ขอแชร์ประสบการณ์การเลือกซื้อรถของชนชั้นผู้ใช้แรงงาน

carenaruk

ในฐานะที่ผมทำงานโรงงานเป็นช่างซ่อมบำรุงมา15ปีแล้ว อยากแชร์ความรู้สึกและการเลือกซื้อรถของคนใช้แรงงานระดับshop foor ซึ่งมีรายได้เฉลี่ย 15000-40000 หน่อยนะ ผมติดตามบอร์ดนี้มานานพอสมควร ได้อ่านความเห็นส่วนใหญ่ว่า ออฟชั่นจัดเต็ม ระบบความปลอดภัยครบๆจะขายดี ซึ่งผมอยากบอกว่าไม่เป็นความจริงเลย ในชนชั้นผู้ใช้แรงงาน ซึ่งผมถือว่าเป็นตลาดใหญ่ของคนซื้อรถแล้วในประเทศไทย เอาแค่ในแผนกช่างที่ผมอยู่มีคนใช้กระบะ 11คน ล้วนแต่เป็นรุ่นกลางทั้งสิ้น ซึ่งแทบไม่มีระบบความปลอยภัยอยู่เลย มีเพียงถุงลมกับเบรคabsเท่านั้น และ100%เป็นรถกระบะยกสูงทั้งหมด  มีแค่1คัน ที่เป็น รีโว่2.4g ที่เป็นตัวท๊อป แต่ก้อไม่ได้มีระบบปลอดภัยอะไรมากมาย ผมถามเพื่อนที่ซื้อตัวนี้ เพราะว่าภายในมันหรูเท่านั้นvsc หรือระบบอะไรไม่ได้สนใจ  ผมถามเด็กในไลน์ผลิตยีงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารถตัวเองมีเบรคabsหรือป่าว อันนี้คือเรื่องจริงที่ประสบมา  เดินดูที่จอดรถในโรงงาน ส่วนใหญ่เป็นกระบะยกสูงตัวกลางๆทั้งสิ้น ปัจจัยหลักของคนซื้อรถในระดับผู้ใช้แรงงานจริงๆแล้ว มีเพียง แบรนด์ โปรโมชั่น เท่านั้น ของเพียงเป็นกระบะยกสูง 4ประตูเท่ห์ๆเท่านั้นเป็นพอ ระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆไม่มีผลต่อการเลือกซื้อรถเลย  ปล. รถเก๋งก้อมี แต่เป็นส่วนน้อย กระบะเกิน80% ครับ



Megalodon

ผมก็เข้าใจนะครับ ในส่วนนี้ แต่เรื่องความปลอดภัยของชีวิตเวลาขับรถก็สำคัญ เราไม่ประมาทแต่คนอื่นประมาท อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ผมเป็นคนนึงที่คิดว่าระบบ safety ต่างๆสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย ระบบเตือนรถมุมอับ ระบบช่วยเบรคหรือเตือนสิ่งกีดขวางด้านหน้าด้านหลัง

สิ่งเหล่านี้มีเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ ช่วยลดความรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุได้จริงนะครับ ผมเองเคยรถคว่ำมา นานมาแล้ว ถ้าวันนั้นผมไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีการรณรงค์ให้คาด หรือเป็นกฎหมายให้รถทุกคันมีและต้องคาดโดยเฉพาะคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ผมก็คงไม่มีชีวิตมานั่งอ่านกระทู้ต่างๆในวันนี้

ระบบนิรภัยต่างๆที่คิดและทำขึ้นมาใส่ในรถรุ่นต่างๆในรุ่นใหม่ๆผมนิยมชมชอบมากครับ ชีวิตเรามีชีวิตเดียว ขับรถไปแต่ละวันจะเจออะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครรู้เลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2016, 09:12:42 โดย Megalodon »



rotaryman

ถูกครับ มันคือความจริง :P

คนส่วนใหญ่เน้นภาพลักษณ์ทางสังคมมากกว่าอย่างอื่น ขอแค่ใช้ยี่ห้อ หรือ รุ่น ที่ฮิตๆกัน เท่านี้เขาก็คุยได้แล้วว่าขับรถรุ่นนี้อยู่   ::)

