2017 Nissan GT-R (Minorchange)อีก 1 รุ่น ไม่พลาดที่จะถ่ายมาให้ชมกันครับ สำหรับการไป Nissan Gallery
ที่ Nissan สำนักงานใหญ่โยโกฮาม่า (Nissan Headquarters, Yokohama)
นั่นก็คือ 2017 Nissan GT-R (Minorchange)
Nissan GT-R R35 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 มีการปรับ Minorchange ไปแล้ว
1 ครั้งก่อนหน้านี้ (ซึ่งหลายท่านอาจจะไม่สังเกต เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด
เพียงเล็กน้อยเท่านั้น) ครบปีที่ 10 ของการทำตลาด ก็มีการปรับโฉม Minorchange
เป็นครั้งล่าสุด ก่อนจะพบกับ GT-R R36 ในช่วงราวๆ ปี 2020
2017 Nissan GT-R R35 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงาน New York Auto Show
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2016 ภายนอกถูกปรับดีไซน์เล็กน้อย พละกำลังถูกเพิ่มมากขึ้น
ภายในห้องโดยสารที่ออกไปแนวหรู ปราณีตมากขึ้น ด้วยคำนิยาม 3 คำ ชัดๆ
Power Performance Refinement หลังจากนั้นในเดือนเมษายน
ก็ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเกิดที่ญี่ปุ่น
Exterior ภายนอกงานออกแบบด้านหน้าดึงเอางานออกแบบ V-Motion ซึ่งเป็น Design Language ใหม่
ของ Nissan ทุกรุ่น ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ CD ต่ำเพียง 0.27 ตัวเลขนั้น
ทำได้ดีกว่า ค่า CD ของ Porsche 911 Turbo ซึ่งอยู่ที่ 0.31
ฝากระโปรงหน้า, กันชนหน้า, ลิ้นกันชนหน้า และสเกิร์ตข้าง ดีไซน์ใหม่ ด้านหลังยังคง
เอกลักษณ์เดิมของ GT-R เอาไว้ คือไฟแบบโดนัท 4 วง พร้อมท่อไอเสีย 4 ท่อ
ที่ขาดไปไม่ได้
สีตัวถังภายนอก มากับสีใหม่ Blaze Metallic เป็นโทนสีส้ม พ่นแบบพิเศษ
4 Stage (ปีนี้ดูท่าทางว่าโทนสีส้มจะมาแรง สำหรับรถ Nissan)
Engine เครื่องยนต์ เครื่องยนต์ยังคงเป็นบล๊อกเดิม รหัส VR38DETT V6 3.8 ลิตร Twin-Turbo 24 วาล์ว
แต่มีการเพิ่มพละกำลังอีก 20 แรงม้า และแรงบิด อีก 5 นิวตันเมตร (เทียบกับรุ่นปี 2016)
เป็น 565 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิด 633 นิวตันเมตร ที่ 3,300 - 5,800 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์ Dual Clutch 6 จังหวะ มากับท่อไอเสียไทเทเนียมแบบใหม่ 4 ท่อ พร้อม
Active Sound Enhancement ล้ออัลลอย Y-Spoke ขนาด 20 นิ้ว
Interior ภายในห้องโดยสารภายในห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนไปในแนวของ Super Cars หรู ใช้โทนสี Rakuda Tan
หรือก็คือ สีแดง Amber Red ผสมกับ สี Ivory สลัดความสปอร์ตทิ้ง ดึงเอาแบบฉบับความหรู
เข้ามาแทนที่ มีการหุ้มหนังในแทบจะทุกจุด
2017 GT-R ปรับปรุงในเรื่องความสบายในการโดยสารมากยิ่งขึ้น ทั้งการใช้กระจก Acoustic
Glass เพิ่มการบุวัสดุซับเสียงมากขึ้น รวมถึงมีการใช้ระบบ Active Noise Cancellation
เพื่อลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร ทั้งหมดนี้ทำให้การนั่งโดยสารมีความสบายผ่อนคลายมากขึ้น
เบาะนั่งแบบใหม่ Bolster Seats หุ้มด้วยหนัง Nappa Leather ให้ความสะดวกสบายในการ
ขับขี่และโดยสารเมื่อเดินทางนานๆ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอ Capacitive ขนาด 8 นิ้ว
รวมกับ ระบบนำทาง Navigation System เป็น Single Unit ทำให้ปุ่มกดจากเดิม 27 ปุ่ม
ลดลงเหลือ 11 ปุ่มเท่านั้น ส่วนพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ยกเอาจาก Infiniti มาเกลาให้ดูดีขึ้น
แผงแดชบอร์ดหน้ามีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งจอ และ ช่องแอร์ใหม่
สำหรับอีก 1 รุ่น ที่พาไปชมภายนอก-ภายในแบบละเอียด คือ Nissan Note
ที่กำลังจะเตรียมตัวเข้ามาทำตลาดในบ้านเราต้นปีหน้า 2017
ตามไปที่ link ด้านล่างนี้ได้เลย
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=55228.0