ่กว่าหนักกว่าแต่ก็ปรับแต่งมาให้ไม่เป็นภาระกับการขับขี่ทั้งหมดแล้วยังเสริมเรื่องความนิ่งด้วย 

ยังไงซะก็ไม่ได้หมายความว่าที่ผมว่ามานั้นถูกไปเสียทั้งหมด  :-X เพราะเรื่องของช่วงล่างนั้นมันมองได้จากหลายมุมมองมากๆๆๆๆ อย่างที่นาย Geoff Robinson พูดในความเห็นของเค้าจากในเว็บที่ผมลงอ้างอิงไว้ว่า "You also need to have car mass (kg), center of gravity location and load balance between wheels, geometry of the suspension, spring, shock and damping rates.... even tires deflection under load." มันมีปัจจัยหลายๆอย่างอีกมากที่ต้องยกมาใช้เวลาตัดสินเรื่องของช่วงล่างแล้วต้องเอามาคำณวนต่ออีกด้วยถ้าจะพูดกันอย่างจริงจัง ซึ่งก็เกินขอบเขตความรู้ของผมไปไกลลิบแล้ว  :P เอาง่ายๆเลยก็เหมือนที่หลายๆคนบอกนั่นแหละ คนซื้อต้องไปลองขับดูแล้วพยายามจับความรู้สึกให้ได้มากที่สุดว่าการขับขี่ของผู้ขับกับรถคันไหนมันเข้าขามากกว่ากัน คันไหนถูกใจมากที่สุดเอาคันนั้นแล้วจะจะเอามาแต่งเพื่อแก้ไขจุดด้อยยังไงก็ว่ากันต่อทีหลังเพราะยุคนี้ของแต่งอยากได้อะไรมันมีหมดทุกชิ้นส่วน  ;D ไม่มีใครที่ใช้อัตราเร่งเต็มที่ตลอดเวลาและไม่มีใครที่สาดโค้งจนยางดังเอี๊ยดๆๆหมิ่นเหม่แตะขีดจำกัดของช่วงล่างทุกครั้งที่เจอโค้ง  :-X   
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ -Brian

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,082
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 15:05:11 »
มาสด้าที่หนากว่าไม่ใช่เปลือกตัวถังครับแต่เป็นคานกันกระแทกกับชิ้นส่วนค้ำตามจุดต่างๆที่หนากว่าในซีวิค เปรียบจากรุ่นเก่าแล้วกันเป็นมาสด้า3BKกับซีวิคFD ซับเฟรมของมาสด้าใหญ่กว่าของซีวิคครับลงไปก้มดูก็ได้ รวมถึงเหล็กกันโคลงด้วยที่ของซีวิค11มิล โฟกัส20มิล แลนเซอร์EX18มิล แล้วพอคนเอาไปเปลี่ยนเป็นกันโคลงของซีวิคสเป็คนอกที่มีขนาดใหญ่กว่า อาการท้ายดิ้นเวลาเข้าโค้งแรงๆก็ลดลงชัดเจน รูปเปรียบเทียบขนาดเหล็กกันโคลงลองหาดูกูเกิ้ลได้เพราะที่ผมมีอยู่ลงเบอติดต่อคนขายเดี๋ยวจะกลายเป็นเข้าข่ายโฆษณา  :-X