เขาไม่สนใจหรอกว่าจะตัวท๊อปหรือตัวล่าง เพราะมันคืนรุ่นเดียวกันหน้าตามันก็เหมือนกัน :-*

ส่วนระบบความปลอดภัย ผมเคยได้ยินคนรุ่นพ่อเค้าคุยกันเขาบอกว่า "ถุงลมหลายใบมีมาทำไม ไม่อยากใช้ " เท่านี้ก็จบแล้วล่ะครับไม่ต้องไปต่อปากต่อคำให้เสียเวลาเลย  :'(

บางคนออกรถใหม่ยังคุยเลยว่ารถเขามีไฟ LED Day time runing ติดให้ด้วยนะ  ;) ไม่มีหรอกครับจะมาคุยว่ารถเขามี ระบบช่วยทรงตัว เตือนการเปลี่ยนเลน หรือถุงลม 7 ใบ :(

เพราะระบบความปลอดภัยมันคือสิ่งที่มองไม่เห็นจากภายนอก เลยทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เห็นความสำคัญ และ "โชว์" หรือ "อวด" คนอื่นเขาไม่ได้  :-X

นอกเสียจากว่าเขาผู้นั้น เกิดอุบัติเหตุกับตัวเองซักที แล้วอุปกรณ์เหล่านั้นช่วยชีวิตเขาไว้จนรอด  :'(

ยอมรับความจริงเถอะว่าคนที่จะศึกษาอย่างละเอียดถึงอ๊อฟชั่นต่างๆที่เขาให้มามันมีประโยชน์ยังไงเป็นคนส่วนน้อยครับ บางคนซื้อรถยังไม่อ่านแคตตาล๊อกเลย :P

ต้องเป็นคนที่สนใจเรื่องรถจริงๆอย่างท่านสมาชิกทั้งหลายนั่นล่ะครับ  :)



Newhang

ผมว่ามันก็เป็นธรรมดามนุษย์ หลายๆครั้งมันขึ้นกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเราด้วย รวมทั้งตัวผมเอง
ผมเริ่มใช้รถครั้งแรกของที่บ้านเป็นรถที่ไม่ไม่อะไรเลย ดีนะยังมีแอร์

และเมื่อผ่านไปหลายคัน ก็คนพบความจริงหลายอย่าง ทั้งด้านที่ดีและด้านไม่ดี หลายครั้งจากสูงสุดคืนสู่สามัญ  แต่เรื่องความปลอดภัยผมไม่ละเลยนะ ทั้งที่แทบไม่เคยใช้เลย ถุงลมไม่เคยทำงาน vsc ทำงานบ้าง ส่วนabsเรื่อยๆ แต่เป็นการเบรคโดยไม่หักหลบ แค่ลื่นมันเลยล๊อค

เรื่องเงินก็เป็นส่วนนึงในการเลือกซื้อคับ ของบางอย่างมันก็เกินความจำเป็นสำหรับเค้า
แต่อย่างนึงที่ผมไม่เห็นด้วย เช่น รถที่มีแต่ของแต่งทั้งคัน แต่ไม่มีความปลอดภัยเลย กับรถที่ไม่ได้แต่งแต่มีระบบความปลอดภัย ราคาใกล้เคียงกันมาก ผมเลือกคันหลัง
แต่คนไทยชอบเลือกคันแรก ตรงนี้ผมไม่เข้าใจจริงๆ ยอมทุกเหตุผล  หลายๆครั้งผมว่ามันแต่งได้ทุเรศด้วยสิ



