อัพเดทอีกครั้งครับ
เมื่อวันที่ 21-23 ผมตัดสินใจที่จะไปเที่ยวเชียงใหม่ และผมตัดสินใจว่าทางที่ดีที่สุด ก็คงจะเป็นการขับรถไป การนั่งเครื่องบินไปอาจจะเร็วกว่า การนั่งรถไฟไปอาจจะถูกกว่า แต่สรุปสุดท้าย ผมเลือกที่จะขับรถไป ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างด้วยกัน อย่างแรกเลยคือจำนวนผู้เที่ยวมี 5 คน ค่าเครื่องบินนั้นจะสูงมาก และยังต้องเสียค่าเช่ารถอีก การมีรถขับทำให้การเดินทางไปยังที่เที่ยวต่างๆทำได้สะดวกมาก ในเวลา 72 ชั่วโมง ผมสามารถไปเที่ยวได้เกือบทุกที่ที่ควรจะไปในเชียงใหม่ แน่นอนว่า 16 ชั่วโมงต้องเสียไปกับการขับรถ แต่เมื่อแลกกับการที่ได้ไปเที่ยวครบทุกที่แล้ว ผมว่าคุ้มค่าครับ
อีกเรื่องที่สำคัญคือประสบการณ์ครับ
พูดตรงๆนะ...ตอนแรกเห็นไม่เคยกดเข้ามาอ่านเลย แต่ หลังจากอ่าน reviewคุณแล้ว ...ขนลุก
น้ำตาซึมๆนะ ไม่ใช่แค่ review รถแล้วนะ ลำดับเรื่อง คำพูด มุมมองชีวิต สำหรับผมที่กำลังพบเจอ
ปัญหาชีวิตบางอย่าง ได้อ่านแล้วถึงเป็นแบบนี้.....W124 คันนี้ในช่วงการใช้งาน ไปเที่ยว มาทำ
review เพิ่มนะครับ ขอติดตามผลงาน......
เนื่องด้วยความเห็นนี้เอง ทำให้ผมตัดสินใจที่จะเดินทางด้วยรถคันนี้ ผมอยากจะเก็บประสบการณ์เอาไว้ว่า ดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ แม่แจ่ม กิ่วแม่ปาน แม่กำปอง นิมมาน อะไรก็ตามรถคันนี้พาไปถึงที่หมายมาหมดแล้ว และผมขอรายงานได้เลยว่า 1,600 กิโลเมตร รถคันนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าดอยจะสูงขนาดไหน ทางจะชันอย่างไร รถคันนี้ก็ขึ้นได้หมด แม้ว่าจะต้องแบกน้ำหนักถึง 300 กิโลกรัมก็ตาม ความร้อนคาอยู่ที่ 87 องศาตลอด และอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 9-10 กิโลเมตรต่อลิตร ทั้งๆที่ไม่ได้ขับช้า อีกอย่าง ผมอยากที่จะพิสูจน์ว่าแม้จะเป็นรถเก่า 21 ปี ก็ยังสามารถที่จะไปไหนก็ได้ที่เราอยากไป กลับให้ได้ ไปให้ถึง
แต่สิ่งที่ผมคิดว่าสำคัญกว่าเยอะ รถคันนี้จะทำให้ผมจดจำเอาไว้ รถคันนี้ก็จะยังเป็นเครื่องบันทึกว่า ครึ่งหนึ่ง มิตรภาพเคยเกิดขึ้นบนท้องถนน ในรถคันนี้ ที่ที่แห่งนี้ รถคันนี้จะทำให้นึกถึงความสุขและความทุกข์ที่มีเคยมี แม้ว่าอาจจะไม่ได้พบกันอีกก็ตาม ผมคงจะต้องเสียใจมากในวันที่ต้องจากรถคันนี้ไป เพราะการที่ต้องจากรถคันนี้ ก็เหมือนกับการที่ต้องจากความทรงจำดีๆที่เคยมีไว้ ความทรงจำที่ผมไม่อยากลืม
ถึงกระนั้น สักวันรถคันนี้ก็จะไม่ใช่ของผมอีกต่อไปอยู่ดี
แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ผมจะไม่สามารถมีความสุขกับรถคันนี้ในตอนนี้ ใช่ไหมครับ?