ถ้าว่ากันที่เรื่องตัวถัง สิ่งที่มาสด้าดีกว่าแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนั่นคือค่า structural rigidity ที่สูงกว่าซีวิค ค่านี้วัดกันด้วยการทดสอบเอาตัวถังมาบิดแล้วดูว่าต้องใช้แรงมากเท่าไหร่ถึงจะบิดได้1องศา มีหน่วยวัดภาษาอังกฤษว่า Newton-meters per degree (Nm/deg) สรุปสั้นๆว่า ยิ่งค่านี้มีมากเท่าไหรยิ่งหมายถึงความสามารถในการรักษาความเถียรของตัวถังและมุมล้อยามที่แล่นทางตรง เปลี่ยนเลนฉับไว และการเข้าโค้ง  http://blogs.youwheel.com/2014/04/25/car-body-torsional-rigidity-a-comprehensive-list/ เคยสังเกตุไหมว่าเวลาพูดถึงการเปรียบเทียบการขับขี่ทีไรมักจะพูดว่ามาสด้าตัวถังมันแน่นกว่า? ที่บอกว่าแน่นกว่านั่นคือความสามารถของตัวถังในการรักษาเสถียรภาพยามที่การขับขี่มีแรงกระทำต่างๆเข้ามานั่นเองไม่ว่าจะจากสภาพแวดล้อมเช่นพื้นถนนเป็นหลุมบ่อหรือลมตีด้านข้างหรือจากการขับขี่ของตัวคนขับเอง ซึ่งจุดอ่อนของฮอนด้าอยู่ตรงนี้นี่แหละที่มักเน้นตัวรถที่มีน้ำหนักเบาเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับวีเทคและด้วยความที่ไม่ได้เป็นรถพรีเมี่ยมเช่นacuraจึงไม่ได้มีการใช้ตัวถังที่เบาแต่คงไว้ซึ่งstructural rigidityด้วย มาในซีวิครุ่นใหม่ที่มีการเอาเทอโบมาใช้เรียกอัตราเร่งไม่ใช่naอย่างเดียวแล้วทำหใ้ฮอนด้าสามารถเน้นที่เสริมความแกร่งของตัวถังได้มากขึ้นกว่าในรุ่นที่ผ่านๆมา แต่สังเกตุจากรีวิวสั้นๆที่พูดถึงว่าลดอาการท้ายดิ้นลงไม่ได้ขจัดอาการท้ายดิ้นไปจนหมดสิ้น (มาสด้า3ตั้งแต่รุ่นแรกมาไม่มีปัญหาท้ายดิ้น) รวมถึงจากการที่หลายๆคนไปลองขับแล้วให้ความเห็นว่าดีขึ้นแต่ไม่ได้ถึงขนาดว่าจะแทนที่มาสด้า3ไปได้เลย ก็น่าจะพอประมาณได้ว่าเรื่องช่วงล่างและความมั่นคงนี่ซีวิคยังไม่ดีเท่ามาสด้า3อยู่  :-X

สรุปอีกทีคือเป็นทางเลือกว่าเน้นเรื่องอะไรมากกว่ากัน? เน้นการเร่งแซงก็ไปซีวิคเน้นการขับขี่ก็มาที่มาสด้า3 รถระดับนี้มีข้อดีแตกต่างกันคนละด้าน ยังไม่สามารถที่จะดีไปหมดทุกด้านเป็นสถาณะstatusห้าเหลี่ยมสมมาตรได้  :)   

ขอสอบถามนิดนึงนะครับ
จาก "ถ้าว่ากันที่เรื่องตัวถัง สิ่งที่มาสด้าดีกว่าแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนั่นคือค่า structural rigidity ที่สูงกว่าซีวิค ค่านี้วัดกันด้วยการทดสอบเอาตัวถังมาบิดแล้วดูว่าต้องใช้แรงมากเท่าไหร่ถึงจะบิดได้1องศา มีหน่วยวัดภาษาอังกฤษว่า Newton-meters per degree (Nm/deg) "

กับ "ยิ่งค่านี้มีมากเท่าไหรยิ่งหมายถึงความสามารถในการรักษาความเถียรของตัวถังและมุมล้อยามที่แล่นทางตรง เปลี่ยนเลนฉับไว และการเข้าโค้ง"

ส่วนตัว ผมมองว่ามันไม่น่าเกี่ยวข้องนะ

structural rigidity น่าจะหมายถึง Stiffness ของตัว Body รถมากกว่า เหมือนเป็น Spring ในทาง Rotational

แต่ในส่วนเสถียรภาพของตัวถังมันน่าจะเป็น Momentum มากกว่าไหมครับ รถที่มีน้ำหนักเยอะ ย่อมมีเสถียรภาพเยอะกว่าที่ความเร็วเท่ากัน

ถ้ายังไงอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ :-[

ผมนี่ต้องไปดูในกูเกิ้ลเลยว่าความหมายของ momentum ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า  :P ผมเป็นมือสมัครเล่นประเภทที่รวบข้อมูลในระดับทุติยภูมิขั้นปลายๆแล้วค่อยเอามาคิดวิเคราะห์แบบของตัวเองอีกที  :-X เข้าเรื่องดีกว่า momentum ที่ผมเข้าใจคือการเคลื่อนที่ไปทั้งข้างหน้าและหลังโดยดูจากมวลน้ำหนักทั้งหมดของวัตุ ผมลองค้นดูนิยามของคำนี้จากเว็บนี้ก็น่าจะเข้าใจความหมายของมันถูกนะ http://w3.shorecrest.org/~Lisa_Peck/Physics/syllabus/mechanics/momentum/car_safety_crashes.html   ;D ที่ว่ารถที่มีน้ำหนักเยอะย่อมมีเสถียรภาพมากกว่าอีกคันที่น้ำหนักน้อยกว่าที่ความเร็วเท่ากัน อันนี้ผมเห็นด้วยครับแต่คิดว่าเรื่องของ momentum น่าจะไปอยู่ในหัวข้อของเบรคและอัตราเร่งมากกว่า  :-X