TheZero

เลือกเอารุ่น ที่ให้ระบบ safety มากที่สุด ในงบที่ตัวคุณ ผ่อน/ซื้อ แล้วไม่ลำบาก ครับ มีไว้ดีกว่า นาทีฉุกเฉิน มันจะช่วยคุณได้
-VSC,ESC,ESP
-TCS
-Lane-keep Assist
-HBC



pladaek

จริง.. เมื่อเช้านี้เลย ผมเห็นโพสในคลับ Dmax 1.9

มีคนถามเกี่ยวกับ Isuzu Dmax Cab4 ตัวเตี้ย
รุ่น S 670,000 บาท (ไฟหน้ามัลติรีเฟลคเตอร์ ไม่มี ABS ล้อกระทะ)
รุ่น Z 800,000 บาท (ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ มี ABS ล้อแม็ก) เอาอ๊อฟชั่นคร่าวๆนะ

พบว่าประมาณร้อยละ 80 บอกว่าเอาตัว S

เสียงส่วนใหญ่บอกว่าเอาส่วนต่างไปแต่งดีกว่า
ไม่มีใครพูดถึงระบบเบรค ABS หรืออ๊อฟชั่นความปลอดภัยอะไรเลยครับ..

พอเป็นคลับที่รถมีมูลค่าราคาสูงอย่าง เอฟเวอร์เรส หรือฟอร์จูนเนอร์
คนที่เชียร์ส่วนใหญ่มักจะเลือก Top Option
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



Staples

สำหรับคนทั่วไป ไงก็ซื้อเจ้าตลาดกลางๆ ครับ แต่ถ้าผมเป็นฝ่ายการตลาดค่ายเล็ก การจะจัดรถธรรมดามาขายชนกับเจ้าตลาด เท่ากับฆ่าตัวตายชัดๆ สู้สร้างความต่าง จับลูกค้าส่วนน้อย ที่มองความปลอดภัย ดีกว่าไม่มีลูกค้าเป้าหมายเป็นหลักเป็นแหล่งดีกว่า



decptt

ไม่ใช่แค่เมืองไทยครับ ทางพวกอเมริกา บางคนยังไม่รู้จัก ABS เลยครับ เพียงแต่ว่า มันเป็น "กฏหมายบังคับ" ทำให้รถทุกคันต้องมี ถุงลม ABS
 
ดังนั้น ผมว่า ระบบความปลอดภัย ควรออกเป็นกฏหมายบังคับมากกว่าครับ เพราะไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่สนใจ



Kratipkuow

    เหตุผลในการเลือกรถของแต่ละคนมีหลากหลายมากครับ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของแต่ละคน อาจจะนิยามต่างกัน
อย่างเช่น บางคนจะมองที่ความปลอดภัยขณะใช้รถ เป็นหลักซึ่งก็จะเป็นกลุ่ม Active&Passive safety ต่างๆและโครงสร้างต่างของตัวรถ
กับอีกกลุ่มอาจจะมองเป็น ความปลอดภัยในการใช้รถ เช่นมองเรื่องศูนย์บริการ ราคาขายต่อ อะไหล่ สำคัญสุดรายรับรายจ่าย ส่วนระบบความปลอดภัยของรถก็จะมองบ้างแต่ให้ความสำคัญน้อยกว่า
    และด้วยเหตุผลด้านเศรษศาสตร์ที่ว่าทรัพยาการมีอยู่อย่างจำกัดทำให้การซื้อรถก็ถูกจำกัดตัวเลือกเข้ามาอีก ทุกคนอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่สุดท้ายก็เลือกได้ที่เหมาะกับเราที่สุดเท่านั้น



xman2029

คนไทยส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจในอะไรที่มองไม่ค่อยเห็นหรือแทบไม่ได้ใช้อย่างพวก ถุงลมหรือระบบความปลอดภัยทั้งหลาย ผมเคยถามคนแถวบ้านแฟนที่มาคุยเรื่องรถประจำว่าถ้าให้เลือกระหว่างไฟหน้า โปรเจคเตอร์กับไฟเดไล กับ -VSC,ESC,ESPกับถุงลมรอบคัน คนส่วนใหญ่จะเลือกอันแรกทันทีเพราะมันเห็นได้ มันจับต้องได้แต่พวกระบบความปลอดภัยมันจับต้องไม่ได้ไงครับ ขาเลยไม่สนใจ แถมเขายังเน้นภาพลักษณ์ทางสังคม เช่น ถ้าออกกระบะต้อง isuzu ไม่ก็toyota หรือรถเก๋งต้อง toyota honda ถึงจะเป็นคนที่มีเงินหรือประสบความสำเร็จในชีวิต ถ้าออกยี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่ยี่ห้อเหล่านั้นก็จะโดนดูถูก อย่างบ้านผมใช้แต่ mazda เพราะชอบนิสัยรถและการขับขี่ เวลาไปบ้านแฟนก็โดนถามประจำว่าทำไมไม่ออกเจ้าตลาดออกยี่ห้อรองๆอย่าง mazda แล้วจะมีอะไหล่เหรอ ช่างจะซ่อมได้เหรอ จะขายต่อได้ราคาดีเหรอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2016, 09:23:56 โดย xman2029 »



NINENOI

สิ่งหลักๆที่เค้าต้องการก็คือรถครับ รถคือเครื่องแสดงฐานะอย่างนึงจะเป็นรุ่นย่อยอะไรก็ไม่ต่างกันมากในความรู้สึก สีประตูตัวเตี้ยความปลอดภัยจัดเต็ม กับยกสูงโล้นๆ ผมยังเชื่อว่าคนเลือกยกสูงมากกว่า


ส่วนนึงก็เรื่องราคาและความสามารถในการจ่ายด้วยครับ ถ้าผมซื้อรถและอยากได้ Jazz ก็อยากได้นะถุงลมเยอะๆแต่ราคาปาไปโน้น 754,000 จะมีปัญญาจ่ายได้ก็แค่ตัวล่าง 594,000 ตอนดาวน์ต้องจ่ายมากกว่า 40,000 ผ่อนมากกว่าอีกเดือนละ 2,000 ไปถึง 6 ปี จะไม่ตายเพราะระบบความปลอดภัยน้อยกว่าหรอกแต่จะอดตายซะมากกว่า ใจผมอยากให้อุปกรณ์ความปลอดภัยเยอะๆมาตั้งแต่รุ่นล่างแล้วต่างกันแค่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเอา
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น



off_033

มันเป็นไปตามสภาพสังคม  และแวดล้อมที่อยู่ครับ

สมมุติในโรงงานคุณมีคนซื้อรุ่น top จัดเต็ม อาจจะโดนว่าแพง  ไม่คุ้ม ฯลฯ

หรือในกลุ่มแท๊กซี่ก็จะมีความเชื่ออีกแบบนึง

หรือใครมาถามที่นี่ก็จะให้เพิ่มตังส์ไปเอารุ่นดีๆหน่อย ความปลอดภัยครบ หรือก็ top ไปเลย



dht_tubes

ไม่ใช่แค่เมืองไทยครับ ทางพวกอเมริกา บางคนยังไม่รู้จัก ABS เลยครับ เพียงแต่ว่า มันเป็น "กฏหมายบังคับ" ทำให้รถทุกคันต้องมี ถุงลม ABS
 
ดังนั้น ผมว่า ระบบความปลอดภัย ควรออกเป็นกฏหมายบังคับมากกว่าครับ เพราะไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่สนใจ

ของต้องให้ เอามาคิดเงินเพิ่มได้ เสียเปรียบเค้ามานานกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ แต่ก็โดนบวกเยอะอยู่ดี

สู้และอดทนกันต่อครับผู้บริโภคชาวไทยครับ



pongsak_877

ผมไม่ชอบเลยกระทู้แบบนี้ ประมาณว่าคนรายได้เท่านี้ไม่ฉลาดในการซื้อรถ คุณอย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ว่าต้องซื้อรถยี่ห้อแบบคุณเท่านั้นถึงจะเป็นคนฉลาด