ถ้าจะเอ่ยถึงโมเมนตั้มในเรื่องของช่วงล่างนั้นน่าจะเกี่ยวในแง่ที่ว่ามาสด้า3BKมีน้ำหนักมากกว่าซีวิคFDเกือบร้อยกิโลแต่ว่าความสามารถในการเข้าโค้งที่นิ่งกว่าใส่ความเร็วในโค้งได้มากกว่า(น้ำหนักมากกว่าแต่ทำไมเข้าโค้งได้ดีกว่า?)และทรงตัวทางตรงที่ความเร็วสูงเสถียรกว่า(น้ำหนักที่มากกว่าส่งผลให้ได้เปรียบในเรื่องความมั่นคงที่ความเร็วสูงเมื่อต้องพึ่งเรื่องของอากาศพลศาสตร์ด้วยแล้ว) ที่ผมคิดไว้ก็คือการที่เข้าโค้งได้ดีกว่าก็เพราะว่ามาจากการที่ structural rigidity ดีกว่านั่นแหละที่ทำให้รักษามุมล้อและเสถียรภาพของตัวถังได้มั่นคงกว่า ประกอบกับช่วงล่างของมาสด้าและคานค้ำในตัวถังตามจุดต่างที่ใช้ชิ้นส่วนที่ใหญ่กว่า(ซีวิคที่เปลี่ยนกันโคลงใหญ่กว่าก็เข้าโค้งดีขึ้นเหมือนกัน) ทำให้ขีดจำกัดการเข้าโค้งทำได้สูงกว่าซีวิค ตัวแปรสำคัญของช่วงล่างนอกเหนือไปจากตัวถังที่แกร่งกว่าก็คือช่วงล่างที่สามารถรับมือน้ำหนักที่มากกว่าแต่เอาอยู่นี่แหละครับ ใหญ่กว่าหนักกว่าแต่ก็ปรับแต่งมาให้ไม่เป็นภาระกับการขับขี่ทั้งหมดแล้วยังเสริมเรื่องความนิ่งด้วย 

ยังไงซะก็ไม่ได้หมายความว่าที่ผมว่ามานั้นถูกไปเสียทั้งหมด  :-X เพราะเรื่องของช่วงล่างนั้นมันมองได้จากหลายมุมมองมากๆๆๆๆ อย่างที่นาย Geoff Robinson พูดในความเห็นของเค้าจากในเว็บที่ผมลงอ้างอิงไว้ว่า "You also need to have car mass (kg), center of gravity location and load balance between wheels, geometry of the suspension, spring, shock and damping rates.... even tires deflection under load." มันมีปัจจัยหลายๆอย่างอีกมากที่ต้องยกมาใช้เวลาตัดสินเรื่องของช่วงล่างแล้วต้องเอามาคำณวนต่ออีกด้วยถ้าจะพูดกันอย่างจริงจัง ซึ่งก็เกินขอบเขตความรู้ของผมไปไกลลิบแล้ว  :P เอาง่ายๆเลยก็เหมือนที่หลายๆคนบอกนั่นแหละ คนซื้อต้องไปลองขับดูแล้วพยายามจับความรู้สึกให้ได้มากที่สุดว่าการขับขี่ของผู้ขับกับรถคันไหนมันเข้าขามากกว่ากัน คันไหนถูกใจมากที่สุดเอาคันนั้นแล้วจะจะเอามาแต่งเพื่อแก้ไขจุดด้อยยังไงก็ว่ากันต่อทีหลังเพราะยุคนี้ของแต่งอยากได้อะไรมันมีหมดทุกชิ้นส่วน  ;D ไม่มีใครที่ใช้อัตราเร่งเต็มที่ตลอดเวลาและไม่มีใครที่สาดโค้งจนยางดังเอี๊ยดๆๆหมิ่นเหม่แตะขีดจำกัดของช่วงล่างทุกครั้งที่เจอโค้ง  :-X   