carenaruk

ผมไม่ชอบเลยกระทู้แบบนี้ ประมาณว่าคนรายได้เท่านี้ไม่ฉลาดในการซื้อรถ คุณอย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ว่าต้องซื้อรถยี่ห้อแบบคุณเท่านั้นถึงจะเป็นคนฉลาด
เพราะคนคิดแบบนี้แหละ ไม่เข้าใจกลุ่มล่าง ว่างๆมาที่โรงงานผม นิคมเหมราชอีสเทิร์น  จะพาดูโรงจอดรถหั้ยเห็นกันจ๊ะๆไปเลยครับ ว่าที่ผมกล่าวมาเป็นจริงมั่ย ไม่ใช่เอาผมเป็นบรรทัดฐานคนเดียว ตัวผมเองใช้รถ bt50pro mt 4ประตู ยกสูง ปี2012 ราคา781000บาท เป็นตัวกลาง ไม่ใช่ตัวท๊อป มีเพียงถุงลมเพียงข้างเดียว เบรคabs แค่นั้น เพราะรายได้ผมน้อย ออกแค่พอดูดี ไม่ยากผ่อเยอะมากเกินรายได้   ปล . กระทู้นี้ผมไม่ได้กล่าวอ้างยี่ห้อ ผมบอกเพียงมุมมองว่า คนชอบซื้อรถรุ่นกลางๆเท่านั้น  อ่านหั้ยดีๆก่อนนะครับ ก่อนจะว่าคนอื่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2016, 09:59:41 โดย carenaruk »



Focuszaa

ไม่ใช่แค่เมืองไทยครับ ทางพวกอเมริกา บางคนยังไม่รู้จัก ABS เลยครับ เพียงแต่ว่า มันเป็น "กฏหมายบังคับ" ทำให้รถทุกคันต้องมี ถุงลม ABS
 
ดังนั้น ผมว่า ระบบความปลอดภัย ควรออกเป็นกฏหมายบังคับมากกว่าครับ เพราะไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่สนใจ

ผมเห็นด้วยครับ มันควรจะออก  กม ให้ มี ABS ,EDB ,VSC ,BA และ ถุงลม มาตั้วแต่ตัวล่างสุด เลย แต่รัฐจะเห็นเหมือนเราไหม เค้าคงมีส่วนต่างอะไรลึกๆอยู่หรือป่าว เลยยังไม่ยอมออก



ktonja

สมัยทำงานออฟฟิตใหม่ๆ 10 ปีก่อน ซื้อ
Honda city zx
ตัวล่างสุด ไม่มีถุงลม, ไม่มีระบบช่วยเหลืออะไรเลย ก็ใช้มาได้ 8 ปีจนขายทิ้งไป 555



pladaek

ผมไม่ชอบเลยกระทู้แบบนี้ ประมาณว่าคนรายได้เท่านี้ไม่ฉลาดในการซื้อรถ คุณอย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ว่าต้องซื้อรถยี่ห้อแบบคุณเท่านั้นถึงจะเป็นคนฉลาด
ใจเย็นๆครับ
หัวข้อเขาก็บอกว่า "แชร์ประสบการณ์"
ประสบการณ์ของใครของมัน มันไม่เหมือนกันหรอกครับ..
แค่จขกท.เขาเอามาเล่าให้ฟังเฉยๆ..
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



Boyja

ผทเข้าใจเจตนาเจ้าของกระทุ้นะครับ เลยคิดไปว่าทำไมไม่ให้อุปกรณ์สำคัญๆ
ในรุ่นล่างๆ หรือ กลางมั่ง ใส่แต่ตัว top สุด ซึ่งถ้ามีมันก้อดีในยามขับขัน  :-\



tnp_super

ตอบในฐานะที่เคยเป็นลูกจ้างนายทุน ตอนซื้อรถผมมีความคิดแค่ว่าอยากจะได้รถไว้ใช้งานและไม่สนอ๊อปชั่นความปลอดภัยเท่าไหร่ เอาไว้บรรทุกของจากบ้าน ตจว.มาทำงาน กทม. และเอาที่ราคาพอผ่อนได้มีเงินเดือนเหลือใช้เหลือเก็บก็พอเลยมาลงที่กระบะเพราะใม่ค่อยชอบรถเก๋ง จนมาตอนนี้ถึงมาสนใจเรื่องอ๊อปชั่นความปลอดภัยมากขึ้นจึงต้องมองหารุ่นที่มันมีอุปกรณ์ต่างๆที่ค่อนข้างจะครบแต่ก็ยังไม่ได้ซื้อสักที่เพราะคันเก่ามันยังใช้ได้ดีอยู่



dekdemo

อยากรู้เหมือนกัน ถ้าหากว่าใส่ระบบความปลอดภัยครบๆ เช่น ถุงลม+ม่าน+เข่า กันรถพลิกคว่ำ ฯลฯ แล้วตัดออพชั่นอื่นๆแทน ประเภทที่เสริมเสน่ห์ตัวรถ เช่น จากไฟหน้า แอลอีดี หรือซีน่อน เป็นฮาโลเจนโคมธรรมดา แอร์ออโต้เป็นแบบมือหมุน กดปุ่มสตาร์ทเป็นกุญแจบิด ฯลฯ ...ราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่กันน้าาา



carenaruk

ผมไม่ชอบเลยกระทู้แบบนี้ ประมาณว่าคนรายได้เท่านี้ไม่ฉลาดในการซื้อรถ คุณอย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ว่าต้องซื้อรถยี่ห้อแบบคุณเท่านั้นถึงจะเป็นคนฉลาด
ใจเย็นๆครับ
หัวข้อเขาก็บอกว่า "แชร์ประสบการณ์"
ประสบการณ์ของใครของมัน มันไม่เหมือนกันหรอกครับ..
แค่จขกท.เขาเอามาเล่าให้ฟังเฉยๆ..
ขอบคุณครับทีเข้าใจ



bobsan

ต่างคนต่างชอบ ต่างความคิดไปครับ

อย่างน้องสาวผมรายได้ตอนนี้ 85,000 บาท ต่อเดือน โบนัสปีละ 6 เดือน ไม่มีค่าใช้จ่ายบ้านไม่เช่าข้าวไม่ซื้อ
ยังขับรถ b seg ตัวล่าง อายุ 7 ปี ถุงลมใบเดียวอยู่เลย
แต่ถือกระเป๋าใบนึงหลายแสน นาฬิกาเรือนเป็นแแสน รวมกันซื้อรถใหม่ถุงลม 10 ใบยังได้

เคยถามว่าทำไมไม่เปลี่ยนรถ ได้รับคำตอบว่าขับรถแค่ไปทำงานเช้ากลับเย็น
รถโคตรติด ซื้อแพงไปก็ขับได้แค่นี้ ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปทำไม

คนเราให้ความสำคัญในแต่ละเรื่องไม่เท่ากันครับ
 



carenaruk

ผทเข้าใจเจตนาเจ้าของกระทุ้นะครับ เลยคิดไปว่าทำไมไม่ให้อุปกรณ์สำคัญๆ
ในรุ่นล่างๆ หรือ กลางมั่ง ใส่แต่ตัว top สุด ซึ่งถ้ามีมันก้อดีในยามขับขัน  :-\
ขอบคุณครับที่เข้าใจเจตนา ผมจะไปดูถูกคนอื่นได้ไง ในเมื่อผมก้อใช้รุ่นกลางเท่านั่น เพราะเงินไม่ถึงตัวท๊อป ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเยอะๆ



Automotive Innovations

นับวันมันจะยิ่งเหมือนอีกเวปนึงทุกทีแล้วนะครับ ตอบแบบปัญญาชนไม่ใช่ตอบแบบมีอารมณ์ครับ แบบนี้ใครมาแชร์หรือมาเล่าไร ก็ไปว่าเค้าเอาบรรทัดตัวเองมาวัด อ่านให้เข้าใจว่าเค้าจะสื่อไร