ผมขออธิบายจากความรู้สึก ที่ได้ขับทั้ง 2 รุ่น คือ Civic FD และ Mazda3 BK นะครับ
Mazda3 BK จะสังเกตได้ว่าท้ายรถสั้น แต่เมื่อลองเปิดกระโปรงท้าย จะเห็นว่าห้องเก็บของลึกมาก นั่นก็เพราะว่า มาสด้าวางตำแหน่งเบาะหลังเยื้องมาด้านหน้ามาก กล่าวคือไม่ได้วางไว้บนล้อคู่หลังอย่างที่Civic เป็น นั่นทำให้ศูนย์ถ่วงของรถอยู่ตรงกลางมากขึ้น เวลาเข้าโค้งจะรู้สึกว่าตัวรถทั้งคัน เคลื่อนที่ไปพร้อมกัน ต่างจากรถที่ฐานล้อยาวอย่าง Civic เวลาเข้าโค้งแรงๆ หรือเปลี่ยนเลนแรงๆ จะมีอาการท้ายสะบัดเล็กๆ

ก็ยืนยันตามท่าน 2K ล่ะครับ รถจะมีการขับขี่สไตล์ไหน อยู่ที่ผู้ผลิตเค้าออกแบบโครงสร้างรถมาเพื่อรองรับการขับขี่ประเภทนั้น  การที่เอาไปเปลี่ยนโช้คอัพ มันก็ช่วยได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่มันจะเสียบาลานซ์ไป เช่นใส่สตรัทแล้วจะแข็งกว่าเดิม เป็นต้น ครับ

ออฟไลน์ เซลล์ขายรถ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 704
  • เซลล์ขายรถจริงๆนะครับ
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 15:30:25 »
ถ้าตัดDefect หัวฉีดของ Mazda3 ที่มีปัญหากับ E85

ส่วนตัวเลือกมาสด้า จากที่เดยๆได้ขับมา ถ้าเป็นคนที่ชอบขับรถ

อีกอย่างคือส่วนของความเป๋็นเครื่อง N/A น่าจะดูแลง่ายกว่า

ในอนาคตต่อๆไปยังตอบไม่ได้ว่าCVT ใน FB จะเป็นยังไง อาจจะดีกว่าพวก CVT สมัยก่อนแล้วก็ได้

แต่สำหรับผม ขอไม่เสี่ยง

ขอไปเล่น เกียร์ Torque Convertor ดีกว่า
ต้องดันยอดเดี๋ยวเจอโกฮังจัดการ :(

ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 16:55:51 »
มาสด้าที่หนากว่าไม่ใช่เปลือกตัวถังครับแต่เป็นคานกันกระแทกกับชิ้นส่วนค้ำตามจุดต่างๆที่หนากว่าในซีวิค เปรียบจากรุ่นเก่าแล้วกันเป็นมาสด้า3BKกับซีวิคFD ซับเฟรมของมาสด้าใหญ่กว่าของซีวิคครับลงไปก้มดูก็ได้ รวมถึงเหล็กกันโคลงด้วยที่ของซีวิค11มิล โฟกัส20มิล แลนเซอร์EX18มิล แล้วพอคนเอาไปเปลี่ยนเป็นกันโคลงของซีวิคสเป็คนอกที่มีขนาดใหญ่กว่า อาการท้ายดิ้นเวลาเข้าโค้งแรงๆก็ลดลงชัดเจน รูปเปรียบเทียบขนาดเหล็กกันโคลงลองหาดูกูเกิ้ลได้เพราะที่ผมมีอยู่ลงเบอติดต่อคนขายเดี๋ยวจะกลายเป็นเข้าข่ายโฆษณา  :-X