ผมเห็นด้วยครับ คนผู้ใช้แรงงานอ่ะ เอาใช้ได้ก็พอละ ผมว่านะ ผู้ผลิตค่ายรถยนต์ควรจะเล็งเห็นถึงคนกลุ่มนี้ด้วย มันไม่น้อยนะครับ เอาง่ายๆ ส่วนใหญ่ที่ซื้อรถกะบะกันเพราะอะไร ใช้งานถูกมั้ยครับ ผมเห็นกะบะในเมืองนอกละมาเทียบกะเมืองไทยละอนาถใจ บ้านเค้ามีทุกอย่างที่เราไม่มี ตัวต่ำสุดบางค่าย ให้ถุงลมมี 7 ใบงี้ ระบบการทรงตัวงี้ จริงอยู่ว่า ต้องการทำให้ราคาถูกลงวัดเป็นชนชั้น แต่อย่าลืมว่ายอดขายส่วนใหญ่มันมาจากไหนด้วย
Toyota Camry 2.0G ACV41 2012 MC Black Interior
Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 2WD MY 2017
Ssangyong Stavic SV270  2006
Honda HR-V EL 2016 My Own
Toyota Fortuner 2.4V 2WD Big MC 2020
Haval H6 PHEV 2022
Mercedes-Benz E220CDI W210 2001



Untouchable

ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้น่ะครับ ที่โรงงานผมก็แบบประมาณนี้ล่ะครับ เอาให้ออกรถได้ไปไหนมาไหนได้ระบบต่างๆไม่ค่อยให้ความสนใจ มีตังค์ออกรถได้ก็ภูมิใจสุดๆแล้วครับทำงานเก็บตังค์มาตั้งนาน...แต่ก็นั้นล่ะครับพวกบริษัทรถยนต์ ระบบความปลอดภัยที่จำเป็นใส่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปเลยไม่รู้หวงไว้ทำไม



Fly to dream

แล้วแต่ที่น่ะครับที่ทำงานคนที่รู้จัก ถ้าอยู่ในกรุงเทพ ส่วนใหญ่เค้าจะไปที่ PPV ระดับสูงๆหน่อยจะใช้พวกนี้กัน เพราะจะมีรถประจำตำแหน่งอีกคันเป็นเก๋ง C-seg ไว้ใช้ด้วยอีกคัน  ส่วนตำแหน่งไม่ใหญ่ไม่เล็ก ส่วนใหญ่เก๋ง C-seg หรือ B-seg   กระบะมีแต่ไม่มาก จะเป็นตัวบนๆมากกว่าตัวกลาง แต่ไม่มีล่างแน่ๆ

ส่วนถ้าออกมาส่วนภูมิภาค กระบะเป็นส่วนมากครับ ไม่ว่าเตี้ย สูง แต่คนใหญ่ๆจะได้กระบะ 4 ประตู หรือเก๋ง C-seg ไว้ใช้ เค้าจะไม่ค่อยใช้รถตัวเอง ใช้รถหลวงกันไปเลย ส่วนใหญ่ที่ทำงานนี้จะเลือกสเป็ครถไว้สูง เพราะเอาเข้าเหมืองได้จะได้เห็นตัวท็อปหลากยี่ห้อซะมากเลยกระบะ และบางหน่วยอาจได้ PPV 4*4 ไว้ใช้ด้วย ส่วนเก๋งที่เห็น ได้รองท็อปทั้งนั้น
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



HME

เขาอาจจะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรอ่ะครับ
ประมาณว่าปกติฉันขับรถด้วยความเร็ว 80-100, ฝนตกก็ขับแต่ 60 ดังนั้นพวกแอคทีฟเซฟตี้ที่ถึงจะดีแต่ก็จำเป็นน้อยลงไปได้มาก



the kit

จริง ตาม จขกท.ว่าครับ

ซื้อจริง กับ ซื้อในอุดมคติ ต่างกันครับ
เงินเราเอง กับ เงินเขา (เงินคนอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับเรา) ต่างกันครับ

ใครก็อยากได้ ของที่มันดีที่สุด เลิศที่สุด ปลอดภัยสุด ฯลฯ
แต่ในความเป็นจริง ที่ติด คือ เรื่องเงิน เรื่องของราคา

อย่าว่า เพียงชนชั้นแรงงาน จริงๆ มันน่าจะเป็นในทุกชนชั้น มากกว่า
โดยเฉพาะ เป็นคนหาเงิน เพื่อมาซื้อของเหล่านั้นเอง โดยไม่ได้ขอ (เกาะ) พ่อแม่กิน

ผมเชื่อว่า ทุกคนทุกระดับชั้น ต้องมอง เรื่องราคา มาเป็นปัจจัยหลัก
บางคน อาจจะเถียงว่า ไม่จริง มองรูปโฉมเป็นหลัก ความปลอดภัยเป็นรอง แต่พอจะซื้อจริงก็ไม่หนี เรื่องราคา

ระดับชนชั้น
ระดับล่าง-กลาง - มอง รูปโฉม, ยี่ห้อ, หน้าตาสังคม, สมรรถนะ สุดท้ายก็มาดูว่า ราคาไหนที่เราไหวอยู่ดี
                   ราคาแพง option ครบ ชอบมาก---จะผ่อนไหวไหม จะผ่อนหมดหรือเปล่า สู้เอา body เดียวกัน แต่ไม่ต้องแพงขนาดนั้นดีกว่าไหม
                   แต่ถ้าเป็นวัยรุ่นอยู่ อาจจะเอาน่า คิดว่าไหว หรือเอาไว้ไปคิดเอาดาบหน้า ก็มีเยอะ

ระดับสูง - มอง ยี่ห้อ, หน้าตาสังคม, รูปโฉม, สมรรถนะ สุดท้ายก็มาดูว่าราคาไหนที่เราไหวอยู่ดี เช่น อยากได้ MB S500 นะ แต่ราคามันสูงมาก S280 ก็พอ

รวยมากๆ เงินไม่ใช่ปัญหา - มอง ยี่ห้อ, หน้าตาสังคม, รูปโฉม, สมรรถนะ, option สุดท้ายก็มาดูว่า ราคาจะจบอยู่ที่เท่าไรอยู่ดี
                   เช่น อยากได้ Porsche Cayenne จะเอาอะไร Hybrid, Diesel หรือ Turbo
                   เมื่อเลือกได้แล้ว ก็มาปวดหัวกับ Option ที่โคตรมหาศาลของ Porsche อีก หลังคาแก้ว-มูนรูฟ-เหล็ก, เบาะ STD-14-18 ท่า,
                   หนังSTD-ลูกวัวตายในท้องช้าง, กระจก private?, เครื่องเสียง Bose-Bur ฯลฯ
                   หรือจะเปลี่ยนจาก Porsche เป็น Roll-Royce ก็ได้ แล้วก็ว่าไปตาม option เหมือนกัน
                   สุดท้ายก็มาดูว่า ราคาจะจบอยู่ที่เท่าไรอยู่ดี พอมันแพงไป อันนี้ก็เริ่มจะไม่จำเป็น อันนั้นก็ดีแล้วนะ ฯลฯ

ไม่มีระดับ เกาะพ่อแม่กิน รวยมาตั้งแต่เกิด ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน - ราคาไม่ใช่ปัญหา ชี้เอาที่ชอบ ไม่ต้องมีเหตุผล

"Only live once, but if you do it right, Once is enough"



ซิ่งเข้าส้วม

เขาอาจจะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรอ่ะครับ
ประมาณว่าปกติฉันขับรถด้วยความเร็ว 80-100, ฝนตกก็ขับแต่ 60 ดังนั้นพวกแอคทีฟเซฟตี้ที่ถึงจะดีแต่ก็จำเป็นน้อยลงไปได้มาก

คนไม่ค่อยรู้ครับว่าขับที่ 80 กม/ชม คือความเร็วที่อันตราย รถที่ไม่มีระบบ active safety สามารถพลิกคว่ำได้ ความเร็วที่ปลอดภัยแบบรถที่ไม่มีระบบความปลอดภัยอะไรเลย ชนแล้วโอกาสตายต่ำมากคือต่ำกว่า 40 ลงไป ซึ่งเป็นความเร็วที่ไม่มีใครขับกัน

ดูอย่างคดีนึง ขับรถ lexus ชนต้นไม้ที่ความเร็วไม่น่าเกิน 60 ยังตายเลยครับ แค่ไม่แน่ว่าตายก่อนชนหรือตายหลังชน