ถ้าว่ากันที่เรื่องตัวถัง สิ่งที่มาสด้าดีกว่าแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนั่นคือค่า structural rigidity ที่สูงกว่าซีวิค ค่านี้วัดกันด้วยการทดสอบเอาตัวถังมาบิดแล้วดูว่าต้องใช้แรงมากเท่าไหร่ถึงจะบิดได้1องศา มีหน่วยวัดภาษาอังกฤษว่า Newton-meters per degree (Nm/deg) สรุปสั้นๆว่า ยิ่งค่านี้มีมากเท่าไหรยิ่งหมายถึงความสามารถในการรักษาความเถียรของตัวถังและมุมล้อยามที่แล่นทางตรง เปลี่ยนเลนฉับไว และการเข้าโค้ง  http://blogs.youwheel.com/2014/04/25/car-body-torsional-rigidity-a-comprehensive-list/ เคยสังเกตุไหมว่าเวลาพูดถึงการเปรียบเทียบการขับขี่ทีไรมักจะพูดว่ามาสด้าตัวถังมันแน่นกว่า? ที่บอกว่าแน่นกว่านั่นคือความสามารถของตัวถังในการรักษาเสถียรภาพยามที่การขับขี่มีแรงกระทำต่างๆเข้ามานั่นเองไม่ว่าจะจากสภาพแวดล้อมเช่นพื้นถนนเป็นหลุมบ่อหรือลมตีด้านข้างหรือจากการขับขี่ของตัวคนขับเอง ซึ่งจุดอ่อนของฮอนด้าอยู่ตรงนี้นี่แหละที่มักเน้นตัวรถที่มีน้ำหนักเบาเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับวีเทคและด้วยความที่ไม่ได้เป็นรถพรีเมี่ยมเช่นacuraจึงไม่ได้มีการใช้ตัวถังที่เบาแต่คงไว้ซึ่งstructural rigidityด้วย มาในซีวิครุ่นใหม่ที่มีการเอาเทอโบมาใช้เรียกอัตราเร่งไม่ใช่naอย่างเดียวแล้วทำหใ้ฮอนด้าสามารถเน้นที่เสริมความแกร่งของตัวถังได้มากขึ้นกว่าในรุ่นที่ผ่านๆมา แต่สังเกตุจากรีวิวสั้นๆที่พูดถึงว่าลดอาการท้ายดิ้นลงไม่ได้ขจัดอาการท้ายดิ้นไปจนหมดสิ้น (มาสด้า3ตั้งแต่รุ่นแรกมาไม่มีปัญหาท้ายดิ้น) รวมถึงจากการที่หลายๆคนไปลองขับแล้วให้ความเห็นว่าดีขึ้นแต่ไม่ได้ถึงขนาดว่าจะแทนที่มาสด้า3ไปได้เลย ก็น่าจะพอประมาณได้ว่าเรื่องช่วงล่างและความมั่นคงนี่ซีวิคยังไม่ดีเท่ามาสด้า3อยู่  :-X

สรุปอีกทีคือเป็นทางเลือกว่าเน้นเรื่องอะไรมากกว่ากัน? เน้นการเร่งแซงก็ไปซีวิคเน้นการขับขี่ก็มาที่มาสด้า3 รถระดับนี้มีข้อดีแตกต่างกันคนละด้าน ยังไม่สามารถที่จะดีไปหมดทุกด้านเป็นสถาณะstatusห้าเหลี่ยมสมมาตรได้  :)   

ขออนุญาติ เล็คเชอร์เข้าสมุด ไปค้นต่อ ว่าแต่พอมีตัวเลขของ Elantra มั๊ยครับ เจ้านี้ตอนผมไปเกาหลีเขาคุยเลยนะว่า เขาน่ะหล่ะที่ส่งเหล็กให้ญี่ปุ่น เหล็กเขาดีสุด

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: Mazda3 sp2.0 กับ civic Rs รถคันแรก
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 17:29:52 »
ที่อ่านมาเห็นว่าเรื่องของ torsional stiffness นั้นค่ายรถไม่ค่อยจะเปิดเผยกันน่ะครับ ยกเว้นว่าจะมีการนำมาใช้เพื่อประกอบการโฆษณาชูจุดเด่นถึงจะบอก  :( ของฮุนไดเอลันตร้าผมลองค้นดูก็ไม่เจอแฮะ มีแต่บอกในคลิปข่าวยานยนต์เท่านั้นเองว่าดีขึ้น 25% เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้วและมีการใช้เหล็กแบบเหนียวพิเศษ53%เพิ่มจากเดิมที่ใช้อยู่29%ของตัวรถทั้งหมด  :-X  http://www.motortrend.ca/en/auto-shows/los-angeles/2015/1511-2017-hyundai-elantra-first-look-review/  ครึ่งนึงของตัวถังเข้าไปแล้วคาดว่าการขับขี่น่าจะไม่ด้อยไปกว่ารถญี่ปุ่นนะครับ  :D  ผมคิดว่าต่อไปในอนาคตรถบ้านๆส่วนใหญ่น่าจะหันมาชูดจุดขายเรื่องตัวถังที่แกร่งขึ้นกันเพราะเครื่องยนต์ก็หันมาใช้ระบบฉีดตรงเทอร์โบกันทั้งนั้น ถ้าไม่เสริมตัวถังคงจะเอาแรงบิดไม่อยู่  :-X ซึ่งก็ดีกับคนซื้อเพราะจะเป็นการยกระดับให้รถยนต์บ้านๆมีประสิทธิภาพดีขึ้นไปอีกขั้นนึงในยุคเครื่องฉีดตรงนี้   ::)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com